เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล - ตอนที่ 351 (I)
Sign in Buddha’s palm 351 (I)
เมื่อซูฉินเห็นกลุ่มจ้าวแห่งลมทั้งสามกระตุ้นสมบัติล้ำค่าให้มาปกป้องตนเอง เขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะใช้กระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแรกกําเนิด หุบเหวอับแสง
สมบัติล้ำค่ามีความแข็งแกร่งอย่างมาก โดยเฉพาะสมบัติล้ําค่ารูปหอคอยนี้ที่เป็นสมบัติล้ำค่าสําหรับการป้องกันหากกระตุ้นใช้ออกอย่างเต็มที่โดยเซียนเทพปฐพี่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด แม้จะต้องเผชิญหน้ากับตัวตนยักษ์ใหญ่จุดสูงสุดขั้นสถิตเทพ พวกเขาก็ยังสามารถทานทนไว้ได้ถึงหนึ่งในสามเค่อ
แม้ว่าซูฉินจะมีไพ่ลับในมือมากมายและความสามารถอีกนับไม่ถ้วน แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่าตนเองจะสามารถเทียบเคียงเซียนเทพปฐพีในจุดสูงสุดของขั้นสถิตเทพ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะปะทะกับสมบัติล้ำค่านี้โดยตรงอยู่แล้ว
หวิ่ง!!!
จ้าวแห่งลมและคนอื่นๆ ดูเหมือนจะตกอยู่ในความมืดมิดอันไร้ขอบเขต สําหรับพวกเขาดวงตาของซูฉินนั้นมีแรงดึงดูดอันร้ายแรงตัวเขาและคนอื่นๆ ต่างจมลงไปในความลึกล้ํานั้น
เห็นได้ชัดว่ากระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉันเริ่มส่งผลกระทบต่อกลุ่มของจ้าวแห่งลมทั้งสามคนแล้ว
นี่ไม่ใช่ว่าความแข็งแกร่งของซูฉินนั้นไปถึงจุดสูงสุดของขั้นสถิตเทพ กระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแรกกําเนิดแต่เดิมก็ไร้ลักษณ์และคาดเดาไม่ได้อยู่แล้ว เว้นแต่จิตวิญญาณแรกกําเนิดที่ใช้จะเป็นสายเลือดเดียวกันกับผู้ทรงพลังถึงขีดสุดที่เป็นเจ้าของสมบัติล่าค่าไม่ใช่เช่นนั้นก็เป็นการยากนักที่จะขัดขวางการแทรกซึมของซูฉินครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์
“นี่คือ?!”
ในบรรดาคนทั้งสาม นักพรตหมื่นกําเนิดจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง เป็นคนแรกที่หลุดออกจากอิทธิพลของกระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแรกกําเนิดหุบเหวอับแสง
ท้ายที่สุด นักพรตหมื่นกําเนิดก็เป็นเซียนเทพปฐพี่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิดที่ฝึกฝนในวิถีจิตวิญญาณแรกกําเนิดความสามารถในการต้านทานกระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแรกกําเนิดนั้น แข็งแกร่งกว่าอีกสองคนควบคู่กับสมบัติล้ําค่าที่คอยป้องกันหุบเหวอับแสงเอาไว้ พลังที่แทรกซึมเข้ามาจึงเหลือเพียงครึ่งเดียว
“เกิดอะไรขึ้น?”
ไม่นานหลังจากนั้น อีกสองคนก็รู้ตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มองรอบๆ ด้วยสายตาว่างเปล่า
“ไม่ดีแล้ว!”
สีหน้าของนักพรตหมื่นก่าเนิดเปลี่ยนแปลงไป ตะโกนออกมาอย่างดุเดือด “รีบกระตุ้นใช้งานสมบัติล้ําค่าอีกครั้ง”
ขณะที่ทั้งสามได้รับผลกระทบจากกระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแทรกกําเนิดปราณในร่างกายก็ไม่ได้ถูกควบคุมให้ไหลเข้าไปในสมบัติล้ําค่าอีกต่อไป เมื่อสูญเสียพลังหล่อเลี้ยงการป้องกันของสมบัติล้ําค่ารูปหอคอยเหนือศีรษะก็ลดพลังลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อจ้าวแห่งลมและจอมดาบเก้าสัมผัสได้ยินสิ่งนี้ ท่าทีของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก หากพวกเขาสูญเสียการคุ้มกันจากสมบัติล้ำค่าไป พวกเขาก็ไม่มั่นใจว่าจะกลับไปประตูเซียนได้หากยังอยู่ต่อหน้าซูฉินเช่นนี้
แต่ก็เท่านั้น
ขณะที่จ้าวแห่งลมและอีกสองคนวางแผนที่จะส่งปราณเข้าไปในสมบัติต่อ เสียงทุ่มต่ําและทรงพลังก็ระเบิดขึ้นข้างหูของพวกเขา
“สายไปแล้ว”
ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของกลุ่มจ้าวแห่งลมทั้งสามร่างของซุฉินที่ไม่รู้มาตั้งแต่เมื่อใด พลันปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าพวกเขาหรือพูดให้ชัดกว่านั้นคืออยู่ที่หน้าสมบัติล้ําค่ารูปหอคอย
ก่อนที่คนทั้งสามจะได้โต้ตอบอะไร ซูฉินก็เหยียดมือขวา กํามือจนเป็นหมัด แล้วเหวี่ยงกระแทกอย่างแรงเข้าใส่สมบัติล้ำค่ารูปหอคอย
บูม!
สมบัติล้ำค่ารูปหอคอยนี้เป็นสมบัติล้ําค่าที่พิเศษในด้านการป้องกัน เมื่อเทียบกับสมบัติล้ำค่าประเภทเสียงของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าไม่รู้ว่าความสามารถในการป้องกันมีมากกว่าเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามด้วยความแข็งแกร่งของซูฉินตอนนี้ มันก็ห่างไกลจากตอนที่เขาเหยียบย่านิกายเทพเจ้าสายฟ้าไปมากโขหลังจากเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิดแล้ว ซูฉินก็ได้ใช้พลังของทะเล
ณจุดดวงไฟในภาพดวงตะวันขนาดมหึมาได้ถึงสองพันจุด และร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําก็มีพลังมากขึ้น ก้าวเข้าสู่ระดับใหม่ที่แสนสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน
หากสมบัติคุ้มกันรูปหอคอยอันนี้ยังคงถูกกระตุ้นด้วยเซียนเทพปฐพี่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิดทั้งสาม มันคงเป็นไปได้ยากสําหรับซูฉินที่จะจัดการแม้ระเบิดพลังออกมาอย่างเต็มที่
แต่ในขณะนี้ ภายใต้อิทธิพลของกระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแรกกําเนิดหุบเหวอับแสงกลุ่มจ้าวแห่งลมทั้งสามก็ได้ปล่อยการควบคุมสมบัติล้ําค่ารูปหอคอยไปเสียแล้ว
หากขาดการควบคุมจากผู้ใช้งาน เว้นแต่จะเป็นสมบัติล้ําค่าโดยกําเนิดที่มีจิตวิญญาณจางๆอยู่ภายใน… ไม่เช่นนั้น ในสายตาของซูฉินสมบัติล้ําค่าทั้งหลายก็ล้วนไม่นับเป็นอะไรเสียนอกจากกระดองเต่าที่ทําลายไม่ได้ แต่ก็ยังเตะให้กระเด็นออกไปได้
ตึง!
ได้ยินเสียงทึบๆ ดังมาจากสมบัติล้ําค่ารูปหอคอยที่ลอยอยู่เหนือหัวกลุ่มของจ้าวแห่งลม แม้ว่ามันจะไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อยเมื่อโดนหมัดของซุฉิน แต่สมบัติล้ำค่าอันนั้นก็กระเด็นลอยออกไป
และด้วยการบังคับควบคุมของอาณาเขตเทพสงคราม สมบัติล้ําค่ารูปหอคอยอันนี้ก็ถูกซูฉินเก็บเข้าไปไว้ในวิหารการสงคราม
“นี่?!”
จ้าวแห่งลมและคนอื่นๆ ต่างตกตะลึง
ในเวลาเพียงครู่เดียว ไพ่ตายในมือที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขาอย่างสมบัติล้ําค่ารูปหอคอยก็พลันหายไป?
โดยเฉพาะจ้าวแห่งลม การมายังโลกมนุษย์ครั้งนี้ เจ้าลัทธิผู้ยิ่งใหญ่ได้มอบสมบัติล้ําค่ารูปหอคอยให้ตัวเขามากับมือเพื่อใช้ก้าวข้ามผ่านช่องว่างมิติ ดังนั้นจ้าวแห่งลมจึงสามารถสัมผัสได้ถึงสมบัติล้ําค่า แต่ในเวลานี้ จ้าวแห่งลมพลันรับรู้ได้ว่าสมบัติล้ําค่านั้นถูกพรากจากไปในที่ไกลแสนไกลราวว่าไปอยู่โลกอื่นเสียแล้ว
วิหารการสงครามเป็นสมบัติพื้นที่มิติขนาดใหญ่พิเศษที่สร้างโดยผู้ทรงพลังถึงขีดสุดโหวเหยียน ใช้เพื่อสืบทอดม้วนบันทึกภาพเทพสงคราม สมบัติล้ําค่ารูปหอคอยถูกตัดขาดจากโลก มนุษย์ไปอยู่ภายในวิหารการสงครามจึงถูกแยกออกจากจ้าวแห่งลมราวกับไปอยู่อีกโลกหนึ่ง
“สหายเต๋ โปรดอภัยให้ด้วย…” จ้าวแห่งลมร้องขอความเมตตาโดยไม่ลังเล
แม้ประตูเซียนจะอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก อยู่ห่างพวกเขาไปไม่กี่ลี้
แต่ภายใต้พลังของอาณาเขตเทพสงครามจ้าวแห่งลมรู้สึกว่าระยะทางไม่กี่นี้ห่างไกลไม่ต่างจากผืนฟ้าเบื้องบน
“เจ้ากําลังถ่วงเวลาอยู่หรือเปล่า?” ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อย
“เจ้าได้ทิ้งร่างจําแลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดเอาไว้ในประตูเซียน ในตอนนี้เจ้าคงต้องการถ่วงเวลาเพื่อไปรายงานเจ้าลัทธิดินแดนศักดิ์สิทธิ์ให้ออกมาช่วยเจ้าสินะ?”
ซูฉินเบิกเนตรดวงตาแห่งสัจจะผสานกับปราณฉีฟ้ากําหนด พลังฉีทั้งหมดของจ้าวแห่งลมย่อมปรากฏอยู่ในวิสัยทัศน์ของเขาเป็นธรรมดาซูฉินสังเกตเห็นว่ามีพลังฉีของจ้าวแห่งลมถึงสองแห่งหนึ่งคือตรงหน้าเขา อีกอันอยู่ลึกเข้าไปในประตูเซียน
ประตูเซียนไม่ได้อยู่บนโลกมนุษย์ แม้ว่าจะเป็นดวงตาแห่งสัจจะ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมองผ่านความว่างเปล่าเข้าไปเห็นภายในประตูเซียน แต่ด้วยพลังฉีของจ้าวแห่งลมที่อยู่ตรงหน้านี้ ทําหน้าที่เป็นพิกัดให้กับซูฉินได้อย่างดี จนค้นพบพลังฉีอีกแห่งของจ้าวแห่งลมที่อยู่ภายในประตูเซียน
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” จ้าวแห่งลมถึงกับตกใจ
“สหายเต๋……”
ก่อนที่จ้าวแห่งลมจะทันได้กล่าวอะไรต่อ เขาก็เห็นดวงตาคู่หนึ่งที่เหมือนกับโลกอันกว้างใหญ่ อีกครั้ง
ในตอนนี้ไม่มีการคุ้มกันจากสมบัติล้ําค่ารูปหอคอยอีกต่อไป พลังทั้งหมดของกระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแรกกําเนิด หุบเหวอับแสง จึงเข้าครอบงําจ้าวแห่งลมอย่างสมบูรณ์ในชั่ว พริบตาจิตใจของจ้าวแห่งลมก็กลับสู่ความมืดมิดอีกครั้ง และร่างกายก็หยุดนิ่งไม่มีความเคลื่อนไหวชั่วะ!
ซูฉินฟาดฝ่ามือออกไปตรงๆ ตบเข้าใส่ร่างของจ้าวแห่งลมจนกลายเป็นเศษเนื้อ และใช้พลังเข้าบดขยจิตวิญญาณแรกกําเนิดของมันในทันที
“กระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแรกกําเนิดนี้ช่างใช้งานได้ง่ายดายนัก” ซูฉันพึงพอใจมากยิ่ง ขึ้นไปอีกอันที่จริงกระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแรกกําเนิดหุบเหวอับแสงนั้นน่ากลัวเป็นที่ยิ่งแต่มันสามารถใช้กวาดล้างได้เพียงผู้ฝึกยุทธที่มีขอบเขตต่ํากว่าซุฉินมากเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น หากซูฉินเผชิญหน้ากับกลุ่มเซียนเทพปฐพี่ที่เพิ่งเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด จิตวิญญาณแรกก่าเนิดของกลุ่มเซียนเทพปฐพี่เหล่านั้นย่อมพังทลายในทันทีที่เจอเข้ากับกระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแรกกําเนิดหุบเหวอับแสง
แต่เมื่อเป็นการเผชิญหน้ากับตัวตนในระดับเดียวกัน เช่นเซียนเทพปฐพีขั้นกลับคืนต้นกําเนิดอย่างจ้าวแห่งลม กระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแรกกําเนิดหุบเหวอับแสงสามารถทําให้คู่ต่อสู้เข้าสู่ห้วงแห่งความมืดมิดได้เท่านั้น
และใช้เวลาครู่หนึ่ง อีกฝ่ายก็จะสามารถกําจัดอิทธิพลของกระบวนท่าสังหารจิตวิญญาณแรกกําเนิดหุบเหวอับแสงได้
แต่น่าเสียดาย สําหรับซูฉินแล้วนั้น อย่าว่าแต่เพียงครู่หนึ่งเลย แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็เพียงพอแล้วที่จะออกกระบวนท่าได้หลายร้อยครั้ง
“ร่างจําแลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดที่ทิ้งไว้เบื้องหลังนั้น หากร่างหลักตกตายไป ร่างจําแลงจิตวิญญาณแรกก่าเนิดย่อมสลายหายไปด้วยเป็นธรรมดา……”
ซูฉันรั้งหมัดขวากลับมาและเหลือบมองไปยังประตูเซียน ตามที่คาดการณ์ พลังฉีทั้งสอง ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่เบื้องหน้าเขาหรือภายในประตูเซียนล้วนหายไปสิ้น
การสร้างร่างจําแลงด้วยจิตวิญญาณแรกกําเนิดนั้นแตกต่างจากการสร้างร่างจําแลงผ่านจิตมารแยกวิถี]ของซูฉิน
การแบ่งร่างจําแลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดเป็นความสามารถโดยธรรมชาติของเซียนเทพปฐพีร่างจําแลงที่แบ่งออกมาจะขึ้นตรงกับร่างหลัก หากร่างหลักตกตายร่างจําแลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดก็จะสลายหายไปอย่างรวดเร็ว
แต่ [จิตมารแยกวิถี] สามารถแยกร่างจําแลงที่เป็นอิสระจากร่างหลักได้ แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ชีวิตความเป็นความตายของอีกร่างจะไม่ส่งผลกระทบถึงกัน
นี่เป็นเหตุผลที่ซูฉินยอมให้ร่างจําแลงที่แยกไว้ด้วย [จิตมารแยกวิถี] เข้าไปอยู่ในโลกถ้ําปีศาจ
ไม่ว่าจะเป็นร่างหลักหรือร่างจําแลง ตราบใดที่ไม่มีร่างไหนตกตาย ก็เท่ากับซูฉินมีสองชีวิตนี้ เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสําหรับ [จิตมารแยกวิถี]
“จ้าวแห่งลมสิ้นใจแล้ว……” ไม่ไกลนัก จอมดาบเก้าสัมผัสที่ได้เห็นฉากนี้ หนังศีรษะของเขา พลันชาวาบรีบเผาแก่นแท้และปราณโลหิตทันที และแม้แต่จิตวิญญาณแรกกําเนิดเองก็ถูกเผาไหม
เค่อ เป็นหน่วยเวลาของจีน 1 เค่อ = 15 นาที