Sign in Buddha’s palm 327 โลกทั้งใบไร้ขอบเขต ข้าผู้นี้ไร้เทียมทาน
ระฆังเทพสายฟ้าแข็งแกร่งมาก เหนือกว่าอาวุธวิเศษส่วนใหญ่ที่ซูฉันเคยเห็น ทุกครั้งที่ระฆังสั่นดังลั่น ทุกสิ่งบนโลกจะเริ่มปั่นป่วนไปหมด
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าระฆังเทพสายฟ้าจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็เป็นเพียงสมบัติที่เกี่ยวข้องกับพลังเสียง หากทิ้งระยะทางห่างออกไปสิบลี้หรือหลายร้อยลิ้มันย่อมได้ผลเป็นธรรมดา แต่เมื่อซูฉินเข้าใกล้ตัวสมบัติ ความสามารถด้านพลังเสียงส่วนใหญ่ของมันก็ถูกละทิ้งไป
นี่เป็นสาเหตุที่ซฉินยอมให้ร่างกายบาดเจ็บ ผลก็เพื่อเข้าประชิดให้มากขึ้น
สมบัติล้ําค่าประเภทคลื่นเสียงมีการโจมตีที่ไม่เหมือนอาวุธวิเศษประเภทดาบ ที่ไม่ว่าเป็นการต่อสู้ระยะใกล้หรือไกลก็สามารถใช้ได้ ระฆังเทพสายฟ้านั้นจําเป็นต้องรักษาระยะห่างจากศัตรู
ตัวอย่างเช่นในตอนนี้ มือขวาของซูฉันประทับบนตัวระฆังเทพสายฟ้า ระฆังที่สันไหวอยู่ตลอดเวลาก็พลันหยุดลง ถูกซูฉินบังคับพลังให้กลับเข้าไปในตัวระฆัง
“เจ้าทําอะไรลงไป?” ใบหน้าของเหลยุตู้ฝ่าเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่ง
นิกายเทพเจ้าสายฟ้าได้ปรับแต่งระฆังเทพสายฟ้ามาเป็นหมื่นปี อาจไม่ถึงกับสามารถควบคุมระฆังเทพสายฟ้าได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็ไม่ได้ห่างไกลจากนั้นมากนัก ทว่าเหลยต้ฝ่าที่ผสานจิตวิญญาณแรกกําเนิดเข้ากับสมบัติล้ําค่าพลันรู้สึกว่าสายใยที่เชื่อมระหว่างเขากับระฆังเทพสายฟ้านั้นอ่อนแอลงอย่างมาก
ดวงตาของซูฉันสงบนิ่ง ไม่ได้ตอบอะไรออกไป
สมบัติล้ําค่าระฆังเทพสายฟ้านั้นมีรอยประทับที่ผู้ทรงพลังถึงขีดสุดทิ้งเอาไว้ นอกจากนิกายเทพเจ้าสายฟ้าแล้วนั้น หากคนอื่นคิดควบคุมระฆังเทพสายฟ้า สิ่งแรกที่พวกเขาต้องทําคือลบรอยประทับที่ผู้ทรงพลังถึงขีดสุดทิ้งไว้เสียก่อน
แต่นั่นเป็นสิ่งที่ยากเกินไป
บางที่ตัวตนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทพปฐพี่อย่างจ้าวทะเลบูรพาอาจต้องใช้เวลาหลายร้อยปีในการลบรอยประทับออกไป แต่นี่เป็นเพราะระฆังเทพสายฟ้าไม่ได้เป็นสมบัติล้ําค่าโดยกําเนิด รอยประทับของผู้ทรงพลังถึงขีดสุดจึงมีอยู่อย่างจํากัด
ส่วนเซียนเทพปฐพี่คนอื่นๆ เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะลบรอยประทับจากผู้ทรงพลังถึงขีดสุดในเวลาอันสั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ซุฉินกําลังทําอยู่ตอนนี้ไม่ใช่เพื่อลบรอยประทับ แต่เป็นการรบกวนเหลยต์ ฝ่าไม่ให้ควบคุมระฆังเทพสายฟ้าอีกต่อไป
หากเหลยตู้ฝ่าอยู่ในขอบเขตเซียนเทพปฐพี จิตวิญญาณแรกกําเนิดจะหลอมรวมเข้ากับทะเลปราณ และจะสามารถเรียกใช้พลังจากทะเลปราณเพื่อควบคุมระฆังเทพสายฟ้าได้ในความคิดเดียว ซูฉินจะไม่สามารถเข้ามารบกวนการเชื่อมโยงนี้ได้
แต่ตอนนี้เหลยตู้ฝ่าเป็นเพียงครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี ฐานบ่มเพาะถูกสะกดข่ม โดยซฉินที่เหนือกว่า ต่อให้ควบคุมระฆังเทพสายฟ้าได้ไร้ที่ติ แต่จะหยุดซูฉันไม่ให้รบกวนได้อย่างไร?
“มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังต้องการทําอะไรกันแน่? เขาวางมือไว้บนสมบัติล้ําค่า?”
“น่าเหลือเชื่อยิ่งแล้ว เสียงระฆังที่ดังอย่างต่อเนื่องจากสมบัติล้ําค่าเริ่มช้าลงแล้ว นี่เป็นฝีมือของมนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังหรือเปล่า?”
จอมยุทธดินแดนโพ้นทะเลจํานวนนับไม่ถ้วนที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน
บรรพชนนิกายใหญ่ถึงกับขยี้ตา เกือบจะคิดว่าสิ่งที่พวกตนเห็นเป็นภาพลวงตาแล้ว
“นี่คือการใช้กายเนื้อปะทะเข้ากับสมบัติล้ําค่า?” เกิดคลื่นลมขนาดใหญ่ในใจบรรพชนสํานักผู้วิเศษ
สมบัติล้ําค่าคือสิ่งใด? อาวุธที่ปรับแต่งโดยผู้ทรงพลังถึงขีดสุดนั้น ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะบอกว่ามีพลังมากดุจผืนฟ้า แม้ว่าระฆังเทพสายฟ้าจะไม่ใช่สมบัติล้ําค่าโดยกําเนิดของผู้ทรงพลังถึงขีดสุด แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายของเซียนเทพปฐพี่จะสั่นคลอนมันได้
“ร่างกายของมนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังดูเหมือนจะแกร่งกว่าที่ข้าคิดไว้ ไม่เช่นนั้นต่อให้เป็นเซียนเทพปฐพีขั้นสูงสุดก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสทันทีที่เข้าใกล์สมบัติล้ําค่า เป็นไปได้อย่างไรที่มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังไม่เพียงไม่ถอยกลับ แต่รุกคืบเข้าสะกดสมบัติล้ําค่าไว้ได้อย่างนุ่มนวล”
ท่าทีของบรรพชนสํานักผู้วิเศษผันผวน ความตกใจที่เกิดขึ้นภายในดวงตายากจะปิดบัง
เดิมที่สํานักผู้วิเศษนั้นเชี่ยวชาญเรื่องการบ่มเพาะร่างกาย และพ่อมดราชันรุ่นก่อนๆ ก็มีร่างกายผู้วิเศษซึ่งแข็งแกร่งยิ่งกว่าร่างกายของเซียนเทพปฐพี่ทั่วๆ ไป
ทว่า แม้ด้วยร่างกายของผู้วิเศษก็ยังไม่กล้าส่งตัวเองเข้าไปใกล้สมบัติล้ําค่าเช่นนี้
แม้ว่าสมบัติล้ําค่าที่เกี่ยวกับคลื่นเสียง เช่น ระฆังเทพสายฟ้า ระยะทางที่ลดลงจะสามารถสะ กดข่มพลังของระฆังได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องอดทนต่อแรงกดดันของเสียงที่มากขึ้นด้วย
เซียนเทพปฐพี่ที่มีร่างกายอ่อนแอจะไม่กล้าทําเช่นนี้ มีเพียงซูฉินที่มีร่างกายแข็งแกร่งและทิพยอํานาจคอยฟื้นฟูร่างกายอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ถึงจะกล้าเอาตัวเองไปติดในกับดักนี้
“ทําลาย!”
ซูฉินแตะระฆังเทพสายฟ้าด้วยมือขวา และมือซ้ายก็กําแน่นเป็นหมัด ปราณเลือดของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคํานั้นน่าสะพรึงกลัวมีพลังทําลายล้างสูง จากนั้นมันก็ระเบิดเข้าใส่ตัวระฆังเทพสายฟ้าอย่างรุนแรง
ต่ง!!!
เสียงระฆังที่แสนน่ากลัวดังขึ้นอีกครั้ง เหลยตู้ฝ่าซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ระฆังรู้สึกว่าร่างของเขาแทบจะระเบิดออก ถ้าไม่ใช่เพราะจิตวิญญาณแรกกําเนิดที่ผสานเข้ากับระฆังเทพสายฟ้าคอยสะท้อนกลิ่นอายพลังออกจากร่างกายไป เกรงว่าเพียงเสียงระฆังนี้คงทําให้ร่างกายของเขาแตกสลายกลายเป็นอากาศธาตุไปแล้ว
“อ๊าาาาา!”
ทันใดนั้นเหลยตู้ฝ่าก็ร้องคารามเสียงแหบต่ํา ด้วยการสั่นสะเทือนของระฆัง แม้แต่จิตวิญญาณแรกกาเนิดที่หลอมรวมเข้ากับระฆังเทพสายฟ้าก็ยังสั่นสะท้าน
“มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถัง”
“เป็นเจ้าที่บังคับข้าเอง”
“มาตายไปพร้อมกันเถอะ!”
เหลยตู้ฝ่ารู้สึกว่าสายสัมพันธ์ระหว่างเขากับระฆังเทพสายฟ้านั้นอ่อนกําลังลงเรื่อยๆ และตระหนักว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาอาจจะไม่มีพลังแม้แต่จะต่อต้านด้วยซ้ํา ทันใดนั้นสีหน้าที่ได้ ความปรานีก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ช่วงเวลาต่อมา
ร่างกายของเหลยต้ฝ่าก็ระเบิดพลังออกมา แก่นแท้และเลือดเนื้อจํานวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ระฆังเทพสายฟ้า
ด้วยพลังจากแก่นแท้และเลือดเนื้อ การเชื่อมต่อระหว่างเหลยตู้ฝ่ากับระฆังเทพสายฟ้าก็ชัดเจนมากขึ้น
ในชั่วพริบตา
บนตัวระฆังเทพสายฟ้าก็มีเส้นสายโยงใยนับไม่ถ้วนปรากฏให้เห็น ลวดลายเหล่านี้ดูเก่าแก่และทรงพลัง เต็มไปด้วยกลิ่นอายจากวิถีแห่งสายฟ้า
วิถีทางเหล่านี้ควบแน่นขึ้นมาราวกับมีตัวตน กลายเป็นสายฟ้ามืดมิดที่พร้อมจะบดขยี้ความว่างเปล่า แรงกดดันเหมือนจะเป็นอนันต์จนทําให้ความว่างเปล่านั้นปริแตก
สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุทําลายล้าง!
ทรงพลังยิ่งกว่าสายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในตํานานเสียอีก
นี่เป็นหนึ่งในท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของระฆังเทพสายฟ้า สามารถควบแน่นสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุที่สาบสูญซึ่งอยู่ระหว่างชั้นฟ้าดินมาได้ มันมีพลังทําลายล้างทุกสิ่ง แม้จะเป็นเซียนเทพปฐพีก็ต้องปวดหัว หากกําจัดได้ไม่ทันเวลาล่ะก็ คงจะต้องทิ้งร่างกายไปเสียสิ้น
ครีน
สายฟ้านับไม่ถ้วนกระจายออกมาจากระฆังเทพสายฟ้า พุ่งเข้าหาซูฉิน
“มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถัง มอบชีวิตมาให้ข้าเสียเถอะ” เหลยตู้ฝ่าใช้งานระฆังเทพสายฟ้าอย่างสิ้นหวัง ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
สมบัติล้ําค่าระฆังเทพสายฟ้า แม้จะเป็นเซียนเทพปฐพี่ก็ไม่สามารถควบคุมได้ง่ายๆ หากเหลยตู้ฝ่าไม่ได้รับการสืบทอดวิธีการปรับแต่งนับหมื่นปีมาจากนิกายเทพเจ้าสายฟ้า จะเรียกใช้สมบัติล้ําค่านี้ได้อย่างไร?
ในคราวนี้ ร่างของเหลยตู้ฝ่าพลันระเบิดออกและจิตวิญญาณแรกกําเนิดก็ถูกเผาไหม้เมื่อตกอยู่ในพลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุทําลายล้าง เมื่อสายฟ้าพุ่งฝ่าอากาศออกมา เหลยตู้ฝ่าก็ไม่สามารถทานทนต่อพลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุทําลายล้างได้
“ไร้ประโยชน์
“ถ้าเจ้าเป็นเซียนเทพปฐพี ข้าคงหวาดกลัวสักเล็กน้อย แต่อาศัยแค่ครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี ไม่ต้องกล่าวถึงการมีสมบัติล้ําค่าเพียงชิ้นเดียวเลย ต่อให้เจ้าถือครองสมบัติล้ําค่าเป็นสิบชิ้น เจ้าจะทําอะไรข้าได้จริงๆน่ะหรือ?”
ดวงตาของซจินดสงบนิ่ง ไร้คลื่นลมผันผวน ทันใดนั้นดวงตะวันก็ลกโชนขึ้นอีกรอบ
ช่วงเวลาต่อมา
กลิ่นอายของซูฉันเปลี่ยนไป และพลังสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวก็ถูกเปิดเผย ในตอนนี้ซูฉินได้ใช้ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าออกมา สายฟ้าวูบวาบไปทั่วทั้งร่าง ทรงพลังพอจะทําให้ฟ้าดินต้องสั่นสะเทือน
ก่อนหน้านี้ที่ซูฉินได้ดูดซับกิ่งไม้อสนีบาตภัยและดาบสายฟ้าของเหลยเฉียนจือ ห้าหมัดเทพเจ้าสายฟ้าก็ได้ทะลุขีดจํากัดของมันแล้ว ตอนนี้ซูฉันเหมือนกับเทพสายฟ้าที่แท้จริงท่องมายังโลกมนุษย์
“สายฟ้าแต่ละเส้นที่ปรากฏขึ้นบนร่างมนุษย์สวรรค์อาณาจักรถัง ในตอนนี้ใกล้เคียงกับกระบวนท่าสุดท้ายของเหลยเฉียนจ่อยิ่งนัก ทว่าสายฟ้าบนร่างของมนุษย์สวรรค์อาณาจักรมีนับร้อยนับพันไม่ใช่หรือ? กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่เทียบเคียงได้กับเหลยเฉียนจือนับร้อยคนลงมือร่วมกัน?”
บรรพชนตําหนักเทพเจ้าหิมะตกตะลึง
บรรพชนนิกายใหญ่แห่งอื่นๆ ก็ตกใจไม่แพ้กัน
แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าซูฉินนั้นแข็งแกร่งมาก และสามารถปะทะกับสมบัติล้ําค่าได้ด้วยกายเนื้อ แต่ตอนนี้ทุกคนตระหนักดีว่าพวกเขายังประเมินซูฉินต่ําเกินไป
เทียบเท่ากับเหลยเฉียนจือเป็นร้อยเป็นพันคนหมายถึงสิ่งใด? มันเทียบเท่ากับการมีเซียนเทพปฐพีหลายร้อยคน พลังอํานาจระดับนี้เพียงพอที่จะครอบงําต่างดินแดนได้เลย แม้แต่ในยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด ก็นับว่ามีอํานาจไม่ใช่น้อยๆ
แน่นอนว่ามีบรรพชนแค่ไม่กี่คนที่ตระหนักรู้ได้ว่าทุกเส้นสายฟ้ารอบตัวซูฉิน มีพลังใกล้เคียงกับเหลยเฉียนจือ แต่กระนั้นภาพรวมของพลังสายฟ้าทั้งหมดก็ดูทรงพลังมากกว่าเหลยเฉียนจือหลายสิบเท่าอยู่ดี ซึ่งขุมพลังดังกล่าวก็ยังสามารถทําให้ทั้งโลกตกตะลึง
ครีน
เมื่อซูฉินใช้ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้า พลังฟ้าดินธาตุสายฟ้าก็อยู่ในการควบคุม และสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุทําลายล้างจากระฆังเทพสายฟ้าที่แผ่พุ่งออกมาก็ถูกซุฉินสูบกลืน
ในที่สุด
กลิ่นอายของซูฉันพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ดวงตะวันดวงยักษ์ในรูม่านตาก็ลุกโชนร้อนแรงเกือบจะเทียบเคียงดวงอาทิตย์บนฟากฟ้า และพลังเปลวเพลิงที่น่าสะพรึงกลัวนี้ก็ได้เผาผลาญทุกสิ่งอย่าง
เมื่อรัศมีพลังของซูฉินพุ่งสูงขึ้นจนถึงขีดสุด ภายในเปลวเพลิงอันไร้ที่สิ้นสุด อีกาทองคํา สามขาก็สยายปีก พลังแห่งเปลวเพลิงที่น่าสะพรึงกลัวก็เพิ่มระดับขึ้นอีกครั้ง โหมกระหนาเข้าใส่ ระฆังเทพสายฟ้าอย่างหนักหน่วง
หวัง!!
เหมือนดวงอาทิตย์พุ่งลงมาใส่
ฉากที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหน บัดนี้ได้เกิดขึ้นบนเกาะเทพเจ้าสายฟ้า
เห็นอีกาทองคําสามขากางปีกออกโบยบินแหวกว่ายในอากาศ อ้าปากกว้างเงยหน้าขึ้น เปลวเพลิงปริมาณมหาศาลพลันพุ่งออกมา ระฆังเทพสายฟ้าที่ถูกสะกดโดยเปลวเพลิงอันไร้ที่สิ้นสุด จู่ๆก็ระเบิดพลังออกมาเป็นสายฟ้าสวรรค์เก้าสิบเก้าสายปะทะกันอย่างต่อเนื่องทําลายเปลวเพลิงโดยรอบทิ้งไป
นี่เพราะเหลยตู้ฝ่าได้เผาจิตวิญญาณแรกกําเนิดเพื่อสร้างพลังให้กับสมบัติล้ําค่าระฆังเทพสายฟ้า ไม่เช่นนี้ยามเมื่อซูฉินกระตุ้นพลังของดวงตะวันขนาดมหึมาอย่างเต็มที่ ระฆังเทพสายฟ้าคงถูกปราบปรามไปแล้ว
ปราณฉีฟ้าดินระเหยเป็นไอ แม้แต่อากาศก็เริ่มบิดเบือน จอมยุทธต่างดินแดนจํานวนนับไม่ถ้วนที่เฝ้าดูอยู่รู้เพียงว่าภาพด้านหน้าของพวกตนพร่าเลือน รัศมีอันน่าสยดสยองแพร่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง จอมยุทธบางส่วนที่หนีไม่ทันก็สลายกลายเป็นผุยผง
และเมื่อผลกระทบกระจายไปเป็นวงกว้าง ตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่เฝ้าชมอยู่ก็พบเรื่องน่าประหลาดใจ
ทั้งจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ อาณาเขต หรือจิตวิญญาณแรกกําเนิด ล้วนไม่สามารถเข้าใกล้เกาะเทพเจ้าสายฟ้าได้เลย
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ตอนนี้การต่อสู้เป็นเช่นไรบ้าง?”
“ใครเป็นผู้ชนะ มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังหรือสมบัติล้ําค่าระฆังเทพสายฟ้า?”
จิตใจของจอมยุทธดินแดนโพ้นทะเลทั้งหลายที่กําลังดูการต่อสู้อยู่ตึงเครียดอย่างชัดเจน ฉากเมื่อครู่นั้นเป็นจุดตัดสินระหว่างซูฉินกับระฆังเทพสายฟ้า
ไม่ว่าชัยชนะจะเป็นของฝ่ายใด ย่อมส่งผลต่อสถานการณ์บนโลกต่อจากนี้ หากซูฉินชนะ นิกายใหญ่จะต้องยอมจํานนต่อซูฉินโดยสมบูรณ์ แม้แต่สํานักผู้วิเศษก็ไม่มีข้อยกเว้น หากสมบัติล้ําค่ายังต้านซูฉินไม่ได้ แล้วสํานักผู้วิเศษจะเอาอะไรไปต่อต้านซูฉัน?
อย่างไรก็ตาม หากซูฉินพ่ายแพ้ แสดงว่าสิ่งต่างๆ จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ยังมีโอกาสที่เหล่านิกายใหญ่จะกลับมาเห็นแสงเดือนแสงตะวันอีกครั้ง
“สมบัติล้ําค่านั้นสูงล้ําเหนือปฐพี มีผู้ทรงพลังถึงขีดสุดอยู่เบื้องหลัง มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังเป็นเพียงเซียนเทพปฐพี่จะมาเอาชนะพลังของสมบัติล้ําค่าได้อย่างไร?”
บรรพชนบางคนยังมีความหวังริบหรี่อยู่ในใจ และบางคนถึงกับคาดหวังให้ซูฉินและสมบัติล้ําค่าสูญสลายหายไปด้วยกัน
เวลาล่วงเลยผ่านไป
ขณะที่จอมยุทธต่างดินแดนยังคงจ้องมองไปยังเกาะเทพเจ้าสายฟ้า
พลังฟ้าดินที่ระเหยพวยพุ่ง ในที่สุดก็สงบลง บรรยากาศที่บิดเบี้ยวกลับคืนสู่สภาพแรกเริ่มเผย ให้เห็นทุกสิ่งบนเกาะเทพเจ้าสายฟ้า
มือซ้ายของซูฉินไพล่ไว้ด้านหลัง มือขวายกขึ้นเล็กน้อย มีระฆังโบราณขนาดเท่าฝ่ามือลอยอยู่เหนือมือของเขาอย่างเชื่อฟัง ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ราวกับเหยียบย่าผืนฟ้าผืนปฐพีอันกว้างใหญ่ไว้ใต้ฝ่าเท้า
โลกทั้งใบไร้ขอบเขต ข้าผู้นี้ไร้เทียมทาน!
MANGA DISCUSSION