เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 330 ความจริงเปิดเผย!
ตอนที่ 330 ความจริงเปิดเผย!
สวี่ฉู่หมิงชี้หน้าเย่เฉิน “ได้ยินไหม! ฉินหงเหยียนไม่อยากคบหากับนายแล้ว! เย่เฉิน อย่างไรเสียนายก็เป็นถึงประธานบริษัทใหญ่โต ทำเรื่องเด็กน้อยแบบนี้ไม่รู้สึกอายหรือไง?!”
แขกเหรื่อคนอื่นๆ ต่างก็ตำหนิเย่เฉิน
“เย่เฉินคนนี้เด็กน้อยเกินไปแล้วมั้ง? เจ้าสาวไม่รักเขาแล้ว แต่เขายังตามตอแยหล่อนอีก ชั่วจริงๆ!”
“จริงด้วยๆ วัยรุ่นนี่ไม่รู้จักปล่อยวางเลยนะ”
“น่าตลกจริงๆ ยังมาล่มงานอีก คิดว่ากำลังถ่ายละครอยู่เหรอ? แกมาล่มงานแต่ง แต่เจ้าสาวเขาไม่ไปกับแก ฮ่าๆ”
เมื่อได้ยินคำด่าและคำตำหนิของคนด้านหลัง เย่เฉินก็หัวเสียอย่างยิ่ง เขาหันหลังไป แล้วถลึงตาใส่อีกฝ่ายอย่างโมโห
แล้วเย่เฉินก็เห็นซูมู่หลินที่นั่งไขว่ห้างรอดูละครฉากใหญ่พอดี
เมื่อเย่เฉินเห็นซูมู่ชิงก็ถลึงตาใส่เขา
ซูมู่หลินกล่าวด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย “มองฉันทำไม? ฉันไม่ได้ด่านายเสียหน่อย!”
ซูมู่หลินคิดถึงคราวก่อน นายยัดฉันใส่ UFO ไปโผล่ที่สถานีตำรวจ จนเกือบจะโดนระเบิด ฉันยังไม่กล้าคิดบัญชีกับนายเลย!
คราวนี้ซูมู่ชิงที่นั่งข้างซูมู่หลินก็ตีเขาเบาๆ “อย่าพูดเหลวไหลนะ”
ซูมู่ชิงรู้ดีว่าตอนนี้เย่เฉินเห็นแฟนเก่ากำลังจะแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ไม่อยากให้น้องชายมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้
ซูมู่หลินเองถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วเปลี่ยนท่านั่งวางขาให้เรียบร้อย ไม่สบตาเย่เฉินอีก
เย่เฉินเห็นซูมู่ชิงในใจก็สับสน เพราะว่าครั้งก่อนที่แอบได้ยินบทสนทนาระหว่างซูมู่ชิงและฉินหงเหยียน หญิงสาวบอกว่าชอบเขา
ในเวลานี้หวังเจียเหยาที่นั่งแถวประตูเพิ่งจะเห็นซูมู่หลินที่นั่งด้านใน “เขาก็มาด้วยแฮะ…”
เย่เฉินหันหน้ามามองฉินหงเหยียนแล้วกล่าว “หงเหยียน ผมรู้ว่าคุณยังรักผมอยู่ คุณหลอกผมไม่ได้หรอก”
ส่วนสวี่ฉู่หมิงที่อยู่ด้านข้างตะคอก “เย่เฉิน นายอย่าหน้าด้านหน้าทนนักหนาเลย ในตอนนี้ฉินหงเหยียนเป็นภรรยาของฉัน! ถ้านายกล้าพูดจาเหลวไหลที่นี่ ฉันจะแจ้งความจับนายแล้วนะ”
เย่เฉินมองสวี่ฉู่หมิง “สวี่ฉู่หมิงไอ้สารเลว! ตอนนั้นพ่อของหงเหยียนฝากแกดูแลหล่อน แต่แกกลับบีบให้หล่อนเป็นเด็กแก วันนี้ยังกล้าแต่งงานกับหล่อนอีก แกละอายใจบ้างไหมเนี่ย?!”
สวี่ฉู่หมิงตะคอก “แกไม่คู่ควรพูดถึงพ่อของฉินหงเหยียน!”
“ทำไมฉันไม่คู่ควรล่ะ?” เย่เฉินกล่าวเสียงขึงขัง
สวี่ฉู่หมิงตะคอก “แกไม่คู่ควรรู้คำตอบ!”
เย่เฉินเองก็ตะคอกกลับ “แกอยากพูดใช่ไหมว่าพ่อฉันฆ่าพ่อของหงเหยียน?”
คำพูดนี้ของเย่เฉินทำให้ทั้งงานแต่งงานตกตะลึง โดยเฉพาะสวี่ฉู่หมิง และฉินหงเหยียน!
ฉินหงเหยียนนิ่งไป “คุณ..คุณรู้ได้ยังไง?”
เย่เฉินกล่าว “หงเหยียน ผมจะบอกคุณว่าพ่อผมไม่ได้ฆ่าพ่อคุณ คุณเข้าใจผิด!”
“เป็นไปไม่ได้!” สวี่ฉู่หมิงปฏิเสธทันทีควัน “ฉันส่งคนไปตามสืบเรื่องการตายของพี่ใหญ่ตั้งแต่เมื่อ 11 ปีก่อน ตอนนั้นฉันได้รูปถ่ายมาใบหนึ่ง ก็เลยรู้หน้าตาของฆาตกร จนในที่สุด ก่อนนี้ฉันสืบจนพบ ว่าคนผู้นั้นก็คือพ่อแท้ๆ ของแกเย่เฉิน เย่เจิ้งหนานทายาทรุ่นที่สองของตระกูลเย่! นอกเสียจากว่าแกจะไม่ยอมรับว่าเย่เจิ้งหนานเป็นพ่อแก”
เมื่อได้ยินคำพูดของสวี่ฉู่หมิง ซูมู่หลินก็เบิกบานใจ “เร้าใจขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย? มิน่าล่ะจู่ๆ ฉินหงเหยียนถึงได้เลิกกับเย่เฉินโดยกระทันหัน ที่แท้ก็เป็นแค้นฆ่าพ่อนี้เอง”
เย่เฉินกล่าวกับสวี่ฉู่หมิง “เย่เจิ้งหนานคือพ่อผมไง!”
สวี่ฉู่หมิงกล่าวพลางหัวเราะ “ยอมรับก็ดี! แกเป็นลูกชายฆาตกร!”
เย่เฉินตวัดฝ่ามือฟาดใส่หน้าสวี่ฉู่หมิง “แต่พ่อฉันไม่ได้ฆ่าใคร! นั่นเพราะฉินอ้าวหมิงพ่อของฉินหงเหยียนไม่ได้ตายด้วยซ้ำไป”
ประโยคนี้ทำให้คนทั้งงานแต่งงานเถียงกันทันที
ที่นี่คือเมืองเสินเฉิง ก่อนนี้ฉินอ้าวหมิงเป็นคนสำคัญและมีอิทธิพลในวงการธุรกิจทุกคนจึงรู้จักเขา
ชายอายุ 40 กว่าผุดลุกขึ้น แล้วตรงมาหาเย่เฉิน
“ไอ้เด็กบ้า ไม่ว่านายจะเป็นประธานบริษัทเฉินเย่กรุ๊ปหรือว่าบอสใหญ่ของบริษัทเดลิเวอรี่ แต่ถ้าแกกล้าเอาเรื่องพี่ใหญ่มาพูดเหลวไหลฉันไม่ปล่อยแกไปแน่!”
นอกจากนี้ยังมีอีกคนลุกขึ้นมา “ใช่ พี่อ้าวหมิงเคยช่วยเราหลายคน ถ้าไม่ได้เขาคอยช่วยให้ตอนนั้น ฉันไม่มีทางสำเร็จแบบวันนี้!”
พอจะมองออกว่าฉินอ้าวหมิงเป็นที่รักอย่างมาก
ซูมู่หลินกล่าวชม “ฉินอ้าวหมิงตายไป 11 ปีแล้วแต่ยังมีคนออกตัวแทนเขา คนผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย”
ซูเจิ้นหางที่นั่งร่วมโต๊ะจิบชาแล้วกล่าว “ฉินอ้าวหมิงเป็นคนสำคัญ เขาเป็นโปรแกรมเมอร์ ทั้งทักษะการทำงานและวิสัยทัศน์ดีเยี่ยมอย่างมาก ในโลกของเทคโนโลยี 5G ของหัวเหวยก็เป็นแผนการที่ฉินอ้าวหมิงวางเอาไว้ และเขาเป็นคนที่แนะนำให้ผู้บริหารหัวเหวยเก็บ 10% ของกำไรเอาไว้วิจัยเทคโนโลยี พวกเขาถึงได้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขนาดนี้”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูเจิ้นหางทั้งหมด คนตระกูลซูก็รู้เรื่องคร่าวๆ ของฉินอ้าวหมิงก็เสียดาย คนเก่งๆ แบบนี้จะโดนฆ่า เสียดายจริงๆ
ฉินหงเหยียนตื่นเต้น เขารู้ว่าเย่เฉินไม่ใช่คนที่จะพูดจาเรื่อยเปื่อย “เย่เฉินนายพูดเหลวไหลอะไร? ทำไมถึงบอกว่าพ่อฉันยังไม่ตาย?”
สวี่ฉู่หมิงรีบกล่าวต่อ “หงเหยียน เธออย่าไปฟังเขาพูดเหลวไหล เขาทำไปเพื่อขัดขวางงานแต่งงานของเรา เลยสร้างเรื่องโกหกเรื่องนี้ขึ้นมา!”
แต่ฉินหงเหยียนกลับไม่คิดแบบนี้ ตอนนั้นพวกหล่อนก็ไม่เห็นศพของบิดา หล่อนก็เคยวาดฝันเอาไว้ว่าพ่อของหล่อนยังไม่ตาย
และในเวลานี้เองเย่เฉินเองก็คว้าเอามือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วส่งเปิดรูปใหม่ของฉินอ้าวหมิง
“หงเหยียนผมไม่ได้หลอกคุณ คุณดูสิ นี่คือรูปใหม่ของพ่อคุณ”
ในวินาทีที่เห็นภาพถ่าย ฉินหงเหยียนก็ตกตะลึงเอามือปิดปาก จากนั้นก็ประคองมือถือด้วยมือสองข้าง เพิ่งพินิจมองใบหน้าที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าในภาพถ่ายนั้น แล้วน้ำตาก็พรั่งพรูออกมา
“คุณ…คุณพ่อยังไม่ตาย!”
“เป็นไปไม่ได้!”
สวี่ฉู่หมิงแย่งมือถือมา ตอนนี้ชายวัยกลางคนทั้งสองคนออกตัวแทนฉินอ้าวหมิง เขาเองก็เดินขึ้นมาบนเวที แล้วมองภาพถ่ายนั้นด้วยกัน
มองแค่ปราดเดียวพวกเขาก็รู้ว่าเป็นฉินอ้าวหมิง!
“ถูกต้อง นี่คือพี่ฉิน!”
“จริงด้วย นี่มันพี่ฉิน!”
“อ๊าก! พี่อ้าวหมิงยังไม่ตาย! สวรรค์มีตาจริงๆ!”
ทว่าสวี่ฉู่หมิงเองก็ไม่อยากจะเชื่อความจริงเรื่องนี้ เขาพุ่งพรวดไปหาเย่เฉิน
“เย่เฉินรูปนี้ของแกเป็นของปลอม! แกจะต้องใช้เทคโนโลยีอะไรโดยอ้างอิงจาพเมื่อสิบปีก่อนของเขาทำรูปปลอมนี่ออกมา! ใช่ไหม!”
เย่เฉินตะคอกกลับ “สวี่ฉู่หมิง กลัวอะไร? กลัวว่าถ้าพ่อของหงเหยียนยังไม่ตาย เขาจะกลับมาคิดบัญชีกับคุณล่ะสิ!”
สวี่ฉู่หมิงหลอกฉินหงเหยียนตอนเด็กๆ ให้เป็นผู้หญิงของเขา ถ้าหากว่าฉินอ้าวหมิงรู้เรื่องนี้ขึ้นมาล่ะก็ ไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆ!
“แก…แกพูดจาเหลวไหล!” สวี่ฉู่หมิงปฏิเสธทันที “พี่ฉินอ้าวหมิงมีบุญคุณใหญ่หลวงกับฉัน ถ้าหากว่าเขายังไม่ตายจริงๆ ฉันจะเป็นคนที่ดีใจที่สุดในโลกใบนี้เลย! นายพาเขามาด้วยหรือเปล่า?”
เย่เฉินไม่ได้ตอบสวี่ฉู่หมิง แต่ยืนบนเวทีพลางกุมมือฉินหงเหยียน
“หงเหยียน…”
“เย่เฉิน…”
เย่เฉินทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาโน้มตัวไปจุมพิตฉินหงเหยียน!
แล้วหญิงสาวก็เช่นกัน หล่อนค้อมตัวไปหาเย่เฉิน!
ทั้งสองคนจุมพิตกันอย่างดูดดื่มในงานแต่งงานของสวี่ฉู่หมิง!