ตอนที่ 9: การตัดสินใจเเละของเล่นใหม่ของนายท่าน
“ได้โปรดรับผมเป็นลูกศิษย์ด้วยเถอะนะครับ คุณยูลิอุส !!!”
เเม้ตอนเเรกนายท่านจะปฏิเสธเสียงเเข็ง เเต่พอลูอิสถึงกับก้มหัวของร้อง นายท่านเลยเริ่มที่จะรู้สึกลำบากใจ
“ผมว่านายประเมินค่าผมสูงเกินไปเเล้วล่ะ “
“ผิดเเล้วครับ ! ความสามารถของคุณยูลิอุสเหนือกว่าอาจารย์บางคนเลยด้วยซ้ำ !!!”
ตามที่เคยได้พูดเอาไว้ว่าจอมเวทย์ที่สามารถร่ายเวทย์โดยล่ะการร่ายได้มีอยู่ไม่ถึง 100 คนในประเทศ ซึ่งนายท่านก็เป็นหนึ่งในนั้น
กระทั่งเมืองเเห่งการศึกษาเเห่งนี้ หากนับจำนวนจอมเวทย์ที่ล่ะการร่ายเเบบนายท่านได้ จำนวนคงไม่ถึง 20 คน
อาจารย์ที่นี่ส่วนมากจึงมีทักษะการควบคุมเวทมนต์ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับนายท่าน เเม้จำนวนเวทมนต์ที่รู้อาจจะมีมากกว่านายท่านก็ตาม
ส่วนอาจารย์บางท่านที่ใช้เวทย์เเบบล่ะการร่ายได้ คนๆนั้นก็คงไปสอนในระดับชั้นปีที่สูงมากกว่านี้ ไม่มีทางตกมาถึงนักเรียนปี 1 อย่างเเน่นอน
เเถมอาจารย์ที่ทำถึงขนาดนั้นได้ มักไม่ค่อยมีเวลาสอนนักเรียน เพราะพวกเขามักจะเอาเวลาไปวิจัยเวทมนต์บทใหม่ๆซึ่งส่งผลดีกับฐานะของพวกเขามากกว่า
เนื่องจากโรงเรียนเเห่งนี้ไม่มีการห้ามนักเรียนสอนนักเรียน ดังนั้นการที่ลูอิสมาขอร้องนายท่าน มันจึงเป็นทางเลือกชาญฉลาด
กระนั้นเเล้วหากคิดถึงปัจจัยเรื่องที่นายท่านเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ต่ำ ความคิดของลูอิสก็ใช่ว่าจะเหมาะสมซ่ะทีเดียว
“…………”
เเต่ก็คงต้องขอนับถือในความใจกล้า
เพราะลูอิสถึงกับก้มหัวขอร้อง มาคราวนี้นายท่านที่ชอบทำหน้าตาเย็นชา(ยกเว้นตอนอยู่กับเรา)จึงตอบปฏิเสธได้ไม่เต็มปาก
ดูจากสายตาอันมุ่งมั่นซึ่งพร้อมที่จะสล่ะศักดิ์ศรีของตนเพื่อเเลกกับการที่ได้นายท่านเป็นอาจารย์ ความตั้งใจที่สัมผัสได้ก็ทำให้เหงื่อไหลอาบเเก้มของนายท่าน
หลังจากที่ใช้เวลาคิดอยู่พักหนึ่ง นายท่านก็กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะตอบออกไป
“ขอคิดดูก่อน—“
เป็นคำตอบที่ขี้ขลาดซ่ะเหลือเกิน การให้ความหวังลมๆเเล้งเช่นนี้ มันโหดร้ายนะคะนายท่าน
“เอาเลยค่าๆ ต่อเเถวเข้ามาเลย ชายหนึ่งเเถว หญิงหนึ่งเเถวค่ะ”
“เเล้วเธอก็พอได้เเล้วมาเคีย ! อย่ามาจัดคิวตามใจชอบจะได้ไหม !?”
พอเห็นเรากำลังจัดคิวเเละจดรายชื่อคนที่จะมาสมัครเป็นลูกศิษย์ของนายท่านอยู่ นายท่านก็ตวาดใส่ก่อนจะลากเรากลับมากอดด้วยท่าทางไม่พอใจ
อึก ! อย่ากอดเเน่นขนาดนั้นสิค่ะ ไส้จะทะลักออกมาเเย้ว อย่าน่ะๆ เดี๋ยวตัวเราที่บอบบางก็เเตกหักกันพอดี คนน่ะคะไม่ใช่ตุ๊กตา
“…………”
เเต่ดูเหมือนนายท่านที่ไม่พอใจการกระทำที่เเสนจะเอาเเต่ใจของเราก็ไม่สน
สงสัยการกอดที่เต็มไปด้วยความรัก(กล้ามเนื้อ) มันจะต้องเป็นออร์เดิฟไม่ผิดเเน่ๆค่ะ
ตกดึกเมื่อไหร่ได้เจอหนักกว่านี้ 100% เฮ้อ….
“ขอบคุณครับ ! “
ส่วยลูอิสก็ดูยิ้มเเย้มขึ้นมานิดหน่อย จากคำตอบของนายท่านที่ให้ความหวังลมๆเเล้ง
“ฝากด้วยน่ะ มาเคียจัง”
“ฝากด้วยนะครับ มาเคีย”
ในขณะเดียวกันเพื่อนร่วมชั้นที่จะหาโอกาสเข้าหานายท่าน พวกเขาก็ใช้เราเป็นทางผ่านเเทน
เเน่นอนว่าตอนนี้เราก็ได้รับรายชื่อคนที่สนใจสมัครเป็นลูกศิษย์ของนายท่านมาหมดเเล้ว เดี๋ยวไว้หลังจากนี้ก็ค่อยคัดคนออกอีกที ระหว่างนั้นก็พยายามโน้มน้าวนายท่านไปพลางๆ
“มาเคีย ? เธอทำตามใจอีกเเล้วน่ะ”
“เเห่ะๆ”
“ไม่ต้องมาหัวเราะเเก้เขินเลย ผมไม่ได้ชม”
หลังเลิกเรียน พอกลับถึงบ้าน นายท่านก็อุ้มเราเข้าไปในห้องนอนเเล้วโยนตัวเราที่เบาหวิวลงไปบนเตียง
เเกร๊ก~
หลังจากนั้นก็ล็อคประตูห้องนอนซ่ะด้วย ดูไม่น่าไว้ใจเอาซ่ะเลยค่ะ
ตายเเหงๆ จะลงโทษทันทีที่กลับมาถึงบ้านก็โหดร้ายเกินไปหน่อยนะคะนายท่าน
เฮ้อ เป็นวัยรุ่นที่ใจร้อนซ่ะจริงๆค่ะ
“จะถอดกระโปรงทำไม ?”
“อ่าว ? ไม่ใช่หรอคะ ?”
วันนี้คุณหมาป่าที่อยู่ในตัวนายท่านดูเรียบร้อยผิดคาดเเฮะ
เราที่กำลังหน้าเเดงจึงรีบใส่กระโปรงกลับเพื่อกลบเกลื่อน
“เลิกนอกเรื่องไร้สาระเเล้วบอกมาได้เเล้วว่ารอบนี้เธอวางเเผนอะไรอีก ?”
“ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็—“
โชคดีที่รอบนี้ มันเกี่ยวพันกับความเป็นความตาย เราจึงมีเหตุผลดีๆที่จะโน้มน้าวให้นายท่านยอมทำตามคำขอของเรา
“ลูอิสจะตายในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเนี่ยน่ะ !?”
หลังจากที่เราพูดเรื่องราวในเกมที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นายท่านก็ทวนคำพูดของเราซ้ำราวกับไม่เชื่อหูของตัวเอง
“ค่ะ ! ตามนั้นเลย หากอิงตามเนื้อเรื่องในเกมภาคเเรกที่ดำเนินมาได้ 20% มันก็ใกล้จะถึงช่วงเวลานั้นเเล้วล่ะคะ”
ช่วงเวลานั้นที่เรากำลังพูดถึง มันก็คืออีเวนท์เผ่าปีศาจบุกโรงเรียนนั่นเองค่ะ
“ตามเนื้อเรื่องของเกม ลูอิส ชวอนเดว คือบุตรชายนอกสมรสของตระกูลชวอนเดวที่เกิดจากความผิดพลาดของผู้นำตระกูลเเละสาวใช้”
เพราะผู้นำตระกูลของตระกูลชวอนเดวหรือก็คือพ่อของลูอิสเป็นผู้ชายสารเลวที่ชอบปลุกปล้ำหญิงสาวไปทั่ว ตัวเขาที่สนใจในความน่ารักของเเม่ของลูอิสที่ทำงานเป็นสาวใช้ในคฤหาสน์ของตน ก็เลยเผลอขืนใจเเม่ของลูอิสไปประมาณสองถึงสามครั้งจนทำให้เธอตั้งท้อง
หลังจากนั้นไม่นาน ลูอิสก็ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นบุตรชายคนที่สิบหก จากจำนวนลูกชายลูกสาวรวม 25 คน ซึ่งเกิดจากพ่อของลูอิสที่มีภรรยาน้อยใหญ่รวม 12 คน ไม่นับพวกสาวชาวบ้านสวยๆทั่วๆไปที่เขาข่มขืนเสร็จเเล้วค่อยให้เงินเป็นค่าปิดปาก
“นี่มันเลวได้โล่เลยเเฮ่ะ”
“สังคมขุนนางมันก็เเบบนี้เเหล่ะค่ะ ตราบใดที่มีเงินเเละอำนาจ ต่อให้ทำเรื่องเลวร้ายเเค่ไหน ประชาชนธรรมดาก็ไม่มีทางขัดขืนได้อยู่ดี”
เพราะตระกูลชวอนเดวมีอาณาเขตติดทะเล ตระกูลเเห่งนี้จึงสามารถเรียกเก็บภาษีปากเรือรวมไปถึงภาษีทั่วไปที่ได้จากสินค้าการประมงได้ในราคาที่สูง นั่นทำให้ตระกูลของลูอิสเป็นตระกูลที่ร่ำรวยพอสมควร
“เเต่เพราะท่านเเม่ของคุณลูอิสเป็นเเค่สามัญชนเพียงคนเดียวที่เป็นภรรยาน้อย เธอจึงไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากภรรยาหลวงเเละภรรยาน้อยคนอื่นๆจนถูกกลั่นเเกล้งเป็นประจำ เเน่นอนว่าตัวลูอิสที่เป็นลูกครึ่งสายเลือดสามัญชนเเละขุนนางก็ต้องโดนพี่น้องของตัวเองเกลีดยเป็นธรรมดา”
สาเหตุที่พ่อของเขารับเเม่ของคุณลูอิสมาเป็นภรรยาน้อย มันเป็นเพราลูอิสเกิดขึ้นมาล้วนๆ ถ้าเเม่ของลูอิสไม่ท้อง ป่านนี้เธอคงเป็นได้เเค่คู่ขาเเก้เบื่อของพ่อของลูอิสเพียงเท่านั้น
เเถมพอมีอะไรกันไปอีกซักห้าถึงหกครั้ง พ่อของลูอิสก็เบื่อเเล้วไม่สนใจใยดีเเม่ลูกคู่นี้อีกเลย สิ่งที่เขาทำให้สองเเม่ลูกมีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือการส่งเงินจำนวนเล็กน้อยมาให้เเล้วขับไล่ออกไปจากคฤหาสน์
ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่ต้องการ อีกส่วนก็เพราะกลัวลูอิสจะมาเเย่งมรดกจากลูกๆคนอื่นนั่นเอง
เอาง่ายๆก็คือลูอิสเเละคุณเเม่ของเขาโดนตัดหางปล่อยวัดไปเรียบร้อย
“ส่วนสาเหตุที่มาเรียนที่โรงเรียนเเห่งนี้ มันเป็นเพราะว่าเเม่ของคุณลูอิสเล็งเห็นศักยภาพในตัวของเขาเเละต้องการที่จะให้เขามีอนาคตที่ดี เธอได้ใช้เงินทั้งหมดที่พ่อของคุณลูอิสให้มาในการจ่ายค่าเทอม ส่วนเงินที่เหลือซึ่งขาดไปเธอก็ทำงานหนักเพื่อหาเงินมาชดเชย มันเลยทำให้ตอนนี้เธอไม่ค่อยมีอาหารการกินที่ดีซักเท่าไหร่”
อีกสาเหตุที่เป็นเเบบนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะเธออยากให้ลูกชายได้ไล่ตามความฝันที่อยากจะเป็นจอมเวทย์ประจำราชวงศ์ซึ่งเป็นตำเเหน่งอันสูงส่งของจอมเวทย์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดในประเทศเเห่งนี้เเละมีเพียงเเค่สี่คนเท่านั้น
กระนั้น ในโลกเเห่งความจริง ตัวลูอิสก็ใช่ว่าจะมีพลังเวทย์เหนือกว่าคนทั่วๆไปมากเท่าไหร่
ต่อให้ฝึกหนักมากเเค่ไหน พลังเวทย์ก็ไม่เพิ่ม ถึงจะพยายามเต็มที่เเล้ว ลูอิสก็มีฝีมือเเค่ระดับค่าเฉลี่ยของโรงเรียนอยู่ดี
นั่นจึงสร้างความกดดันเเละความเครียดให้เขามากๆ
ยิ่งตอนนี้คุณเเม่ที่อยู่บ้านเกิดล้มป่วยกระทันหันเเละไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายค่ายา ตัวเขาก็ยิ่งเครียดหนักเข้าไปใหญ่
เเม้จะไปเป็นนักผจญภัย เงินที่หามาได้ก็ไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลอีกอยู่ดี
พอลงทุนลงเเรง บากหน้าไปขอเงินจากคุณพ่อของตัวเอง ไอ้หมอนั่นที่ตัดหางปล่อยวัดลูกเมียไปเเล้ว มันก็ไม่สนใจทั้งคู่เเต่อย่างใด
“อึก..เรื่องเเบบนี้ ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย”
“คราวหน้าก็หัดใส่ใจคนรอบข้างมากกว่านี้สิค่ะ..”
ชีวิตที่ผ่านมาของลูอิสดูคล้ายๆกับนายท่าน มันก็เลยทำให้นายท่านรู้สึกใจอ่อนขึ้นมา
“หลังจากนี้ อีกไม่นาน ลูอิสที่กำลังอยู่ในความสิ้นหวังก็จะออกผจญภัยเพื่อหาเงินไปจ่ายค่ารักษาให้เเม่ของตัวเอง”
“งั้นที่หมอนั่นรวบรวมความกล้ามาหาผม ทั้งๆที่ไม่ทำตั้งเเต่ต้นเทอม มันเป็นเพราะอย่างนี้เองสิน่ะ”
เอาง่ายๆก็คือ ตอนนี้เขาจนตรอกเเล้วนั่นเอง
เเละเพราะเป็นอย่างงั้น อีเวนท์ใหม่จึงถือกำเนิดขึ้น !!!
“วันหนึ่ง ขณะที่คุณลูอิสกำลังออกผจญภัยเพื่อไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เเม่ของตัวเอง เขาที่อยู่ในความสิ้นหวังเเละปราถนาซึ่งพลังก็เผลอไปทำสัญญากับเผ่าปีศาจเข้าจนได้”
ว่ากันว่าหากมนุษย์ทำสัญญานาย-บ่าว กับเผ่าปีศาจภายใต้เงื่อนไขการเเลกเปลี่ยนอันชอบธรรม มนุษย์คนนั้นจะได้รับพลังเวทย์จากปีศาจมาเสริมให้ตัวเองโดยเเลกกับการมอบบางอย่างให้ปีศาจเป็นข้อเเลกเปลี่ยน
โดยสัญญาดังกล่าวจะผูกพันกับทั้งสองเเละไม่มีทางยกเลิกได้ เเม้ว่าทั้งคู่จะตายไปเเล้วก็ตาม ซึ่งปีศาจเเละมนุษย์นั้นในช่วงชีวิตหนึ่งสามารถทำสัญญาได้เพียงเเค่ครั้งเดียวเเละคนเดียวในชีวิตเพียงเท่านั้น
เพราะการทำสัญญานาย-บ่าว หลังครั้งเเรกเป็นต้นไป มันจะไม่มีความศักดิ์สิทธิ์เเละไร้ซึ่งพลังในการผูกมัดดวงจิตของทั้งสอง
“ข้อเเลกเปลี่ยนระหว่างทั้งสองคือคุณลูอิสต้องกลายมาเป็นพวกเดียวกับเผ่าปีศาจ โดยเเลกกับการที่เผ่าปีศาจจะช่วยรักษาคุณเเม่ของเขาให้”
เเน่นอนว่าพอเป็นพวกเดียวกันเสร็จ เผ่าปีศาจที่ทำสัญญาด้วยก็จะใช้คุณลูอิสเป็นไส้ศึกในการเเฝงตัวเข้ามาในโรงเรียนนั่นเอง
“พอผ่านไปได้พักหนึ่ง ปีศาจตนนั้นก็จะนำพวกพ้องเข้ามาจู่โจมโรงเรียนจากภายในโดยอาศัยคุณลูอิสเป็นเครื่องมือ หลังจากที่ใช้งานเสร็จเเล้วก็ฆ่าปิดปาก”
“—!!!”
ว่ากันว่าที่โรงเรียนเเห่งนี้มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของผู้กล้าเเห่งดาบรุ่นก่อนซ่อนอยู่ในห้องของผู้อำนวยการ พวกมันจึงลอบเข้ามาเพื่อหวังที่จะขโมยอาวุธดังกล่าว
ในโลกเเห่งนี้ มีผู้กล้าอยู่ทั้งหมด 7 คน ซึ่งเเต่ล่ะคนจะเป็นผู้ถือครองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีพลังมหาศาลถึงขนาดใช้ต่อกรกับจอมมารทั้ง 7 ได้
โดยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของผู้กล้าเเห่งดาบคือดาบที่มีชื่อว่า ‘โฟตอนคาลิเบอร์’ มันเป็นดาบที่เลือกผู้ใช้เเละจะไม่อาจถูกกวัดเเกว่งได้หากผู้ถือครองไม่ใช่ผู้กล้าที่เเท้จริง
เเน่นอนว่า คนที่จะหยิบ’โฟตอนคาลิเบอร์’ มันก็คือพระเอกเกมอย่างเลออนที่ตอนนี้หายตัวไปทำภารกิจลับอยู่
“เดี๋ยวสิ ! รอบนี้เธอคงไม่ได้หลอกผมอีกใช่ไหมเนี่ย ?”
“รอบนี้เราพูดจริงค่ะ ถ้าไม่ทำอะไรเลย เรารับรองได้เลยว่าคุณลูอิสได้ม่องเท่งเเน่ๆ”
เราเอานิ้วปาดคอตัวเองให้ดู ในขณะที่นายท่านทำหน้าอึดอัด
“พูดจริงๆสิน่ะ… “
“งั้นถ้าเราโกหกนายท่านจะไม่ช่วยอย่างงั้นหรอคะ ?”
เราถาม เเต่นายท่านเบือนหน้าหนี
“ต่อให้ไม่เกี่ยวกับความเป็นความตาย เเต่คุณลูอิสที่สู้เพื่อเเม่ของตัวเองเเละมีโชคชะตาโหดร้ายไม่ต่างจากพวกเราทั้งคู่ นายท่านจะไม่สนใจจริงๆอย่างงั้นหรอคะ ?”
“……………….”
ควรที่จะช่วย หากอิงตามสามัญสำนึกของชีวิตในโลกก่อน เเน่นอนว่านายท่านที่ยังยึดติดในเเนวคิดนั้น ตัวเขาย่อมที่จะตัดสินใจช่วย เเม้จะไม่อยากทำก็ตาม
เพราะเรารู้ดีว่านายท่านเป็นไอ้พวกเทพทรูโลกสวย เเต่ดันไม่กินผัก เราจึงพูดออกไปตามตรงโดยไม่ต้องวางเเผนให้ซับซ้อน
เรารู้ดีว่านายท่านจะต้องช่วยอย่างเเน่นอน
“เฮ้อ..พวกเธอนี่มันขี้โกงกันจริงๆ”
สุดท้าย นายท่านก็ถอนหายใจออกมาราวกับจะยอมเเพ้
“จะรู้ดีเกินไปเเล้วนะ มาเคีย”
“ถึงจะอยู่ด้วยกันเเค่ไม่กี่เดือน เเต่เรามั่นใจว่าเราคือคนที่รู้จักนายท่านดีที่สุดในโลกค่ะ”
เเม้จะฟังดูหยิ่งยโสไปหน่อย เเต่เราก็ยังพูดออกไปไม่อายปากอยู่ดี
เพราะเราเจอความโหดร้ายของโลกใบนี้คล้ายๆกัน
เพราะเราโดนคนในครอบครัวหักหลังเหมือนๆกัน
เพราะเราทั้งคู่ต่างโหยหาความรักจากใครซักคน
ทั้งหมดนั่น มันคงเป็นสาเหตุให้เราทั้งคู่เข้าใจกันเเละกันโดยไม่ต้องเอ่ยปาก
“เข้าใจเเล้ว จะยอมสอนให้ก็ได้”
“สมเเล้วที่เป็นนายท่านของเราค่ะ เป็นคนดีมากๆเลย”
“เป็นคำชมที่ไม่อยากได้เลยเเฮะ”
“ไม่หรอกค่ะ สำหรับเราเเล้ว นั่นเป็นคำชมที่วิเศษออกจะตาย”
ประสานมือไว้ที่กลางอก จากนั้นก็นึกถึงภาพในวันนั้น…วันที่นายท่านยอมรับในตัวตนของเรา
“ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่เลวร้ายซักเเค่ไหน หรือถูกโลกอันโหดร้ายทาทับด้วยสีอะไร นายท่านก็จะเชื่อมั่นในความดีเเละใช้ชีวิตตามที่ตนเชื่อมั่นไม่เปลี่ยนเเปลง”
ราวกับผ้าขาว ตรงข้ามกับตัวเราที่ออกจะเทาๆไปในโทนสีดำซ่ะมากกว่า
ดังนั้น การช่วยปกป้องนายท่านจากสังคมอันน่ารังเกียจ มันคือเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของตัวเราในตอนนี้
“เราว่านายท่านที่เป็นเเบบนั้นก็เท่ออกจะตายนี่คะ !”
“อึก !”
ว้ายๆๆ พอเราชมนิดหน่อย นายท่านก็เขินด้วยล่ะคะ
“เว่อไปเเล้ว จริงๆที่ผมทำเเบบนี้ มันอาจจะเป็นเพราะผมยึดติดกับชีวิตเมื่อชาติที่เเล้วก็ได้น่ะ “
— อยากจะคงความเป็นตัวของตัวเองเอาไว้ ไม่อยากเปลี่ยนเเปลงตัวเอง ใจจริงอยากจะให้โลกพรรคนี้เป็นเพียงเเค่ความฝัน
นายท่านกล่าวเสริมเช่นนั้นพลางมองเพดานอย่างเหม่อลอย
“ฮุๆ ถึงเป็นเเบบนั้นก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“???”
“จะสับสนบ้างอะไรบ้าง มันเป็นเรื่องปกติค่ะ ….อยากเป็นตัวของตัวเอง ไม่อยากเปลี่ยนไปเหมือนกับโลกที่เเสนจะเห็นเเก่ตัวใบนี้ สำหรับเราเเล้ว การที่อย่างน้อยก็คิดเรื่องเเบบนั้น มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่รึไงคะ ?”
เพราะนายท่านเป็นตัวของตัวเองเเละยึดมั่นในความถูกต้องของตัวเอง เราถึงได้ยังมีรอยยิ้มอยู่จนถึงตอนนี้ยังไงล่ะ
“มาเคีย ?”
“ถ้าสับสนหรือยังคิดว่าโลกใบนี้เป็นเเค่ความฝัน นายท่านก็ยื่นมือมาสิค่ะ”
ว่าเเล้วเราก็จับมือของเขามาวางไว้บนหน้าอกของเรา
ตึกตัก ตึกตัก
นายท่านมองหน้าของเราด้วยสีหน้าเเดงระเรื่อ
หัวใจของเราเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ ในขณะที่ปล่อยให้นายท่านสัมผัสเสียงหัวใจของเรา
“เห็นไหมล่ะ ? ไม่ใช่ความฝันซักหน่อย”
ไม่งั้นนายท่านตัวน้อยคงไม่ลุกขึ้นมาตั้งตระหง่านขนาดนั้นหรอกค่ะ จะว่าไปนี่เราตัดสินใจอะไรผิดพลาดตรงไหนหรือเปล่าหว่า ?
“เราเคารพการตัดสินใจของนายท่าน….เว้นเสียเเต่ว่าจะเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้จริงๆค่ะ”
“……………..”
“เราจะไม่พูดอย่างโลกสวยว่า ไม่ว่านายท่านจะทำอะไรเราก็ไม่ห้ามหรอกน่ะ เเล้วก็ไม่พูดได้ว่าเราจะไม่เเอบยัดเยียดสิ่งที่นายท่านไม่ต้องการให้ตอนที่นายท่านเผลอ–“
เเต่ถึงจะเป็นอย่างงั้น…เเม้จะเป็นอย่างงั้นก็ตาม
“เเต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็ชอบนายท่านที่เป็นตัวของนายท่านเอง ไม่ว่าปลายทางของการตัดสินใจของนายท่านจะเป็นเช่นไร เราก็จะขอตามไปด้วยเเม้ว่านั่นจะเป็นนรกก็ตาม อาจจะมีขัดใจกันบ้างอะไรบ้างระหว่างนั้น เเต่ขอสาบานว่าเราจะไม่มีวันปล่อยมือของนายท่านอย่างเเน่นอนค่ะ”
“มาเคีย…”
นายท่านมองมาที่เรา
ดวงตาสีดำของเขาสะท้อนใบหน้าของเราที่ยิ้มเเย้มด้วยใบหน้าที่เเดงระเรื่อ
จะว่าไปใบหูของนายท่านก็เเดงพอๆกับเราเลยนิค่ะ เเบบนี้เเสดงว่าพวกเราทั้งคู่เสมอกันเเล้วสิเนอะ
“ในชีวิตของผม มันมีเรื่องที่ผิดพลาดอยู่มากมาย”
“ไม่รู้มาก่อนเลยค่ะ”
“งั้นหรอ…งั้นเธอก็จงรู้ไว้ล่ะกันว่ามีความผิดพลาดอย่างหนึ่งในชีวิตที่ต่อให้มีโอกาสเลือกใหม่ ผมก็จะเลือกทางเดินนั้นซ้ำอยู่ดี”
นายท่านค่อยๆเขยิบเข้ามาใกล้เเล้วดึงเราเข้าไปกอด
“ดีจริงๆที่ผมได้พบกับเธอ..ดีจริงๆที่เราทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน”
“น้ำเน่าค่ะ”
“เเต่ก็กอดผมเเน่นเหมือนกันไม่ใช่หรอ ?”
“หนวกหูค่ะ ถึงจะบ่นเเบบนั้น เเต่ก็ไม่ได้บอกว่าเกลียดซักหน่อย”
พวกเราทั้งคู่มอบความอบอุ่นให้กันเเก่กันอยู่พักหนึ่ง
สำหรับพวกเราเเล้วการกอดกันคือกิจวัตรประจำวันที่ทำกันเป็นปกติ
เราทั้งคู่คงขาดความอบอุ่นเหมือนๆกัน เราทั้งคู่คงต้องการใครซักคนมากอดเช่นเดียวกัน
เพราะเป็นอย่างงั้น ถึงจะหมั่นไส้ใจจะขาด เเต่ทุกครั้งที่นายท่านกอดเรา มือของเราถึงกอดกลับไปเองล่ะมั้งน่ะ
เเถมเวลาปล่อย ยังไม่ยอมปล่อยเองซ่ะด้วย นี่ต้องถึงขนาดเเงะนิ้วของตัวเองออกมาเลยละค่ะ
“…………..”
เรากอดกันกันอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งนายท่านพึงพอใจ
“เอาล่ะ ไปอาบน้ำกันเถอะ ตามที่ตกลงกันไว้ เดี๋ยวผมถูหลังให้”
เย้ ! รอดจากบทลงโทษเเล้วค่ะ
นี่สิน่ะ พลังเเห่งอ้อมกอด นายท่านลืมที่จะลงโทษตัวเราที่ชอบทำอะไรตามอำเภอใจไปเเล้วละค่ะ
ฮ่าๆๆ จงขัดหลังของเราให้กลับมาใสวิ๊งซ่ะเถอะ ไอ้เจ้าขี้ข้าโลลิค่อน
เราคิดเช่นนั้น ขณะที่นายท่านอุ้มตัวเราไปส่งที่ห้องน้ำอย่างทะนุถนอม
เเต่ทว่า —
วี๊ดดดดดดด
“อิย๊า !!! ไอ้เจ้านั่นมันใช้ขัดตัวเราได้ที่ไหนกันคะ !? ไอ้เจ้าโลลิค่อน ! อีตานายท่านโรคจิต ! ใครสอนให้ขัดตัวเเบบนั้นกันเล่า ไอ้เจ้าบ้า !!! อะ อะ อุหวาาาา ขอโทษค่ะๆๆ ให้อภัยที่เราเสียมารยาทด้วย ไว้ชีวิตด้วยเถอะค่ะ อะ อะ อย่าทำเเบบนั้นน่ะ หะ หะ ห้องน้ำ มันไม่ใช่ที่ทำเเบบนั้นนะคะนายท่าน เอาไอ้เจ้านั่นที่กำลังหมุนๆๆอยู่ ช่วยเอาออกไปไกลๆเดี๋ยวนี้เลยนะคะ “
“อุตส่าห์ซื้อมาทั้งที ถ้าไม่ได้ใช้ก็เสียของเเย่สิ”
” ว๊าย ! เดี๋ยว ! อุ๊ก !”
สุดท้าย กว่าจะได้ออกมาจากห้องน้ำ มันก็ฟ้ามืดพอดีค่ะ
สิ่งที่นายท่านกระทำกับเรา มันช่างร้ายกาจซ่ะจนอยากร้องเรียนมูลนิธิที่ไหนซักเเห่ง
เเต่ในโลกเเบบนี้ มันไม่มีอะไรเเบบนั้นนี่นา
มันจึงเป็นอีกวันที่เราต้องนอนตะเเคงตัวเพื่อป้องกันความเจ็บปวดที่ไม่พึงประสงค์
พรึ่บ !
เเต่ก่อนนอน อยู่ๆไฟในห้อง มันก็ดับไปเองเฉยเลยค่ะ รู้งี้ไม่น่ามานอนห้องนายท่านก็ดีสิ
“ยังไม่พออีกหรอคะ..”
วี๊ดดดดดด
ไม่ตอบ เเล้วเปิดสวิตซ์เเทนซ่ะอย่างงั้น
ใจร้ายสุดๆ ปีศาจ นายท่านคือปีศาจ !
ขอถอนคำพูด นี่ไม่ใช่การขอโทษเเล้วล่ะคะ มองยังไงก็เป็นการทรมานเราชัดๆ
เจ็บก้นเจ้าค่ะ ไม่เอาเเล้วค่ะ ไอ้การใช้ไอเท็มไร้ยางอายเเบบนี้
ต่อให้ต้องก้มหัวขอร้อง เราก็ต้องกำจัดของเล่นชิ้นใหม่ของนายท่านออกไปจากชีวิตให้จงได้เจ้าค่ะ
นี่จึงเป็นอีกวันที่เราต้องเอาชีวิตรอดจากนายท่านจอมหื่นกามที่ไม่ยอมหลับยอมนอนซ่ะที
ขอให้ซักวันกรรมตาทัน นอนดึกนัก ระวังจะตัวไม่สูงเอานะคะ นายท่าน
วี๊ดดดดดดด
หลังจากนั้นมันก็มีเสียงไอ้เจ้าไอเท็มงี่เง่านั่นดังต่อเนื่องอีกหนึ่งชั่วโมงเต็ม
ได้เเต่บ่นนายท่านทั้งน้ำตา ไม่อาจขยับเอวไปได้มากไปกว่านี้
พอรู้สึกตัวอีกทีก็หมดเเรงจนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ค่ะ…กว่าจะกลับมามีสติอีกทีก็ตอนเช้าอีกเเล้ว….เฮ้อ….
ชีวิตทาสสาวนี่ลำบากจริงๆ ถึงจะไม่ได้เกลียดก็เถอะค่ะ
— บันทึกประจำวันของมาเคีย—
มาเคีย : เเฮ่กๆ อึก! นี่เเอบไปซื้อของพรรคนี้มาตอนไหนกันคะ ?
ยูลิอุส : ความลับ….
Chapters
Comments
- ตอนที่ 15: ไม่มีฝันร้ายไหนๆน่ากลัวเท่า วันที่นายท่านนอนละเมอค่ะ เมษายน 21, 2022
- ตอนที่ 14: เเผนการของรีเกล มกราคม 20, 2022
- ตอนที่ 13: จะอยู่ข้างๆเองค่ะ มกราคม 19, 2022
- ตอนที่ 12: ฺฺผู้ที่ Bad end คนเเรก มกราคม 18, 2022
- ตอนที่ 11: องค์ชายคือ.... สิน่ะค่ะ !!! มกราคม 17, 2022
- ตอนที่ 10: นี่เเหล่ะค่ะ คือชีวิตวัยรุ่น มกราคม 17, 2022
- ตอนที่ 9: การตัดสินใจเเละของเล่นใหม่ของนายท่าน มกราคม 17, 2022
- ตอนที่ 8: จุดเริ่มต้นของชีวิตอันวุ่นวายค่ะ มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 7: ยูลิอุส vs ดันเต้ มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 6: ก่อนการประลอง มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 5: ความใจดีของนายท่านคือสิ่งที่เราชอบเเละเกลียดที่สุดค่ะ มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 4: ไปโรงเรียนวันเเรก เราก็ได้เห็นเรื่องสนุกๆเลยล่ะค่ะ มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 3: เพราะทำตัวซ่าเกินไป ตอนจบเลยล้มทั้งยืนค่ะ มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 2: ตัวเอกของเกมที่หายไป มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 1: เกิดใหม่ค่ะ เเถมเกิดเป็นทาสที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำซ่ะด้วยค่ะ มกราคม 5, 2022
MANGA DISCUSSION