เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 524 เย่เฉินรังแกหนู!
ตอนที่ 524 เย่เฉินรังแกหนู!
เย่เฉินหยิบกล่องที่ฉินเสี่ยวตั่วโยนมาแล้วอ่านตัวอักษรบนกล่อง
DUREX…
เย่เฉินเก้อเขิน ฉินอ้าวหมิงที่เป็นว่าที่พ่อตาส่งของแบบนี้มาเหรอ?
ตาเฒ่าคนนี้ดูแล้วก็เก่งมากทีเดียว ทันทีที่เย่เฉินเพิ่งเข้ามาก็รู้ว่าเขาจะทำอะไรกับลูกสาวตนเอง…
ส่วนท่าทางของฉินเสี่ยวตั่วนั้นดูหึงหวงอย่างเห็นได้ชัด…
อีกทั้งหล่อนยังจงใจโยนใส่ซิกแพคของเย่เฉิน
ทำให้เย่เฉินนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในรถยนต์คันนั้น แม่สาวน้อยคนนี้หลงใหลในซิกแพคของเย่เฉินอย่างมาก
แม่สาวน้อยคนนี้จงใจชัดๆ!
ฉินหงเหยียนเก้อเขินอย่างมาก กล่าวด้วยสีหน้าแดงก่ำ “เย่เฉิน เราค่อยว่ากันตอนกลางคืนเถอะนะคะ… เดี๋ยวคืนนี้ฉันแอบไปห้องคุณ”
เย่เฉินจะรอให้ถึงกลางคืนได้ที่ไหน เขาอุ้มฉินหงเหยียนขึ้นมาทันที
“คุณไม่ใช่เด็กสักหน่อย อีกอย่างพ่อคุณก็เห็นด้วยแล้ว ผมไม่ปล่อยคุณไปหรอก!”
“คุณนี่บ้าจริงๆ”
ฉินหงเหยียนตีเย่เฉินไม่หยุด แต่เย่เฉินรู้ว่าฉินหงเหยียนไม่ได้อยากจะปฏิเสธเขา เพียงแต่เขินอายเท่านั้นเอง
อย่างไรเสียถึงแม้ว่าฉินหงเหยียนอายุ 30 ปีแล้วแต่ว่าตอนที่หล่อนเจอพ่อเมื่อครั้งก่อน หล่อนเป็นเด็กน้อยอยู่เลย
ดังนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณพ่อของตนเอง ฉินหงเหยียนจะเหมือนกลับไปเป็นเด็กผู้หญิงที่ว่านอนสอนง่าย เชื่อฟังคำพ่อเหมือนเมื่อสิบปีก่อน
ส่วนเย่เฉินชอบสภาพนี้ของหล่อน เพราะเมื่อสิบกว่าปีก่อนเย่เฉินไม่รู้จักหล่อนในตอนนั้น
……
สองชั่วโมงต่อมา
ฉินอ้าวหมิงทำอาหารด้วยตัวเองในวิลล่า เพื่อรับรองเย่เฉิน ซีกวาและชิงหลง
ในตอนนี้ถึงแม้ว่าเกาะเซเบิลจะไม่มีคน แต่จานชาม และอุปกรณ์เครื่องครัวในวิลล่าก็หรูหราและมีระดับ
ไม่ได้ต่างจากข้าวของที่ใช้ในโรงแรมห้าดาวเลย
และแน่นอนว่าที่นี่ก็จะขาดเหล้าราคาแพงจากทั่วโลกไม่ได้เช่นกัน
เย่เฉินถือแก้วเหล้าด้วยมือสองข้างแล้วกล่าวกับฉินอ้าวหมิง “คุณอาฉินครับ ขอโทษด้วนะคะยังไม่ทันได้ทำความรู้จักคุณเลยแต่ก็ยึดลูกสาวคุณไปนานแบบนี้ แต่ผมกับฉินหงเหยียนรักกันจากใจจริง อีกอย่างเราสองคนคบกันมานานมากแล้ว ผมสาบานว่าผมจะดีกับหล่อน หวังว่าคุณอาฉินจะอนุญาตให้เราคบกัน ผมขอดื่มให้คุณอานะครับ”
พูดจบเย่เฉินก็ดื่มเหล้าจนหมดแก้ว
ฉินอ้าวหมิงเผยรอยยิ้มที่อิ่มเอมใจออกมา “ได้สิ ผมรู้ว่าฉินหงเหยียนชอบคุณ ถ้าหากว่าทั้งสองคนคบหากันจริงๆ ก็ดีมากๆ เลยล่ะ”
ฉินอ้าวหมิงเหมือนรู้เรื่องของเย่เฉินกับฉินหงเหยียนแล้วดังนั้นถึงได้เห็นด้วยที่ทั้งสองคนคบหากัน
แต่ว่าฉินเสี่ยวตั่วกลับเคาะโต๊ะแล้วกล่าวกับเย่เฉิน “นี่ๆ เย่เฉิน เกินไปหรือเปล่า? พอมาที่บ้านเราก็แย่งพี่สาวฉัน ลูกสาวหัวแก้หัวแหวนของพ่อฉันไปเลยนะ แล้วยึดตัวพี่เขาไปตั้งสองชั่วโมง แล้วยังพาชิงหลง ซีกวาแล้วคนอีกเป็นร้อยมาด้วย พ่อฉันกับฉันเนี่ย เป็นแค่คนแก่กับผู้หญิงอ่อนแอห้ามนายก็ไม่ได้ นายทำแบบนี้ออกจะรังแกเรามากเกินไปหรือเปล่า?”
ฉินเสี่ยวตั่วพูดแบบนี้เหมือนเย่เฉินเป็นอันธพาล ที่เหยียบเท้าเข้าบ้านก็ใช้อาวุธขืนใจแย่งตัวพี่สาวไป
เย่เฉินเขินอายแล้วกล่าวกับฉินอ้าวหมิง “ไม่ใช่นะ ผมไม่ได้จะไม่เคารพคุณนะครับ เพียงแต่ว่าเราสองคนไม่ได้เจอกันนานก็เลย…”
ฉินเสี่ยวตั่วแค่นเสียงแล้วกล่าว “พ่อคะ เขานิสัยเสียจังเลย ไม่เพียงแต่รังแกพี่แต่ยังรังแกหนูด้วย!”
เย่เฉินตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก ฉินเสี่ยวตั่วจะทำอะไร อย่าบอกนะว่าจะฟ้องเรื่องเขาต่อหน้าว่าที่พ่อตาของเขากับฉินหงเหยียนเหรอ?
นี่ๆ เรื่องที่เกิดในรถเหมือนคุณจะเป็นคนเริ่มก่อน!
ฉินอ้าวหมิงถาม “หา? เย่เฉินรังแกเธอยังไง?”
เย่เฉินลนลานจนทำอะไรไม่ถูก!
ฉินเสี่ยวตั่วตอบ “เขาโยนมือถือหนูให้พี่ชายเขา! พี่ว่าเขารังแกกันไหมคะ! พ่อขา พ่อช่วยดุเขาให้หนูหน่อยสิคะ ตีเขาเลย! เขานิสัยไม่ดีเลยค่ะ!”
เย่เฉินผ่อนลมหายใจออกมายาว ฉินเสี่ยวตั่วคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว ทำเอาเขาตกใจไปหมด
เย่เฉินรีบร้อนอธิบาย “คุณอาฉินครับ คือแบบนี้นะครับ ในมือถือของเสี่ยวตั่วมีเครื่องติดตามที่ผมติ้งตั้งเอาไว้ แต่เมื่อกี้เย่เซวียนขโมยเหอเฟิงหมายเลข 3 ของผมไป ดังนั้นผมเลยโยนมือถือให้เขาเป้าหมายเพื่อจะสะกดรอยตามเย่เซวียน”
และในตอนนี้เองเย่เฉินก็หันมองชิงหลงแล้วถาม “ตอนนี้เย่เซวียนอยู่ไหนแล้ว? นิ่งหรือยัง?”
ชิงหลงมองโปรแกรมสะกดรอยในมือถือแล้วกล่าว “ไม่ครับ ยังบินด้วยความเร็วมากเหมือนเดิม ไปทางยุโรปแล้วครับคุณชาย”
เย่เฉินปวดหัวตุบๆ เย่เซวียนคนนี้ยังบอกว่าจะนอนกับผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แถมยังบอกว่าสวยเหมือนนางฟ้า
ปกติเขาจะชอบทำอะไร เย่เฉินไม่อยากสนใจ แล้วก็ห้ามไม่ได้
แต่คราวนี้ทำไมต้องมาขับเครื่องบินของเย่เฉินด้วย!
เย่เฉินมองฉินอ้าวหมิงแล้วกล่าว “คุณอาฉิน คุณรู้ไหมครับว่าเย่เซวียนไปไหนไหมครับ?”
ฉินอ้าวหมิงส่ายหน้า “ผมไม่ค่อยรู้เรื่องของคุณเย่เซวียนมากนัก เขาแค่บอกเราว่าจะไป ผมเองก็ไม่ได้ไปไล่ถาม”
เย่เฉินพยักหน้ารับ “เขาช่วยคุณมาจากคุณปู่ของผมเหรอครับ?”
ฉินอ้าวหมิงพยักหน้ารับ “ใช่ครับ เขาช่วยผมออกมา แต่ว่าจะเรียกว่าช่วยก็ไม่ได้”
เย่เฉินแปลกใจ “คุณอาฉิน หลายปีมานี้คุณไปซ่อนตัวอยู่ไหน? ทำอะไรอยู่? ทำไมต้องซ่อนตัวไม่ติดต่อหงเหยียนกับเสี่ยวตั่วเหรอ?”
ฉินอ้าวหมิงมีท่าทีลำบากใจแล้วถาม “คุณเย่เฉิน คุณผ่านการทดสอบของตระกูลหรือยังครับ?”
เย่เฉินส่ายหน้า “ไม่ครับ ภารกิจสุดท้ายของผมคือจับเย่เซซียน เสียดายที่เขาหนีไปแล้ว”
ฉินอ้าวหมิงกล่าว “งั้นต้องขอโทษด้วยนะครับ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความลับของตระกูลคุณ ผมคงจะบอกคุณไม่ได้ รอในใอนาคตที่คุณผ่านการทดสอบของตระกูล แล้วคุณปู่ของคุณบอกความลับของตระกูลแล้วก็ไม่จำเป็นให้ผมบอกแล้วล่ะ คุณจะรู้เอง”
เย่เฉินพยักหน้า เขาเข้าใจความลำบากใจของฉินอ้าวหมิง
ทว่าฉินเสี่ยวตั่วคนนี้กลับไม่ยอมดละ รีบปรี่เข้าไปจับมือของฉินอ้าวหมิงแล้วออดอ้อน
“แหมๆ คุณพ่อขา พ่อก็บอกเถอะนะคะ ตระกูลพวกเขามีความลับอะไรกันแน่ พวกเขาข้ามเวลามา หรือว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวมา อย่าบอกนะว่าคนในครอบครัวเขาไม่ใช่คน กลายร่างมาจากหมาจากแมวนะคะ? พ่อบอกเราเถอะนะคะ”
เย่เฉินพูดไม่ออก ฉินเสี่ยวตั่วคนนี้จินตนาการเก่งจริงๆ!
ถ้าฉันเป็นหมาแล้วเธอจะเป็น…
เย่เฉินกล่าวว่า “เสี่ยวตั่ว คุณอย่าทำให้พ่อคุณลำบากใจเลย เขาหวังดีกับพวกเรา ถึงผมจะไม่รู้ว่าความลับของตระกูลคือไรแต่ผมแน่ใจได้ว่าของแบบนี้ พวกคุณอย่ารู้เลย รู้ไปก็ไม่ได้มีประโยชน์กับพวกคุณ แต่จะยิ่งเป็นอันตราย”
ฉินเสี่ยวตั่วนึกถึงเรื่องที่โดนจับตัวไปตอนที่คอนเสิร์ตก็รีบปล่อยมือ “แหมๆ งั้นหนูไม่รู้ก็ได้ รอนายผ่านการทดสอบทั้งหมดของที่บ้านก่อนแล้วรู้ความลับแล้ว นายค่อยบอกฉันก็ได้ ฉันจะได้ไม่ต้องโดนคนจับตัวไปอีก”
ฉินอ้าวหมิงตกใจเพราะสิ่งที่ลูกสาวพูด “เสี่ยวตั่ว ลูกโดนจับตัวไปเหรอ? เป็นอะไรหรือเปล่า? พวกเขาไม่ได้ทำอะไรลูกใช่ไหม? หนูยังบริสุทธิ์ผุดผ่องใช่ไหม?”