เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 408 หวังเจียเหยาคุณทำอะไร!
ตอนที่ 408 หวังเจียเหยาคุณทำอะไร!
เหมือนว่าตั้งแต่ที่หย่ากับหวังเจียเหยาไปแล้ว ผู้หญิงทุกคนที่เขาเจอก็ล้วนแต่เห็นอกเห็นใจคนอื่นเป็นอย่างดี
ซูมู่ชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “นี่ก็ดึกแล้ว..เราพักผ่อนกันเถอะค่ะ”
“ครับ”
เย่เฉินพอจะมองออกว่าบนใบหน้าหญิงสาวมีร่องรอยเขินอาย ก็ประหลาดใจไม่น้อย
ตอนเจอหญิงสาวครั้งแรกรู้สึกว่าหล่อนเป็นผู้หญิงเย็นชาด้วยซ้ำ
คิดไม่ถึงว่าหลังจากเป็นภรรยาของเขาแล้วจะเป็นคนขี้อ้อนได้มากขนาดนี้
และแล้วห้องนอนของพวกเขาสองคนก็ดับลง
แต่ห้องหวังเจียเหยาที่อยู่ตรงข้ามกลับเปิดสว่างโร่
หลังจาก 40 นาทีผ่านไปห้องของเย่เฉินและซูมู่ชิงก็สว่างขึ้นอีกครั้ง
ในทางกลับกันห้องของซูมู่หลินและหวังเจียเหยาก็ดับมืดสนิททันที
เย่เฉินเปิดไปแล้วเดินออกจากห้องตรงไปยังห้องน้ำของชั้นสอง เพื่อล้างเนื้อล้างตัว
หวังเจียเหยาหยิบไฟฉายขนาดเล็กออกมาส่องทางเพื่อเดินมาเข้าห้องน้ำพอดิบพอดี
ทั้งสองคนบังเอิญเจอกันพอดี
ตอนนี้เวลามันก็เกือบจะเช้าแล้ว เย่เฉินมองหวังเจียเหยาในชุดนอนบางเบา หญิงสาวสวมแค่เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นสีชมพู
ดูไปแล้วเหมือนเพิ่งจะทำเรื่องไม่ดีมา ดูระแวดระวังอย่างมาก
เย่เฉินแอบคิดในใจว่าซวยแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะเจอหล่อนทั้งๆ ที่ดึกขนาดนี้ อีกทั้งยังมาเจอกันในเวลาแบบนี้
ทั้งสองคนต่างต้องการจะใช้ห้องน้ำในตอนนี้ เย่เฉินเป็นผู้ชายย่อมไม่อยากไปแย่งหล่อน
จึงกล่าวว่า “คุณใช้เถอะ ผมจะลงไปใช้ห้องข้างล่าง”
พูดจบก็กลอกตาใส่หวังเจียเหยาแล้วเดินหนีหญิงสาว
“หยุดเลยนะ!”
ทันใดนั้นเองหวังเจียเหยาก็เรียกชายหนุ่มพลางกล่าวถาม “เย่เฉิน นายทำหน้าอะไรของนาย?”
“หน้าอะไร?” เย่เฉินถาม
หวังเจียเหยาแค่นเสียง “ก็หน้านายตอนนี้ดูรังเกียจฉันมากเลยไง! ฉันเป็นเมียนายมาตั้งสามปี ฉันจะดูไม่ออกได้ยังไง?”
เย่เฉินไม่ปฏิเสธ “ใช่แล้ว! ผมรังเกียจคุณมาก แล้วผมก็ยังดูถูกคุณมากด้วยนะ! แค่คิดว่าคุณเคยเป็นภรรยาของผม คิดว่าผมเคยรักคุณ ผมก็ขยะแขยงจนอยากจะอ้วก! ตอนนี้คุณยิ่งเหมือนผู้หญิงราคาถูกไปทุกที ผมเคยเห็นคุณเป็นผู้หญิงที่สูงส่งที่สุดในโลกใบนี้และยังบริสุทธิ์ที่สุด ต่อให้ตลอดเวลาทั้งสามปีที่เราแต่งงานกัน คุณไม่เคยจะให้ผมแตะต้อง ผมก็ยังไม่โวยวายอะไร! กลับกันมันดันทำให้ผมคิดว่าคุณสูงส่ง ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ! แล้วตอนนี้ล่ะ? คุณนอนกับใครก็ได้! ตอนนี้ผมว่าผมในสามปีก่อนนี่มันโง่จริงๆ”
หวังเจียเหยาหัวเสีย โดนเย่เฉินด่าและเหยียดหยามแบบนี้ ทำให้หล่อนเสียหน้าอย่างมาก!
เพี้ยะ!
หวังเจียเหยาฟาดฝ่ามือลงกระทบหน้า “นายห้ามว่าฉันแบบนี้นะ!”
เหอะๆ กล้าทำแต่ไม่อยากให้คนอื่นพูดเหรอ?
เพี้ยะ!
เย่เฉินเองก็ฟาดฝ่ามือคืนอีกฝ่าย “ตอนนี้คุณไม่มีสิทธิ์มาตีผม! ต่อให้คุณคบหากับซูมู่หลินจริงๆ ผมก็เป็นพี่เขยคุณ! แล้วยิ่งไปกว่านั้น เขาแค่เล่นสนุกกับคุณ แต่เขาไม่มีทางแต่งงานกับคุณแน่!”
ฝ่ามือนี้ของเย่เฉินทำลายความมั่นใจและทิฐิของหวังเจียเหยาไปจนหมดสิ้น
หญิงสาวเบิกตากว้าง เพลิงโทสะลุกโชน “เย่เฉินนายมันคนสารเลว นายมีผู้หญิงคนอื่นได้ แต่ฉันมีผู้ชายคนอื่นบ้างไม่ได้หรือไง ก็ได้วันนี้ฉันจะทำให้นายไม่อาจสู้หน้าพ่อตาแม่ยายนายตลอดไปเลย!”
พูดจบหวังเจียเหยาก็เริ่มกรีดร้องเสียงดัง
“โอ้ย! ช่วยด้วย! มู่หลิน รีบมาช่วยฉันด้วย! เย่เฉินนายจะทำอะไร รีบปล่อยฉันเลยนะ! คุณน้าจาง คุณน้าซูมาช่วยหนูด้วยค่ะ!”
หวังเจียเหยากรีดร้องตะโกนไปพร้อมๆ กับดึงเสื้อผ้าและผมเผ้าของตนเองไปด้วย
เย่เฉินตกตะลึง นี่หวังเจียเหยาจะทำอะไร!
ตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่ รอบบริเวณเงียบกริบ ทันทีที่มีเสียงโวยวายแม้เพียงนิดเดียวก็ได้ยินกันอย่างชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้นหวังเจียเหยายังกรีดร้องตะโกนเสียงดังขนาดนี้
เย่เฉินรีบใช้มืออุดปากหญิงสาวทันที “นังแพศยา เลิกตะโกนได้แล้ว”
แต่หวังเจียเหยาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องใส่ความเย่เฉินให้ได้ เจ้าหล่อนกัดเย่เฉินสุดแรงแล้วออกแรงตะโกนโวยวายต่อ
ซูมู่ชิงก็รีบสวมเสื้อผ้าแล้วเดินออกมาจากห้อ ส่วนซูมู่ชิงเองก็นั่งรถเข็นไฟฟ้าออกมาจากห้องตนเองเช่นกัน
ส่วนซูหมิงเจ๋อและจางเชี่ยนจือก็เดินลงมาจากห้องนอนชั้นสามของตนเองเพื่อมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ทั้งสี่คนหยุดอยู่ที่ห้องน้ำชั้นสอง เห็นเย่เฉินและหวังเจียเหยาต่างก็สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น
อีกทั้งเสื้อผ้าหวังเจียเหยาเบาบาง แค่มองก็เหมือนจะทะลุเข้าไปในเสื้อผ้าจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน
หวังเจียเหยาเห็นจางเชี่ยนจือเดินมาก็รีบปรี่ไปหาอีกฝ่ายทันที
“คุณน้า คุณน้าต้องให้ความเป็นธรรมหนูด้วยนะคะ เมื่อกี้หนูมาห้องน้ำ แต่ใครจะรู้ว่าเย่เฉินเขา..คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้กับหนู…”
ซูมู่หลินโกรธจนหน้าแดงก่ำ “เย่เฉิน แกมันไอ้คนสารเลว แกแต่งงานกับพี่สาวฉันได้แค่สองวันก็มีชู้แล้วเรอะ? นายยังเป็นคนอยู่ไหมเนี่ย!”
เย่เฉินเกลียดการโดนคนใส่ร้ายที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โดนผู้หญิงอย่างหวังเจียเหยาทำร้าย
เย่เฉินกล่าวกับหวังเจียเหยา “คุณพูดไร้สาระ ตอนนี้ผมเห็นคุณแล้วก็ขยะแขยงเต็มที จะให้ผมทำอะไรคุณลงได้ยังไง!”
ทว่าจางเชี่ยนจือกลับไม่เชื่อคำพูดของเย่เฉิน
หล่อนเดินไปหยุดตรงหน้าเขา ยกมือขึ้นแล้วฟาดฝ่ามือประทับลงบนหน้าเขา!
เพี้ยะ!
จางเชี่ยนจือแหวเสียงดัง “เย่เฉิน! แกเป็นเขยตระกูลซูของเราแล้วนะ แกไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเมียเก่าแล้ว! หวังเจียเหยาเป็นแฟนของน้องเขยแกด้วย แกทำหล่อนลงได้ยังไง! ฉันรู้แล้วเป็นเพราะแกยังโกรธเรื่องที่ซูมู่หลินเคยทำกับแกเมื่อก่อนใช่ไหมเลยอยากจะเอาวิธีแบบนี้มาล้างแค้นเขาเหรอ? แกยิงมู่หลินไปยังไม่พอใช่ไหมแกยังอยากจะหาเรื่องเขาอีกหรือไง?!”
เย่เฉินพูดไม่ออก “ผมเปล่า!”
ซูมู่ชิงรีบปราดเข้าขวาง “แม่คะ แม่ยังไม่ทันรู้ความจริงเลย ทำไมต้องลงไม้ลงมือด้วยล่ะคะ? หนูเชื่อว่าเย่เฉินไม่ใช่คนแบบนี้”
“แก…”
จางเชี่ยนจือกำลังจะด่าลูกสาว ซูหมิงเจ๋อก็ตวาดเสียงดัง “พอได้แล้ว! ไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว ต่างคนต่างกลับห้องไป แล้วห้ามออกมา!”
ซูหมิงเจ๋อใจดีกับลูกๆ มาตลอด น้อยครั้งนักที่เขาจะโมโหแบบนี้
ทันทีที่ได้ยินเขาตะโกนเสียงดังก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก ต่างคนต่างแยกย้ายกลับห้องไป
จางเชี่ยนจือและซูหมิงเจ๋อต่างก็เดินกลับไปที่ชั้้นสาม ซูหมิงเจ๋อก็เอ่ยถามภรรยาทันที
“คุณเชื่อคำพูดของหวังเจียเหยาจริงๆ เหรอ? หล่อนหน้าตาสะสวยก็จริง เย่เฉินอาจจะเหลือเยื่อใยกับหล่อน แต่เย่เฉินมีครอบครัวที่ดี ต่อให้ชอบหล่อนขนาดไหน เขาก็คงก็ไม่กล้าทำอะไรเหลวไหลในห้องน้ำบ้านพ่อตาแม่ยายหรอกจริงไหม?”
จางเชี่ยนจือแค่นเสียง “ฉันรู้ว่าหวังเจียเหยาโกหก ฉันตั้งใจตีเขา ล้างแค้นให้ลูกชายเรา คุณเป็นพ่อเขา ลูกชายคุณกลายเป็นคนพิการไปแล้ว คุณยังมีหน้าไปหัวเราะ ทำหน้าระรื่นไปกับเขาอีก คุณเห็นซูมู่หลินเป็นลูกชายในไส้อยู่ไหม? หรือว่าคุณสงสัยว่าฉันเคยทำผิดต่อคุณ มู่หลินเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณหรือไง?!”
ซูหมิงเจ๋อกล่าวอย่างเบื่อหน่าย “ดูคุณพูดเข้า โยงไปถึงไหนแล้วเนี่ย เรื่องนี้มู่หลินเขาทำผิด คุณลองคิดดูนะ ตระกูลเย่เขามีอิทธิพลขนาดไหน โชคดีที่เย่เฉินนิสัยดี ยอมฟังคำพูดคนรอบข้าง เรื่องนี้ถ้ากลายเป็นพี่ใหญ่และพี่รองของเขา โดนมู่หลินกับเมียสวมเขา คุณว่าผลมันจะเป็นยังไง?”
จางเชี่ยนจือครุ่นคิดถึงท่าทางน่ากลัวและเปี่ยมอำนาจของเย่เทียนแล้วพึมพำ
“มู่หลิน…อาจจะตายไปแล้ว!”