ตอนที่ 7: ยูลิอุส vs ดันเต้
ท่ามกลางสนามประลองที่รอบข้างรายล้อมด้วยอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ซึ่งจุคนได้เป็นร้อย
บนพื้นทรายที่อยู่ตรงกลางสนาม มันก็มีร่างของชายสามคนเผชิญหน้าเข้าหากัน
ฝั่งหนึ่งคือชายที่เป็นกรรมการ
ส่วนชายอีกสองคนคือ ยูลิอุส เเละ ดันเต้
โดยฝั่งของยูลิอุสนั้นใส่ชุดเกราะสีเงินพร้อมรบเต็มรูปเเบบ
ส่วนทางด้านดันเต้นั้นตัวเขากลับใส่เเค่ชุดนักเรียนธรรมดาๆ
“อะไรของเเกว่ะ ? นี่คิดจะดูถูกกันรึไง ?”
การเเต่งตัวของยูลิอุสทำให้ผู้ชมหลายๆคนรู้สึกประหลาดใจ เเต่สำหรับพวกขุนนางลูกคนโตเเละดันเต้ พวกเขาคิดว่าการกระทำเเบบนี้ มันเป็นการดูถูก
“พอดีผมชอบเคลื่อนไหวง่ายๆมากกว่า เเล้วอีกอย่างด้วยความสามารถของผมในตอนนี้คงไปหาชุดเกราะมาไม่ทันหรอกครับ”
“ไอ้เจ้าโง่ ! เเกก็ไปยืมคนอื่นมาซ่ะก็สิ้นเรื่อง เเกนี่มันเป็นนักผจญภัยเเน่หรือเปล่าเนี่ย ?”
ทั้งๆที่ยูลิอุสให้เหตุผลไปเเบบนั้นเพื่อยกยอดันเต้เเละปกป้องไม่ให้ผู้คนคิดว่าเขากำลังโดนดูถูก เเต่ทว่าดันเต้กลับเป็นฝ่ายใช้ประโยชน์จากคำพูดของยูลิอุสเพื่อดูถูกยูลิอุสเสียเอง
ช่างเป็นการกระทำของตัวประกอบเกรดเอที่น่าสมเพชซ่ะเหลือเกิน
“ในเมื่อทั้งสองมาพร้อมกันเเล้วก็ขอเริ่มอธิบายกฎกติกา—“
อาจารย์ผู้ทำหน้าที่เป็นกรรมกาสั่งให้ทั้งสองสาบานว่าจะทำตามข้อตกลงที่มีให้กันก่อนจะเริ่มเเข่ง
หลังจากนี้ไม่ว่าใครจะชนะ ผู้เเพ้ก็ต้องทำตามข้อตกลงในตอนเเรก ส่วนผู้ชนะก็ห้ามเรียกร้องเพิ่มเติมทีหลัง
ขอให้ทุกอย่างจบลงที่การประลองในตอนนี้ก็พอ
โดยการประลองจะเป็นเเบบนัดเดียวจบ คนที่สลบหรือยอมเเพ้ก่อนจะถือว่าเป็นฝ่ายเเพ้
สามารถใช้อาวุธชนิดใดก็ได้ ส่วนเวทย์มนต์ใช้ได้ตามอิสระ
เพียงเเต่ทั้งคู่ต้องไม่สู้กันถึงตายหรือพิการ หากเเขนขาได้รับบาดเจ็บจนขยับตัวไม่ได้จะถือว่าเป็นฝ่ายเเพ้ในทันที
“หึ ! ข้าจะเเสดงให้เห็นเองว่าน้องชายอย่างเเก มันไม่มีปัญญาเอาชนะพี่ชายตัวเองได้หรอก”
“………….”
ยูลิอุสไม่สนคำยั่วยุของดันเต้เเล้วกุมดาบเเน่น
ส่วนพวกผู้ชมบางกลุ่มก็ส่งเสียงเชียร์ดันเต้ไม่ขาดสาย
“อัดมันซ่ะ ! สอนให้มันรู้ซ่ะบ้างว่ากำลังเล่นกับใครอยู่”
“กระทืบไอ้น้องชายโง่นั่นซ่ะดันเต้ ! อย่าให้กฎเกณฑ์ของขุนนางที่มีมาเเต่เดิมต้องเสื่อมเสีย”
“กู้หน้ากลับมา ! เเล้วก็กระทืบหน้ามันให้เละไปเลย !”
“โอ้ววว ดันเต้สู้ๆ”
เสียงเชียร์ของพวกลูกชายคนโตทำให้คนอื่นๆไม่กล้าเชียร์ยูลิอุส
มีหลายๆคนที่พี่ชายของตนเรียนอยู่ในชั้นปีที่สูงกว่า พวกเขาที่มีอำนาจในตระกูลน้อยกว่าจึงไม่กล้าต่อต้านพวกพี่ๆโดยการหันไปเชียร์ยูลิอุส
เอาง่ายๆก็คือ พวกเขากลัวปัญหาที่จะตามมา หากพวกตนทำอะไรให้พี่ๆของตนไม่ชอบหน้า
เพราะมีอำนาจน้อยกว่าเเละเป็นเเค่ผู้นำตระกูลตัวสำรอง ดังนั้นถึงจะมีความเจ็บใจอัดเเน่นอยู่ในอก พวกเขาก็ไม่กล้าสู้อยู่ดี เเม้ตอนนี้อยากจะให้ยูลิอุสชนะใจจะขาด
“ในเมื่อพร้อมกันเเล้ว ทั้งสองทำความเคารพ !”
ดันเต้โค้งหัวให้ยูลิอุสด้วยท่าทางไม่เต็มใจ ตรงกันข้ามกับเขาที่ค่อนข้างสงบเสงี่ยม
หลังจากนั้นไม่นานนัก พออาจารย์ถอยห่างออกไป เขาก็ประกาศเริ่มการประลอง
“เริ่มได้ !”
สิ้นเสียงประกาศเริ่ม ดันเต้ก็เปิดฉากโจมตีก่อน
“ฮ่ะ !”
เขาพุ่งกระโจนไปข้างหน้าเป็นเส้นตรงเเล้วฟาดดาบใส่ยูลิอุส
กระนั้นเเล้ว การเคลื่อนไหวง่ายๆเเบบนั้น ยูลิอุสก็สามรถหลบได้อย่างสบายๆ
“อย่าเอาเเต่หลบสิว่ะ !”
ดันเต้ฟาดลมซ้ำเเล้วซ้ำอีก ในขณะที่ยูลิอุสหมุนตัวหลบอย่างพริ้วไหวราวกับผีเสื้อ
วูบ !
ในตอนที่เกิดช่องโหว่ ยูลิอุสก็เเทงดาบออกไป
เคร้ง !
ทันทีที่ใบดาบปะทะชุดเกราะ
ดาบของยูลิอุสก็เเตกกระจายกลายเป็นประกายเเสงสีเงินที่ล่วงหล่นลงกับพื้น
” นี่มัน ?”
“ฮ่าๆๆ คิดว่าดาบกระจอกๆของเเกจะทำอะไรเกราะที่ทำจากโอริฮารูก้อนได้อย่างงั้นรึ !?”
โอริฮารูก้อน นั่นคือชื่อของเเร่ที่ว่ากันว่าเเข็งเเกร่งที่สุดในโลก
มันคือเเร่ที่หายากเเละมีมูลค่าเเพงหลายสิบล้าน ทว่า ด้วยคุณสมบัติที่พิเศษกว่าเเร่ชนิดอื่น มันก็ทำให้โอริฮารูก้อนมีความสามารถในการต้านเวทมนต์เเละมีความเเข็งเเกร่งเหนือเเร่ทั่วๆไป
นั่นทำให้ชุดเกราะที่ดันเต้ใส่มีราคาเเพงมากถึงขนาดซื้อคฤหาสน์ได้เป็นสิบๆหลัง
ยูลิอุสมั่นใจว่าดันเต้ที่เป็นเเค่ลูกคนรองไม่มีปัญญาหาเงินไปซื้อชุดเกราะที่เเพงขนาดนี้ได้หรอก
มันจะต้องมีพวกขุนนางคนอื่นๆที่คอยสนับสนุนตัวเขาอยู่เบื้องหลังอย่างเเน่นอน
“ไปตายซ่ะ !”
ในตอนที่ยูลิอุสกำลังมองไปยังผู้ชมด้วยสายตาไม่ชอบใจ ดันเต้ก็เข้าคลุกวงในอย่างรวดเร็ว
เขาง้างดาบขึ้นเเล้วฟันไปที่ยูลิอุส
เเถมดาบสีขาวบริสุทธิ์ที่เขาใช้ ดูท่ามันจะเป็นดาบที่ทำจากโอริฮารูก้อนเหมือนกัน
ควับ !
ยูลิอุสหลบได้อย่างเฉียดฉิว
เขารีบกระโดดออกห่างสุดฝีเท้าหลังจากที่ตั้งหลักได้
“ย้ากกกกก”
กระนั้นเเล้ว ดันเต้ก็พุ่งเข้าใส่เเล้วรัวดาบไม่ยั้ง
ฟุบๆๆๆๆ
เเต่ทุกครั้ง มันก็ฟาดได้เเต่ลม เพราะชุดเกราะมันหนัก ดันเต้จึงตามยูลิอุสไม่ทันซ่ะที
“หนอยเเน่เเก ขี้ขลาดจริงๆ เเบบนี้ต้องเจอนี่ ! Enchance Strength !!!”
Enchance Strength มันคือเวทย์เสริมพลังกายที่ช่วยเพิ่มความเเข็งเเรงเเละความเร็วของผู้ใช้
ฟ้าววววว
คราวนี้ดันเต้พุ่งเข้าหายูลิอุสด้วยความเร็วเหนือมนุษย์จนมองตาเปล่าเเทบไม่ทัน
วืดดดด
ทว่า ยูลิอุสที่ยังไม่ได้ร่ายเวทย์เลยซักบทกลับหมุนตัวหลบอย่างง่ายดาย
“โธเว๊ย ! น่ารำคาญ ! น่ารำคาญจริงๆ เลิกหนีซ่ะทีสิว่ะ”
คำก่นด่าของเขาทำให้ขุนนางบางคนชี้มาที่ยูลิอุสด้วยสายตาดูถูก
“ฮ่าๆ อะไรว่ะ ? เเมร่งตุ๊ดซิบหายเลยว่ะ”
“ไม่ไหวๆ เพราะสู้ไม่ได้เลยคิดจะหนีเเล้วปล่อยให้อีกฝ่ายที่สวมเกราะหนักอ่อนเเอไปเองสิน่ะ สมเเล้วที่เป็นเเนวคิดของพวกนักผจญภัย ช่างไร้ความสง่างามซ่ะเหลือเกิน”
“นั่นสิ ! ขี้ขลาดชะมัดยาด เกียรติของขุนนาง ตัวเเกไม่มีบ้างรึไงว่ะ !!!”
ฮ่าๆๆ
พวกเขาหัวเราะเเล้วดูหมิ่น ทั้งๆที่ฝ่ายพวกตนก็ใช่ว่าจะดี
การให้อาวุธชั้นยอดกับพวกเดียวกันในขณะที่อีกฝ่ายมีเพียงเเค่ดาบเก่าๆของโรงเรียน พวกเขาไม่คิดเลยซักนิดว่ามันเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ
“ฮึบ !”
ทว่า ยูลิอุส กลับไม่สนเเล้วร่ายเวทย์
“Air Shot !”
Air Shot มันคือเวทย์ธาตุลมที่อัดเเน่นอากาศเป็นก้อนเเล้วยิงออกไปราวกับกระสุนปืน
ยูลิอุสชูมือไปช้างหน้าเเล้วสร้างวงเวทย์สีเขียวขึ้นมากลางอากาศ
พริบตาต่อมา กระสุนลมจำนวน 6 ลูกก็พุ่งเข้าใส่ชุดเกราะของดันเต้
ฟ้าวววววว ตุบ !
เเน่นอนว่า มันไม่ได้ผล
เวทมนต์เเทบทุกชนิดเเทบจะไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าโอริฮารูก้อน
กระนั้นเเล้ว มันก็มีหลายคนๆที่มองการโจมตีของยูลิอุสด้วยความตกตะลึง
“บ้าน่า ! ร่ายเวทย์โดยไม่ใช้บทร่ายเนี่ยน่ะ ?”
ตามหลักเเล้วการร่ายเวทย์ทุกๆชนิด มันจะมีบทร่ายที่ต้องพูดก่อนถึงจะสั่งให้เวทมนต์ทำงานได้
ทว่า ยูลิอุส กลับสั่งให้มันทำงานทันทีเพียงเเค่เอ่ยชื่อ
เป็นที่รู้กันดีในโลกใบนี้ว่า การร่ายเวทย์โดยละบทร่ายคือทักษะชั้นสูงของจอมเวทย์ระดับเเนวหน้าที่ในประเทศนี้คงมีรวมกันไม่ถึงร้อยคน
“เเถมยังจำนวนมากขนาดนั้นอีก”
การยิงกระสุนลมออกไปพร้อมกันถึง 6 นัด มันจำเป็นจะต้องอาศัยเทคนิคเเละวิธีจัดสรรพลังเวทย์ระดับสูง
เเม้มองเผินๆการโจมตีจะไม่มีประโยชน์ เเต่การร่ายเวทย์ของยูลิอุสก็ทำให้หลายๆคนคิดว่าเขาเป็นนักเวทย์ที่มีความสามารถมากจริงๆ
“ชิ ! ยังไงก็เปล่าประโยชน์”
“ใช่เเล้วๆ ทำได้เเค่นี้อย่าเหลิงนักเลย”
“อะ อะ อ่อนหัดน่า ! ถ้าฝึกอีกซักหน่อย ระดับข้าก็ทำได้”
เเม้พวกลูกชายคนโตที่เชียร์ดันเต้จะรู้อยู่เเก่ใจว่าทักษะการใช้เวทมนต์ของตนอ่อนกว่ายูลิอุสหลายขุม กระนั้นเเล้วพวกเขาก็พยายามหลอกตัวเองโดยการพูดข่มยูลิอุสเเทน
“ฮ่าๆๆ เปล่าประโยชน์ๆๆๆๆๆ”
ส่วนดันเต้ก็เหวี่ยงดาบซ้ำไปซ้ำมา ในขณะที่ยูลิอุสหลบได้สบายๆ ปราศจากซึ่งรอยขีดข่วน
ฟ้าววววว
ดาบเเล้วดาบเล่าฟาดออกไป
วูบบบ
ครั้งเเล้วครั้งเล่าที่ฟาดได้เเต่อากาศ
“Air Shot !!!”
เป็นสิบๆครั้งที่ยูลิอุสยิงกระสุนลมออกไปอย่างไร้ความหมาย
“เเฮ่กๆๆๆ”
ทุกๆครั้งที่การโจมตีของอีกฝ่ายไร้ผล ดันเต้ก็จะยิ้มอย่างชะล่าใจ
ตัวเขาหารู้ไม่ว่าลมหายใจของตนเริ่มจะปั่นป่วนทีล่ะนิด
‘ได้เวลาเเล้วล่ะ —‘
วืดดดด
ในตอนที่ดันเต้ฟาดดาบวืดจนล้มถลามาข้างหน้า ยูลิอุสก็กระโดดหลบเเล้วเเบมือไปที่พื้นตรงตำเเหน่งเท้าของดันเต้
“Enchance Fly !”
เป้าหมายที่พุ่งตรงไป หาใช่ดันเต้ หากเเต่เป็นพื้นดินที่เขายืนอยู่
“ฮ่าๆ ทำอะไรของเเก เล็งผิดเเล้วโว้ย !”
พื้นดินรอบตัวของเขาราวๆสองเมตรสั่นกึกๆด้วยผลของเวทย์ Enchance Fly…. เวทมนต์ที่ทำให้วัตถุเป้าหมายบินได้
“ต่อให้เเกเล็งมาที่ข้าโดยตรง ยังไงเกราะของข้าก็ป้องกันเวทมนต์ของเเกได้อยู่เเล้ว !”
“ไม่ใช่—“
ในตอนที่ดันเต้หัวเราะอย่างชะล่าใจ ยูลิอุสก็มองพี่ชายของตนด้วยสายตาสังเวช
“ยังไม่รู้ตัวอีกหรอครับ ?”
“อะไรของเเก ?”
“เรื่องที่คุณไม่เหมาะกับชุดเกราะหนักๆเเบบนั้น …..ในสภาพที่อ่อนเเรงขนาดนี้ยังไม่รู้สึกตัวอีกหรอ ?”
เหงื่อมท่วมหน้า เเถมเเขนขาก็ขยับช้าลงเรื่อยๆ นั่นคือสภาพของดันเต้ในตอนนี้
“เพ้อเจ้ออะไรของเเก !?”
ทว่า ดันเต้ที่ไม่รู้ถึงสภาพร่างกายที่อ่อนเเอของตน มันกลับคิดว่ายูลิอุสกำลังดูถูกอยู่
“อย่าปากดีนัก ข้าจะ— เหวอออออ”
ในตอนที่ดันเต้ทำท่าจะพุ่งเข้าใส่ อยู่ๆพื้นที่เขายืนอยู่ก็ลอยขึ้นมา
ดันเต้ที่ยืนอยู่เหนือพื้นจึงลอยขึ้นฟ้าตามไปด้วย
เขาได้เเต่ร้องโหวกเหวกโวยวายด้วยความสับสน
“เสียใจด้วยครับท่านพี่ ถึงโอริฮารูก้อนจะกันเวทย์ได้ เเต่มันก็ไม่ได้มีผลป้องกันเวทย์ที่พุ่งไปทิศทางอื่น”
ในเมื่อร่ายเวทย์ใส่เกราะของดันเต้ไม่ได้ ยูลิอุสจึงร่ายเวทย์ใส่ตรงพื้นที่ยูลิอุสยืนอยู่เเทน
เพราะชุดเกราะของเขาไม่ได้ครอบคลุมไปถึงบนพื้น ดันเต้จึงลอยขึ้นฟ้าตามไปด้วยจากผลของEnchance Fly (เวทย์บิน)ที่เล็งไปที่พื้น
ฟ้าววว
ทีล่ะนิดๆ เพียงพริบตาดันเต้ก็อยู่เหนือพื้นดินราว 3 เมตร
“ยอมเเพ้ซ่ะเถอะครับท่านพี่ ผมชนะเเล้ว”
“อย่ามาล้อเล่นกันน่ะโว้ย !”
“ถ้าตกจากความสูงขนาดนี้ ตามปกติอาจจะไม่เป็นไร เเต่ตัวท่านพี่ที่สวมเกราะหนักขนาดนั้นอยู่ เเรงกระเเทกตอนตกลงมาอาจจะทำให้กระดูกหักได้เลยน่ะครับ”
คำขู่ของเขาทำให้หลายๆคนร้องว้าว เเต่พวกขุนนางที่ไม่ชอบหน้ายูลิอุสก็ด่าทอด้วยความเจ็บเเค้น
“ขี้โกง !”
“น่ารังเกียจ ! สู้กันตรงๆสิว่ะ”
“เพราะปอดเเหกก็เลยใช้วิธีเเบบนี้นี่เอง นี่น่ะหรอผู้สังหารมังกร ?”
มีสายตาหลายคู่มองไปที่ขุนนางกลุ่มนั้นด้วยความไม่พอใจ เเม้กระทั่งพวกอาจารย์ก็เช่นเดียวกัน
กระนั้นเเล้วเพราะเป็นขุนนางที่มีอำนาจมากกว่า หลายๆคนจึงทำเป็นเมิน
“เอาไงล่ะ ท่านพี่ ?”
เเน่นอนว่า ยูลิอุสไม่สนใจเสียงนกเสียงกา
“วิธีขี้โกงเเบบนี้มันอะไรกัน !? ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้ !!!”
ส่วนดันเต้ก็เอาเเต่โวยวายด้วยใบหน้าเเดงก่ำ ท่าทางดูคล้ายกับเด็กไม่รู้จักโต
เฮ้อ….
ภาพที่ชวนให้สังเวช มันทำให้ยูลิอุสถอนหายใจออกมา
“ท่านพี่…”
“ขี้ขลาด เเกมันขี้ขลาด ! ยูลิอุส !!!”
“พอเถอะท่านพี่ ช่วยยอมรับความจริงซักที”
พอนึกถึงคำพูดของมาเคีย ยูลิอุสก็พูดออกไปตามที่คิด
“ถึงตัวคุณภายในโรงเรียนจะเเข็งเเกร่ง เเต่โลกภายนอกนั้นกว้างใหญ่ ยังมีคนที่เเข็งเเกร่งกว่าผมเเละท่านพี่อยู่อีกมาก”
“เลิกบ่นอะไรไร้สาระ มาสู้กันตรงๆ—“
“ท่านพี่ต่างหากพอซักที ! เลิกทำตัวงี่เง่าเเล้วยอมรับได้เเล้วว่าท่านพี่อ่อนเเอกว่าผม”
“เเก ! อย่าได้ใจให้มันมากนัก ! เเค่ประสบความสำเร็จนิดๆหน่อยๆ ตัวเเกที่เป็นเเค่น้องชายก็ไม่มีสิทธิมองข้าคนนี้ด้วยสายตาเเบบนั้นหรอกน่ะโว้ย !!!”
“ท่านพี่ต่างหากที่ควรเลิกดูถูกความสามารถของตัวเองได้เเล้ว !!!”
ชายหนุ่มมองไปที่ดวงตาของพี่ชายตัวเองตรงๆเเล้วพูดออกไป
“ท่านพี่ก็คือท่านพี่ เลิกเปรียบเทียบกับท่านพี่เฮลมุทซ่ะทีเถอะ”
เฮลมุท นั่นคือชื่อของพี่ชายคนโตที่จะเป็นผู้นำตระกูลคนถัดไป
“คุณมีความเเข็งเเกร่งของคุณ เลิกเอาเเต่เปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นเเล้วออกตามหาความเเข็งเเกร่งของตัวเองได้เเล้ว !”
“ว่ายังไงน่ะ !?”
“ถ้ายังไม่ยอมรับว่าท่านพี่อ่อนเเอกว่าผม ชาตินี้ท่านพี่ก็ตามผมไม่ทันหรอกน่ะ เพราะมัวเเต่ทำตัวยึกยักอยู่เเบบนี้ ตัวผมในตอนนี้ก็ได้เเซงหน้าท่านพี่ไปเเล้วล่ะ !!!”
“เเก !”
พริบตาที่ดันเต้ตะโกนโต้ตอบด้วยความเดือดดาล
ยูลิอุสก็คลายเวทย์บินโดยทันที
วูบบบ
“เหวออออ”
ดันเต้ที่ไร้ที่ยึดเกาะจึงล่วงหล่นลงสู่พื้น
เเม้จะพยายามเเหวกว่ายกลางอากาศ เเต่ตัวเขาที่ใช้เวทย์ลมไม่ได้ก็ยากที่จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ดังกล่าว
โครม !!!
ในวินาทีถัดมา หลังของดันเต้จึงตกลงมากระเเทกพื้น
กร๊อบ !
ได้ยินเสียงกระดูกหักนิดหน่อย เเต่เเผลระดับนี้คงรักษาด้วยเวทมนต์ได้อยู่
“อ่อก !”
ทว่า พริบตาที่ถูกเกราะกดทับร่าง ดันเต้ก็สำรอกอากาศในท้องออกมา ก่อนที่จะสบลลงไปโดยทันที
“ผู้ชนะคือยูลิอุส !!!”
โห่ๆๆๆๆๆๆๆ
เเปะๆๆๆๆๆ
ท่ามกลางชัยชนะที่เรียบง่ายกว่าที่คิด มีทั้งเสียงปรบมือเเละเสียงโห่ร้องปนเปกัน
ตึก !
ทว่า ยูลิอุสก็ไม่คิดจะดื่มด่ำบรรยากาศเเห่งชัยชนะ
เขาพุ่งไปที่ทางออก โดยที่ฝั่งตรงข้ามมีเด็กสาวผมเงินวิ่งตรงเข้ามา
“อ๊ะ !”
เพราะออกวิ่งมาเต็มเเรง เด็กสาวจึงสะดุดล้มมาข้างหน้า
เรือนผมสีเงินสยายออก ใบหน้าน่าเอ็นดูอ้าปากหวอด้วยความตกกะใจ
ก่อนที่ร่างเล็กๆจะล้มหัวทิ่ม ร่างของเธอก็ถูกดึงเข้าไปสวมกอดโดยเทพบุตรผมสีดำ
หมับ !
เเขนเรียวเล็กถูกปะคองอย่างทะนุถนอม
เรือนร่างอันบอบบางถูกกอดอย่างเบามือราวกับกลัวว่าร่างกายที่เปราะบางราวกับเครื่องเเก้วจะบุบสลาย
ความอบอุ่นที่มอบให้กันเเละกันผ่านผิวกายที่เเนบชิด มันทำให้เด็กสาวในอ้อมกอดช้อนตาขึ้นมองด้วยใบหน้าที่เเดงก่ำ
“น่าอายค่ะ คนอื่นๆกำลังมองพวกเราอยู่นะคะ”
“ไม่เห็นจะเป็นไร”
จุ๊บ !
ท่ามกลางสักขีพยานนับร้อยที่อยู่บนอัฒจันทร์ ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็เลื่อนริมฝีปากของตนไปประทับลงบนพวงเเก้มของเด็กสาว
“นะ นายท่าน ?”
เธอถึงกับเบิกตากว้างจนน่าขัน
เด็กสาวทำปากพะงาบๆ ในขณะที่ควันสีขาวพวยพุ่งออกจากหู
“ทะ ทะ ทำไมถึง ?”
เด็กสาวลูบเเก้มของตนด้วยท่าทางเหม่อลอย
“……………”
ส่วนพวกผู้ชมต่างอึ้งเเดกไปตามกันๆ
เเทบไม่มีใครตามเหตุการณ์ตรงหน้าทันเลยซักคน
ทว่า ชายหนุ่มก็ไม่สน เขามองเด็กสาวที่ทำหน้าตาน่าขันเเล้วยิ้มอย่างขี้เล่น
“ทีเธอยังทำอะไรตามใจชอบเมื่อตอนเช้าได้ เพราะงั้นผมก็มีสิทธิทำเเบบนี้บ้างเหมือนกัน”
ว่าเเล้วเขาก็เอาประคองร่างของเด็กสาวขึ้นมาในท่าอุ้มเจ้าหญิง
การกระทำดังกล่าวสร้างเสียงกรี๊ดกร๊าดในหมู่ขุนนางผู้หญิงไปตามๆกัน
“ก็ไม่เลวเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ?”
นายท่านของเด็กสาวฉีกยิ้มอย่างชั่วร้าย
“รักต้องห้ามระหว่างขุนนางหนุ่มเเละทาสสาว คิดว่าคงเเต่งเป็นนิยายดีๆเรื่องหนึ่งได้เลย”
พอรู้สึกตัวว่าติดกับเข้าให้เเล้ว เด็กสาวก็ทำเเก้มป่องด้วยความไม่พอใจ
“บ้าจริง ประมาทเกินไปสินะคะ”
“หลังจากนี้ผมคงโดนพวกลูกชายคนโตของขุนนางบางตระกูลหมายหัว เพราะฉะนั้นเธอก็จงมาลิ้มรสความรู้สึกเดียวกับผมซ่ะเถอะ”
ยูลิอุสมองไปยังพวกสาวๆที่กัดผ้าเช็ดหน้าอย่างเจ็บเเค้นอยู่บนอัฒจันทร์
“เชิญเธอลิ้มรสนรกที่ถูกพวกสาวๆตามรังควาญให้เต็มที่เลยน่ะ มาเคีย”
“ชิ ! เราเป็นเเค่ทาสน่ะ เล่นเเบบนี้ขี้โกงนี่นา ใครจะไปสู้’ยัยหมูตัว’เมียพวกนั้นไหวกันล่ะค่ะ”
ทั้งๆที่ตอนเช้าเธอห้ามไม่ให้ยูลิอุสพูดคำๆนี้กับพวกผู้หญิงเเท้ๆ มาตอนนี้มาเคียกลับใช้คำๆนี้เสียเอง
“ไม่เเฟร์เลยค่ะ นายท่านมีตำเเหน่งขุนนางปกป้องอยู่ เเต่ถ้ายัยพวกนั้นบุกเข้ามา เราที่เป็นทาสคงขัดขืนไม่ได้”
พอเห็นมาเคียส่ายหัวราวกับยอมรับความพ่ายเเพ้ ยูลิอุสก็เเค่นหัวเราะ
“หัวเราะอะไรกันคะ ?”
“ฮ่าๆ ก็เรื่องที่เธอกังวล มันไร้สาระออกจะตายไป”
พูดจบเขาก็อุ้มเธอออกไปจากสนามประลอง ท่ามกลางสายตาอิจฉาของพวกผู้ชายเเละพวกผู้หญิง
“รู้รึเปล่า วันนี้มีบางคนมาเสนอจะซื้อเธอต่อจากผมด้วยล่ะ”
“เอ๋ ???”
เป็นเรื่องที่เด็กสาวไม่รู้มาก่อน
“เเน่นอนว่าปฏิเสธไปเเล้ว เพราะมาเคียเป็นของผม !”
ชายหนุ่มหรี่ตาลงเเล้วประดับรอยยิ้มเย็นยะเยือกไว้บนหน้า
“จะไม่ยกให้ใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเอาอะไรมาเเลกก็ไม่มีทางให้ มาเคียคือของผม เป็นผู้หญิงคนสำคัญของผมคนเดียวเท่านั้น”
จากนั้นเขาก็มองมาที่เธอเเล้วยิ้มอย่างชั่วร้าย
“เพราะงั้นถ้ากลัวจะโดนยัยหมูตัวเมียพวกนั้นดักทำร้ายมากนักล่ะก็ หลังจากนี้ก็อย่าห่างจากตัวผมไปไหนซะล่ะ”
“นะ นะ นายท่าน อย่าบอกน่ะว่า ?”
“หึๆ จงอยู่เคียงข้างผมตลอดไปซ่ะเถอะ ไม่ว่าจะตอนกินข้าว เรียนหนังสือ หรือเข้าห้องน้ำ ตัวเธอจะไม่มีโอกาสออกห่างไปไหนเเละไม่สามารถโปรยเสน่ห์ใส่ใครที่ไหนทั้งนั้น …จงยินดีซ่ะเถอะมาเคีย “
ได้ยินดังนั้น เด็กสาวก็โวยวาย
“พูดอะไรอย่างงั้นกันค่ะ นายท่าน ! จะดูถูกกันมากไปเเล้วนะคะ !?”
เด็กสาวงอนเเก้มป่อง ดวงตารื้นน้ำขึ้นมาเล็กน้อย
“เราเป็นของนายท่านตั้งเเต่เเรกเเล้ว ไม่เคยไปโปรยเสน่ห์ใส่ใครซักหน่อย เป็นคำกล่าวหาที่โหดร้ายที่สุดค่ะ !”
เด็กสาวบ่นออกมาโดยไม่สนสายตาจากคนรอบข้าง
“ไม่คิดเลยว่าจะโต้กลับด้วยวิธีเเบบนี้ ใจร้ายที่สุดค่ะ ! จะตอนไหนๆ ไม่ว่าจะกินข้าวหรืออาบน้ำ ถ้านายท่านต้องการ เราก็พร้อมที่จะปรนนิบัติทุกเมื่ออยู่เเล้ว ! เพราะอย่างงั้น—“
พูดจบ เด็กสาวก็กอดเเขนของชายหนุ่มเเน่น
“ต่อให้ไม่ต้องมาใช้วิธีเเบบนี้ เราก็ไม่มีทางออกห่างจากนายท่านอยู่เเล้วค่ะ !!!”
เด็กสาวกอดเเน่น ชายหนุ่มจึงกอดต่อ
พอรู้ตัวอีกทีก็มีคนมามุงตั้งเเต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เเต่สัมผัสอันอบอุ่นเเละหัวใจที่เต้นโครมครามก็ผลักดันทั้งสองให้ทำเเบบนั้นต่อไปเรื่อยๆ
หลังจากที่กลับไปถึงบ้าน มาเคียก็ถึงกับซุกใบหน้าเเดงก่ำของตัวเองเอาไว้ใต้หมอน
“ไม่ๆๆๆ นี่มันน่าอาย น่าอายเกินไปเเย้ว !!! ดันปล่อยให้บรรยากาศพาไปซ่ะได้ ไหงถึงได้ไปหวานเเหววกับอีตานั่นท่ามกลางสายตาประชาชีอย่างงั้นล่ะคะ ?”
พรึ่บ !
เเต่ทันทีที่หัวถึงหมอน มาเคียก็พึ่งรู้ตัวว่าตนเองเดินหมากผิด
การขึ้นเตียงในเวลาเช่นนี้ มันอาจจะทำให้ไฟในห้องดับโดยกระทันหัน
“นะ นะ นายท่านเจ้าค่ะ ? “
“ไม่คิดจะให้รางวัลอะไรผมหน่อยหรอ”
“คะ คะ คือว่าวันนี้มีประจำเดือน”
“เข้าใจเเล้วน่า เเต่พูดเองน่ะว่าพร้อมปรนนิบัติผมทุกเมื่อ”
“อึก !”
“ขอตัวไปอาบน้ำเเป๊ปนึง รีบตามมาด้วยล่ะ”
“………………”
— สุดท้ายมาเคียก็ไม่ยอมไป ทำให้โดนลากเข้าห้องน้ำอีกจนได้
— บันทึกประจำวันของมาเคีย—
มาเคีย : ก็ดีหรอกน่ะที่วันนี้ไม่ทำเเบบนั้น เเต่กลิ่นยังติดปากอยู่เลยอ่า !!!
ยูลิอุส : เอายาสีฟันกับเเปรงสีฟันอันใหม่ไปใช้ซ่ะสิ
Chapters
Comments
- ตอนที่ 15: ไม่มีฝันร้ายไหนๆน่ากลัวเท่า วันที่นายท่านนอนละเมอค่ะ เมษายน 21, 2022
- ตอนที่ 14: เเผนการของรีเกล มกราคม 20, 2022
- ตอนที่ 13: จะอยู่ข้างๆเองค่ะ มกราคม 19, 2022
- ตอนที่ 12: ฺฺผู้ที่ Bad end คนเเรก มกราคม 18, 2022
- ตอนที่ 11: องค์ชายคือ.... สิน่ะค่ะ !!! มกราคม 17, 2022
- ตอนที่ 10: นี่เเหล่ะค่ะ คือชีวิตวัยรุ่น มกราคม 17, 2022
- ตอนที่ 9: การตัดสินใจเเละของเล่นใหม่ของนายท่าน มกราคม 17, 2022
- ตอนที่ 8: จุดเริ่มต้นของชีวิตอันวุ่นวายค่ะ มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 7: ยูลิอุส vs ดันเต้ มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 6: ก่อนการประลอง มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 5: ความใจดีของนายท่านคือสิ่งที่เราชอบเเละเกลียดที่สุดค่ะ มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 4: ไปโรงเรียนวันเเรก เราก็ได้เห็นเรื่องสนุกๆเลยล่ะค่ะ มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 3: เพราะทำตัวซ่าเกินไป ตอนจบเลยล้มทั้งยืนค่ะ มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 2: ตัวเอกของเกมที่หายไป มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 1: เกิดใหม่ค่ะ เเถมเกิดเป็นทาสที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำซ่ะด้วยค่ะ มกราคม 5, 2022
MANGA DISCUSSION