เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 520 เจียงเสวี่ยถูกยัยอ้วนทุบตีอีกครั้ง
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 520 เจียงเสวี่ยถูกยัยอ้วนทุบตีอีกครั้ง
บทที่ 520 เจียงเสวี่ยถูกยัยอ้วนทุบตีอีกครั้ง
ครั้นได้ยินเสียงนี้ เจียงเสวี่ยก็รู้สึกถึงความเยือกเย็นในกระแสเลือดของตัวเอง อีกทั้งหัวของหล่อนก็รู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิด
หล่อนหันศีรษะไปมองอย่างแข็งทื่อ และทันใดก็ได้เห็นคนที่หล่อนไม่อยากเจออีกแล้วในชีวิต เจียงหว่าน!
เจียงหว่านยืนอยู่ตรงกำแพงลานบ้าน อยู่ไม่ไกลจากประตูเล็ก ๆ ซึ่งแต่เดิมปิดอยู่เพื่อสกัดกั้นเกาซิ่วเหมย
เจียงหว่านเปิดประตูลานบ้านเข้าไป
ทำไม…คนที่เข้ามาทางประตูนั้นควรจะเป็นคนของหล่อนสิ ทำไมจึงเป็นเจียงหว่านได้?!
แม้ว่าจะกลัวเจียงหว่านแค่ไหน แต่เจียงเสวี่ยก็ยังคงเชิดคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง
“เธอนี่เอง มาถูกเวลาจริง ๆ พร้อมจะถูกทุบตีไปพร้อมกับเกาซิ่วเหมยแล้วใช่ไหม?”
“ใครก็ได้ มาตรงนี้ที!”
เจียงเสวี่ยพูดเสียงแข็ง แต่จริง ๆ แล้วตอนนี้หล่อนรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก
ด้วยหล่อนรู้ดีเกี่ยวกับความสามารถในการต่อสู้ของเจียงหว่าน คนของหล่อนสามารถจัดการกับเกาซิ่วเหมยได้ แต่ถ้าเพิ่มเจียงหว่านอีกคน พวกเขาอาจจะสู้ไม่ไหว!
กระนั้นเจียงเสวี่ยก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบเรียกคนเข้ามา
เกาซิ่วเหมยไม่คิดว่าเจียงหว่านจะมาอยู่ที่นี่ได้ ทันทีที่เธอเห็นเจียงหว่านปรากฏตัว ปฏิกิริยาแรกคือประหลาดใจ แต่ไม่ทันไรก็รู้สึกดีใจมาก
ครั้นเห็นความเย่อหยิ่ง ไม่เกรงกลัวของเจียงเสวี่ยอีกครั้ง เกาซิ่วเหมยก็กังวลว่าเจียงหว่านจะเจ็บตัว เธอจึงรีบตะโกน
“หว่านหว่าน หนีไปเร็ว นังสารเลวนี่มันชั่วช้า หนีไป!”
เจียงหว่านเหลือบมองเกาซิ่วเหมยอย่างขอบคุณ และให้ความมั่นใจอีกฝ่าย
ก่อนจะหันมองเจียงเสวี่ยอีกครั้ง
จากนั้นเจียงหว่านก็เดินไปนอกของกำแพง แล้วลากคนคนหนึ่งออกมา
“เธอกำลังมองหานี่อยู่รึเปล่า?”
คนที่เจียงหว่านลากออกมาคือหัวหน้าของกลุ่มคนที่รออยู่นอกกำแพงเมื่อสักครู่นี้
และช่วงขณะนี้ ร่างกายของชายคนนั้นก็กำลังแข็งทื่อ
เขาถูกลากออกมาแบบไม่สามารถดิ้นรนใด ๆ ได้เลย
สภาพเหมือนคนตายไม่มีผิก ในแววตาปรากฏความดิ้นรนสุดชีวิต
เมื่อเห็นดังนั้น เจียงเสวี่ยก็ตกตะลึง
“เหล่าซุน!” เสียงของเจียงเสวี่ยแหบแห้ง
ทันใดนั้นเกาซิ่วเหมยก็หัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า เจียงเสวี่ย นี่แผนของเธองั้นเหรอ? เจ๋งจริง ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกชะมัด!”
ใบหน้าของเจียงเสวี่ยมืดมนลง หล่อนจ้องมองไปที่เจียงหว่าน “เธอทำอะไรกับพวกเขา?!”
เจียงหว่านเลิกคิ้ว “อย่างที่เห็น คนที่เหลือก็เป็นแบบนี้ แต่ฉันจะไม่ลากเข้ามาให้หรอกนะ มันหนัก ไปดูเอาเองแล้วกัน!”
ใบหน้าของเจียงเสวี่ยซีดเผือด มือของหล่อนก็กำแน่น แต่ไม่กล้าพูดอะไรอีก
หล่อนพยายามอย่างหนักเพื่อระงับความโกรธและความตื่นตระหนกในใจ จากนั้นก็พยักหน้าเบา ๆ
“ได้ ดี ดีจริง ๆ เจียงหว่าน แล้วเราจะเห็นดีกัน!”
พูดจบหล่อนก็กำลังจะจากไป แต่ก่อนที่เจียงเสวี่ยจะก้าวเดิน เจียงหว่านก็ก้าวไปข้างหน้าและคว้าคอเสื้อของหล่อนไว้
“จะไปแล้วเหรอ ฉันควรปล่อยเธอไปไหมนะ?”
เจียงเสวี่ยตกใจมากจนแทบจพร้อง…
แต่ก่อนที่เสียงของหล่อนจะหลุดออกมา เจียงหว่านก็ชกเข้าที่หน้าหล่อนเสียแล้ว
“กล้ามากที่พาคนมาทุบตีป้าเกา เธอรนหาที่ตายใช่ไหม!”
เจียงเสวี่ยถูกตีอย่างหนักจนกรีดร้อง และตะโกนขอความช่วยเหลือ
ทว่านี่เป็นช่วงพักกลางวัน ทั้งยังมีดนตรีเบา ๆ เล่นคลออยู่ในลานบ้าน เสียงตะโกนของเจียงเสวี่ยจึงถูกเสียงเพลงกลบจนหมด
เจียงเสวี่ยถูกทุบตีอยู่นาน กระทั่งในที่สุดก็หยุดตะโกน
เจียงหว่านก็เหนื่อยกับการทุบตีหล่อนเช่นกัน ในที่สุดเธอก็จัดท่าที่น่าสนใจให้หล่อน แล้วจึงแทงหล่อนด้วยเข็มสองสามเล่ม ทำให้ร่างกายของเจียงเสวี่ยแข็งทื่อ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
จากนั้นเจียงหว่านก็เดินออกไปที่กำแพงอีกครั้ง ลากพวกอันธพาลเข้ามา ให้มานั่งล้อมรอบเจียงเสวี่ยอย่างใกล้ชิด
จัดการเสร็จ เธอก็เดินยิ้มกว้างมาหาเกาซิ่วเหมย
“ป้าเกา!”
เกาซิ่วเหมยดีใจจนพูดไม่ออก
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้รับการช่วยเหลือจากเด็กสาวตัวเล็ก ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้เห็นอีกฝ่ายทุบตีเจียงเสวี่ยนั้น มันทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจมาก
“ว่าไง เด็กดี!”
เธอกอดเจียงหว่าน โดยไม่สนใจเจียงเสวี่ยและคนอื่น ๆ จากนั้นเธอก็พาหญิงสาวเดินไปทางบ้านของเกาเสียง
“มาถึงเหยียนจิงเมื่อไหร่ ทำไมไม่มาเยี่ยมป้าในช่วงปีใหม่ล่ะ ป้าเตรียมอั่งเปาหนา ๆ ไว้ให้เธอด้วย!”
ความเมตตาเริ่มแรกของเกาซิ่วเหมยที่มีต่อเจียงหว่านเป็นเพราะเธอรักเกาเสียง
แต่ตอนนี้ เธอรักและห่วงใยเจียงหว่านจากก้นบึ้งของหัวใจ
ช่วงเวลาที่ผ่านมาเธออดไม่ได้ที่จะคิดว่า จะดีแค่ไหนถ้าในอนาคตเจียงหว่านมาเป็นลูกสาวของเธอจริง ๆ
ตอนนี้เธอได้พบกับเจียงหว่านอีกครั้ง หัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความสุข
เจียงหว่านตอบคำถามเกาซิ่วเหมยขณะที่เดินไป และในไม่ช้าพวกเธอก็มาถึงบ้านของเกาเสียง
ด้านเกาเสียง เขาเพิ่งตื่นจากการงีบหลับ
พอตื่นมาเห็นเจียงหว่าน เขาก็มีความสุขมาก
“หนูมาหาพ่อค่ะ!”
เจียงหว่านเรียกพ่อบุญธรรมของเธอ และนำผลิตภัณฑ์จากหมู่บ้านนายพรานออกมามอบให้
เกาเสียงถึงกับประหลาดใจ เขาอธิบายไม่ได้ว่าเขารู้สึกอย่างไรเมื่อได้รับของขวัญจากลูกสาว
“คราวหน้าไม่ต้องซื้อของพวกนี้มาหรอก”
“ถ้าอยากตอบแทนพ่อในฐานะลูก ขอแค่มาหาพ่อให้บ่อยขึ้น และมากินข้าวกับพ่อก็พอ”
“คืนนี้ไม่ต้องออกไปไหนแล้วกลับไปที่บ้านกับพ่อเถอะ คุณปู่เอาแต่ถามถึงลูก!”
เจียงหว่านตอบรับคำอย่างเชื่อฟัง
เกาซิ่วเหมยอยู่คุยด้วยครู่หนึ่งแล้วจากไป เจียงหว่านบอกให้เธอใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของตัวเองในช่วงนี้ และจะเป็นการดีถ้าพกมีดหรืออาวุธติดตัวไว้
เกาเสียงได้ยินก็ประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น?”
เจียงหว่านไม่ได้ปิดบังอะไร เธอเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟัง
เกาเสียงขมวดคิ้ว “เจียงเสวี่ยทำเกินไปแล้ว ไม่ต้องห่วง พ่อจะหาคนมาคอยปกป้องเกาซิ่วเหมยวันนี้เลย”
เจียงหว่านยิ้ม ทว่ารอยยิ้มของเธอคลุมเครือและขี้เล่น “พ่อคะ ถามจริง ๆ เถอะค่ะ ในใจพ่อก็แอบห่วงป้าเกาอยู่ใช่ไหมล่ะ?”
เกาเสียงกลอกตา “สาวน้อย ไม่มีอะไรน่า เราเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน ถ้าแต่งงานกันก็จะเป็นเพื่อนกันต่อไปไม่ได้น่ะสิ!”
“ว่าแต่ว่า สามีของลูกปฏิเสธการเข้าร่วมหน่วยพิเศษนี่!”
เจียงหว่านพยักหน้า “ใช่ค่ะ หนูรู้!”
“หนูเลยมาที่นี่เพราะเรื่องนี้ไง!”
เกาเสียงเงียบไปสักพักและพูดขึ้น “พ่อกำลังจะจัดตั้งทีมลาดตระเวนชั้นเยี่ยม”
เจียงหว่านประหลาดใจ “ทีมลาดตระเวนชั้นเยี่ยม? มันแตกต่างจากทีมปฏิบัติการพิเศษยังไงเหรอคะ?!”
เกาเสียงถอนหายใจ “ปกติแล้วพ่อไม่ควรบอกลูกเกี่ยวกับเรื่องในกองทัพ แต่พ่อเป็นห่วงเฉียวเหลียนเฉิงมาก…”
“ถึงตอนนี้ประเทศจะสงบสุข แต่สถานการณ์ระหว่างประเทศก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราต้องเตรียมพร้อมรับมือกับอันตรายที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า!”
“ความตั้งใจของพ่อคือการสร้างทีมที่สามารถทำงานได้ในทุกสถานการณ์”
“แต่ใบสมัครยังไม่ผ่านการอนุมัติ เลยเปลี่ยนเป็นหน่วยลาดตระเวนชั้นเยี่ยมแทน”
“ลูกกลับไปคุยกับเฉียวเหลียนเฉิงดูสิ ดูว่าเขาเต็มใจที่จะเข้าร่วมหรือเปล่า!”