เกิดใหม่เป็นไอหนุ่ม NTR ในเกมเอโรเกะ แต่ฉันไม่มีวันแย่งเธอมาเด็ดขาด - ตอนที่ 10.2 ช่วยงานสภานักเรียน + มุมมองของชู
- Home
- เกิดใหม่เป็นไอหนุ่ม NTR ในเกมเอโรเกะ แต่ฉันไม่มีวันแย่งเธอมาเด็ดขาด
- ตอนที่ 10.2 ช่วยงานสภานักเรียน + มุมมองของชู
เกิดเหตุไม่คาดฝันในคาบวรรณกรรมคลาสสิก แต่หลังจากนั้น เวลาก็ผ่านไปโดยไม่มีเหตุการณ์สำคัญใดๆ
ไม่มีเหตุการณ์แปลกๆให้กังวล และฉันต้องทนกับความง่วงตลอดคาบเรียนที่เหลืออยู่ หลังจากนั้นก็ถึงเวลาที่เราจะไปช่วยประธานตามที่สัญญากันไว้
“ขออนุญาต”
ชูเดินนำเราสองคนไปที่ห้องสภานักเรียน นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ฉันมาที่นี่ และฉันไม่ได้คาดหวังว่าเราทุกคนจะมารวมตัวกันที่นี่ด้วย
“ยินดีต้อนรับทั้งสามคน”
“รุ่นพี่ชู! สวัสดีค่ะ รุ่นพี่ยูกิชิโระ และรุ่นพี่อายานะด้วย!”
“สวัสดีทั้งสองคนครับ”
อิโอริและมาริกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้และทำงานบางอย่างอยู่ พอเรามาถึงชูก็เดินไปนั่งข้างพวกเธอ
“ยูกิชิโระคุงกับโอโตนาชิซัง พวกเธอจะนั่งตรงไหนก็ได้นะ”
ประธานบอกเราว่าพวกเรานั่งตรงไหนก็ได้ ฉันกับอายานะจึงนั่งติดกัน
แน่นอนว่าชูมีประสบการณ์ทำงานแบบนี้อยู่แล้ว และดูเหมือนว่ามาริจะมาช่วยงานที่นี้สองสามครั้งแล้ว อายานะก็เป็นคนแนะนำให้ชูรู้จักกับอิโอริด้วย นั่นหมายความว่าฉันเป็นคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องของที่นี้เลย
“โทวะคุงเดียวฉันสอนเธอเองนะ….ก็ไม่ต่างจากเมื่อก่อนมากนักใช่ไหมล่ะ?”
“ดีเลยโอโตนาชิซัง ไม่ต้องห่วงนะยูกิชิโระคุง แม้ว่าฉันจะเรียกพวกเธอให้มาช่วย แต่ครั้งนี้เป็นการใช้เวลาอย่างสนุกสนานร่วมกับทุกคนมากกว่า”
“ค-ครับ”
หลังจากนั้นอายานะก็สอนงานให้ฉันนิดหน่อย
เหมือนกับที่อิโอริพูดไว้ มันไม่ใช่งานหนักอะไร โดยหลักๆแล้วมันคือการจัดระเบียบเอกสารและตรวจสอบข้อผิดพลาด
“อันนี้…อืม อยู่ตรงนี้ และที่นี่…”
อายานะที่นั่งข้างฉันก็ดูไปได้สวยไม่มีอะไรติดขัด
ชูและมาริที่มีประสบการณ์มากกว่าดูจะไปได้สวยเหมือนกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉันช้าที่สุดในหมู่พวกเรา แต่ฉันก็ทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้กังวลใดๆ
“แต่มันน่าสนุกนะที่เราทั้งห้าคนมารวมตัวกันแบบนี้”
“ใช่ค่ะ! มันสนุกมากที่มีรุ่นพี่ชูอยู่ที่นี่!”
“เดี๋ยวก่อนมาริ!?”
มาริหยุดมือของเธอแล้วกระโดดขึ้นไปบนตัวชู ทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเขาจะจัดการกับสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างใจเย็น อาจเป็นเพราะมันเคยเกิดขึ้นมาก่อน
“อารา อารา พวกเธอสองคนดูสนิทกันจังเลยนะ”
“ถูกตัองแล้วค่ะ! รุ่นพี่ชูกับฉันเราสองคนเป็นเพื่อนซี้กันเลย! ใช่ไหมคะรุ่นพี่”
“มาริ ช่วยอย่าพูดเสียงดังใกล้หูฉันเถอะขอร้อง”
“อะ ขอโทษค่ะ!”
ในห้องสภานักเรียนเริ่มมีเสียงดังขึ้นเล็กน้อย แต่ฉันพบว่ามันเป็นพื้นหลังที่เหมาะกับงานที่ทำอยู่ดี
เมื่ออิโอริเข้าร่วม สิ่งต่างๆก็มีชีวิตชีวามากขึ้น บรรยากาศช่างสนุกสนาน และฉันก็อดไม่ได้ที่จะมองพวกเขาทั้งสามโต้ตอบกันอย่างสนุกสนาน
(…นี่เป็นภาพที่น่าพอใจทีเดียว)
อิโอริและมาริเข้าไปกอดชูในแบบของตัวเอง มันค่อนข้าง….…แบบว่านะ
ออ แล้วก็มันเป็นฉากที่เห็นได้ในภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ทั่วไป ไม่ใช่ฉากอีโรติกนะ
“รุ่นพี่จะผูกขาดรุ่นพี่ชูเกินไปแล้วนะคะ!”
“อาระ เธอมีสิทธิจะพูดแบบนั้นด้วยเหรอ?”
“ขอร้องล่ะทั้งสองคน! ช่วยพูดเรื่องนี้ตอนฉันไม่อยู่จะได้ไหม!”
แม้เขาจะพูดแบบนั้น แต่ชูก็มีรอยยิ้มซุกซนปรากฏขึ้น ฉันมองไปที่อายานะที่นั่งอยู่ข้างๆ และสายตาของเธอก็จ้องไปที่ปฏิสัมพันธ์ของทั้งสามคนด้วย ฉันเห็นมันได้ แม้ว่าดวงตาของเธอจะถูกซ่อนไว้หลังผมหน้าม้าก็ตาม
“ที่นี่เป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอ?”
“เอ๊ะ? โอ้ใช่ ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะ..…พวกเขาสนิทกันมากกว่าที่ฉันจินตนาการไว้มาก แต่มันก็อบอุ่นหัวใจใช่ไหมล่ะ”
ฉันจำได้ว่าอายานะเป็นคนแนะนำชูให้กับมาริและอิโอริรู้จัก และเมื่อพิจารณาจากนิสัยที่ไม่ค่อยเข้าสังคมของชู ก็ชัดเจนว่าอิโอริและมาริมีบทบาทสำคัญในการทำให้เขาสบายใจมากขึ้น
หากอายานะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว มันก็เป็นข้อพิสูจน์เพิ่มเติมถึงความใจดีและความรอบคอบของเธอ และฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแบบเดียวกัน
“ฟุฟุ มันวิเศษจริงๆ ที่พวกเขาสนิทกันมาก”
“…………”
รอยยิ้มของเธอช่างสวยงามมากจนฉันอดไม่ได้ที่จะจ้องมัน
มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่จะหลงใหลในสิ่งที่สวยงาม แต่ตอนนี้ฉันก็มีความรู้สึกอื่นอยู่ด้วย……ความรู้สึกแปลกๆนี้คืออะไรกัน?
“…อายานะ”
“หืม?”
ตอนนี้เธอหัวเราะจากใจจริงอยู่หรือเปล่า?
ขณะที่ฉันกำลังจะถามคำถามนั้นกับเธอ มาริก็เข้ามากอดอายานะจากด้านหลัง ทำให้เธอร้องออกมา และฉันก็ไม่ได้ถามคำถามนั้นกับเธอไป
ฉันว่าตอนนี้คงไม่เหมาะเท่าไหร่ แต่เดียวก็ถามเธอที่หลังก็ได้เพราะฉันสามารถหาเวลาอยู่กับอายานะสองคนได้เสมอ
“รุ่นพี่อายานะ! หนูจะมีหุ่นแบบรุ่นพี่ฮอนโจได้ไงอะ”
“หุ่นแบบประธาน…นั่นคือเป้าหมายของเธอเหรอ?”
“ใช่! หนูหมายถึง…การที่มีหน้าอกใหญ่ๆ มันยั่วผู้ชายได้ดีกว่านี่คะ?”
“มาริจัง ทำไมจู่ๆถึงมากังวลเรื่องแบบนี้ล่ะ”
บทสนทนาระหว่างเด็กสาวทั้งสองเริ่มต้นขึ้นในหัวข้อที่ไม่คาดคิด และฉันพยายามหลบสายตาขณะที่มองไปยังอิโอริ
เธอนั่งข้างชูและยิ้มเล็กน้อย และเห็นได้ชัดว่าเธอล้อมาริเกี่ยวกับรูปร่างของเธอ ดูเหมือนอายานะจะเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เธอจึงถอนหายใจออกมา
“มาริจัง เสน่ห์ของผู้หญิงไม่ใช่แค่รูปร่างเท่านั้นนะ สิ่งที่สำคัญคือบุคลิกของเธอเอง และความรู้สึกที่เธอมีให้อีกฝ่ายต่างหากละที่สำคัญ”
“ความรู้สึกต่ออีกฝ่าย…ออ หนูเข้าใจแล้วค่ะ”
“ดีมากจ้า แทนที่จะคิดมากกับคำพูดของรุ่นพี่ฮอนโจ เธอควรจะรักษาสมดุลร่างกายไว้ดีกว่านะ มันก็เพื่อประโยชน์ของตัวเธอเองด้วยนะ มาริจัง”
“เอาน่า โอโตนาชิซัง เธอไม่จริงจังเกินไปหน่อยเหรอ?”
อิโอริเข้าร่วมการสนทนาตรงจุดนี้ด้วย
ชูและฉันถูกตัดออกจากการสนทนาโดยสิ้นเชิง และเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะมีส่วนร่วมในการสนทนาที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ประเด็นของผู้หญิง
ฉันค่อยๆขยับเก้าอี้ออกห่างจากสาวๆ โดยหวังว่าจะให้พวกเธอคุยกันได้อย่างสบายใจ และฉันก็กลับไปจัดระเบียบเอกสารอีกครั้ง
“ชู ทางนั่นเป็นไงบ้าง?”
“ก็เรื่อยๆนะ ยังไงฉันก็ชินแล้วล่ะ”
ชูมีเอกสารที่ต้องจัดเรียงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และเราทั้งคู่ก็ใกล้จะเสร็จงานในส่วนของเราแล้ว
ส่วนอายานะกับมาริและอิโอริก็ยังคุยกันอยู่ ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะโฟกัสงานที่อยู่ตรงหน้าได้ เราอาจจะขอให้พวกเธอกลับมาทำงานด้วย แต่ดูเหมือนว่าปล่อยให้พวกเธอสนุกไปกับการสนทนาน่าจะดีกว่า
“….ฮ่าฮ่า”
การได้เห็นสาวสวยทั้งสามมีช่วงเวลาดีๆร่วมกัน ช่างสดชื่นจริงๆ แต่ยิ่งไปกว่านั้น การได้เห็นอายานะซึ่งอยู่ท่ามกลางเพื่อนทั้งสองของเธออย่างมีความสุขนั้นช่างน่าหลงใหลที่สุด
“พวกเธอดูเหมือนกำลังสนุกกันอยู่นะ”
“ใช่…เอาล่ะ มาทำงานตรงหน้าให้เสร็จดีกว่า ว่าไหม?”
“เข้าใจแล้ว”
มาพยายามทำส่วนที่เหลือให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้กันดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ไม่กี่นาทีต่อมาชูและฉันพบว่าตัวเองสบตากันและสงสัยว่าพวกเราคนไหนควรเข้ามาแทรกและตำหนิพวกเธอดี
“เฮ้ พวกเธอ! นั่นมันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”
“ก็ปกตินี่คะ? แค่จั๊กจี้นิดหน่อยไม่รู้สึกเจ็บอะไรหรอกค่ะ…..โอ้ ตรงนี้นุ่มมากเลย”
“มันเป็นความรู้สึกที่แปลกดีนะที่ได้สัมผัสของคนอื่นแบบนี้นะ”
ในแง่ของการวางตำแหน่ง พวกเธอกำลังพูดอยู่ข้างหลังฉัน และจากที่ที่ฉันนั่งอยู่ตรงข้ามกับชู นั้นแสดงว่าถ้าฉันหันหลังกลับไป ฉันสามารถเห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสามคนได้
“…!!……!?!?”
อืม….นี้ก็หลายครั้งแล้วนะที่ชูแอบมองพวกเธอนะ ชูที่หน้าแดงและทำท่าทางน่าสงสัย มันทำให้ฉันอยากรู้จริงๆว่าข้างหลังเกิดอะไรขึ้น
แต่……อืม ใช่แล้ว ฉันก็อยากรู้เหมือนกันนะ
ฉันหลับตาและมุ่งความสนใจไปที่เสียงข้างหลังของฉัน
เสียงจั๊กจี้ของอายานะ เสียงที่มีความสุขของอิโอริและมาริ เสียงมือที่ขยับไปบนเสื้อผ้า เสียงฝีเท้าที่เกิดจากการบิดตัว……..
“โทวะ? หน้าของนายดูเปลี่ยนไปนะ…”
“อย่างงั้นเหรอ เปลี่ยนไปแบบไหนล่ะ?”
“อืม….นั้นสิเหมือนไม่ใช่โทวะตามปกติเลย”
“อ๊ะ นายคงคิดไปเองแหละ”
ฉันพยายามรักษาสีหน้าให้เฉียบคมที่สุดและแตะแก้มเบาๆ แม้จะมีเสียงเอะอะโวยวายอยู่ข้างหลังฉันจนทำให้ฉันอยากหันหลังกลับไปมอง แต่ตอนนี้ฉันจะต้องโฟกัสกับงานที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า
จริงๆแล้วฉันคิดเสมอว่าเรื่องแบบนี้มันลำบาก แต่อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือใครสักคนก็เป็นเรื่องดีทีเดียว และเหนือสิ่งอื่นใดฉันมีความสุขที่ได้เห็นอายานะกำลังสนุกอยู่กับเพื่อนๆ มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันหวงแหนที่สุด
“อ่า ฉันเข้าใจแล้ว…….”
ฉันตระหนักได้ว่าในโลกใบนี้กำลังฉันดึงดูดฉันเข้าหาอายานะ และฉันก็อยากอยู่กับเธอ ฉันคิดว่าฉันจะทำอะไรได้บ้างในสถานการณ์นี้ แม้ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่ใจจริงของฉันยังคงวนเวียนอยู่ที่อยากจะให้อายานะมีความสุข
(แต่ไม่เป็นไร ฉันจะปกป้องอายานะ……และเพื่อสิ่งนั้น…)
ฉันหันกลับไป
การเล่นแผลงๆของมาริกับอิโอริหยุดไปแล้ว ตอนนี้พวกเธอก็แค่คุยกันตามปกติและอายานะก็ยังคงยิ้มอยู่
ไม่เพียงแต่อายานะเท่านั้นแต่ยังมีอิโอริและมาริด้วย ทุกคนต่างก็มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
(ฉันอยากจะปกป้องฉากนี้……โคโตเนะซังและฮัทซึนซังนั้นอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่ฉันมั่นใจว่าแม้แต่อายานะก็คงจะต้องเสียใจถ้าเธอรู้อนาคตของคนสองคนนั้น)
ถึงฉันจะเคยพูดไปหลายครั้งแล้วก็เถอะ แต่โลกนี้เป็นความจริงสำหรับฉันแล้ว มันอาจไม่เป็นไปตามที่ฉันคิดทุกอย่าง และฉันอาจจะได้เจอกับเรื่องที่อธิบายไม่ได้ แม้กระทั่งการได้ยินเสียงลึกลับ แต่ถ้าลองพิจารณาดีๆทั้งหมดนั้นอาจมีความหมายบางอย่าง
“อา…”
ขณะที่ฉันคิดเรื่องนี้ ฉันก็ปวดหัวอีกครั้ง
มีฉากสองฉากปรากฏขึ้นในหัวฉันราวกับทิวทัศน์รอบๆกำลังเปลี่ยนไป มันเป็นฉากที่อิโอริและมาริกำลังโดนพวกผู้ชายทำให้พวกเธอเปรอะเปื้อนอยู่
(เธออีกแล้ว..…)
และข้างๆ พวกเธอมีใครบางคนในชุดฮูทสีดำยืนอยู่ ซึ่งตัวตนของเธอแวบขึ้นมาในหัวของฉัน
ทิวทัศน์นั้นกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ดีที่ว่าตอนนั้นฉันก้มหน้าอยู่ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าใครจะมาเห็นอาการของฉัน
ฉันจำเป็นต้องจดเรื่องนี้ลงสมุด ฉันคิดว่ามันสำคัญเช่นกัน
ฉันยังไม่เข้าใจความหมายของภาพที่ฉันเห็นมากนัก แต่ฉันมีความรู้สึกว่ามีบางอย่างที่มีอิทธิพลต่อความทรงจำของฉัน
“โทวะคุง?”
“หืม?”
“ยังทำหน้าลำบากใจแบบนั้นอยู่อีกเหรอ?”
“หน้าฉันเป็นอย่างงั้นเหรอ ฉันว่าอารมณ์ของฉันตอนนี้ค่อนข้างตรงข้ามกันเลยนะ”
“เอ๊ะ? เป็นอย่างนั้นเหรอ?”
“อืม”
ก็ตามนั้น อย่างที่ฉันพูดไปตอนนี้ฉันรู้สึกค่อนข้างดีเลย
เพราะฉันคิดว่าในที่สุดฉันก็สามารถกำหนดสิ่งที่ฉันต้องการทำในโลกนี้ได้อีกอย่างแล้ว
[มุมมองของ ชู]
“ประธานครับ เรื่องแค่นี้ปล่อยให้ผมจัดการเองก็ได้นะครับ”
“แล้วฉันขอให้พวกเขามาช่วยไม่ได้เหรอ?”
ถึงมันจะเป็นเรื่องกะทันหัน แต่โทวะก็ยังสละเวลามาช่วยรุ่นพี่อิโอริ
สำหรับฉัน ซาซากิ ชู การช่วยเหลือรุ่นพี่อิโอริกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่สำหรับโทวะ นี่เป็นครั้งแรกของเขา และเขาก็ดูลำบากเล็กน้อยในช่วงแรก
(แต่โทวะสุดยอดมาก…..สุดท้ายเขาก็ทำอะไรก็ได้)
ตอนแรกเขายังทำอะไรไม่เป็นอยู่เลย แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างงั้นแล้ว แน่นอนว่างานที่รุ่นพี่อิโอริมอบหมายให้โทวะนั้นง่ายมาก แต่ฉันจำได้ว่าเมื่อตอนที่ฉันมาช่วยงานรุ่นพี่อิโอริครั้งแรก ฉันยังต้องให้เธอช่วยตั้งหลายครั้งกว่าที่ฉันจะพอทำด้วยตัวเองได้
(แต่ตอนนี้โทวะทำทุกอย่างได้เองแล้ว)
เขาสามารถหาเอกสารต่างๆและทำงานให้เสร็จได้ด้วยตัวคนเดียว และตอนนี้เขากำลังทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับรุ่นพี่อิโอริอยู่
“…”
การที่เขามาช่วยทำให้ฉันมีความสุขมาก และเหนือสิ่งอื่นใดแค่มีอายานะอยู่ใกล้ฉันก็ทำให้ฉันมีความสุขแล้ว
แต่……แต่ว่านะ!
ฉันรับไม่ได้ที่ความสามารถและไหวพริบของฉันกับโทวะแตกต่างกันขนาดนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกแย่ราวกับว่าฉันไม่สามารถเอาชนะเขาได้
และที่แย่กว่านั้นคืออายานะยังไปชื่นชมโทวะอีก
[โห โทวะคุง เธอนี้เก่งไปหมดเลย อย่างกับโดเร*่อนเลย♪]
ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ? ฉันอยากจะตะโกนบอกว่า “ฉันก็พยายามอย่างเต็มที่เหมือนกันนะรู้ไหม!” แต่มันคงน่าอาย และปกติฉันก็ไม่ได้ทำอะไรเพื่อให้คนมาชมด้วย
เฮ้ อายานะ เธอไม่เห็นฉันอยู่ตรงนี้ข้างๆเธอเหรอ? ทำไมมองแต่โทวะโดยไม่สังเกตเห็นฉันที่อยู่ข้างๆเลยล่ะ?
ฉันรู้สึกหึงอายานะ มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากยอมรับกับตัวเองด้วยซ้ำ
ฉันก็ทำงานหนักเหมือนกันนะ ฉันอยากจะบอกให้อายานะชมฉันบ้าง แต่มันก็น่าอายและดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่
(…และนอกจากนี้…)
ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงพักกลางวัน
ย้อนกลับไปที่ห้องพักของโรงพยาบาล ฉันบอกโทวะว่าอยากให้เขาให้กำลังใจฉันกับอายานะ เขาไม่ได้ตอบในตอนนั้น แต่เขาพยักหน้าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม……
[หากนายยังเดินเตาะแตะอยู่ ฉันอาจจะแย่งเธอไปก็ได้รู้ไหม?]
เขาพูดแบบนี้ด้วยสีหน้าทีเล่นทีจริง มันทำให้ฉันคิดว่าหนุ่มหล่อก็แค่พวกที่ชอบเล่นกับผู้หญิง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งโทวะ เขาเป็นจอมโกหกตัวจริงเลยล่ะ
เขาทำได้ทุกอย่าง เขามีทุกอย่าง และเป็นที่รักของหลายๆคน เขามีหลายอย่างที่ฉันไม่มี
“ชูคุง?”
“…อายานะ?”
ฉันหมกมุ่นอยู่กับการเปรียบเทียบตัวเองกับโทวะจนงานตรงหน้าของฉันหยุดชะงัก
อายานะมองมาที่ฉันด้วยสีหน้างุนงง ฉันก็เลยพยายามทำงานให้เสร็จอย่างรีบร้อน ราวกับว่าฉันอยากจะสื่อว่าฉันกำลังทำดีที่สุดแล้ว
“ชูคุง ส่วนนี้ไม่ถูกต้องนะ?”
“เอ๊ะ”
“ตัวเลขตรงนี้มันไม่ตรงกันนะ แล้วตรงนี้ก็ต้องแยกข้อมูลเป็นแถวๆนะ”
“…..”
ฉันตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเองเมื่ออายานะชี้ให้เห็น ฉันเข้าใจว่าทุกคนทำผิดพลาดเล็กๆน้อยๆกันได้ แต่เนื่องจากรุ่นพี่อิโอริขอให้ฉันช่วย ฉันจึงต้องระมัดระวังมากกว่านี้
ฉันตบแก้มเหมือนที่โทวะเคยทำก่อนหน้านี้ มันแสบเล็กน้อย และหน้าฉันก็เริ่มแดงขึ้น แต่มันก็ทำให้ฉันมีสมาธิอีกครั้ง
“รุ่นพี่ชู ตอนนี้ไฟติดแล้วค่ะ!”
“ฟู่ฟู่ การมีแรงจูงใจเป็นสิ่งที่ดี ฉันจะคอยดูผลงานของนายนะ”
เมื่ออายานะชมเชยฉัน ฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความสำเร็จ แม้ว่าฉันจะไม่ได้ทำเพื่อคำชมเชยก็ตาม
“บอกฉันได้นะ ถ้านายต้องการความช่วยเหลือ โอเคไหม? ฉันช่วยอะไรก็ได้”
อายานะโน้มตัวลงมามองหน้าฉัน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมองมาที่ฉันใกล้ขนาดนี้ “อะไรก็ได้?” ฉันคิดกับตัวเองโดยนึกถึงคำเหล่านั้นที่ฉันเห็นทางอินเตอร์เน็ต แต่ฉันจะไม่ร้องขออะไรแปลกๆแน่
“ไม่เป็นไร ฉันจัดการเองได้”
“ว้าว…รุ่นพี่ชูดูเท่มากเลยค่ะ!”
ฉันไม่ได้ตั้งใจอวดแต่การได้ยินคำชมจากมาริทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขจริงๆ
อายานะดูประหลาดใจกับคำตอบของฉัน
“มีอะไรเหรอ?”
“ไม่มีอะไร ฉันแค่แปลกใจนิดหน่อย”
“ทำไมละ?”
“ฉันคิดว่านายจะขอความช่วยเหลือทันที ชูคุง ฉันไม่ได้คาดหวังเรื่องที่นายจะปฏิเสธอย่างมั่นใจขนาดนี้นะ”
“…ฉันแค่อยากจะดูเท่ แค่นั้นเอง”
“เอ๊ะ?”
“ไม่มีอะไร!”
ฉันเผลอขึ้นเสียงใส่อายานะไป และฉันก็รู้สึกอายนิดหน่อย แต่ฉันก็กลับมามุ่งความสนใจไปที่งานของตัวเองอีกครั้ง
ฉันสงสัยว่าฉันอาจจะแสดงออกมากเกินไปหรือเปล่า ฉันยังกังวลว่าฉันอาจจะดูแปลกไปหรือเปล่า ขณะที่คิดถึงเรื่องนี้ ฉันก็มองไปที่โทวะและรุ่นพี่อิโอริ
“ใช่ ถูกต้อง นายนี้เก่งดีนิ”
“โอ้ ดีแล้วนะครับที่ถูกตอนแรกผมคิดว่ามันจะผิดสะแล้ว”
“สำหรับเอกสารชุดต่อไป…นายจัดการมันได้ไหม?”
“ได้แน่นอนครับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง”
“นายนี่เชื่อถือได้จริงๆ”
บทสนทนาของพวกเขาดำเนินไปอย่างราบรื่น
รุ่นพี่อิโอริมักถูกมองว่าเป็นคนเย็นชาและเข้าหายากเพราะหน้าตาและวิธีการพูดของเธอ แต่จริงๆแล้วเธอเป็นคนใจดี
…แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา ที่ได้เห็นรุ่นพี่อิโอริกับโทวะสนิทกันขนาดนี้
“…ฟุฟุ”
อายานะหัวเราะขณะที่เธอมองดูพวกเขา
แม้แต่หน้าตาของเธอก็ยังมีอิทธิพลอย่างมากสำหรับฉัน และอายานะก็น่ารักที่สุดเมื่อเธอยิ้มแบบนี้
ขณะที่ฉันเฝ้าดูเธออยู่ อายานะก็หันหน้ามาทางฉัน เมื่อเธอเอียงศีรษะด้วยความสงใส ฉันก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า
“เฮ้…วันนี้เธอยิ้มมากกว่าทุกทีอีกนะ”
“จริงเหรอ?”
“ใช่ การที่โทวะอยู่ที่นี่มีส่วนอย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนเธอจะสนุกมากเมื่อได้พูดคุยกับรุ่นพี่อิโอริและคนอื่นๆนะ”
“…..”
“อะ…? ฉันพูดอะไรแปลกๆ หรือเปล่า?”
อายานะดูประหลาดใจมากขึ้นกับคำพูดของฉัน
อายานะดูสับสนอย่างสิ้นเชิงเมื่อเธอเบือนหน้าหนีจากฉัน โดยมุ่งความสนใจไปที่โทวะและรุ่นพี่อิโอริ และเธอก็มองไปที่มาริซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ
“รุ่นพี่อายานะ?”
“…เปล่าไม่มีอะไร”
เธอตอบโดยมองต่ำลง พฤติกรรมของเธอไม่ปกติอย่างเห็นได้ชัด
ฉันกำลังจะถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น แต่โทวะกลับพูดขัดฉันเสียก่อน
“อายานะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“…โทวะคุง”
โทวะ แม้ว่าเขาจะคุยกับรุ่นพี่อิโอริอยู่เมื่อไม่นานนี้ แต่เขาเข้าหาอายานะอย่างเป็นธรรมชาติราวกับฮีโร่ที่มาช่วยเหลือเธอ
“เธอสบายดีไหม?”
“ใช่……ฉันสบายดี”
โทวะโน้มตัวไปที่ใบหน้าของอายานะด้วยสีหน้ากังวล แม้แต่คนเพศเดียวกันกับเขาก็ต้องยอมรับว่าโทวะดูเท่จริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา
แม้ว่าฉันจะรู้เรื่องนี้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะถูกโทวะแย่งไปแล้ว มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ทุกคนรวมทั้งรุ่นพี่อิโอริและมาริต่างจับตาดูการกระทำของโทวะอย่างใกล้ชิด
“ฉันสบายดีจริงๆ นอกจากนี้ โทวะคุง ช่วงนี้นายหายไปนานพอสมควร ดังนั้นบางทีฉันอาจจะจับนายไว้ก็ได้นะ”
“นั่น…ตอนนี้ฉันคิดว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่นะ”
ฉันไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไร พวกเขาหัวเราะกันเบาๆ และโทวะมีสีหน้ากังวลเล็กน้อย บทสนทนาที่ดูเหมือนมีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่เข้าใจ ฉันรู้สึกเหมือนตอนนี้ฉันเป็นคนนอกเลย
แม้จะคิดอย่างนั้น แต่ฉันเลือกที่จะไม่ชี้ให้เห็น และฉันต้องการหลีกเลี่ยงการทำสิ่งที่น่าอึดอัด เราทำงานของเราจนเสร็จ เมื่อจัดของเสร็จทุกคนก็ดูพอใจ ฉันรู้สึกถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากกว่าปกติด้วยซ้ำ
“วันนี้เป็นเรื่องดีที่เราไม่ได้พูดคุยกันแค่สองคนระหว่างทำงานเท่านั้น แต่ยังได้คุยกับอายานะและยูกิชิโระคุงด้วย”
“เห็นด้วยที่สุดคร่าาาา หนูมักจะมีกิจกรรมชมรมจึงไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้เท่าไหร่ แต่มันสนุกจริงๆ!”
รุ่นพี่อิโอริและมาริดูพอใจมาก เมื่องานของเราเสร็จสิ้น ก็ถึงเวลาแยกย้าย อย่างไรก็ตาม ฉันพบว่าตัวเองถูกดึงตัวออกไปโดยรุ่นพี่อิโอริและมาริ ทำให้เสียโอกาสที่จะกลับกับโทวะและอายานะ
“วันนี้นายทำได้ดีมาก ชูคุง”
“เอ่อ ฉันก็คิดว่าอย่างนั้น…”
“เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว! รุ่นพี่ชูสุดยอดมากเลยค่ะ!”
“อ่าฮะฮะฮะ…..ขอบใจพวกเธอสองคนด้วยนะ”
แม้ว่าฉันจะถูกมองว่าเป็นผู้ชายที่เท่แค่กับอายานะ แต่ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นการกล่าวเกินจริงไปหน่อย อย่างไรก็ตาม วันนี้ฉันรู้สึกถึงความสำเร็จครั้งใหญ่ในชีวิต และความรู้สึกอบอุ่นที่แขนของฉันถูกโอบไว้โดยผู้หญิงทั้งสองคนก็ทำให้รู้สึกดีขึ้น
(แต่…)
ท่ามกลางเรื่องทั้งหมดนี้ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยเกี่ยวกับสีหน้าสับสนของอายานะ ฉันไม่เคยเห็นเธอแบบนั้นมาก่อน ฉันอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนั้น
————————————————————————————————————————-
คุยท้ายตอน
ชูคุงทำตัวน่าสมเพชต่อไปดีแล้วครับ คนอ่านไม่อยากเห็นนายมีพัฒนาการหรอกนะ