เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 487 หวังเจียเหยา: ฉันต่างหากคือสะใภ้ตระกูลเย่!
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 487 หวังเจียเหยา: ฉันต่างหากคือสะใภ้ตระกูลเย่!
ตอนที่ 487 หวังเจียเหยา: ฉันต่างหากคือสะใภ้ตระกูลเย่!
บนรูปภาพราชรถทองคำเป็นประกายวิบวับ ทุกตารางนิ้วบนตัวรถดูแล้วแสนหรูหรา เลอค่าอย่างยิ่ง!
ส่วนในรถนั้น เย่เฉินและซูมู่ชิงโบกมือทักทายผู้คน
ส่วนท่าทีสูงส่งเหลือเกินนั้นเป็นเหมือนคิงและควีนอย่างไรอย่างนั้น!
หวังเจียเหยาตัวแข็งค้าง ตั้งแต่รู้ว่าเย่เฉินพาซูมู่ชิงไปอังกฤษ หล่อนก็รู้สึกไม่ดีนัก
ส่วนรูปถ่ายใบนี้เป็นเหมือนระเบิดที่ปะทุออกกลางใจหวังเจียเหยา!
หล่อนกดดูช่องคอมเม้นท์ที่ชาวเน็ตทิ้งไว้
“สุดยอด!! ราชรถทองคำของควีนแห่งอังกฤษนี่!! คิดไม่ถึงเลยว่าคนชาติเราจะได้นั่งบนนั้น! พวกเขาสองคนเป็นใครกันแน่?”
“ผู้หญิงสวยเกินไปแล้ว! นี่มันเหมือนราชานีแห่งอังกฤษเลย! ทั้งออร่า หน้าตา บุคลิกไม่มีที่ติเลย!”
“นี่เป็นรถที่หรูหราที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา! นี่เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ! มีแต่ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้เท่านั้นถึงจะควรคู่ได้นั่งบนรถคันนี้!”
“กรี๊ด ถ้าฉันได้นั่งสักครั้ง ฉันคงตายตาหลับ! ผู้หญิงคนนี้โชคดีจังเลย ฉันเองก็อยากจะเป็นภรรยาของผู้ชายหล่อๆ บ้างเหมือนกัน”
หวังเจียเหยาอ่านคอมเม้นท์แล้วจะกระอักเลือด!
พูดเรื่องหน้าตาหล่อนไม่ด้อยกว่าซูมู่ชิง แถมยังอายุน้อยกว่าอีกฝ่ายถึงสองปี
ถ้าหวังเจียเหยาได้นั่งบนนั้น ภาพที่ปรากฏก็จะสมบูรณ์แบบเช่นนี้!
พอถึงตอนนั้นชาวเน็ตก็จะต้องกล่าวชม อิจฉาหล่อน เป็นหล่อนหวังเจียเหยา ไม่ใช่ซูมู่ชิง!
“ฉันควรจะเป็นคนได้นั่งราชรถทองคำของควีน”
หวังเจียเหยาเกลียดชังอีกฝ่ายเข้ากระดูกดำ!
ทันใดนั้นเองหล่อนก็หวนย้อนคิดถึงวินาทีที่ตนเองคืนดีกับเย่เฉิน แล้วคุยกับเย่เฉินว่าจะไปอังกฤษเพื่อพบครอบครัวของเขา
ตอนนั้นเย่เฉินรักหล่อนอย่างสุดหัวใจ เขาบอกว่าเมื่อมาถึงอังกฤษแล้วจะต้องจัดงานต้อนรับหล่อนอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อให้หล่อนลืมไม่ได้ไปตลอดชีวิต
หวังเจียเหยาถามอย่างแปลกใจว่าจะใช้วิธีแบบไหน แต่เขาก็ไม่ยอมบอก บอกแค่ว่าพอถึงตอนนั้นจะทำให้หล่อนประหลาดใจมากแน่
“ที่แท้ก็เป็นเซอร์ไพร์สแบบนี้นี่เอง!”
หวังเจียเหยาเข้าใจในทันที
หล่อนกัดริมฝีปาก ทั้งแค้นทั้งชังจนน้ำตาจะไหลออกมา!
ถ้าหากว่าหวังเจียเหยาไม่ได้หย่ากับเย่เฉินล่ะก็ คนที่อยู่ในรถม้าที่ทำให้คนทั้งประเทศอังกฤษและประเทศนี้ต้องอิจฉา และพูดถึงก็จะเป็นหล่อนหวังเจียเหยา!
ตอนนี้พวกคุณป้าๆ ทั้งหลายต่างก็คุยกันเรื่องนี้
“เชี่ยนจือเอ้ย ลูกเขยเธอคนนี้สุดยอดจริงๆ เลย คิดไม่ถึงเลยว่าจะสนิทกับควีนแห่งอังกฤษจนยอมให้มู่ชิงนั่งรถม้าของพระองค์! ฉันน่ะได้ยินมาว่รถม้าคันนี้ไม่ใช่ว่าใครจะนั่งก็ได้นะ”
“นั่นสิ ตระกูลเย่ยิ่งใหญ่จริงๆ มิน่าพวกเธอถึงอยากได้เขาเป็นเขย ตาถึงจริงๆ!””
“จริงด้วย เชี่ยนจือทำไมเธอถึงไม่ตามพวกเขาไปอังกฤษพร้อมกันล่ะ? ซูหมิงเจ๋อเองก็ไปด้วยไม่ใช่เหรอ? ”
แต่ไหนแต่ไรมาเย่เฉินเป็นแค่เขยที่แต่งเข้า กระทั่งบ้าน รถ ก็ยังไม่มีปัญญาซื้อให้ซูมู่ชิง
นี่ทำให้จางเชี่ยนจืออับอายขายหน้าเมื่ออยู่ในวงเพื่อนๆ
ตอนนี้พอได้ยินเหล่าเพื่อนๆ เอาแต่ยกยอเย่เฉิน ทำให้จางเชี่ยนจือเก้อเขิน
จางเชี่ยนจือกล่าว “อ้อ ที่แท้แล้วฉันก็จะไปด้วยนั่นแหละ ของอะไรก็เก็บเสร็จแล้ว แต่ก่อนจะบินอยู่ๆ ฉันก็ปวดหัวอย่างหนักเลย เขยฉันน่ะเขารักฉันมากเลยล่ะ กลัวฉันจะเหนื่อยนั่งเครื่องบินหลายสิบชั่วโมงแล้วจะป่วยหนักกว่าเดิม เขาก็เลยให้ฉันพักผ่อนก่อนแล้วค่อยตามไปทีหลัง”
เมื่อได้ยินคำพูดของจางเชี่ยนจือ ทุกคนในวงก็เริ่มชมเย่เฉิน
“แหมๆ ดูเย่เฉินเข้าสิ เอาใจใส่แม่ยายดีจริงๆ ถ้าลูกเขยฉันดีได้สักครึ่งของเย่เฉินล่ะก็ ฉันปลื้มตายเลย”
จางเชี่ยนจือหัวเราะคิกคัก “เย่เฉินคนนี้ดูแลคนเก่ง ชอบนวดตัวนวดเท้าให้ฉันบ่อยๆ เขานวดเก่งมากเลยนะ ฮ่าๆ”
“อิจฉาจังเลย เชี่ยนจือ ตอนนี้เธอดูสดใสมากแล้วนะ หัวยังปวดไหม?”
จางเชี่ยนจือชะงักไปแล้วยิ้ม “อื้ม ดีขึ้นมากแล้วล่ะ”
“งั้นเรารีบซื้อตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษดีไหม?” หญิงร่างท้วมถาม
จางเชี่ยนจือชะงักไป “เราเหรอ? ทำไมพวกเธอเองก็อยากไปด้วยเหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ เล่นไพ่อยู่ที่นี่จะไปสนุกอะไร ถ้าเราไปเมืองนอกเราก็จะได้เล่นไพ่ไปแทงม้าไปด้วยไม่ดีเหรอ?”
“นั่นสิๆ ลูกชายฉันอยู่ที่อังกฤษพอดี ลูกเขยเธอเส้นใหญ่ขนาดนี้ น่าจะช่วยให้ลูกชายตัวเซ่อของฉันจะได้รู้จักกับเย่เฉินหน่อย”
จางเชี่ยนจือเก้อเขิน หล่อนย่อมอยากไปอังกฤษอยู่แล้ว!
แต่เย่เฉินไม่ให้หล่อนไป!
แต่ว่าพวกคุณนายจอมจุ้นพวกนี้ต่างก็เป็นเพื่อนสนิทของจางเชี่ยนจือมานานหลายปี ในเมื่อพวกหล่อนเป็นฝ่ายเปิดปากเอ่ยเอง จางเชี่ยนจือย่อมไม่อยากจะหักหาญปฏิเสธเพื่อน
“ก็ได้ งั้นเราจองตั๋วเครื่องบินไปด้วยกัน”
พูดจบจางเชี่ยนจือก็หันไปกำชับหวังเจียเหยา “เจียเหยาเอ้ย สองวันนี้แม่จะไปอังกฤษ เธออยู่บ้านก็ดูแลมู่หลินให้ดีๆ รู้ไหม?”
แต่ว่าคำพูดนี้ของจางเชี่ยนจือแต่กลับไม่ได้ลอดเข้าหูของหวังเจียเหยาแต่อย่างใด
หวังเจียเหยาจ้องภาพของเย่เฉินและซูมู่ชิงที่นั่งข้างกันบนรถม้าในมือถืออย่างเหม่อลอย ตัวแข็งค้างเหมือนรูปปั้น ไม่ขยับเขยื้อน
พวกเพื่อนๆ ของจางเชี่ยนจือหัวเราะคิกคัก
“ฮ่าๆ แม่หนูคนนี้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว จะเป็นเพราะรูปของมู่ชิงมันเย้ายวนมากแน่เลย”
“จริงด้วย อย่าว่าแต่แม่หนูอายุน้อยคนนี้เลย ฉันอายุปาไปจะห้าสิบแล้ว ฉันยังจินตนาการว่าผู้หญิงในรูปเป็นฉันเลย!”
“แหม พี่ซินไม่ใช่แล้วล่ะมั้ง? นี่อยากจะม่อลูกเขยของเชี่ยนจือเหรอคะเนี่ย? ถึงพี่จะไม่ดูแก่แถมยังสวยอยู่ แต่เขายังอายุแค่ 20 กว่าๆ เองนะคะ!”
“อายุไม่ใช่ปัญหาหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เฉินเป็นลูกเขยเชี่ยนจือ ฉันไม่มีทางปล่อยพ่อหนุ่มน้อยคนนี้ไปแน่ๆ”
“ฮ่าๆ”
ทุกคนหัวค่อต่อกระซิก จางเชี่ยนจือเองก็ยิ้มเขินๆ แล้วตะโกนเรียกหวังเจียเหยาเสียงดัง “เจียเหยา เจียเหยา!”
หวังเจียเหยาถึงได้สะดุ้งจากภวังค์
“ขอโทษด้วยนะคะ คุณน้า ทุกคนคุยกันก่อนเถอะค่ะ หนูขอขึ้นด้านบนก่อน”
หวังเจียเหยาเดินกลับไปบนห้องด้านบน
หลังจากกลับห้องแล้ว หวังเจียเหยาก็เริ่มเก็บเสื้อผ้าทันที!
ซูมู่หลินเห็นเข้าก็แปลกใจ “หวังเจียเหยา นี่คุณเก็บเสื้อผ้าทำไม? จะกลับบ้านที่อวิ๋นโจวเหรอ?”
หวังเจียเหยากล่าว“ฉันจะไปอังกฤษ!”
ซูมู่หลินอุทนออกมาด้วยความแปลกใจ “อะไรนะ? ไปอังกฤษทำไม?”
หวังเจียเหยาคว้าเสื้อผ้าโยนเข้าประเป๋าเดินทางอย่างไม่พอใจนักพลางตะคอก “ฉันจะไปหาเย่เฉิน! ฉันจะไปหาปู่ของเย่เฉิน! ฉันนี่สะใภ้ตระกูลเย่ วันนี้คนที่นั่งในราชรถทองคำนั่นควรเป็นฉันหวังเจียเหยา! ไม่ใช่ซูมู่ชิง!”
ซูมู่หลินเพิ่งจะดูเวยป๋อเลยระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“หวังเจียเหยาคุณบ้าไปแล้วเหรอ? คุณยังฝันหวานจะเป็นเมียเย่เฉินอยู่เหรอ? เราสองคนมีลูกด้วยกันแล้วนคะ คุณยังคิดว่าเย่เฉินจะยอมรับคุณได้อีกเหรอ? อีกอย่างนะพี่สาวผมก็ดีกว่าทุกอย่างเลย อย่าฝันจะคิดสู้กับพี่สาวผมเลย!”
หวังเจียเหยานึกถึงเรื่องที่ผ่านมาก็หัวเสีย หล่อนคว้าเสื้อผ้าโยนใส่หน้าซูมู่หลิน
“ไอ้คนสารเลว! ทั้งหมดเป็นเพราะนายเลย! ถ้านายไม่ได้ล่อลวงฉันตั้งแต่แรก ฉันก็คงไม่หย่ากับเขาหรอก! แล้วถ้านายไม่มาหาฉันเนี่ย ลูกสองคนของฉันก็จะเป็นของเย่เฉิน! ซูมู่หลินนายมันไอ้คนสารเลว!”