เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 411 ซูมู่ชิงเป็นผู้หญิงสารเลว!
เย่เทียนกล่าว “ขอโทษด้วยนะน้องสาม เพราะนายยังไม่ผ่านด่านทั้งหมดของตระกูลเราดังนั้นพี่เลยยังบอกเรื่องความลับของตระกูลเราไม่ได้ในตอนนี้”
เย่เฉินเองก็รู้กฎข้อนี้เป็นอย่างดี กระทั่งพ่อแท้ๆ ของพวกเขายังไม่เคยพูดถึงเลยสักครั้ง
เย่เฉินกล่าวว่า “ผมขอถามแค่คำถามเดียวเลย ความลับของครอบครัวที่ว่านี่มันเย้ายวนใจยิ่งกว่าสมบัติหลายแสนล้านของตระกูลเราอีกเหรอครับ?”
ทันใดนั้นเองใบหน้าเย่เทียนก็แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มแหย “ทรัพย์สมบัติหลายแสนล้านจะเทียบกับความลับของตระกูลเราได้ยังไง! ความลับของตระกูลเราประเมินค่าไม่ได้เลยนะ! ไม่อาจใช้เงินมาประมูลมูลค่าได้เลย!”
เย่เฉินตกใจตัวสั่น คิดไม่ถึงว่าตระกูลตนเองจะโหดขนาดนี้!
ทว่าเขาไม่อยากจะสนใจเรื่องความลับพวกนี้ เขาแค่อยากจะรู้เรื่องราวความเป็นไปของฉินหงเหยียนเท่านั้น!
เย่เฉินถาม “พี่ใหญ่ครับ พี่สืบได้หรือยังครับว่าพี่รองเขาพาฉินหงเหยียนไปไหน?”
เย่เทียนส่ายหน้า “พี่แน่ใจแค่ว่าตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ในประเทศเรา แต่พี่ส่งคนตามหาไปทั่วแล้ว ทันทีที่เจอตัว พี่อาจจะใช้ไม้แข็งให้จับตัวพวกเขาทันที ถ้าหากพี่ทำร้ายเขา หวังว่าน้องสามจะเข้าใจพี่ไม่ได้ไม่ได้หลงลืมสายใยพี่น้อง แต่เพราะเขาทำผิดอย่างมหันต์”
เย่เฉินเองก็มีท่าทีลำบากใจ “พี่ใหญ่ พี่ก็อย่าลงมือหนักมากนักเลย หงเหยียนอยู่ในเงื้อมมือของเขา ผมกลัวว่าหงเหยียนจะเป็นอันตราย อีกอย่างผมอยากถามเขาด้วยตัวเองว่าทำไมพี่เขาต้องทำเรื่องทั้งหมดนี้ด้วย!”
เย่เทียนพยักหน้ารับแล้วกล่าวต่อ “ตอนนี้พี่กำลังสงสัยว่าเย่เซวียนกับตระกูลซูร่วมมือกัน”
“อะไรนะ? เย่เซวียนร่วมมือกับตระกูลซูเหรอ?”
เย่เฉินชะงักไป
“ใช่แล้วล่ะ” เย่เทียนก็เดินไปที่หน้าต่าง “จากที่พี่ตามสืบมาหลายวันนี้ก็พบว่าซูเจิ้นหางสนใจเรื่องความลับของที่บ้านเรามากเลยล่ะ ตาเฒ่านั่นมองออกมาตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อนแล้วว่าคุณปู่ของเราไม่ได้มีแค่เงินแต่ยังมีความลับซุกซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิดด้วย เขาเลยอยากจะดองเป็นทองแผ่นเดียวกับตระกูลเรามาตลอด เพื่อที่จะได้แอบสืบความลับของตระกูลผ่านทางการแต่งงาน ถึงแม้ว่าพี่รองของนายจะยังไม่ผ่านการฝึกฝนทั้งหมดเหมือนนาย แต่ฉันสงสัยว่าเขาน่าจะรู้แล้วว่าความลับของตระกูลเราคืออะไร!”
เย่เฉินเองก็ตกใจไปเช่นกัน “เขารู้ได้ยังไง?”
เย่เทียนส่ายหน้า “ไม่รู้เหมือนกันอาจจะเพราะได้รู้มาโดยไม่ตั้งใจ หรือคนในตระกูลเผลอบอกเขา”
บรรดาทายาทผู้ชายรุ่นที่สามของตระกูลเย่ มีคนที่รู้ความลับของตระกูลถึงสองคน!
มีแค่เย่เฉินที่ไม่รู้แค่คนเดียว!
นี่ทำให้เย่เฉินรู้สึกว่าตนเองกำลังโดนพี่ๆ ทิ้ง เขาสาบานว่าเขาจะต้องผ่านการฝึกฝนของครอบครัวให้ได้เร็วที่สุด เพื่อจะได้รู้ว่าความลับของที่บ้านที่ว่าคืออะไรกันแน่!
เย่เทียนกล่าว “แล้วมีอีกเรื่องพี่ไม่รู้ว่าควรจะบอกนายดีไหม เพราะพี่เห็นท่าทางนานยกับซูมู่ชิงรักกันหวานชื่น ดูแล้วมีความสุขรักกันมากเลย”
เย่เฉินใจหาย “เกี่ยวอะไรกับมู่ชิงด้วยเหรอครับ? เรื่องอะไรครับพี่ พี่บอกมาเถอะ ผมรับได้ทั้งนั้น!”
หลังจากเขาผ่านเรื่องของหวังเจียเหยามา เย่เฉินก็รู้สึกเลยว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่สามารถทำร้ายเขาได้อีก
เย่เทียนกล่าว “ขอโทษด้วยนะน้องสาม หลายวันมานี้พี่ได้ส่งคนไปตามสืบเรื่องของเมียนาย แล้วก็พบว่าซูมู่ชิงไม่ได้รักนายคนเดียวและหลงนายเหมือนที่แสดงออก หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนักหนา ความหลงใหลและชื่นชอบที่หล่อนแสดงออกมาตอนอยู่ต่อหน้านายเป็นแค่สิ่งที่แสดงขึ้นมาเท่านั้น น้องสามนายอย่าตกหลุมพรางของหล่อนนะ อย่าได้ตกหลุมรักหล่อนเชียว อย่าตกหลุมพรางองหล่อน พี่ไม่อยากให้นายทำผิดพลาดเหมือนตอนเรื่องของหวังเจียเหยา!”
เย่เฉินที่ได้ยินเรื่องพวกนี้ก็ตกตะลึง!
สามวันมานี้เขาและซูมู่ชิงอยู่ด้วยกัน ตัวติดกันแทบไม่ห่างกาย!
ต่อให้ไปเข้าห้องน้ำ ซูมู่ชิงยังส่งข้อความคุยกับเขา หล่อนมีตัวตนอยู่ในชีวิตเขาทุกวินาที
อีกทั้งซูมู่ชิงยังสมบูรณ์แบบขนาดนี้ บวกกับความรู้สึกผิดก่อนหน้านี้ที่เย่เฉินมีต่อหล่อนทำให้เขาตกหลุมรักหญิงสาวอย่างรวดเร็ว!
แต่ในเวลานี้เองจู่ๆ พี่ชายเขาก็มาบอกเขาว่าผู้หญิงคนที่เขารักเป็นคนเลวอย่างนั้นเหรอ?
ทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นแค่เรื่องโกหกอย่างนั้นเหรอ?
“ไม่ เป็นไปไม่ได้!” เย่เฉินโวยวาย “ผมไม่เชื่อครับ หล่อนไม่มีทางเป็นผู้หญิงไม่ดีหรอกครับพี่! ชีวิตนี้หล่อนเคยรักผมแค่คนเดียว อีกทั้งยังเคยมีอะไรกับผมแค่คนเดียว”
เย่เทียนก็เริ่มมีอารมณ์เช่นกัน เขาใข้มือสองข้างกดบ่าน้องชายแล้วตะคอกเขา
“น้องสาม นายเลิกโง่ที! ซูมู่ชิงเป็นผู้หญิงอายุเกือบ 30 แล้วนะ หน้าตาก็สวย พื้นเพที่บ้านก็ดี ไม่ได้เป็นโรคกลัวการเข้าสังคม ผู้ชายที่ตามจีบหล่อนต่อแถวกันยาวเหมือนกำแพงเมืองจีน! หลายปีดีดักหล่อนจะมีแค่นายคนเดียวได้ยังไง! เรื่องพวกนั้นหล่อนเป็นคนจงใจสร้างเรื่องขึ้น! หล่อนรู้ว่านายชอบผู้หญิงบริสุทธิ์ใสซื่อ ดังนั้นเลยสร้างภาพตนเองให้นายเห็นว่าทั้งชีวตินี้หล่อนรักนายแค่คนเดียว!”
เย่เฉินสับสนหรือว่าทั้งหมดที่พี่ชายพูดเป็นเรื่องจริง?
ที่จริงแล้วเย่เฉินเองก็ยังสงสัย ผู้หญิงปกติทั่วไปจะโสดได้นานขนาดนี้เชียวเหรอ?
ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็นึกถึงเรื่องอาการป่วยของซูมู่ชิง “พี่ใหญ่ครับ พี่อาจจะยังไม่รู้ว่าตั้งแต่หล่อนกลับมาจากสงคราม หล่อนก็มีโรคประหลาด จิตแพทย์คนหนึ่งในเมืองหลวงหาวิธีรักษาหล่อนโดยการสะกดจิตแล้วฝังความคิดเข้าไปเพื่อทำการรักษา ดังนั้นหล่อน…”
เย่เฉินยังไม่ทันพูดจบ เย่เทียนก็แทรกน้องชาย
“ไม่ต้องพูดเรื่องนั้นเลย พี่ก็รู้แล้วเหมือนกัน หมอคนนั้นชื่อกัวเยว่หมิงใช่ไหม?”
เย่เฉินพยักหน้ารับ
ใครจะไปรู้ คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนจะกล่าว “กัวเยว่หมิงเป็นหนึ่งในผู้ชายของหล่อนด้วย”
ประโยคนี้เป็นเหมือนค้อนขนาดยักษ์ทุบลงบนหัวของเย่เฉิน!
“พี่…พี่พูดว่าอะไรนะครับ?”
เย่เฉินตกใจอ้าปากพะงาบๆ เหมือนเป็นใบ้
เย่เทียนกล่าว “คุณหมอกัวคนนั้นเคยนอนกับซูมู่ชิงแล้วไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วย เด็กโง่ อย่าเชื่อคำพูดของซูมู่ชิงเชียวนะ หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา หล่อนแต่งงานกับนาย เพียงเพราะอยากจะล้วงความลับของตระกูลเราจากนาย”
ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
ในหัวของเขาเต็มไปด้วยภาพงดงาม อ่อนหวาน ใสซื่อของซูมู่ชิง รวมไปถึงคำพูด‘หลอกลวง’ ที่พร่ำบอกกับตนเอง
และเพราะทั้งสองคนหน้าตาเหมือนกันอย่างมาก ทำให้ภาพของซูมู่ชิงในหัวเขาทับซ้อนกับภาพของหวังเจียเหยาไม่หยุด
สุดท้ายผู้หญิงทั้งสองคนก็กลายเป็นผู้หญิงคนเดียวกัน
หรือว่าซูมู่ชิงจะเป็นเหมือนหวังเจียเหยาหน้าตาสะสวย แต่ปากกลับพ่นแต่คำโกหกออกมาไม่หยุด?
เย่เทียนเห็นน้องชายชะงักแล้วกล่าว “ขอโทษด้วยนะน้องสาม พวกนายเพิ่งแต่งงานกัน น่าจะกำลังอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน เดิมทีพี่ก็ไม่อยากพูดเรื่องแบบนี้กับนาย แต่ถ้าพี่ไม่พูดแต่ปล่อยให้นายตกหลุมพรางของแม่นั่น อนาคตเกิดนายรู้ความจริงขึ้นมานายคงจะเจ็บปวดมาก ที่พี่ทำแบบนี้ก็เพราะหวังดีกับนาย อาศัยช่วงที่ยังไม่ได้ตกหลุมรักหล่อนมากเท่าไหร่ หาโอกาสหย่ากันเถอะไป แล้วออกจากตระกูลซูมาเถอะ ถ้าพวกเขาทำอะไรนายให้บอกพี่ พี่จะส่งคนไปมารับนายไปอังกฤษ พอไปถึงอังกฤษก็จะไม่มีใครกล้าทำอะไรนาย พี่กับพี่สะใภ้ของนายจะเลี้ยงดูนายไปตลอดชีวิต”
เย่เฉินกำหมัดแน่นเขาจะหย่าแล้วปล่อยให้เรื่องมันจบลงทั้งๆ ที่เป็นแบบนี้ได้ยังไง!
ถ้าไม่ได้ฉีกหน้ากากของซูมู่ชิง แล้วไม่ทำให้หล่อนยอมรับผิดกับปากตนเอง เขาไม่มีทางยอมแน่!
“ซูมู่ชิงผมจะต้องหาหลักฐานที่คุณไปมีสัมพันธ์กับกัวเยว่หมิง พอถึงตอนนั้นผมอยากจะเห็นว่าคุณจะยังมีหน้ามาบอกว่าทั้งชีวิตรักผมคนเดียวอีกไหม! พอถึงตอนนั้นคุณจะยังมีหน้าพูดอีกไหมว่าความฝันของคุณคือการได้แต่งงานกับผม!”