เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 203 เย่เฉินเป็นเจ้าลูกหมา
ฉินหงเหยียนได้รับความรักจากชายหนุ่มจนตกใจ หญิงสาวเคยจินตนาการว่าเขาก็คงจะแค่จับมือทักทายหล่อนเป็นมารยาทเพียงเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเขาจะทักทายตนเองด้วยวิธีการสนิทชิดเชื้อแบบนี้
นี่ก็แปลว่าเย่เฉินกับเขาสนิทกันมาก แม้แต่ฉินหงเหยียนที่เป็นแฟนของเขา อีกฝ่ายยังไม่เห็นเป็นคนนอกด้วยซ้ำ
ฉินหงเหยียนเคอะเขินเล็กน้อย เพราะว่าความเคยชินในการหอมแก้มในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน อย่างหล่อนเคยอยู่ในทางเหนือของฝรั่งเศสสองสัปดาห์ก็ไปหอมแก้มคนที่เพิ่งเจออยู่ห้าครั้ง
หญิงสาวไม่ได้มีความเข้าใจในเรื่องพวกนี้มากนัก ดังนั้นจึงทำได้แค่ตั้งตัวเป็นครั้งคราวไป จึงแนบแก้มเข้ากับBill Gates เป็นมารยาทด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“คุณ Gates ดีใจที่ได้พบคุณนะคะ คุณทำเพื่อโลกเราอย่างมากเลยค่ะ ฉันน่ะอยากเจอคุณมาตลอดเลย”
ฉินหงเหยียนตื่นเต้น มีเด็กบ้านไหนบ้างที่ไม่เคยใช้ WINDOW ของ Gates บ้าง?
Gates มองออกว่าฉินหงเหยียนตื่นเต้น เลยตบบ่าหญิงสาวแล้วกล่าว “ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกครับ เด็กน้อย พวกเราเป็นคนกันเองทั้งนั้น”
จากนั้นก็เดินไปแนะนำกับฉินนหงเหยียน “นี่คือลูกสาวของผมเจนนิเฟอร์ ส่วนข้างๆ หล่อนก็คือคู่หมั้นของหล่อนาเยล”
ฉินหงเหยียนเองก็ทักทายกับเจนนิเฟอร์โดยแนบแก้มกัน อายุของนาเยลยังไม่มาก เขาอายุแค่ 23 ปีเท่านั้นไม่ต่างกับเย่เฉินเท่าไหร่นัก
แต่ที่ฉินหงเหยียนไม่รู้ก็คือ Gates เองก็เคยตั้งใจอยากให้เจนนิเฟอร์แต่งงานกับเย่เฉิน เพราะทั้งสองคนรู้จักกันตั้งแต่เด็ก อีกทั้งเจนนิเฟอร์เองก็ชอบเย่เฉินที่ท่องเที่ยวไปทั่วโลกอย่างมาก เพราะรู้สึกว่าชีวิตของเขาเท่มาก
แต่ว่าเมื่อสามปีก่อน ตระกูลเย่ให้เย่เฉินแต่งเข้าตระกูลหวัง โครงการนี้ก็เป็นอันพับไป หลังจากนั้นเจนนิเฟอร์ถึงได้เริ่มมีแฟน
“ไปกันเถอะ ผมจะพาพวกคุณไปกินข้าว”
มาถึงประเทศญี่ปุ่นย่อมต้องกินอาหารญี่ปุ่น
เกตพาพวกเขาสองคนไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อ Matsukawa ที่นี่เป็นร้านอาหารลำดับหนึ่งของโตเกียว
ได้ร่วมโต๊ะกับคนที่รวยที่สุดในโลก ทำให้ฉินหงเหยียนรู้สึกว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากจริงๆ
ดังนั้นจึงถามเขา “คุณ Gates คะ ฉันจะขอถ่ายรูปกับคุณแล้วแชร์ลงในโซเชียลได้ไหมคะ?”
ฉินหงเหยียนอยากจะถ่ายรูปหล่อนกับ Bill Gates ที่กินข้าวด้วยกัน แล้วแชร์ลงในโซเชียล
คนมากมายต่างก็รู้สึกว่าคนมีเงินจริงๆ จะติดดินอย่างมาก ไม่อวดรวย มีแค่พวกลูกเศรษฐีเท่านั้นที่จะชอบถ่ายรูปรถหรู อวดกระเป๋า ส่วนพวกคนรวยจริงๆ ไม่มีทางอวดอะไรพวกนี้
นี่เป็นความเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิง!
คนมีเงินต่างก็เป็นพวกที่วัตถุนิยม ชอบอวดอย่างมาก
ที่พวกเขาไม่อวดรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม นั่นเพราะว่าของพวกนี้ในสายตาพวกเขานั้นเป็นแค่ของใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรน่าอวด
ฉินหงเหยียนเองก็ไม่เคยถ่ายรูปกระเป๋าเอย รถเอยแชร์ลงในโซเชียลของตัวเอง เพราะคนในวงสังคมของตนเองก็ซื้อได้ทั้งนั้น ต่อให้แชร์ก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นอิจฉา
แต่ว่าการมีรูปคู่กับ Bill Gates นั้นเป็นคนละเรื่องกัน!
คนทีเงินในประเทศนี้มีมาก แต่ว่าใครจะมีโอกาสได้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับคนดังอย่าง Bill Gates ล่ะ?
Gates กล่าวพลางระบายยิ้ม “แน่นอนครับ ผมได้ไปโผล่ในโซเชียลของคุณ ถือเป็นเกียรติของผมเลยล่ะครับ ”
เย่เฉินเองก็กำลังมีความสุขกับการทำให้แฟนสาวมีความสุข จึงหยิบมือถืออกมาถ่ายภาพวกเขา
จากนั้นก็แชร์ลงในโซเชียลแทนฉินหงเหยียน
แล้วโพสต์นั้นก็มีคนกดไลก์อย่างมากมาย อีกทั้งยังมีข้อความวีแชทเข้ามาจำนวนนับไม่ถ้วนด้วย
“หงเหยียนมีข้อความเข้า” เย่เฉินที่ยังถือมือถือของฉินหงเหยียน ก็เรียกหล่อน
ฉินหงเหยียนที่กำลังมีความสุขกับการได้พูดคุยกับ Bill Gates “คุณช่วยดูให้ฉันหน่อยสิ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญเดี๋ยวฉันค่อยตอบ ”
ฉินหงเหยียนเปิดเผยบริสุทธิ์ใจ ไม่มีข้อความที่เย่เฉินดูไม่ได้
เย่เฉินเองก็อ่านข้อความในวีแชทของแฟนสาวอย่างเปิดเผย
ข้อความแรกมาากเหวินเชี่ยนเชี่ยน “เพื่อนสาว เธอไปโผล่ที่ญี่ปุ่นได้ยังไง? แถมยังกินข้าวกับคุณ Gates ด้วย สวรรค์ สังคมเพื่อนของเธอนี่ไฮโซเกินไปแล้ว จะกลับเมื่อไหร่ กลับมาแล้วเข้าหุ้นในบริษัทฉันอีกสิ เรื่องก่อนหน้าต้องขอโทษเธอด้วยนะ รอบนี้ฉันจะเผชิญความลำบากไปกับเธอเอง!”
เย่เฉินแค่นเสียง สวี่ฉู่หมิงจัดการคลี่คายปัญหาของฉินหงเหยียนและตระกูลหลิ่วแล้ว แถมหล่อนยังรู้จักกับ Bill Gates ที่นี่อีก เหวินเชี่ยนเชี่ยนเพิ่งมาพูดเอาตอนนี้ว่าจะร่วมลำบากไปด้วยกัน น่าจะช้าไปเสียหน่อย!
ไม่นานก็มีผู้ชายชื่อเหอเหวินเจี้ยนส่งข้อความหาฉินหงเหยียน “คุณไปญี่ปุ่นเหรอ? ไปกับแฟนใช่ไหม? ไปดูโอลิมปิกเหรอ? อีกสองสามวันผมก็จะไปดูแข่งโอลิมปิกกับลูกและภรรยา ตอนนั้นเรามาเจอกันหน่อยไหม?”
เย่เฉินไม่ได้รู้ว่าเหอเหวินเจี้ยนเป็นใคร หญิงสาวมีเพื่อนเยอะ เขาไม่รู้หรอกว่าหมอนี่ทำงานอะไร
และในเวลานี้เองฉินเสี่ยวตั่วน้องสาวของเจ้าหล่อน ก็ส่งข้อความมา
“พี่สาว! ตอนนี้พี่เป็นเซเลบเหรอชักจะมีเพื่อนไฮโซไปแล้วนะ! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่จะไปเที่ยวกับ Bill Gates ด้วย! เมื่อไหร่จะพาฉันไปบ้าง ฮือๆ ฉันเคยเจอพวกคนรวยติดอันดับในชั้นเฟิร์สคลาส แต่ก็ไม่กล้าทักพวกเขา แล้วอีกอย่างพ่อแม่เราก็ไม่อยู่แล้ว ฉันขอฝากชีวิตไว้ในมือพี่ด้วยนะคะ พี่รีบหาแฟนให้ฉันสักคนสิ! เจ้าลูกหมาแบบแฟนพี่ก็ดีนะ เป็นสไตล์ที่ฉันชอบเลย ฮ่าๆ!”
“เจ้าลูกหมาเหรอ?”
เห็นสรรพนามที่ฉินเสี่ยวตั่วเรียกเขา ใบหน้าชายหนุ่มก็ฉายแววเหนื่อยหน่าย นี่ตัวเขาออกจะแมนๆ กลายไปเป็นเจ้าลูกหมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
ถึงแม้ว่าเขาจะอายุน้อยกว่าฉินหงเหยียน ดูไปแล้วเย่เฉินอาจจะเป็นเจ้าหมาน้อยที่ว่านอนสอนง่ายเอาใจแฟนเก่ง
แต่ความจริงแล้วคนที่มักจะออดอ้อนเป็นฉินหงเหยียนเสียมากกว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาหญิงสาวก็เป็นเพียงแค่เด็กหญิงตัวน้อยเท่านั้นเอง
เย่เฉินจึงตอบข้อความแทนแฟนสาว “เย่เฉินไม่ใช่เจ้าลูกหมา! เธอช่วยเคารพพี่เขยเธอหน่อยเถอะ!”
แต่ใครจะรู้ฉินเสี่ยวตั่วตอบกลับมาทันควัน “พี่สาวฉันไม่เคยพิมพ์เครื่องหมายตกใจกับฉัน นายเป็นใคร!!”
เย่เฉินงุนงงทันที สองคนพี่น้องนี่สนิทกันเกินไปแล้ว เขาก้แค่ใส่เครื่องหมายตกใจก็แค่นั้นเองก็รู้แล้วว่าคนที่ตอบข้อความไม่ใช่พี่สาวตนเอง
“นายคือ (ลูก) (หมา) เหรอ? (ยิ้มเจ้าเล่ห์)”
ฉินเสี่ยวตั่วส่งข้อความกลับมาอีกครั้ง ในประโยคนั้นมีอีโมจิสามภาพ
ภาพแรกเป็นภาพวัว เห็นได้ชัดว่าเป็นความหมายของเด็ก เมื่อรวมกันแล้วก็จะแปลความหมายได้ว่า “นายคือเจ้าลูกหมาเหรอ?”
ฉินเสี่ยวตั่วเดาออกว่าคนที่ตอบข้อความนั้นคือเย่เฉิน
“เอาไอดีวีแชทนายมาสิ เดี๋ยวแอดไป” ฉินเสี่ยวตั่วถามสวนกลับโดยไม่รอให้เย่เฉินยอมรับด้วยซ้ำ
เย่เฉินล็อคโทรศัพท์แล้วไม่สนใจอีก ถ้าแฟนสาวไม่อนุญาตเขาไม่กล้าพูดคุยกับน้องสาวของหล่อนเป็นการส่วนตัว
อย่างไรเสียน้องสาวของหล่อนก็เป็นถึงแอร์โฮสเตส หุ่นและบุคลิกก็ดี อายุก็พอๆ กับเขา อย่าให้เรื่องที่มักจะเข้าใจผิดได้เกิดขึ้นน่าจะดีกว่า
แต่ที่เย่เฉินไม่รู้ก็คือ อดีตภรรยาของเขาอย่างหวังเจียเหยาเองก็เห็นโพสต์นี้เช่นกัน!
ก่อนนี้ที่ตระกูลหวังร่วมมือกับบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปสร้างอีผิ่นเจียเหยา หวังเจียเหยาก็มีวีแชทฉินหงเหยียน และภายหลังพวกเขาก็ไม่ได้ลบเพื่อนทิ้งไป
ณ วิลล่าเฝยชุ่ย เทียนไห่
พอหวังเจียเหยาเห็นโพสต์ของฉินหงเหยียนก็เดือดปุดๆ “ทำไมหล่อนถึงไปกินข้าวกับคนรวยในระดับอย่าง Bill Gates ได้นะ? อิจฉาจริงๆ! จะต้องตาแก่ที่เคยเลี้ยงหล่อนแนะนำให้รู้จักกันแน่! ไม่รู้ว่าเย่เฉินได้ไปญี่ปุ่นด้วยหรือเปล่า ไม่ได้การล่ะ ฉันต้องลองโทรถามเขาดู!”