เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 94 จะให้โอกาสคุณอีกครั้งแล้วกัน
แสงไฟภายในห้องหวังเยี่ยนหรงสลัวน้อยๆ หญิงชราเอนตัวอยู่บนเตียง ดวงตาสะลึมสะลือ ลมหายใจแผ่วเบา
คุณนายหวังเฝ้าหล่อนอยู่ข้างเตียง ส่วนคนในตระกูลหวังคนอื่นๆ ยืนรวมกันอยู่อีกฟาก
ทุกคนต่างก็รอโทรศัพท์ของเย่เฉิน
พวกเขาทุกคนรู้ว่าเย่เฉินเป็นประธานผู้บริหารของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป เขาถือเป็นเบอร์หนึ่งในโลกธุรกิจของอวิ๋นโจว ด้วยศักยภาพของเขาแล้วน่าจะค้นหาความจริงได้อย่างรวดเร็ว
ทางฝั่งครอบครัวหวังจื้อหย่วนกระอักกระอ่วนอย่างมาก เพราะกลัวว่าข่าวที่เพื่อนตนเองหามาได้นั้นจะเป็นเรื่องโกหก
“สวรรค์ทรงโปรด พระพุทธองค์โปรดเมตตา ข้อมูลที่จื้อหย่วนได้มาจะต้องเป็นเรื่องจริง!”
ซูหลานสวดอ้อนวอนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่หยุด
“กริ๊ง กริ๊ง…”
คนแทบหยุดหายใจเมื่อเสียงโทรศัพท์หัวเหว่ยของเย่เฉินดังขึ้น!
เย่เฉินปรายตามองหน้าจอโทรศัพท์แล้วพบว่าสายที่โทรเข้ามานั้นไม่ใช่พ่อบ้านฟาง แต่เป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกเอาไว้
“ฮัลโหล” เขากดรับสาย
เสียงในสายตอบกลับมา “สวัสดีครับคุณเย่เฉิน ผมคือหัวหน้าสำนักงานกิจการพลเรือนประจำอวิ๋นโจว ผมชื่อช่ายหมิ่นครับ”
“หัวหน้าช่าย สวัสดีครับ” เย่เฉินเองก็กล่าวทักทายอย่างมีมารยาท
ช่ายหมิ่นกล่าวว่า “ต้องขออภัยอย่างยิ่งที่ต้องแจ้งให้ท่านทราบครับว่า ในระบบไม่มีบันทึกการจดทะเบียนหย่าของคุณกับคุณหวังเจียเหยา ส่วนเอกสารสำคัญการหย่านั้นคนของเราลอบปลอมแปลงขึ้นเองครับ ดังนั้นเอกสารสำคัญการหย่าของพวกคุณถึงไม่มีผลตามกฎหมาย คุณและคุณหวังเจียเหยายังเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายครับ ส่วนใบทะเบียนสมรสและใบสำคัญการหย่าระหว่างคุณหวังเจียเหยาและคุณฟางเชาก็ไม่มีผลทางกฎหมายใดๆ เช่นกันครับ
คุณเย่ พวกเราเจอตัวพนักงานของสำนักกิจการพลเรือนที่ทำเรื่องหย่าให้พวกคุณแล้วครับ ผมสั่งพักงานหล่อนไปแล้ว พรุ่งนี้เช้าผมจะให้หล่อนอธิบายอย่างละเอียดและขอโทษพวกคุณ คุณเย่กับคุณหนูหวังเจียเหยา ถ้าพวกคุณสองคนจะทำเรื่องหย่าอีกครั้ง ผมจะเป็นคนทำให้คุณด้วยตนเอง รับรองได้เลยครับว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”
เย่เฉินกล่าวเสียงเรียบ “เรื่องหย่า ถ้ามีโอกาสผมจะไปคุยกับคุณก็แล้วกัน”
เย่เฉินรู้สึกว่าหวังเจียเหยาในตอนนี้ไม่มีทางยอมหย่ากับตนเองแน่
หลังจากเขาวางสาย หวังเจียเหยาก็ถามอย่างตะขิดตะขวงใจ “เย่เฉินเป็นยังไงบ้าง?”
เย่เฉินกล่าวว่า “พวกเรายังเป็นสามีภรรยากันอยู่ เอกสารสำคัญการหย่าที่เราทำกันก่อนนี้รวมไปถึงทะเบียนสมรสและใบหย่าของคุณกับฟางเชา เอกสารทั้งหมดไม่มีผลทางกฎหมาย”
“เย้!” หวังเจียเหยากระโดดโลดเต้นอย่างดีอกดีใจในห้องของหวังเยี่ยนหรง
คนตระกูลหวังทุกคนนอกจากหวังหยวนหยวนแล้วต่างก็ดีใจกันทั้งสิ้น โดยลืมเลือนไปโดยสิ้นเชิงว่าข้างกายพวกเขายังมีหญิงชราที่กำลังใกล้ตายอยู่
“เย่เฉิน…”
และในเวลานี้เองจู่ๆ หวังเยี่ยนหรงก็เรียกเย่เฉินด้วยเสียงแผ่วเบา
เย่เฉินเดินไปหาหญิงชรา หล่อนดึงมือเย่เฉินเอาไว้ “ขอโทษด้วยนะ…พี่ชายย่าเขา…”
เย่เฉินระบายยิ้มแล้วกล่าว “ไม่เป็นไรครับคุณย่าเล็ก ผมนับถือคุณปู่ของเจียเหยามากเลยล่ะครับ เขาสายตากว้างไกล รู้ว่าคนตระกูลหวังทุกคนเป็นพวกเลือกปฏิบัติ พวกเขาจะต้องให้เจียเหยาหย่ากับผม ดังนั้นถึงได้ทำแบบนี้”
เย่เฉินติดกับเขาในใจย่อมไม่พอใจมากอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้หวังเยี่ยนหรงกำลังจะตาย เย่เฉินเองจึงไม่อยากจะพูดจาทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย ทำได้เพียงแดกดันคนตระกูลหวังเท่านั้น
หวังเยี่ยนหรงกล่าว “คงใกล้ถึงเวลาของย่าแล้วล่ะ… อีกเดี๋ยวก็จะได้ไปเจอพี่ชายแล้ว…ก่อนจะตาย…ย่ามีเรื่องอยากจะขอร้อง…”
เย่เฉินเองก็สะเทือนใจไม่น้อย เมื่อพบว่าหญิงชราเริ่มหายใจลำบากขึ้นทุกที
“คุณย่าพูดมาเถอะครับ”
หวังเยี่ยนหรงกล่าวพลางสูดลมหายใจช้าๆ “อย่า…อย่า…อย่าหย่ากับเจียเหยา”
เย่เฉินได้ยินก็นิ่งไป!
คิดไม่ถึงว่าคำขอสุดท้ายก่อนตายของหญิงชราจะเป็นเรื่องนี้!
และในเวลานี้เองหวังเจียเหยาก็รีบคุกเข่าลงตรงหน้าของเย่เฉินทันที น้ำตาของหญิงงามก็ไหลลงมาทันที
“ที่รักคะ ขอร้องล่ะให้โอกาสฉันอีกครั้งเถอะนะ ฉันจะรักคุณให้มากๆ ฉันขอรับรอง ต่อไปนี้ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวข้องแวะกับผู้ชายคนไหนอีกเลย!”
ซูหลานเองก็อ้อนวอนเขา “เย่เฉิน เธอดูสิว่าเจียเหยาของเราสวยขนาดไหน หนำซ้ำตอนนี้ยังเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง หวังเจียเหยาเป็นภรรยาของเธอมาถึงสามปี หรือเธอจะทำใจยอมยกภรรยาที่แสนสวยแบบนี้ให้คนอื่นได้ลงคอ?”
ปีศาจจิ้งจอกเฒ่าซูหลานเข้าใจความคิดที่แสนจะเห็นแก่ตัวของผู้ชายเป็นอย่างดี ดังนั้นถึงได้จงใจพูดแบบนี้ ถ้าหากเขาไม่คืนดีกับหวังเจียเหยาก็จะเท่ากับว่าเขาปล่อยให้ของดีหลุดมือ
ส่วนเย่เฉินนั้นสับสนอย่างมากแต่ก็ยังกล่าวต่ออย่างแน่วแน่ “ต้องขอโทษด้วยนะครับ คุณย่าเล็ก ผมรับปากคุณย่าได้ทุกเรื่อง มีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวที่ผมทำไม่ได้!”
คนตระกูลหวังใจหายวูบทัยที
ส่วนคุณย่าเล็กนั้นพอเห็นเย่เฉินตั้งใจแน่วแน่ว่าจะหย่ากับหวังเจียเหยา คิดไม่ถึงว่าจะชันลุกขึ้นเหมือนต้องการจะลงจากเตียง
“แม่ครับ แม่จะทำอะไรครับ แม่ครับ?” โจวเจี้ยนเย่ที่อยู่ตรงประตูรีบเดินมาอย่างรวดเร็ว
หวังเยี่ยนหรงกล่าว “ประคองฉัน…ลงเตียง”
โจวเจี้ยนแย่กล่าวด้วยความตื่นตูม “คุณแม่ครับ สุขภาพของแม่ตอนนี้…จะลงจากเตียงไม่ได้นะครับ ผมขอร้องนะครับ แม่ครับนอนลงบนเตียงเถอะครับ!”
ชีวิตหวังเยี่ยนหรงใกล้จะถึงฝั่งอยู่แล้ว กระทั่งแรงจะลงจากเตียงก็ยังไม่มี
ทว่าหญิงชรารั้นจะลงจากเตียง โจวเจี้ยนเย่เองก็ไม่กล้าขัดมารดาจึงทำได้เพียงอุ้มหญิงชราลงจากเตียง
หวังเยี่ยนหรงมองเย่เฉินแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเขา “ขอร้องล่ะ… ให้โอกาสเจียเหยาอีกสักครั้งเถอะนะ”
“คุณย่าเล็ก!” เย่เฉินรีบปราดเข้ามาประคองหญิงชรา
คิดไม่ถึงว่าก่อนที่หวังเยี่ยนหรงจะลาโลก หล่อนกลับคุกเข่าอ้อนวอนเย่เฉินเพื่อหวังเจียเหยา!
โจวเจี้ยนเย่เห็นมารดาเป็นแบบนี้จึงคุกเข่าลงตรงหน้าเย่เฉินด้วยนัยน์ตาที่แดงก่ำ “คุณเย่ขอร้องล่ะครับ ขอให้คุณเห็นแก่แม่ของผมที่มีอายุถึงเจ็ดสิบปีที่กำลังจะลาโลกนี้ไป รับปากแม่ผมเถอะนะ!”
คนอายุเจ็ดสิบปีมีน้อยนัก!
เย่เฉินอยู่บนโลกนี้มายี่สิบกว่าปีก็รู้สึกว่าชีวิตนั้นไม่ง่าย เขาผจญโลกมาก็มาก หวังเยี่ยนหรงอายุเจ็ดสิบกว่าปี สวรรค์ ทั้งชีวิตของหญิงชราผ่านความยากลำบากมาเท่าไหร่!
บวกกับหวังเยี่ยนหรงเองก็เป็นผู้มีพระคุณของเย่เฉิน จะให้เขาทนเห็นหญิงชราคุกเข่าลงได้อย่างไร แล้วลาโลกไปด้วยความเสียดายหรือ? อีกด้านหวังเจียเหยาก็คุกเข่าร้องไห้อ้อนวอนเขาต่อ “ที่รัก ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ อภัยให้ฉันเถอะนะคะ”
บางทีทั้งหมดนี้อาจเป็นเจตนาของสวรรค์
เย่เฉินถอนหายใจขณะมองหวังเยี่ยนหรง “ก็ได้ ผมรับปากคุณย่าว่าจะให้โอกาสหล่อนอีกครั้ง ขอแค่หวังเจียเหยาไม่ขอหย่ากับผมก่อน ผมจะไม่หย่ากับหล่อน”
“ดีจ้ะ…ดี…”
หวังเยี่ยนหรงพูดซ้ำไปมา แล้วในทันใดนั้นเองหล่อนเปลือกตาของหล่อนก็ปิดลง เป็นสัญญาณว่าหญิงชราบอกลาโลกนี้ไปแล้วตลอดกาล!
“คุณย่าเล็ก!”
“เยี่ยนหรง!”
เสียงของหวังเจียเหยาและคุณนายหวังดังกึกก้อง สองคนแม่ลูกคุกเข่าลงที่ข้างเตียงกรีดร้องเสียงดัง ร้องเสียงดังกว่าเหล่าลูกแท้ๆ ของหวังเยี่ยนหรงเสียอีก
เย่เฉินรู้ดีว่าในหยดน้ำตานี้ เกรงว่าครึ่งหนึ่งคงเป็นน้ำตาแห่งความปิติยินดี!
ในที่สุดประธานบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป คุณชายของตระกูลที่ร่ำรวยกว่าแสนล้านกลายเป็นเขยตระกูลหวังของพวกเขาแล้ว!