ตอนที่ 4: ไปโรงเรียนวันเเรก เราก็ได้เห็นเรื่องสนุกๆเลยล่ะค่ะ
เช้าวันใหม่ เราที่หมดสภาพเกือบจะหลับไม่ตื่น
ถ้าไม่ได้นายท่านมาปลุกคงนอนต่อไปยันตอนเที่ยงเเน่ๆ
โลกใบนี้หนึ่งสัปดาห์มี 7 วัน เเละเวลาก็เดินเท่าโลกก่อน
โดยนายท่านต้องไปโรงเรียนช่วงจันทร์ถึงศุกร์รวม 5 วัน เเล้วถึงได้พักวันเสาร์อาทิตย์
หากดูตามปฏิทิน วันนี้คือวันพุธ กว่าจะได้พักก็อีก 2 วัน …ไม่สิ วันเสาร์อาทิตย์สำหรับเรา มันคือวันที่ต้องทำงานหนักทั้งวันต่างหาก
“เเต่งตัวได้เเล้วมาเคีย”
เพราะวันนี้ตื่นสาย นายท่านที่เเต่งตัวเรียบร้อยเลยมาช่วยเราใส่เสื้อผ้า
ดูเหมือนจะสลับบทบาทกันหน่อยๆ เเต่ให้นายท่านช่วยใส่เสื้อผ้าให้ก็ไม่ได้เเย่ขนาดนั้น
ภาพใบหน้าเขินอายของนายท่านขณะช่วยเราใส่กระโปรง มันช่างน่าเอ็นดูซ่ะจริงๆ
“มาเคียเเก้มเเดงหมดเเล้วน่ะ”
“สะ สะ เเสงเเดดมันส่องเข้ามาต่างหากค่ะ !”
อีตานี้พูดอะไรของมัน ?
คิดว่าเเค่ถูกเห็นกางเกงนในเราจะอายรึไง ?
ฮึ ! เพ้อเจ้อน่า
“ไปทานข้าวกัน”
ส่วนพวกข้าวเช้า นายท่านก็เตรียมไว้ให้เรียบร้อย
ยิ่งไปกว่านั้นรอบนี้ นายท่านยังเตรียมข้าวกล่องเอาไว้ให้อีกด้วย
“ปกติทานข้าวที่โรงอาหารไม่ใช่หรอ ?”
“วันนี้เธอมาด้วย เพราะงั้นการจะไปทานที่โรงอาหาร มันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่นั่นไม่มีที่นั่งสำหรับทาส”
เนื่องจากโลกใบนี้เเบ่งชนชั้นต่างๆอย่างชัดเจน
พวกทาสจึงไม่มีสิทธินั่งเก้าอี้ทัดเทียมกับเจ้านายของตน
“เดี๋ยวเราจะไปกินในห้องกัน”
รู้สึกผิดหน่อยๆ เเต่พอเเย้งไป นายท่านก็บอกไม่เป็นไร
“เบื่อใช่ไหมล่ะ ? อยู่เเต่ในบ้านหลังเล็กๆหลังนี้มาหนึ่งเดือนเเล้ว ลองออกมาสูดอากาศข้างนอกกับผมหน่อยดีกว่า”
ถ้านายท่านว่างั้นก็ตามนั้นก็ได้
การได้ไปโรงเรียนพร้อมกับนายท่านก็ถือเป็นเรื่องน่าสนใจไม่ใช่น้อย
หลังจากที่เตรียมตัวทุกอย่างเสร็จ พวกเราก็เดินออกจากบ้าน
เอี๊ยดด ปึ้ง !
พอปิดประตูเเล้วหันหลังกลับไปมอง เราก็พบบ้านสองชั้นหลังหนึ่งที่หน้าตาดูใหม่เอี่ยมอ่อง
พื้นที่ในรั้วมีตัวบ้านอยู่ 80% เเม้จะโดยรวมเนื้อที่จะไม่กว้างมาก เเต่อีก 20% ที่เหลือก็มีสวนดอกไม้ขนาดย่อมตั้งอยู่
หากอิงตามเนื้อเรื่องของเกม จริงๆเเล้วยูลิอุส(นายท่าน)ควรจะไปอยู่หอพักประจำที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้เเละกลายเป็นรูมเมทของพระเอกเกม
เพราะว่ายูลิอุสนั้นเป็นบุตรชายลำดับที่สามของดยุคท่านหนึ่งเเละดยุคท่านนั้นไม่ค่อยอยากส่งเสียงยูลิอุสซักเท่าไหร่
สาเหตุของมันเป็นเพราะว่า ยูลิอุส เป็นลูกที่เกิดจากภรรยาซึ่งเเต่งงานทางการเมือง หาได้มีความรักใดๆเกิดขึ้นระหว่างท่านพ่อเเละท่านเเม่ของยูลิอุส
พอท่านเเม่ของของยูลิอุสเสียชีวิตลง ยูลิอุสก็ได้รับเเค่การดูเเลขั้นพื้นฐานเเละถูกตัดออกจากกองมรดกของตระกูลโดยทันที เนื่องจากท่านพ่อของยูลิอุสไม่ค่อยชอบหน้าของเขาที่คล้ายกับผู้เป็นเเม่ เเถมตัวเขายังมีลูกชายลูกสาวที่เขารักจริงๆอยู่อีกตั้ง 5 คน
ถ้าไม่ติดว่าเป็นข้อตกลงระหว่างทางโรงเรียนขุนนางกับท่านเเม่ของยูลิอุสเมื่อนานมาเเล้ว ท่านพ่อของยูลิอุสคงไม่ส่งมาเรียนที่โรงเรียนขุนนางเเล้วด้วยซ้ำเพราะค่าเล่าเรียนมันเเพงมากๆ ที่ทำก็เพื่อรักษาหน้าของตัวเองล้วนๆ
เขาได้ตกลงกับยูลิอุสว่า หากตัวยูลิอุสเรียนจบเมื่อไหร่ก็ให้หาทางดิ้นรนใช้ชีวิตต่อด้วยตนเอง นอกจากนี้เงินที่ส่งมาก็ยังน้อยมากๆ
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ ยูลิอุสเเละพระเอกของเกมอย่างเลออนสนิทกันได้
พวกเขาทั้งคู่ต่างไม่ค่อยมีเงิน เลออนถูกขุนนางคนอื่นๆกลั่นเเกล้ง ส่วนยูลิอุสก็โดนพี่ชายที่อยู่ชั้นปีสูงกว่าดูถูกเป็นประจำ
คนที่เจออะไรคล้ายกันๆก็มักอยู่ด้วยกันได้อ่ะน่ะ สุดท้ายตามเนื้อเรื่องเกมทั้งสองก็เลยเป็นเพื่อนสนิทกัน โดยที่ยูลิอุสมักจะเป็นพ่อสื่อในการทำให้พระเอกจีบสาวๆในฮาเร็มได้สำเร็จ
ทว่า พอมาที่โลกเเห่งความเป็นจริง ณ ขณะนี้ มันก็ต่างจากในเกมอยู่บางส่วน
นายท่าน(ยูลิอุส) ยังคงสูญเสียเเม่ไปตั้งเเต่ยังเด็กเหมือนเดิม เเต่ในรอบนี้ตัวเขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องการใช้เงินเนื่องจากออกไปเป็นนักผจญภัยตั้งเเต่เด็กๆ
ตั้งเเต่เป็นทารกก็พยายามฝึกใช้เวทมนต์ จนตอนนี้มีพลังเวทย์มหาศาล
สมัยอยู่ที่เขตปกครองของพ่อตัวเอง นายท่านก็ได้ไปสมัครเป็นนักผจญภัยเเล้วเผอิญปราบมังกรได้สำเร็จจนได้ฉายาว่า Drago Slayer
การกระทำในครั้งนั้นทำให้นายท่านมีชื่อเสียงดังมาถึงเมืองหลวง เเถมสมบัติที่เก็บมาจากรังมังกร มันยังมีจำนวนมหาศาล
เเทบจะเรียกว่ารวยข้ามคืนเลยทีเดียว
นั่นเลยทำให้ท่านพ่อของนายท่านไม่กล้าตัดเขาออกจากกองมรดก เพราะกะว่าจะใช้นายท่านเป็นกระเป๋าตังสำรองยามที่เขตปกครองของตนขาดเเคลนเงินทุน
ปัญหานี้สร้างความหนักใจให้นายท่านไม่ใช่น้อย จนนายท่านกะว่าพอตัวเองจบการศึกษาเมื่อไหร่ นายท่านจะเข้าเฝ้าองค์ราชาเเล้วขอให้ตัดชื่อตนออกจากตระกูลพ่อเเล้วตั้งตัวเป็นตระกูลขุนนางใหม่เเทน
ผลของการที่จัดการมังกรได้ มันทำให้นายท่านถูกราชาเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ถึงขนาดที่กะจะให้มาเป็นจอมเวทย์ในพระราชสำนักหลังจากที่เรียนจบ
เอาง่ายๆก็คือนายท่านต่างจากยูลิอุสในเกม ตรงที่ตัวเองรวยเเละมีเส้นสายดีนั่นเเหล่ะ
เเน่นอนว่า บ้านที่พวกเราอยู่ตอนนี้ มันก็ซื้อด้วยเงินที่ได้จากการปราบมังกรนั่นเอง
ทว่า พอข่าวที่ว่านายท่านซื้อบ้านได้ยินไปถึงหูของตระกูล มันก็ทำให้พี่ชายของนายท่านซึ่งต้องอยู่หอทั้งสองคนรู้สึกอิจฉา
เห็นนายท่านเล่าว่าเจ้าพวกนั้นหน้าด้านมาขอเงินไปซื้อบ้านบ้าง เเต่นายท่านก็ปฏิเสธกลับไปอย่างไร้เยื่อใยจนสองคนนั้นโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง
“เเล้วทำไมถึงไปรู้จักเลออนที่เป็นพระเอกเกมได้ล่ะ ?”
“บางครั้งคนเราก็ต้องการความสงบบ้างน่ะ”
ข่าวเรื่องที่นายท่านปราบมังกรได้ทำให้มีตระกูลขุนนางบางตระกูลเล็งเห็นผลประโยชน์จากตัวของนายท่าน
มันเลยทำให้ช่วงเทอมเเรก นายท่านมีสาวๆมาจีบอยู่บ่อยครั้ง
“เเน่นอนว่าปฏิเสธไปทั้งหมด”
พอเห็นพระเอกของเกมมีเพื่อนน้อย ตัวเองก็เลยไปขอเป็นเพื่อนด้วยซ่ะเลย
“พอมีเพื่อนเป็นสามัญชน พิธีรีตองก็ไม่ค่อยมีมากซักเท่าไหร่”
นั่นก็จริง
โชคดีที่นายท่านคิดเเบบนั้น เนื้อเรื่องจึงต่างไปจากเดิมไม่มากนัก
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ”
หลังจากที่ครุ่นคิดเเละปะติดปะต่อข้อมูลเสร็จ นายท่านก็ยื่นมือมาหาเรา
“จับมือ ?”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“ไม่ใช่เด็กๆเเล้วน่ะ”
“งั้นก็ไม่ต้อง”
“……………..”
เเต่พอมองไปยังถนนที่มีคนเดินขวักไขว่กันไปมาสลับกับนายท่านที่ทำหน้าเสียดาย
เราเลยยื่นมือไปคว้าฝ่ามือที่หยาบกระด้างของนายท่านเอาไว้
คงจะฝึกดาบมาหนักน่าดู มือถึงได้สากมากขนาดนี้
“?”
“คนเยอะค่ะ ถ้าหลงเเล้วจะมีปัญหา อย่าเข้าใจผิดว่าเราอยากจับมือด้วยสิ”
พออ้างไปเเบบนั้น นายท่านก็ไม่พูดอะไรออกมา นอกเสียจากจูงมือของเราเเล้วลดความเร็วลงให้ทันกับตัวเราที่เดินช้ากว่า
เป็นคนที่ชอบเอาใจใส่ไม่เปลี่ยนเลย ถ้าเอาข้อดีจุดนี้ไปเพิ่มตอนกลางคืนได้ด้วยก็คงดี
“มีสายตาเเปลกๆมองมาทางนี้เต็มเลย”
“ปกติไม่ค่อยมีใครเห็นทาสที่ไหนเเต่งตัวดูดีขนาดนี้เเล้วจูงมือเดินตลาดกลับเจ้านายตัวเองหรอกนะ”
“งี้นี่เอง ความน่ารักนี่เป็นบาปสิน่ะ”
ถึงว่าทำไมชอบมีคนมองมาที่คอของเราตลอด บางทีคงกำลังสงสัยปลอกคอทาสของเราอยู่เเน่ๆเลยค่ะ
เเต่สาเหตุผลักๆคือการที่เราเป็นสาวน้อยที่น่ารักสุดๆ
“เป็นความมั่นหน้าที่น่าหมั่นไส้จัง ถึงจะจริงก็เถอะ”
“ทำเป็นพูด นายท่านก็หน้าตาดีไม่ใช่หรอ เห็นเล่าว่าสาวๆเข้าหาเยอะเลยนี่นา”
“ถ้าเหตุผลมีเเค่เรื่องหน้าตาก็คงดี….”
ระหว่างที่กำลังคุยกันเรื่อยเปื่อย เราก็มองภาพทิวทัศน์ซึ่งรายล้อมอยู่รอบตัว
ข้างทางของเราเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆมากมาย
เเต่ล่ะร้านค่อนข้างดูดีมีระดับ เหมือนกับมีไว้ให้ชนชั้นสูง
ซึ่งมันก็ไม่เเปลก เนื่องจากเมืองเเห่งนี้เป็นเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนประจำราชวงศ์เเถมยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาของทวีปเเห่งนี้
มีเชื้อพระวงศ์เเละขุนนางทั้งจากในอาณาจักรเเละนอกจากอาณาจักรมาเรียนกันที่โรงเรียนในเมืองเเห่งนี้เต็มไปหมด ถึงขนาดที่ 30% ของเมืองเเห่งนี้คือคนชั้นสูง
โดยเมืองเเห่งนี้มีชื่อว่า เมือง ‘เอดูเชี่ยน’ หรืออีกชื่อคือนครเเห่งการศึกษา
ส่วนโรงเรียนประจำราชวงศ์ที่ทำให้เมืองเเห่งนี้เป็นที่โด่งดังมีชื่อว่า โรงเรียนอัลฟร็อด มันเป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งของทวีปยูโรเซียเเห่งนี้
อ้อ เกือบลืมบอกอีกอย่าง อาณาจักรของพวกเราในตอนนี้มีชื่อว่า อาณาจักรดูรันดัล ค่ะ
“เเฮ่กๆ”
เเต่จะว่าไงดีล่ะ
“อืออ…ไม่ไหวเเล้วค่ะ”
หลังจากที่เดินกันมาตั้งนาน มันก็ยังไม่ถึงโรงเรียนซ่ะที
“พวกเราพึ่งเดินกันมาเเค่สามร้อยเมตรเองน่ะ ? ราวๆ 5 นาทีเศษๆเองด้วย”
“ขอโทษค่ะนายท่าน ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา เราเเทบไม่ได้เดินออกจากห้องสี่เหลี่มเล็กๆเลย”
ตอนถูกขังก็อยู่ในห้องเดี่ยว พอโดนจับเป็นทาสก็อยู่ในกรงขัง หลังจากที่นายท่านซื้อมาเราก็เเทบไม่ได้เดินออกจากตัวบ้าน
การที่เราตัวเล็กเพราะขาดสารอาหาร เเละไม่ค่อยมีเเรงจากการที่ไม่เคยออกกำลังกายมาทั้งชีวิต มันก็คงไม่เเปลก
สาเหตุที่หนีตายตอนถูกจอมมารอัลเฟอุสไล่ฆ่าได้ มันมากจากการฝืนร่างกายบวกกับความกลัวล้วนๆ
พอเป็นตอนนี้่ที่มีนายท่านอยู่เเละชีวิตปลอดภัย เผลอเเป๊ปเดียวขาที่เคยวิ่งเเค่ครั้งเดียวในชีวิตก็หมดเเรง
“ควรจะออกกำลังกาย เเฮ่กๆ บ้างซ่ะเเล้วสิ”
“เฮ้อ…ช่วยไม่ได้”
พอเห็นเราเกาะขาของนายท่านด้วยสีหน้าซีดเป็นไก่ต้ม
นายท่านก็เอามือช้อนก้นของเราขึ้นมาเเล้วเปลี่ยนให้เรานอนอยู่ในท่าอุ้มเจ้าหญิง
“อุก ! น่าอายค่ะ คนอื่นเขามองกันเต็มเลย”
“ช่วยไม่ได้ ขืนรอเธอกลับมามีเเรง คงเข้าเรียนสายพอดี”
เเม้นายท่านจะหน้าเเดงเเละเราจะใจเต็น เเต่นายท่านก็ทำเป็นเมินสายตาของคนรอบข้างเเล้วอุ้มเราเข้าโรงเรียน
จี่…….
เเน่นอนว่ามีสายตาอยากรู้อยากเห็นมองมาที่เราทั้งคู่เต็มไปหมด
“ดันเปิดตัวด้วยภาพลักษณ์เเปลกๆจนได้”
“หลังจากนี้ก็ฝึกออกกำลังกายซ่ะบ้างล่ะ”
“ค่ะ…”
ไม่สามารถเถียงนายท่านที่พูดอย่างจริงจัง
จะว่าไปที่ทำกันตอนกลางคืน ถึงจะถือว่าเป็นการออกกำลังกาย เเต่มันก็ไม่ใช่การออกกำลังกายสินะคะ
กึก !
หลังจากที่เดินผ่านฝูงนักเรียนได้ พวกเราก็มาถึงห้องเรียนของนายท่านซึ่งอยู่ห้อง D
หากเเบ่งตามลำดับชั้นของโรงเรียน สามารถเเบ่งออกเป็น 3 ระดับ 1 ,2 เเละ 3 โดยที่นายท่านนั้นยังเป็นนักเรียนปีหนึ่งเทอม 2
ส่วนห้องก็เเบ่งเเต่ล่ะชั้นปีออกเป็น A,B,C,D,E,F รวม 6 ห้อง ที่มีการจัดคล่ะห้องเพื่อความหลากหลาย
ทว่า ถึงจะมีเเค่ 6 ห้อง นักเรียนที่อยู่เเต่ล่ะห้องก็มีจำนวนกว่า 70 คน
ในห้องเรียนที่เรียนก็คล้ายกับในมหาลัยที่มีห้องเลคเชอร์รูมขนาดใหญ่หรือก็คือขนาดๆคล้ายกับพวกโรงหนัง
การเรียนในเเต่ล่ะวิชาไม่ได้บังคับเข้า เพราะคะเเนนทุกอย่างขึ้นอยู่กับการสอบ
ตราบใดที่ฉลาดก็ไม่ต้องเข้าเรียนเเล้วไปรอสอบจริงเอาทีเดียวก็ได้
เเต่ส่วนใหญ่ก็เข้ากัน เพราะต้องการผูกสัมพันธ์ระหว่างขุนนางเเละอาจารย์ที่สอนก็มีความสามารถสูง
ตึก !
พอนายท่านเปิดประตูเข้าไป ทุกๆคนในห้องก็มองมาที่เราทั้งคู่จนเกิดเสียงดังพรึ่บ !
เเน่นอนว่า มันย่อมเกิดคำถามมากมายตามมาเป็นธรรมดา
“นี่ๆ ท่านยูลิอุส เด็กคนนั้นคือทาสของท่านอย่างงั้นหรอ ?”
“ใช่เเล้วครับ…”
“ทั้งๆที่เคยบอกว่าไม่คิดจะหาข้ารับใช้เนี่ยน่ะ ?”
“ครับ…..”
“บ้าน่า ! เด็กสาวที่น่ารักขนาดนี้เเถมอายุน่าจะไม่เกิน 10 ขวบ”
จริงๆ 13 เเล้วค่ะ
“ท่านยูลิอุสมีรสนิยมเเบบนี้เองหรอ ? ถึงว่าไม่สนพวกสาวๆในห้องเลย”
“ครับ”
“จริงๆเเล้ว ท่านคือโลลิค่อนสิน่ะ !”
“ครับ”
เอ่อ..นายท่านเจ้าค่ะ ทุกๆคนเขาทำหน้าอึ้งกันหมดเเล้ว
ช่วยเลิกตอบสั้นเเล้วปฏิเสธซักนิดเถอะค่ะ
โดยเฉพาะไอ้ที่บอมรับว่าเป็นโลลิค่อนนี่ มันทำให้พวกสาวๆหน้าซึดกันหมดเเล้ว
“ท่านยูลิอุส เด็กคนนี้เป็นอะไรกับกับท่านหรอค่ะ”
“ทาสกามครับ”
“อะเฮื้อ ! “
“เเย่เเล้ว ! มีคนเป็นลม พาไปห้องพยาบาลที !!! “
มีสาวใจกล้าคนหนึ่งมาถามนายท่าน เเถมนายท่านยังตอบกลับไปตรงๆจนเธอสลบอีก
หมับ !
เราคว้าเเขนเสื้อของนายท่านเพื่อเรียกสติ ก่อนที่จะกระซิบให้นายท่านได้ยิน
“บอกเเบบนั้นไปจะดีหรอคะ ?”
“ไม่เห็นเป็นไร ยังไงผมก็ไม่สนผู้หญิงคนอื่นนอกจากเธออยู่เเล้ว”
“อืม…เเบบนี้ มันจะมีปัญหาในหลายๆความหมายเลยนะคะ”
สำหรับขุนนางเเล้ว การมีภรรยาหลายคน มันถือเป็นเรื่องปกติที่ช่วยบ่งบอกถึงอำนาจเเละเป็นการกระจายอำนาจในกรณีที่ตระกูลใหญ่เกินกว่าที่คนไม่กี่คนจะดูเเลไหว
หลังจากนี้ถ้าให้ความสำคัญกับการก้าวหน้าทางการงาน การที่นายท่านเเต่งงานกับขุนนางสาวหลายๆคนเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตระกูล มันจะทำให้นายท่านได้ประโยชน์มากกว่า
การสนใจเเต่ความรักเเบบวัยรุ่นที่รักเดียวใจเดียวเเล้วดันมาให้ความสำคัญกับทาสที่ให้ผลประโยชน์อะไรไม่ได้ มันไม่ส่งผลดีต่องานในอนาคตเลยซักนิด ถ้าคิดตามหลักของโลกใบนี้
เเน่นอนว่า ถึงข้างในจะมีเเนวคิดของโลกก่อนที่ให้ยึดหลักผัวเดียวเมียเดียวอยู่ เเต่เมื่อมาอยู่ที่นี่ หากเราไม่ทำตามคนส่วนมาก การใช้ชีวิตในหลายๆอย่าง มันจะเป็นปัญหาเอาได้
ต่อให้มีพลังโกงมากเเค่ไหน มันก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนเเปลงมุมมองของคนในสังคมได้
“อืม…..”
จะว่าไงดี…จริงๆก็ไม่ได้หวงขนาดนั้นหรอกค่ะ
ถ้านายท่านอยากจะมีหญิงอื่น เราก็ไม่มีสิทธิว่าอะไรอยู่เเล้ว
เอาจริงๆก็อยากให้นายท่านสร้างฮาเร็มให้มันจบๆ เราจะได้ไม่ต้องมีภาระตอนกลางคืนมากซักเท่าไหร่
ได้ใครซักคนมาช่วยเเบ่งเบาภาระเจ้าปีศาจบ้ากามนี่ มันก็คงไม่เลวเหมือนกัน
คิดไปคิดมา นอกจากเรื่องของตัวเอกเเล้ว เรามาลองสร้างฮาเร็มให้นายท่านดีไหมหว่า ?
ระหว่างที่คิดเบบนั้นอยู่ มันก็มีเสียงกระซิบดังมาให้ได้ยิน
“ไม่เป็นไรๆ เป็นเรื่องปกติ พอเเต่งงานกันเเล้ว ยังไงก็ต้องให้ความสำคัญกับภรรยาหลวงอยู่ดี”
“ก็เเค่ทาสกามเอง เดี๋ยวเบื่อก็คงขายทิ้งอยู่เเล้ว หรือพอเเต่งงานเเล้ว สุภาพบุรุษอย่างท่านยูลิอุสคงไม่เก็บเอาไว้หรอก”
“คิดไม่ถึงว่าท่านยูลิอุสจะทำเเบบนี้ เเต่พวกปีสองบางคนก็ทำคล้ายๆกันอยู่”
เราได้ยินสาวๆบางคนซุบซิบกันทำนองนั้น
หากเป็นโลกเก่าก็คงเเปลก เเต่สำหรับโลกใบนี้ที่ชายเป็นใหญ่มันคือเรื่องปกติ
“………..”
ทว่า ดูนายท่านจะไม่ชอบสิ่งที่พวกเธอพูดซักเท่าไหร่
“จะว่าไป เเล้วเลออนล่ะ ?”
พระเอกเกมอยู่ไหนหว่า
“ก็เธอบอกเองไม่ใช่รึไงว่า หมอนั่นไปทำภารกิจสำคัญ”
อ้อ จริงด้วยเกือบลืมเลย
ถ้าตามเนื้อเรื่องเเล้ว ในช่วงเวลานี้ เลออนที่เป็นพระเอกเกมกำลังไปทำภารกิจสำคัญที่เมืองของเผ่าปีศาจอยู่โดยโกหกว่าลาออกไปทำไร่ เพราะภารกิจนี้เลออนไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับมาได้รึเปล่า
เเต่จำเนื้อหาภารกิจไม่ค่อยได้เเล้วเเฮ่ะ เเย่จัง คุ้นๆว่าเกี่ยวข้องกับราชวงศ์เเละองค์ราชาสั่งให้ไปขโมยอะไรซักอย่างกลับมา
เอาเป็นว่ายังไงก็คงไม่ตายอยู่เเล้ว เพราะงั้นช่างมันเถอะ
หรือถ้าตายจริง เเม้จะรู้สึกผิดกับนายท่าน เราก็คงต้องปั้นพระเอกเกมภาค 2 ให้ไปปราบจอมมารเเทน
ตึก !
“อ๊ะ !”
พอรู้สึกตัวอีกที นายท่านก็ไปนั่งที่เเถวหลังสุดของห้องเรียน
“นายท่าน..คือว่า”
“มีอะไร ?”
สีหน้าของนายท่านดูหงุดหงิด
“ข้ารับใช้ต้องไปอยู่หลังห้องไม่ใช่หรอ ?”
เราชี้ไปยังหลังห้องที่มีพวกข้ารับใช้ของขุนนางไปยืนกันเป็นหน้ากระดานอย่างมีระเบียบ
มีทั้งสาวใช้ พ่อบ้าน รวมไปถึงอัศวินหุ้มเกาะ
ตามหลักเเล้วเพื่อไม่ให้รบกวนการเรียนพวกข้ารับใช้ควรจะไปอยู่ข้างหลัง
“สถานะของเธอกึ่งหนึ่ง สังคมมองเป็นเเค่สิ่งของ เพราะงั้นถ้าวางไว้ตรงนี้ก็ไม่เป็นอะไร”
เเต่ไอ้ไว้ตรงนี้ที่ว่ามันคือตักของนายท่านนะคะ
ดูสิ พวกสาวๆส่งสายตาอาฆาตรเเค้นมาให้เราเต็มไปหมดเเล้ว
“ไม่มีกฎระเบียบห้ามเอาทาสมานั่งตักนิ”
เอ่อ มันก็จริงอยู่หรอกค่ะ
“เป็นไม้กันหมาให้หน่อย”
“พูดอย่างงี้กับสุภาพสตรีท่านอื่น มันเสียมารยาทนะคะ”
เเต่ถึงเราจะพูดไปเเบบนั้น นายท่านก็ไม่ฟัง
เฮ้อ ลำบากใจจังค่ะ
ปึ้ง !
ทว่ายังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างรุนเเรง
“ยูลิอุส !!!”
มีผู้ชายผมทองท่าทางเกเรเดินเข้ามา อักษรที่ปักอยู่บนเสื้อทำให้รู้ว่าเขาเป็นนักเรียนชั้นปีสอง
“นี่มันหมายความว่ายังไง ?”
“มีอะไรหรอครับท่านพี่”
นายท่านกระซิบให้เราฟังว่า ผู้ชายที่เดินเข้ามาใกล้มีชื่อว่า ดันเต้ อิส ดูรัมเบิก
เขาเป็นพี่ชายต่างเเม่ของนายท่าน
“เเกไปซื้อทาสมาสิน่ะ !”
เขาชี้มาที่เราเเล้วมองมาด้วยดวงตาที่หยาบคาย
พี่ชายของนายท่านที่ชื่อ ดันเต้ ไม่สนสายตาของคนรอบข้างเเม้เเต่น้อย
“ถ้าใช่เเล้วจะทำไมหรอครับ ?”
“นี่เเกไม่เข้าใจมารยาทเลยรึไง !?”
ท่าทางเขาดูจะหัวเสีย
“เรื่องบ้านก็ทีหนึ่งเเล้วเเถมยังเรื่องทาสอีก ขนาดพวกพี่ชายของเเกยังต้องอยู่หอเเล้วไม่มีข้ารับใช้เลยเเท้ๆ เเต่เเกดันตัดหน้าทำเรื่องพวกนี้เนี่ยน่ะ ?”
สำหรับขุนนางเเล้วภาพลักษณ์ค่อนข้างมีความสำคัญ
พวกลูกคนรองไม่ควรโดดเด่นกว่าลูกคนหลัก ไม่งั้นจะทำให้ภาพลักษณ์ของผู้สืบทอดเสียหาย
มันคือมารยาททั่วไปที่ขุนนางทุกคนต่างก็รู้ดีค่ะ
“เเล้วจะทำไมหรอครับ ?”
เเต่นายท่านที่อยากจะตัดขาดจากตระกูลใจจะขาดก็พยายามยั่วโมโหพี่ชายของตัวเอง
“กรอด…ขนาดขุนนางชั้นปีอื่นยังไม่เอาทาสมานั่งเรียนด้วยเเท้ๆ ทำอย่างงี้มันเท่ากับหยามหน้าคนอื่่นๆที่ชั้นปีสูงกว่าเเกน่ะโว้ย”
เรียกง่ายๆว่าการทำตัวเด่นเกินหน้าเกินตาคนอื่น มันก็ไม่ต่างจากการดูถูกอีกฝ่าย
ขุนนางคือพวกคิดเล็กคิดน้อยจนห่วงภาพลักษณ์เกินจำเป็น
“ครับ เเต่ก็ไม่ได้มีกฎห้ามนี่นา เเถมผมไม่ได้เอาเธอมาเรียนด้วย”
พูดจบนายท่านก็เอาคางเกยหัวของเราด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย
“เธอคนนี้คือหมอนหนุนส่วนตัวของผมต่างหาก”
ค่ะ ?
นายท่านพูดเเบบไม่สนใจ เเถมยังกอดตัวเราเเน่นยิ่งขึ้นไปอีก
พอเห็นเเบบนั้น ท่านพี่ของนายท่านก็โมโหเลือดขึ้นหน้า
“นี่มันจะมากเกินไปเเล้วน่ะโว้ย ! คิดจะหยามกันรึไง ?”
“………..”
“ข้าอุตส่าห์มาเตือนเเกด้วยความหวังดีเเท้ๆ”
ไม่อ่ะ…มองยังไงก็อิจฉาชัดๆค่ะ
“กะอีเเค่ปราบมังกรได้ เเล้วองค์ราชาถูกใจนิดหน่อย ก็อย่าทำกร่างให้มากนักเลย”
ไม่ค่ะ ไอ้ที่กร่างมันคุณเองต่างหาก อยู่ๆก็เข้ามาบ่นฉอดๆในชั้นเรียนของปีหนึ่งจนทุกคนพากันถอยหนีกันหมดเเล้ว
ถึงเป็นพี่ชาย การกระทำที่ทำให้น้องเสียหน้า มันก็ไม่ควรทำให้เกิดในที่สาธารณะค่ะ
ถ้าหวังดีจริงๆควรเรียกไปคุยในที่ลับตาคนต่างหาก
อีเเบบนี้ มันต้องตั้งใจทำให้เสื่อมเสียต่อหน้าคนหมู่มาก เพื่อหวังผลประโยชน์อะไรเเน่ๆ
“ต้องการอะไร ?”
พอนายท่านถามไปสั้นๆ อีตาพี่ชายก็เเสย่ะยิ้ม
“เเกควรจะรับผิดชอบที่ทำให้พี่ชายของเเกเสียหน้า”
“เฮ้อ…..”
พอเห็นอีกฝ่ายเเบมืออย่างกับขอทาน นายท่านก็ถอนหายใจด้วยความเอือมระอา
“เเค่นี้คงพอสิน่ะ…”
พูดจบนายท่านก็หยิบเหรียญทองออกมาหนึ่งเหรียญ
“เเค่นั้นคิดว่าพอสำหรับข้าเเละพี่ใหญ่รึ ?”
คะ ? อีตานี่เห่าอะไรออกมากันคะ ?
เเกร๊งๆ
เเต่ไอ้เจ้านายท่านของเรา มันก็ดันหยิบเหรียญทองมาเพิ่มอีกหนึ่งเหรียญ
อืม…ให้ตายเถอะ นี่มันขูดรีดกันชัดๆ
“พอใจเเล้วน่ะ”
“ฮึ ! ให้เเต่เเรกก็จบ–“
พี่ชายยิ้มอย่างพอใจ ส่วนนายท่านทำหน้ารำคาญ
ว่าเเล้ว นายท่านก็ค่อยๆหย่อนเหรีญทองลงไปบนมือของอีตาพี่ชาย
เเต่ทว่า —
ผัวะ !!!
ท่ามกลางสายตางุนงงของคนรอบข้าง
หัวของเราที่ถูกนายท่านเกยคางอยู่ๆก็ยกขึ้นมา
เอาง่ายๆก็คือ เราเอาหัวเสยคางนายท่านสุดเเรงเกิดนั่นเองค่ะ
เเรงกระเเทกที่เกิดขึ้นส่งผลให้นายท่านที่ค่อยๆหย่อนเหรียญทำเหรียญหลุดมือจนเหรียญทองทั้งสองกลิ้งไปตามทาง
“อะ อะ อะ “
หลายคนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันโดยไม่ทันรู้ตัว
ภาพที่เห็นคงประมาณ ทาสทำร้ายเจ้านายของตัวเอง
ทว่า จริงๆเเล้วมันไม่ใช่
เพราะในวินาทีต่อมา—
“ขอโทษค่ะ พอดีกล้ามเนื้อ มันเกิดชักกระตุกกระทันหัน”
เรายิ้มเเห้งๆพลางก้มหัวให้นายท่านที่กำลังลูบคางซึ่งเเดงขึ้นมานิดหน่อย
“เเล้วจะว่าไป—“
จากนั้นก็มองไปยังอีตาพี่ชายที่ริอาจขูดรีดเงินของนายท่าน
“ท่านพี่ของนายท่านไมรีบเก็บหน่อยหรอคะ ? …เหรียญมันตกอยูที่ ‘พื้น’ เเล้วค่ะ ถ้าไม่รีบก้มลงไปเก็บเงินที่นายท่านทิ้งให้ที่’พื้น’ เดี๋ยวเงินที่ตก’พื้น’ มันก็หายไปหรอกนะคะ”
ค่ะ ใช่เเล้วค่ะ
คนอย่างคุณที่ทำตัวเป็นขอทาน อย่างน้อยถ้าจะขอเงิน มันก็ต้องทำตัวให้สมกับสถานะหน่อยสิค่ะ
เอาหัวเเนบกับพื้นเเล้วพูดว่าได้โปรดให้เงินกระผมหน่อยครับ จากนั้นนายท่านผู้เมตตาก็โยนเหรียญลงไปบนพื้นให้เจ้าหมอนี่ไปก้มเก็บ
มันควรจะเป็นเเบบนั้นต่างหาก
“ฮึ !”
“นี่เเก….”
พอเห็นเรายิ้มเเบบนั้นใส่ อีตาพี่ชายโง่ก็มองเราด้วยสีหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
เเน่นอนว่านายท่านที่อยู่ข้างหลังก็ทำหน้ายุ่งยาก
“เป็นเเค่ทาสจะบังอาจมากไปเเล้ว !!!”
ฟ้าววววว
มือของเขาพุ่งมาที่เราหมายจะตบเเก้ม
ทว่า นายท่านที่เห็นดังนั้นก็รีบเอามือขึ้นมากั้น
สมเเล้วที่เป็นนายท่าน กะไว้เเล้วว่าต้องปกป้องเรา
ฮุๆ เเต่ว่า ขอโทษนะคะ เราน่ะเป็นพวกที่ชั่วร้ายกว่าที่นายท่านคิด
ฟุบ !
ก่อนที่นายท่านจะเอามือมากัน เราก็กดมือของนายท่านกลับไปที่เดิมพร้อมกับก้มหัวลง
มือของพี่ชายที่กะจะตบหน้าเรามันเลยฟาดลมเเล้วเลยไปที่ใบหน้าของนายท่านเเทน
เพี๊ยะ !!!
ท่ามกลางสีหน้าตกตะลึงของผู้คน รวมไปถึงใบหน้าเหวอของอีกฝ่ายเเละนายท่านที่โดนตบหน้าหัน
เราก็เอ่ยด้วยท่าทางงุนงงเล็กน้อยว่า—
“ไม่ทราบว่าที่โรงเรียนเเห่งนี้อนุญาติให้ทำร้ายร่างกายขุนนางด้วยกันเองได้หรอคะ ?”
— ด้วยคำพูดของเรา สถานการณ์มันเลยลุกลามเเละร้ายเเรงยิ่งกว่าเดิม
เเน่นอนว่ามันย่อมเป็นเรื่องที่ดี เพราะหลังจากนี้เราคงจะได้เห็นเรื่องสนุกๆเเล้วล่ะค่ะ
Chapters
Comments
- ตอนที่ 15: ไม่มีฝันร้ายไหนๆน่ากลัวเท่า วันที่นายท่านนอนละเมอค่ะ เมษายน 21, 2022
- ตอนที่ 14: เเผนการของรีเกล มกราคม 20, 2022
- ตอนที่ 13: จะอยู่ข้างๆเองค่ะ มกราคม 19, 2022
- ตอนที่ 12: ฺฺผู้ที่ Bad end คนเเรก มกราคม 18, 2022
- ตอนที่ 11: องค์ชายคือ.... สิน่ะค่ะ !!! มกราคม 17, 2022
- ตอนที่ 10: นี่เเหล่ะค่ะ คือชีวิตวัยรุ่น มกราคม 17, 2022
- ตอนที่ 9: การตัดสินใจเเละของเล่นใหม่ของนายท่าน มกราคม 17, 2022
- ตอนที่ 8: จุดเริ่มต้นของชีวิตอันวุ่นวายค่ะ มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 7: ยูลิอุส vs ดันเต้ มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 6: ก่อนการประลอง มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 5: ความใจดีของนายท่านคือสิ่งที่เราชอบเเละเกลียดที่สุดค่ะ มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 4: ไปโรงเรียนวันเเรก เราก็ได้เห็นเรื่องสนุกๆเลยล่ะค่ะ มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 3: เพราะทำตัวซ่าเกินไป ตอนจบเลยล้มทั้งยืนค่ะ มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 2: ตัวเอกของเกมที่หายไป มกราคม 5, 2022
- ตอนที่ 1: เกิดใหม่ค่ะ เเถมเกิดเป็นทาสที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำซ่ะด้วยค่ะ มกราคม 5, 2022
MANGA DISCUSSION