เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 528 แผนเสแสร้งทำร้ายร่างกายของไห่หนิงซวง
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 528 แผนเสแสร้งทำร้ายร่างกายของไห่หนิงซวง
บทที่ 528 แผนเสแสร้งทำร้ายร่างกายของไห่หนิงซวง!
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเจียงหว่านก็ยกยิ้ม เธอกัดฟันพูดโต้กลับอย่างภาคภูมิใจ
“ฉันตั้งใจทำหนังสือพิมพ์ของฉัน แต่ทำไมฉันถึงเห็นแต่เธอที่ล่องลอยไปมาขวางหูขวางตาอยู่ตรงหน้า!”
“สุนัขที่ดีจะไม่ขวางทางนะเข้าใจหรือเปล่า!”
ไห่หนิงซวงที่ถูกด่าว่าเป็นสุนัขโกรธจนแทบจะกระอักเลือด
หล่อนกัดฟันมองไปรอบ ๆ อย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นถามเสียงเรียบ
“เธอทำหนังสือพิมพ์อะไร ทำเป็นเหรอ? ได้รับหมายเลขตีพิมพ์หนังสือพิมพ์แล้วรึไง?”
เจียงหว่านตอบด้วยรอยยิ้ม “มีสิ ฉันทำตามขั้นตอนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว หากขาดเหลืออะไรก็คงเป็นการขออนุมัติจากคุณไห่หนิงซวงแล้วล่ะ!”
“ทำไมอันนี้ก็ผิดเหรอ!”
ไห่หนิงซวงมองหญิงสาวอย่างโกรธเคือง “ไม่ผิด เธอจะมีความผิดก็ต่อเมื่อไม่ได้รับการอนุมัติจากฉัน!”
เจียงหว่านยิ้มเยาะ “เธอพูดแบบนี้ คุณพ่อไห่หรงเทียนของเธอรู้หรือยัง? แล้วพี่ไห่จิ่งของเธอรู้หรือเปล่า?”
“พ่อของเธอเป็นถึงนายพล ส่วนพี่ชายก็เป็นผู้บัญชาการฯ!”
“ไห่หนิงซวง เธอเลยอาศัยบารมีพวกเขามารังแกคนอื่นเหรอ?!”
“แก!” ไห่หนิงซวงถูกด่าแบบนี้ก็ถึงกับพูดไม่ออก
หากเจียงหว่านเอาคนอื่นมาพูดถึง ไห่หนิงซวงคงจะไม่ใส่ใจ
แต่นี่เธอลากพ่อและพี่ชายของหล่อนมาเกี่ยว ทั้ง ๆ ที่พวกเขาซื่อสัตย์และเที่ยงตรง แม้แต่กระดาษสักแผ่นปากกาสักด้ามก็ไม่เคยเอามาใช้เป็นของตัวเอง
ไห่หนิงซวงสูญเสียความมั่นใจทันที
เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้หากพ่อและพี่ชายรู้ พวกเขาจะต้องโกรธแน่นอน
ไห่หนิงซวงหลับตา สูดหายใจเข้าลึก ๆ ระงับความโกรธที่ก่อตัวอยู่ในใจ
เมื่อหล่อนลืมตา แววตาก็ดูสงบนิ่งขึ้น
“เจียงหว่าน จริง ๆ แล้วเธอต้องการอะไรกันแน่?”
เมื่อไห่หนิงซวงพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง เจียงหว่านก็อดมองด้วยความประหลาดใจไม่ได้ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ากลับมาเป็นไห่หนิงซวงที่เย็นชาและระงับอารมณ์ของตัวเองได้แล้ว
หล่อนทำราวกับว่าความโกรธเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตา
เจียงหว่านถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ในใจก็คิดว่าไห่หนิงซวงช่างเป็นคนที่รอบคอบกว่าเจียงเสวี่ยมากจริง ๆ
หญิงสาวตั้งสติก่อนพูดเนือย ๆ ว่า “ฉันอยากให้เธอกับพ่อของเธอขอโทษสามีของฉัน!”
ไห่หนิงซวงตกตะลึง “เธอบ้าไปแล้วเหรอ!”
“เธออยากให้ฉันขอโทษก็เข้าใจได้ เพราะว่าฉันคิดร้ายกับพวกเธอจริง ๆ”
“แต่พ่อของฉันทำผิดอะไร เธอมีสิทธิ์อะไรมาขอให้เขาขอโทษไอ้ลูกพันธุ์ผสมนั่นด้วย!”
เจียงหว่านหรี่ตาลง “เธอพูดว่าอะไรนะ? เธอเรียกเฉียวเหลียนเฉิงว่าอะไร?”
ไห่หนิงซวงเชิดหน้าตอบ “ไอ้ลูกพันธุ์ผสมไง ก็เฉียวเหลียนเฉิงเป็นลูกพันธุ์ผสมที่เกิดมาจากวัชพืชที่อยู่ในชนบทไม่ใช่หรอกเหรอ!”
น้ำเสียงของหล่อนเรียบนิ่งและแหลมสูงมาก สีหน้าหยิ่งผยองยิ่งฉายชัดอย่างยิ่ง
ทว่าจู่ ๆ เจียงหว่านก็หัวเราะออกมา เธอยืนขึ้น วางเอกสารที่อยู่ในมือลง
หลังจากนั้น เธอก็ถูข้อมือ ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ไห่หนิงซวง
ไห่หนิงซวงขมวดคิ้วมองอีกฝ่าย ในใจมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักผุดขึ้นมาไม่หยุด
เพียงแต่เมื่อมองไปรอบ ๆ หล่อนยังเห็นว่าที่ถนนมีคนเดินขวักไขว่อยู่ จึงไม่รู้สึกกลัว
“เจียงหว่าน เธอจะทำอะไร กล้าตบฉันต่อหน้าคนตามท้องถนนงั้นเหรอ?”
เจียงหว่านชำเลืองมองไปข้างทาง จากนั้นส่งยิ้มอ่อน ๆ ให้ ขณะยิ้มก็ถลกแขนเสื้อขึ้นไปด้วย
เมื่อถลกแขนเสื้อเสร็จ เธอก็มาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าของไห่หนิงซวง
ไห่หนิงซวงกับแม่ของหล่อนสูงเท่า ๆ กัน ราว ๆ 158 เซนติเมตร แต่รูปร่างหล่อนนั้นแตกต่างจากคนในตระกูลเฉียวโดยสิ้นเชิง
ส่วนเจียงหว่านมีส่วนสูง 175 เซน เมื่อมองใกล้ ๆ ก็เหมือนกับเธออยู่เหนือกว่าอีกฝ่ายมาก
ความรู้สึกเหมือนถูกกดขี่ทำให้ใจของไห่หนิงซวงด้านชา อดไม่ได้ที่จะโกรธหลี่หงเหมยที่เตี้ย
และทำให้หล่อนกลายเป็นคนที่เตี้ยที่สุดในตระกูลเฉียว
ไม่รอให้ไห่หนิงซวงด่าสาปแช่งในใจนาน เจียงหว่านคว้าแขนหล่อน และตบหน้าไห่หนิงซวงอย่างแรงไปหนึ่งที
ทว่าตอนไห่หนิงซวงยังเด็ก หล่อนเคยฝึกฉินหน่า*[1] อยู่บ่อย ๆ
แม้ตอนนี้ปฏิกิริยาตอบสนองและสายตาหล่อนจะไม่สามารถตามความเคลื่อนไหวของเจียงหว่านทัน
กระนั้นไห่หนิงซวงก็ยังเอามือบังหน้าตัวเองไว้ได้โดยสัญชาตญาณ
เจียงหว่านเห็นอย่างนั้นก็ดึงมือไห่หนิงซวงออก
“ปล่อย!” เจียงหว่านพูดเสียงเรียบ
ไห่หนิงซวงส่ายหน้า “ไม่ เจียงหว่านถ้าแกกล้าตบฉัน พ่อของฉันไม่ให้อภัยแกแน่!”
เจียงหว่านหัวเราะเยาะ “ใครจะให้อภัยใครหรือไม่ ฉันไม่สน!”
ไห่หนิงซวงกำลังจะเถียงกลับ ทันใดเจียงหว่านจึงแทงเข็มลงไปที่ข้อศอกของหล่อนเพื่อตัดรำคาญ
“กรี๊ด!” เพราะความชาเข้าเล่นงานอย่างกะทันหัน ทำให้ตอนนี้แขนของไห่หนิงซวงไม่สามารถขยับได้
ความรู้สึกทั้งเจ็บทั้งชาทำให้หล่อนอยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก
“เจียงหว่าน แกกล้าทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง?”
ไห่หนิงซวงด่าทอด้วยความโกรธ
แต่เจียงหว่านขี้เกียจพูดเรื่องไร้สาระกับอีกฝ่าย เธอจึงยกมือขึ้นตบไห่หนิงซวงไปอีกสองสามที จนหน้าของหล่อนบวมแดง
จากนั้นเจียงหว่านก็โน้มตัวลงเข้าพูดระยะประชิด “นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโดนตบนี่ ทำไมความจำสั้นจัง”
“ฉันบอกเธอแล้วไงว่าถ้าเห็นฉันเมื่อไหร่ให้เลี่ยงหนีไป จำไม่ได้เหรอ!”
ไห่หนิงซวงสาปแช่งอย่างเกรี้ยวกราด “เจียงหว่าน นังชั่ว แกมันนังสารเลว ผู้ชายของแกก็เป็นแค่ไอ้ลูกพันธุ์ผสม พวกแกสองคนน่ะเป็นแค่พวกเห็นแก่ตัว สารเลว พวกแกต้องไม่ตายดีแน่!”
เจียงหว่านหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ไห่หนิงซวงเป็นคนแรกเลยที่ถูกตบแล้วยังปากดีไม่เลิกแบบนี้
เป็นอย่างนี้แล้วเจียงหว่านจะปฏิเสธความปราถนาของหล่อนได้อย่างไร
เจียงหว่านทุบตีหัวและใบหน้าของไห่หนิงซวงอย่างรุนแรงไปอีกหนึ่งชึด จนคนที่อยู่บนถนนแจ้งตำรวจ จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึง และรีบแยกทั้งสองออกจากกัน
“มันทุบตีฉัน! คุณตำรวจ สำนักพิมพ์ของพวกมันไม่ปฏิบัติตามกฎ ฉันแค่ไปพูดคุย แต่มันมาตบฉัน พวกคุณจะต้องลงโทษมันนะ!”
เจียงหว่านกอดอกหัวเราะเยาะ เธอรู้ว่าไห่หนิงซวงไม่กล้าเข้ามาโดยที่ไม่มีแผนการอะไรแน่ หล่อนเพียงกำลังเล่นแผนเสแสร้งว่าโดนทำร้ายร่างกายทั้ง ๆ ที่เป็นคนสร้างปัญหาทั้งหมด
แต่จะว่าอะไรได้ ยังไงก็ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือไปกว่าการที่ตัวเองโดนทุบตีแล้ว
เมื่อสหายตำรวจได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็มองเจียงหว่านด้วยสีหน้าที่อึมครึม
“สหาย โปรดตามพวกเราไปที่สถานีตำรวจด้วย!”
เจียงหว่านตามไปอย่างให้ความร่วมมือ แต่ก่อนเดินออกไป เธอก็หยิบเครื่องบันทึกเสียงเครื่องหนึ่งออกมาจากใต้โต๊ะด้วย
ตอนที่ไห่หนิงซวงเห็นเครื่องบันทึกเสียง หน้าหล่อนก็ถึงกับเปลี่ยนสี
เครื่องบันทึกเสียงเครื่องใหญ่ขนาดนั้นซ่อนอยู่ใต้โต๊ะตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเธอถึงมองไม่เห็นล่ะ?
“กะ แกซ่อนมันไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่?!” ไห่หนิงซวงถามอย่างร้อนรน
ความคิดแรกที่วิ่งเข้ามาคือเมื่อสักครู่หล่อนได้พูดสิ่งที่ไม่ควรพูดไปบ้างหรือเปล่า
ครั้นพอคิดอย่างรอบคอบแล้ว หล่อนก็เห็นว่าไม่น่ามี!
อย่างมากก็แค่ด่าเฉียวเหลียนเฉิงว่าไอ้ลูกพันธุ์ผสมก็เท่านั้น
ไห่หนิงซวงลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ส่วนเจียงหว่านไม่คิดที่จะสนใจ เธอหยิบเครื่องบันทึกเสียงเดินตามเจ้าหน้าที่ออกไปทั้งอย่างนั้น
เมื่อมาถึงสถานีตำรวจ ไห่หนิงซวงเงียบมาก เพราะหล่อนไม่กล้าพูดอะไรเยอะ ไม่ทันไรหล่อนก็เห็นเจียงหว่านหยิบเครื่องบันทึกเสียงออกมา
“ฉันบันทึกเสียงเมื่อครู่ไว้ พวกเรากำลังรับสมัครงาน เลยต้องการดูว่าคนที่มาสมัครงานพูดคุยอะไรลับหลังพวกเราหรือเปล่า”
“เราเลยแอบวางเครื่องบันทึกเสียงเอาไว้ค่ะ”
“คิดไม่ถึงว่าจะบันทึกเสียงตอนที่เธอกำลังด่าพวกเราอยู่ได้!”
เมื่อเปิดเครื่องบันทึกเสียง ทันใดเสียงของไห่หนิงซวงที่ด่าสาปแช่งอย่างรุนแรงก็ดังออกมา
โดยเฉพาะตอนที่ด่าเฉียวเหลียนเฉิงว่าไอ้ลูกพันธุ์ผสม เสียงนั้นทั้งชัดเจนและแหลมสูง แม้อยากจะแก้ตัวก็ทำไม่ได้
ตอนนี้เองที่เจียงหว่านพูดขึ้น “สหายตำรวจคะ สามีของฉันเป็นทหาร เขาปกป้องครอบครัวและประเทศชาติ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับด่าทอสามีของฉันเพราะมีความแค้นส่วนตัวกับฉัน แล้วคุณจะให้ฉันอดทนได้ยังไง!”
“สหายตำรวจคุณบอกฉันหน่อยว่าหากเป็นคุณ คุณจะอดทนไม่ตบเธอได้เหรอ!”
ตำรวจหนุ่มเผลอมีอารมณ์ร่วมไปกับคำพูดของเจียงหว่าน อดไม่ได้ที่จะตอบคำถามเธอ
“ตี! ต้องตีให้ตายเลยด้วย!”
เมื่อพูดจบ เขาถึงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรออกไป จึงทำหน้ารู้สึกผิดทันที
ส่วนเจียงหว่าน ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนกับได้เจอขุมทรัพย์ จึงรีบพูดว่า “ใช่แล้วค่ะ คุณเห็นไหมว่านี่คือเหตุผลที่ฉันต้องทุบตีเธอ!”
หลังจากสหายตัวน้อยถูกมัวเมา เขาก็คิดได้ว่าตัวเองไม่ควรไร้เหตุผลแบบนี้
เขารีบกระแอมเบา ๆ และมองไปที่ไห่หนิงซวง “คุณล่ะ มีอะไรจะพูดไหม?!”
ไห่หนิงซวงรีบฟ้องด้วยความน้อยอกน้อยใจ “เธอตั้งใจหลอกฉัน ฉันเป็นผู้เสียหาย!”
[1] ฉินหน่า คือ เทคนิคการจับล็อกข้อต่อที่ใช้ในศิลปะการต่อสู้ของจีนเกือบทุกแขนงเพื่อควบคุมหรือล็อกข้อต่อและกล้ามเนื้อของคู่ต่อสู้เพื่อให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้