เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 521 ความรักของพ่อตาที่มีแก่ลูกเขย

บทที่ 521 ความรักของพ่อตาที่มีแก่ลูกเขย

เจียงหว่านเงียบไป ก่อนหน้านี้เพราะต้องการเขียนนิยาย เธอจึงตรวจสอบข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับกองกำลังพิเศษอยู่บ้าง เช่น กองกำลังพิเศษก่อตัวเมื่อใด และเป็นอย่างไร

ตามความเข้าใจของเธอ กองกำลังพิเศษอย่างเป็นทางการของประเทศได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1991 และกองกำลังก่อนหน้าของพวกเขาก็คือกองพลลาดตระเวนชั้นเยี่ยม

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเกาเสียงด้วยหรือเปล่านะ?

หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เจียงหว่านก็พูด “หนูไม่แน่ใจว่าเฉียวเหลียนเฉิงจะเห็นด้วยหรือเปล่า แต่หนูจะบอกความตั้งใจของคุณพ่อให้เขาฟังค่ะ”

“แต่พ่อคะ พ่อไม่กลัวว่าเฉียวเหลียนเฉิงจะมีปัญหาและทำให้พ่อผิดหวังเหรอ”

เกาเสียงยิ้ม “พ่อเคยเจอเฉียวเหลียนเฉิงมาแล้ว และได้รู้เรื่องราวของเขาแล้ว”

“ไห่หรงเทียนกับพ่อมีความคิดแตกต่างกัน เฉียวเหลียนเฉิงเคยเข้าไปในค่ายของศัตรูและต่อสู้อย่างสุดกำลัง ตอนนั้นเขาสังหารศัตรูไปนับไม่ถ้วน พูดได้เลยว่าเขาเก่งกาจมากจริง ๆ!”

“พอเขากลับมาจากค่ายศัตรู เขาได้เจอพลเมืองธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังรังแกเด็กที่ผ่านไปมา”

“แต่ในสถานการณ์แบบนั้น เขากลับสามารถเลือกได้อย่างใจเย็น หลีกเลี่ยงความขัดแย้งได้ เขาช่วยชีวิตเด็กไว้ แต่ไม่ได้ทำร้ายใครเลย!”

“พ่อเชื่อว่าเขาเป็นคนจิตใจดีและมุ่งมั่น”

“เด็กดีขนาดนี้ ยังต้องกลัวอะไรอีก!”

เจียงหว่านรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย ด้วยเกาเสียงชื่นชมเฉียวเหลียนเฉิงขนาดนี้

“หนูไม่เคยได้ยินเขาพูดเรื่องนี้เลย!”

เกาเสียงยิ้มและพูด “นี่ยังแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ เจ้าหน้าที่รักษาชายแดนบังเอิญเห็นและเอามารายงานน่ะ!”

“เฉียวเหลียนเฉิงถือเป็นทรัพยากรที่ดี น่าเสียดาย ด้วยเหตุผลส่วนตัวทำให้เขาได้เรียนน้อยเกินไป ถ้าเขาอยู่ในระดับมัธยมปลาย เขาคงถูกส่งไปโรงเรียนทหารเพื่อรับการฝึกแล้ว”

“มันน่าเสียดายที่เขาไม่ได้รับการศึกษา!”

เกาเสียงพูดกับเจียงหว่านอย่างจริงใจ “พ่อคิดว่าเขาให้ความสำคัญกับลูกมาก พ่อเห็นดวงตาที่เขามองลูก มันเต็มไปด้วยความรักและความหวังดี”

“ลูกชวนให้เขาไปเรียนเพิ่มเติมได้นะ ไม่ว่าเขาจะได้เลื่อนตำแหน่งในอนาคตหรือไม่ มันก็ดีสำหรับตัวเขาเอง!”

เจียงหว่านพึมพำ “เขากำลังคิดจะเรียนต่อค่ะ”

เกาเสียงได้ยินก็พอใจมาก

“ดี!”

ตอนนี้เขาชอบลูกสาวและลูกเขยมากขึ้นเรื่อย ๆ

“พ่อคะ คราวนี้หนูมาที่เหยียนจิงเพื่อมาบอกปัญหานิดหน่อย!”

เจียงหว่านคิดว่าสิ่งที่เธอกำลังจะทำอาจทำให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่

เธอจึงอยากรู้ว่าเกาเสียงจะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้

เกาเสียงงงงวย “คิดอะไรอยู่ ไหนบอกพ่อสิ ถ้ามันน่าสนุกก็นับพ่อไปด้วยอีกคน!”

เจียงหว่านรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าพ่อบุญธรรมของตนจะขี้เล่นขนาดนี้

เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่า ความจริงแล้วเมื่อตอนยังเด็ก เกาเสียงเป็นคนที่ซุกซนและโผงผางมาก

หากเรื่องระหว่างคนรักกับลูกไม่ทำให้เขาสิ้นหวัง เขาก็คงไม่เป็นแบบในตอนนี้

เจียงหว่านเงียบไปแล้วพูดต่อ “ขอหนูเล่านิทานให้ฟังก่อนแล้วกัน …ยี่สิบกว่าปีก่อน นายทหารคนหนึ่งออกเดินทางพร้อมกับเมียของเขาที่กำลังตั้งท้อง…”

เจียงหว่านเล่าเรื่องราวของเฉียวเหลียนเฉิงในรูปแบบนวนิยาย

จนกระทั่งสุดท้าย ลูกสาวตัวปลอมพยายามทุกวิถีทางเพื่อใส่ร้ายเจ้าชายน้อยตัวจริง ทำกระทั่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์!

หลังจากเธอพูดจบ สีหน้าของเกาเสียงก็ดูจริงจังมาก

เขาขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไร แล้วก็มองเจียงหว่านพร้อมถามคำถาม

“ลูกกำลังพูดถึงเฉียวเหลียนเฉิงกับไห่หนิงซวงใช่ไหม?!”

เจียงหว่านประหลาดใจ “พ่อรู้ได้ยังไงคะ?!”

เกาเสียงตอบ

“ตระกูลไห่กับตระกูลเกาของเราเป็นศัตรูกันมาโดยตลอด”

“ไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออะไร ว่ากันว่าผู้อาวุโสตระกูลของเรา และผู้อาวุโสตระกูลไห่ในตอนนั้นตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกัน”

“สิ่งที่พ่ออยากจะพูดคือเราทุกคนรู้ว่าไห่หรงเทียนพาเมียของเขาไปที่เมืองกานเฉิง และว่ากันว่าไห่หนิงซวงเกิดในทุ่งนาที่นั่น”

“แล้วไหนจะรูปร่างหน้าตาของเฉียวเหลียนเฉิงกับไห่จิ่งที่คล้ายกันมาก แบบนี้ยังมีอะไรที่ไม่ชัดเจนอีก!”

หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เกาเสียงก็พูดต่อ “พ่อไม่คิดเลยว่าเหล่าไห่กับพ่อจะต้องมาขัดแย้งกันตลอดชีวิต”

“แม้แต่การจัดตั้งทีมปฏิบัติการพิเศษ เราก็ยื่นใบสมัครไปพร้อม ๆ กัน แต่ผลก็คือใบสมัครของเขาได้รับการอนุมัติ ขณะที่ของพ่อต้องเปลี่ยนชื่อ”

“ทว่าสุดท้ายลูกชายแท้ ๆ ของเขาก็กลายเป็นลูกเขยของพ่อ ฮ่า ๆ ช่างตลกจริง ๆ!”

เจียงหว่านเงียบ เธอไม่คิดมาก่อนว่าตระกูลเกากับตระกูลไห่จะมีเรื่องราวคาบเกี่ยวกับมากมายขนาดนี้

เกาเสียงเงียบไปสักพักแล้วถามเจียงหว่าน “ลูกมีหลักฐานมากแค่ไหน!”

เจียงหว่านกล่าว “นิดหน่อยค่ะ หนูมีนาฬิกาที่ตระกูลไห่มอบให้เพื่อพิสูจน์ตัวตน และหนูก็มีคำให้การของหลี่หงเหมยด้วย เพิ่งบันทึกมาเอง!”

“แต่ยังไม่มีอะไรมากไปกว่านี้!”

เกาเสียงกล่าว “เกรงว่าจะใช้งานไม่ได้เนี่ยสิ หลักฐานพวกนี้พลิกกลับได้ง่าย ลูกต้องเตรียมใจให้พร้อม”

“ถ้าเป็นแบบนี้ ตระกูลไห่จะไม่มีวันยอมรับเฉียวเหลียนเฉิง!”

เกาเสียงกล่าวต่อ “พ่อกำลังให้ความสนใจกับคดีของเฉินผิง ว่ากันว่าตำรวจพบคนวางยาพิษแล้ว คน ๆ นั้นเกลียดเฉินผิงมาก”

“แต่ชายคนนั้นไม่ยอมรับว่าเขาต้องการฆ่าเฉียวเหลียนเฉิงด้วย เขาแค่บอกว่าเขาเกลียดเฉินผิงเลยวางยาอีกฝ่าย”

“เขาจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง”

“อีกอย่างตอนนี้ไห่หนิงซวงได้ประกาศตัวอย่างเป็นทางการว่าเธอจะเป็นลูกสาวของตระกูลเฉิน และจะดูแลผู้สูงอายุทั้งสองคนในนามของเฉินผิง”

ครอบครัวเฉินมีลูกคนเดียว คุณนายเฉินบอบช้ำหลังคลอด เธอจึงมีลูกไม่ได้อีก

แม้ไห่หนิงซวงดูเหมือนจะเสียเปรียบจากการทำเช่นนี้ แต่จริง ๆ แล้วหล่อนก็ได้ประโยชน์จากมัน

เจียงหว่านหัวเราะ “เธอคำนวณได้ดีจริง ๆ!”

เกาเสียงตะคอก “แต่คนจากตระกูลเฉินก็มีดวงตาที่เฉียบคมเหมือนกัน ยากจะบอกว่าไห่หนิงซวงจะทำแผนของเธอได้สำเร็จ!”

“ปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะ ถ้าไห่หนิงซวงทำอะไรเฉียวเหลียนเฉิงอีกครั้ง ลูกจะต้องคิดให้รอบคอบ อย่างน้อยก็ต้องสงบสติอารมณ์ให้ได้”

เจียงหว่านกล่าวอย่างชื่นชม “เป็นอย่างที่พ่อพูดจริง ๆ ค่ะ นั่นคือสิ่งที่หนูคิดเลย”

ส่วนสิ่งที่เจียงหว่านไม่ได้บอกเกาเสียงก็คือ เฉียวเหลียนเฉิงโดนไห่หรงเทียนคัดออกจากกองกำลังพิเศษ เพราะเขาโดนจับเข้าคุก

เธอจึงมาบ่นเกี่ยวกับเฉียวเหลียนเฉิงอยุ่แบบนี้

เธอต้องการให้ไห่หรงเทียนรู้ว่าเฉียวเหลียนเฉิงติดคุกเพราะลูกสาวของเขา เขามีสิทธิอะไรที่จะมาไล่เฉียวเหลียนเฉิงออก?

หากตระกูลไห่กล้ารังแกลูกชายของตัวเองแบบนี้ เธอสัญญาว่าเธอจะทำให้ทุกคนในตระกูลไห่เสียใจจนกระอักเลือดกันไปข้าง!