เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 592 หัวหน้าตระกูลพัค!
ตอนที่ 592 หัวหน้าตระกูลพัค!
เย่เฉินทำผิดแล้วก็ละอายใจ พอจุมพิตหญิงสาวเสร็จก็ตั้งจะเผ่นแนบหนีไป เลยไม่ทันเห็นท่าทางเหม่อลอยที่น่ารักของหญิงสาว
หากเป็นสาวสวยๆ อย่างพัคอินอา หลังจากโดนจับจูบโดยที่ไม่เต็มแบบนี้จะต้องโกรธมาก
แต่เกอร์ธากลับไม่มีท่าทีจะโกรธเย่เฉิน
หล่อนยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่นาน หลังจากนั้นก็ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวด้วยท่าทางเรียบร้อยน่ารัก ลมเบาๆ พัดกระโปรงยาวและเรือนผมสลวยของหญิงสาว
หล่อนพึมพำกับตัวเอง “ยังดี ที่จูบแรกของฉันโดนผู้ชายปกติๆ ชิงไปแล้วไม่อย่างนั้น ในวันบรรลุนิติภาวะตอนอายุ 18 ปีจะต้องโดนสัตว์ประหลาดแย่งไปแน่… เย่เซวียนเหรอ… นายน่าจะชื่อเย่เฉินต่างหาก ก็เมื่อกี้คุณพัคเรียกนายแบบนั้นนี่นา จูบฉันแล้วยังไม่กล้าบอกชื่อจริงๆ ใจป๊อดจริงๆ! จะมาหาฉันที่สวิตเซอร์แลนด์… นายจะมาจริงๆ เหรอ? ก่อนฉันจะอายุครบ 18 ปี นายจะพาฉันหนีออกจากโลกที่เหมือนคุกนี่ไหมนะ?”
……
ประเทศเกาหลี ในโลกความจริง
เย่เฉินถอดแว่นตา VR แล้วออกจากโลกเสมือนของเกม
เขาก้มลงมองกางเกงของตัวเอง และพบว่าบนหัวเข่านั้นมีรอยเท้าอยู่หลายรอย ซึ่งล้วนแต่ร่องรอยความรักที่พัคซุงวูฝากเอาไว้ให้
เย่เฉินหงุดหงิด “ไอ้บ้าเอ๊ย แกก็กล้าลอบทำร้ายฉันตอนฉันเล่นเกมอยู่เหรอเนี่ย?”
พัคซุงวูกลับหันมองเย่เฉินแล้วเอ่ยถาม “เมื่อกี้ตอนเล่นเกมแกทำอะไรเกอร์ธา!”
เย่เฉินตอบเขาตามสัตย์จริง “ฉันจับหล่อนมาจูบไง!”
“โอ้ย! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแกจะชิงจูบแรกของว่าที่เมียฉันไป! ฉันจะฆ่าแก!!”
พัคซุงวูหัวเสีย แล้วแย่งปืนในมือลูกน้องเล็งมาก่อนจะเล็งไปทางเย่เฉิน
เย่เฉินจะเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายฆ่าตัวเองได้ยังไง?
เย่เฉินมีปฏิกิริยาโต้ตอบที่รวดเร็วอย่างยิ่ง เขาหันไปคว้าปืนมาจากลูกน้องอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็เล็งปืนไปที่ขาของอีกฝ่ายแล้ววลั่นไก!
ปัง!
“โอ้ย!”
พัคซุงวูร้องด้วยความเจ็บปวด แล้วทรุดตัวลงไปนั่งบนพื้น
ทันใดนั้นเองลูกน้องหลายสิบคนของพัคซุงวูต่างก็หยิบปืนขึ้นมาเล็งไปที่ศีรษะเย่เฉิน!
ต่อให้เย่เฉินแข็งแกร่งมากขนาดไหน ก็ไม่สามารถเอาชนะคนจำนวนสิบกว่าคนได้โดยตัวลำพัง นับประสาอะไรกับที่พวกเขาเล็งปืนใส่ตนเองอีก
เย่เฉินจึงกล่าว “แค่พวกแกคนไหนกล้าลั่นไกปืน ทุกคนที่นี่ต้องตาย! รวมถึงเจ้านายของพวกแกด้วย!”
เหล่าลูกน้องจำนวนสิบกว่าคนประสานสายตากัน ไม่มีคำสั่งจากพัคซุงวูก็ไม่มีใครกล้าลั่นไกปืน
ส่วนพัคซุงวูเองก็ไม่ใช่คนโง่ ถ้าเขาสั่งให้ลูกน้องลั่นไกปลิดชีพเย่เฉิน ตนเองก็จะตายเหมือนกัน หรืออาจตายก่อนเย่เฉินเสียด้วยซ้ำ
เย่เฉินโยนปืนลงบนพื้น แล้วกล่าวกับพัคซุงวู “ครั้งนี้ถือว่าเป็นการสั่งสอนเล็กๆ ที่ให้แกแล้วกัน ต่อไปจำเอาไว้นะ อย่าล่วงเกินคนตระกูลเย่! คนตระกูลเย่เราไม่ใช่คนที่พวกอกจะล่วงเกินได้!”
พูดจบเย่เฉินก็แบกซูหลาน แล้วตั้งท่าจะเดินออกไป ขณะปรายตามองแม่แบล็ควิโดว์ แล้วตัดสินใจว่าจะพาดาราสาวที่ชื่นชอบคนนี้ไปด้วยเพื่อไม่ให้หล่อนกลายเป็นของเล่นของพัคซุงวู
พัคซุงวูนอนกองกับพื้นขณะมองเย่เฉินแบกพวกสาวๆ ออกไป อย่างจนปัญญา!
“โอ้ย! หงุดหงิดจังโว้ย!”
พัคซุงวูทุบพื้นด้วยมือสองข้าอย่างหัวเสีย
“คุณชาย คุณชายเป็นอะไรไป? เดี๋ยวผมพาคุณชายไปรักษาตัวก่อน!”
เมื่อเห็นขาของพัคซุงวูโดนยิง พวกลูกน้องก็ลนลาน
พัคซุงวูกลัวปฏิเสธ “ไม่ต้อง กะอีแค่ปืนนัดเดียว บาดแผลเล็กๆ แบบนี้ไม่เห็นต้องไปเสียเวลาเลย! คิดไม่ถึงเลยว่าตระกูลเย่จะเก็บงำซุกซ่อนความลับเอาไว้ ทักษะทางการแพทย์ของพวกเขาเหนือตระกูลเราเสียอีก ฉันต้องรายงานเรื่องนี้ให้กับพ่อฉันได้รู้! ใครก็ได้รีบพาฉันกลับโซลเดี๋ยวนี้นะ!”
ลูกน้องคนหนึ่งเห็นขาพัคซุงวูมีเลือดไหลออมาไม่หยุด “แต่ว่าคุณชายครับ แผลที่ขาคุณชาย…”
พัคซุงวูพูดว่า “พาหมอไปด้วยคนหนึ่ง ให้เขาเอากระสุนปืนออกระหว่างเดินทางแล้วกัน แค่ใส่ยาก็ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกังวล!”
ในโลกอนาคต โดนปืนยิงแค่ไม่ใช่ตำแหน่งสำคัญ จะเป็นเพียงแค่บาดแผลเล็กๆ เท่านั้น ไม่มีทางทิ้งร่องรอยยบาดแผลอะไรบนร่างกาย
ดังนั้นพัคซุงวูจึงไม่แยแสอะไร
……
โซล ในห้องโถงโอ่อ่าสีทองมลังเมลืองแห่งหนึ่ง
ชายวัย 50 กว่ากำลังสวมแว่นตา นั่งบนเก้าอี้มังกรด้วยท่าทีขึงขัง ปรายตามองรายงานครู่หนึ่ง
ตอนนี้พัคซุงวูกำลังเดินกระเผลกเข้ามาด้านใน
ถึงแม้ว่าขาจะบาดเจ็บแต่ว่าเขายังเดินเร็วเหมือนเดิม รีบร้อนไปหยุดตรงหน้าของชายวัยกลางคนพลางกล่าว “คุณพ่อครับ เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องแล้ว!”
ชายวัยกลางคนผู้นี้ ก็คือบิดาของพัคซุงวู และเป็นพ่อของคุณผู้หญิงพัคอินอา หัวหน้าตระกูลพัค พัคชิจุน!
พัคชิจุนปรายตามองขาซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บของพัคซุงวู ใบหน้าฉายแววไม่พอใจ
ที่จริงเขาในตอนนี้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลพัคแล้ว
พัคซุงวูกล่าว “พ่อครับ ที่แท้ตระกูลเย่ก็ซุกซ่อนความสามารถเอาไว้ครับ ทักษะทางการแพทย์ของพวกเขานี่สุดยอดมากเลย อาการป่วยของน้าสามที่เรารักษากันมาตั้ง 6 ปี ยังรักษาอาการปวดหัวของหล่อนไม่ได้ แต่ว่าเย่เฉินจากตระกูลเย่กลับรักษาเดี๋ยวเดียวคุณน้าก็หายเลย!”
พัคชิจุนแค่นสียงเย็น “เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างแกกับเย่เฉินที่โรงพยาบาลฉันเห็นจากกล้องวงจรปิดหมดแล้ว ไอ้เด็กเย่เฉินนั้นก็แค่ใช้กลบ้าๆ เท่านั้นแต่ไม่อยากจะเชื่อว่าหลอกแกได้เสียสนิท!”
พัคซุงวูสับสน “อะไรนะ? หลอกเหรอครับ?”
พัคชิจุนกล่าว “หมอที่ฉันเพิ่งส่งไป เพิ่งตรวจร่างกายของคุณน้าสามแก อาการป่วยของหล่อนไม่ได้ดีขึ้นสักนิดเดียว แต่เย่เฉินนั่น ใช้กลตบตาโง่ๆ ให้น้าสามของแกเข้าใจผิดไปว่าหล่อนหายดีแล้ว แต่นั่นเป็นแค่กลตบตาเท่านั้นเอง! ฉันรู้จักกับตระกูลเย่มาหลายสิบปี คิดว่าฉันจะไม่รู้ความสามารถของพวกเขาหรือไง? ตระกูลเย่ของพวกเขาตอนนี้เป็นเพียงแค่ตระกูลชั้นล่างของทั้งแปดตระกูลเท่านั้น! ฉันเคยบอกแกเอาไว้นานแล้วว่านอกจากเย่ฉงไห่แล้ว คนอื่นตระกูลเย่คนอื่นๆ เป็นแค่ขยะเท่านั้น ทำไมแกถึงได้เชื่อคำคุยของเย่เฉินได้นะ? เย่เฉินคนนี้มันเด็กกว่าแกอีกไม่ใช่หรือไง? แกโดนเด็กที่อายุน้อยกว่าปั่นหัว แถมยังโดนเขาทำร้ายไม่อายบ้างหรือไง? พัคซุงวูวันนี้แกทำให้ตระกูลพัคเราขายหน้ายับเยิน!”
พัคซุงวูทั้งโกรธทั้งรู้สึกผิด เขาทรุดตัวคุกเข่าลงตรงหน้าพัคชิจุน “ขอโทษด้วยครับ คุณพ่อ! ผมหลงกลเย่เฉิน! ไอ้เย่เฉินคนสารเลว คิดไม่ถึงว่าจะกล้าคุยโวว่าตระกูลตัวเองมีเทพธิดาคนใหม่คอยให้ความช่วยเหลือ ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่มีอะไรสักอย่างเดียว! พ่อครับ เย่ฉินมันชิงจูบแรกของคู่หมั้นผมไป ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ในเกมก็เถอะ แต่ว่าความแค้นครั้งนี้ผมทนรับเอาไว้ไม่ได้!”
พัคชิจุนถาม “แกหมายถึงเกอร์ธาของตระกูลสมิตช์เหรอ?”
พัคซุงวูพยักหน้ารับ
พัคชิจุนขมวดคิ้วมุ่น “ตระกูลสมิตช์เนี่ยซุกเสียมิดเลย พวกเขาเป็นตระกูลที่ลึกลับที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งแปดตระกูลเลยนะ ความสามารถของพวกเขาไม่ด้อยไปกว่าพวกโรสและจอร์จ ถ้าแกได้แต่งงานกับเกอร์ธา เราจะได้ลองสืบเรื่องพวกเขา ว่าหลายสิบปีที่ผ่านมานี้พวกสมิตซ์กำลังค้นคว้าวิจัยอะไรกันแน่ อืม อย่างไรเสียตระกูลเย่ใกล้จะโดนเตะออกจากการเป็นตระกูลลึกลับแล้ว แกอยากล้างแค้นเย่เฉินก็บอกแล้วกันพ่อจะช่วยแกเอง!”