เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 605 เฉียวเหลียนเฉิง : เธอไม่ใช่เมียของฉัน ทำไมฉันต้องยอม?
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 605 เฉียวเหลียนเฉิง : เธอไม่ใช่เมียของฉัน ทำไมฉันต้องยอม?
บทที่ 605 เฉียวเหลียนเฉิง : เธอไม่ใช่เมียของฉัน ทำไมฉันต้องยอม?
ชวนจื่ออยากจะออกไปจากที่นี่!
แม้เขาจะปลดประจำการจากการเป็นทหารแล้ว อีกทั้งยังไม่ได้รับการจัดหางานแบบแรงงานข้ามชาติเพราะทะเบียนบ้านอยู่ในเขตชนบทซึ่งอยู่ห่างไกล
แต่สุดท้ายเขาก็ยังคงมีจิตวิญญาณของทหาร
ความรักชาติยิ่งชีพมันฝังลึกอยู่ในกระดูกของเขา
ขณะที่เขากำลังคิดไตร่ตรองสิ่งต่าง ๆ ใบหน้าของเจียงหว่านปรากฏขึ้นขณะที่รถเคลื่อนไหว
อีกทั้งยังมีคำพูดของต้าหยง
ทันใด ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจของเขา
ตอนที่เขาตกลงราคาจ้างกับเกาเสียง เขาได้ยินข่าวคราวบางอย่าง
ว่ากันว่าแก๊งมีดมาเชเต้สร้างความวุ่นวายและความปวดหัวให้กับคนในพื้นที่มาก
แต่เพราะยังไม่สามารถหารังของพวกมันพบ เวลานี้จึงยังมีเรื่องเล็กใหญ่เกิดขึ้นไม่จบสิ้น
สิ่งนี้ไม่ต่างจากพลาสเตอร์หนังสุนัข*[1] ทำให้ไม่อาจแก้ไขสถานการณ์ที่ต้นเหตุได้
แล้วจะเป็นยังไงถ้าหากเขาสามารถค้นพบรังของแก๊งมีดมาเชเต้นี้?
ผู้หญิงคนนั้นดูถูกเขาไม่ใช่เหรอ? แต่หลังจากนี้เขาจะทำให้หล่อนได้รู้ซึ้ง!
เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว เขาจึงขึ้นไปนั่งในรถอย่างว่าง่าย
ภายในโรงพยาบาล เฉียวเหลียนเฉิงต้องปลอมตัวถึงสามครั้งก่อนจะปรากฏตัวขึ้นในห้องพักผู้ป่วยของเจียงหว่าน
“ก่อนหน้านี้คุนหมดสติไป ผมเลยจัดการเรื่องนี้เป็นการชั่วคราวเท่านั้น”
เฉียวเหลียนเฉิงบอกเจียงหว่านถึงสิ่งที่เขาตระเตรียมเอาไว้
เจียงหว่านยิ้มแล้วพยักหน้ารับ “เหล่าเฉียวของฉันฉลาดจัง รู้จักใช้สมองแล้ว!”
ใบหน้าของเฉียวเหลียนเฉิงกลายเป็นอึมครึม ถึงแม้เธอจะชมเขาก็เถอะ
เจียงหว่านพูดต่อ “นายทำได้ดีมาก ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ฉันวางแผนเอาไว้เลย”
“น่าเสียดายที่ฉันจะออกไปไม่ได้ คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง!”
เฉียวเหลียนเฉิงเงียบ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ผมมีแผน… แต่ไม่รู้ว่าพอจะเป็นไปได้ไหม!”
เจียงหว่านหันมองเขาด้วยความสงสัย
เฉียวเหลียนเฉิงอธิบายต่อ “ตอนผมมาที่นี่ ผมได้ยินข่าวในรถโดยสารว่าแก๊งมีดมาเชเต้กำลังรับสมัครคนไปทุกที่!”
“และพวกเขาต้องการคนที่มีทักษะยอดเยี่ยม ถ้าเป็นไปได้ ผมคิดว่า…”
สีหน้าของเจียงหว่านเคร่งขรึม ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นว่า “นายบ้าไปแล้วเหรอ! พวกเขากำลังรับสมัครคนเพื่อฆ่านาย! แต่นายกลับคิดจะเข้าไปหาพวกเขาเอง!”
เฉียวเหลียนเฉิงตอบกลับอย่างหนักแน่น “ผมก็ปลอมตัวไง อีกอย่างเราก็จะได้รู้ด้วยว่าแก๊งมีดมาเชเต้กำลังจะฆ่าใครต่อไป รู้เขารู้เรายังไงล่ะ!”
“แผนนี้เป็นไง? คุณออกจากโรงพยาบาลภายในหกวันข้างหน้าใช่หรือเปล่า? ถ้าคุณออกจากโรงพยาบาลแล้ว คุณก็กลับไปหาพวกเสี่ยวติงเพื่อรับผิดชอบต่อ ส่วนผมก็จะปลอมตัวเข้าแก๊งมีดมาเชเต้!”
“ถ้าเราร่วมมือกัน ผมว่าจะต้องสำเร็จแน่นอน!”
แน่นอนว่าเจียงหว่านอยากจะปฏิเสธ
แต่เมื่อเห็นแววตามุ่งมั่นของเฉียวเหลียนเฉิง เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดคำใดเพื่อหักล้าง
เวลานี้เธออดไม่ได้ที่จะกุมขมับ
“ได้ จะทำก็ได้! แต่ยังไงนายก็เป็นทหาร ถ้านายต้องการจะทำตัวเป็นสายลับ นายต้องยื่นรายงานเรื่องนี้”
“ฉันกลัวว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น และมันอยู่เหนือการควบคุม มันจะส่งผลกระทบต่อนาย!”
แน่นอนว่าเขาจะต้องยื่นรายงานต่อเบื้องบน
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้าก่อนจะพูด “ผมจะโทรหานายพลตงหัว แล้วจะบอกเรื่องนี้กับพ่อตาด้วย ยังไงท่านนึงก็เป็นผู้บังคับบัญชาคนปัจจุบันของผม และอีกท่านก็จะเป็นผู้บังคับบัญชาในอนาคตของผมด้วย!”
เจียงหว่านถอนหายใจ เธอรู้ชัดเจนแล้วว่าไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้อีก
หลังจากเงียบไปสักครู่ เธอก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า “แต่นายควรจะอ่านหนังสือ การสอบเข้ามหาลัยกำลังใกล้เข้ามาแล้ว!”
เฉียวเหลียนเฉิงยิ้ม “ผมอ่านหนังสือเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ผมก็จำตารางธาตุได้แล้วด้วย”
“ยังไงซะคุณก็ต้องท่องศัพท์ให้มากขึ้น ไม่เกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ถ้านายสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ในอนาคตจะมีเส้นทางมากมายให้นายเลือกเดิน!”
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้าราวกับไก่จิกเปลือกข้าว “ครับ ผมเชื่อฟังภรรยาอยู่แล้ว!”
หลังจากนั่งคุยกับเจียงหว่านต่ออีกสักครู่ เฉียวเหลียนเฉิงก็จำต้องจากไปอย่างไม่ยินดีนัก
ตอนเขาออกมาจากหลินเฉิง เขานำตารางธาตุติดตัวมาด้วย ทว่าหนังสือเคมีของเขาหายไปกลางทาง
แล้วตอนนี้เขาจำเป็นต้องท่องศัพท์ แต่จะไปหาหนังสือภาษาอังกฤษจากที่ไหน?
หลังครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาเดินตรงไปที่ร้านหนังสือซินฮวาเพื่อซื้อ ‘พจนานุกรรมภาษาจีน-อังกฤษ’
มันคงเป็นโชคของเขา เพราะในยุคนี้ การซื้อ ‘พจนานุกรรมภาษาจีน-อังกฤษ’ เป็นเรื่องที่ยากมาก
แต่วันนี้มีหนังสือเข้าใหม่มากกว่าหนึ่งร้อยเล่ม
ไม่สิ… หนังสือเหล่านั้นขายหมดหลังจากถูกวางบนชั้นหนังสือเพียงไม่นาน
เมื่อเฉียวเหลียนเฉิงมาถึง ก็เหลือหนังสือเพียงเล่มเดียวแล้ว
เมื่อพนักงานขายยื่นหนังสือ ‘พจนานุกรรมภาษาจีน-อังกฤษ’ เล่มสุดท้ายให้เฉียวเหลียนเฉิง ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชม
“คุณโชคดีมาก นี่คือหนังสือเล่มสุดท้าย หลายคนต้องรอคิวนานกว่าสามถึงสี่เดือนเพื่อซื้อมันเชียวนะ!”
เฉียวเหลียนเฉิงยิ้มรับ เขาหยิบหนังสือขึ้นมาดู และพนักงานขายก็ยื่นใบเรียกเก็บเงินให้กับเขา
หลังจากเฉียวเหลียนเฉิงจ่ายเงินเสร็จแล้ว เขาก็จะสามารถนำหนังสือกลับไปได้
นี่คือขั้นตอนการซื้อหนังสือ ระหว่างนี้เขาต้องรอใบเสร็จรับเงินให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยกลับมารับหนังสือภายหลัง
ขณะนั้นเอง จู่ ๆ มีมือหนึ่งยื่นออกมาจากด้านข้างพร้อมกับหยิบพจนานุกรมเล่มนั้นไป
“สหาย ฉันต้องการพจนานุกรมเล่มนี้!”
หลังได้ยินเสียงนั้น เฉียวเหลียนเฉิงหันศีรษะกลับไปด้วยความไม่พอใจ
เขาไม่รู้เลยว่าผู้หญิงผอมเพรียว ใบหน้าอ่อนโยนมายืนอยู่ข้างเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
หญิงสาวใบหน้าสดใส ฟันขาว และรูปลักษณ์ดูดีเมื่อมองในคราวแรก และเธอก็ดูเหมือนผู้หญิงในเจียงหนานทั่ว ๆ ไป
เฉียวเหลียนเฉิงเมินเฉยต่อรูปลักษณ์และความสดใสของอีกฝ่าย จ้องมองไปที่พจนานุกรมก่อนจะพูดขึ้นว่า
“นั่นหนังสือของผม”
เมื่อพนักงานขายเห็นเหตุการณ์ เขาจึงพูดขึ้นว่า “คุณคะ หนังสือเป็นของคุณผู้ชายท่านนี้แล้วค่ะ”
จากนั้นเขาก็ยื่นตั๋วใบเล็กให้กับเฉียวเหลียนเฉิง “ตั๋วรับเงินของคุณเรียบร้อยแล้วค่ะ!”
ผู้หญิงคนนั้นขมวดคิ้วด้วยความเสียใจ ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นว่า “ฉันรอมานานกว่าครึ่งเดือนเลยนะ แล้วทำไมถึงขายให้เขาล่ะ”
พนักงานขายตอบกลับ “คุณรอมาครึ่งเดือนก็จริง แต่คุณยังไม่ได้จ่ายเงิน มีหลายคนที่รอหนังสือเล่มนี้อยู่เหมือนกัน แต่ใครมาก่อนก็ได้ก่อน… เข้าใจไหมคะ?”
ผู้หญิงคนนั้นเม้มปากก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงต่อต้าน “ฉันไม่สน ฉันจะเอาหนังสือเล่มนี้!”
ขณะพูดอย่างนั้น เธอทำหน้าบูดบึ้งใส่เฉียวเหลียนเฉิง ก่อนจะคว้าแขนของเขาเขย่าไปมาอย่างไร้ยางอาย
“พี่ชายคนหล่อ ยกพจนานุกรมเล่มนี้ให้ฉันเถอะนะ?”
หยานเหยามองเฉียวเหลียนเฉิงด้วยแววตาอ้อนวอน ทั้งยังเปล่งเสียงออดอ้อนออกมาด้วย
เธอรู้ดีว่าเสน่ห์ของเธอยอดเยี่ยม และสามารถพิชิตใจผู้อื่นได้ในเสี้ยววินาที
อีกทั้งไม่เคยมีใครรอดพ้นจากคำออดอ้อนของเธอไปได้!
เธอจึงเชื่อมั่นมากว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นของเธอแน่นอน!
แต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือ อีกฝ่ายหันมองเธอด้วยแววตาเยือกเย็นพร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่แยแส
“ไม่!”
หลังพูดอย่างนั้น เขายื่นเงินให้กับพนักงานขาย “เรียบร้อยแล้วใช่ไหม? ผมกลัวว่าถ้ากลับมาอีกครั้ง หนังสือจะหายไป!”
พนักงานขายหยิบหนังสือออกจากมือของหยานเหยา “ไม่ต้องกังวล ฉันจะเก็บหนังสือไว้ให้คุณอย่างดีค่ะ ไม่มีใครเอาไปได้แน่นอน!”
พนักงานขายเป็นผู้หญิง ย่อมมีความประทับใจที่ดีต่อชายผู้หล่อเหลาอย่างเฉียวเหลียนเฉิงเป็นธรรมดา
หยานเหยาถึงกับตกตะลึง ความอ่อนโยนและออดอ้อนก่อนหน้ากลับกลายเป็นสับสน
เธอไม่เข้าใจ
ไม่จริง… มันไม่ควรเป็นแบบนี้
เธอมองแผ่นหลังของเฉียวเหลียนเฉิงด้วยความสับสนขณะที่เขาเดินไปจ่ายเงิน เวลานี้เธอรู้สึกว่าร่างกายแข็งทื่อจนยากจะเคลื่อนไหว
จากนั้นเฉียวเหลียนเฉิงก็เดินกลับมาพร้อมกับใบเสร็จที่ประทับตราเรียบร้อย ก่อนจะเอาหนังสือออกไป
เวลานี้เองที่หยานเหยาฟื้นคืนสติกลับมาก่อนจะวิ่งตามเขาไปทันที
“พี่คนหล่อ รอเดี๋ยว!”
เฉียวเหลียนเฉิงหยุดก่อนจะหันกลับมามองเธอด้วยแววตาจริงจัง
“ขอโทษด้วย ผมไม่ได้ชื่อพี่คนหล่อ”
“แล้วผมก็จะไม่มีวันให้หนังสือเล่มนี้กับคุณด้วย”
หยานเหยาเอ่ยปากอย่างกังวล “คุณเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงขี้เหนียวนัก!”
เฉียวเหลียนเฉิงขมวดคิ้ว ก่อนจะเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ผมเป็นคนจ่ายค่าหนังสือเล่มนี้ด้วยตัวเอง และทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
[1] พลาสเตอร์หนังสุนัข อุปมาว่า เป็นสิ่งที่หลอกลวงคน ปิดบังคน