เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 519 ฉันแค่อยากจะระบายความโกรธแทนเฉียวเหลียนเฉิง!
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 519 ฉันแค่อยากจะระบายความโกรธแทนเฉียวเหลียนเฉิง!
บทที่ 519 ฉันแค่อยากจะระบายความโกรธแทนเฉียวเหลียนเฉิง!เฉียวเหลียนเฉิงเงียบ เขาไม่ได้พูดอะไรต่อเขาไม่อยากจะเชื่อว่าน้องชายที่เขาเลี้ยงมาจะทำกับเขาแบบนี้แต่เขาก็เชื่อด้วยว่าเจียงหว่านไม่ได้โกหกเขาเจียงหว่านมองเห็นความกังวลและความโศกเศร้าของชายหนุ่ม เธอจึงกระซิบเบา ๆ“ฉันหิวแล้ว ไหนมีอะไรกินบ้าง”เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้าเงียบ ๆ และรีบพาเจียงหว่านไปที่ห้องครัว แล้วนั่งเป็นเพื่อนเจียงหว่านตอนกินข้าว“ในห้องครัวมันมืด ผมห่วงว่าคุณจะกลัว”เจียงหว่านหยุดชะงัก เธอเหลือบมองเขาแล้วหันกลับมากินข้าวต่อตอนนี้เธอรู้สึกอบอุ่นใจมากวันต่อมา เจียงหว่านก้ซื้อตั๋วรถไฟและออกเดินทางอีก โดยใช้ข้ออ้างว่าจะไปเหยียนจิงเพื่อคุยธุระกับมู่เหย่เฉียวเหลียนเฉิงเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เขายังคงอ่านหนังสือที่บ้านอย่างสบายใจแต่อ่านได้ไม่นาน ผู้บัญชาการก็เข้ามาคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว“เจียงเฉิงถูกย้ายไปแล้ว ส่วนหัวหน้าคนใหม่ยังมาไม่ถึง ฉันเลยต้องมาคุยกับนาย” ผู้บัญชาการมองเฉียวเหลียนเฉิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจเฉียวเหลียนเฉิงนิ่งและพูดขึ้น “ถ้าคุณต้องการถามอะไรผม ถามมาเลยครับ ผมเตรียมใจมาแล้ว!”ผู้บัญชาการยิ้ม “ก็ไม่มีอะไรหรอก แต่ก็ค่อนข้างลำบากใจนิดหน่อย”“นายก็รู้ว่าด้วยการปฏิรูปกองทัพในปัจจุบัน แต่ละกองทัพเริ่มจะมารวมตัวกัน และด้วยการควบรวมพวกนี้ ตำแหน่งต่าง ๆ ก็จะลดลง”“นายคือคนที่กล้าหาญที่สุดในกองทัพของเรา จากความเห็นส่วนตัว ฉันไม่อยากให้นายออก ฉันเลยเจรจากับผู้บังคับบัญชาเป็นพิเศษ”“กองทัพที่แปดของเรากำลังจะรวมเข้ากับกองทัพที่หก แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใครจะเป็นผู้นำ ทั้งสองกองทัพเลยตัดสินใจจะทำการแข่งขันกัน”“ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม การแข่งขันจะแบ่งฝั่งเป็นสีน้ำเงินกับแดง ถ้าเราชนะ กลุ่มของเราก็จะเป็นผู้นำ ถ้าถึงตอนนั้นนายก็มาอยู่ได้เถอะ”“ฉันวางแผนจะให้นายกลับไปเป็นหัวหน้ากองพัน จะได้ร่วมมือกันได้ ถ้ากองทัพเราชนะ นายจะได้รับการพิจารณาว่าได้มีส่วนร่วม และอาจจะได้เลื่อนขั้นไปอีก!”เฉียวเหลียนเฉิงนิ่งเงียบ ตอนนี้เขาไม่มีวุฒิการศึกษา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้เลื่อนตำแหน่งอย่างไรก็ตามการได้รับโอกาสเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเลย ถือได้ว่าเป็นการเติมเต็มความฝันในการเป็นทหารของเขาด้วยซ้ำอีกทั้งการแข่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่การสอบเข้าวิทยาลัยสิ้นสุดลงพอดี“ครับ ผมจะทำตามคำสั่งของหัวหน้า!”ในที่สุดเฉียวเหลียนเฉิงก็ให้คำตอบด้านเจียงหว่าน ตอนนี้เธอได้มาถึงเมืองเหยียนจิงแล้ว แต่แทนที่จะไปหามู่เหย่ เธอกลับไปหาเกาเสียง พ่อบุญธรรมของเธอก่อนเมื่อเธอมาถึงก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว และเธอเห็นชายประมาณ สามสิบคนซ่อนตัวอยู่รอบกำแพงบ้านจากระยะไกลชายเหล่านี้แต่ละคนถือไม้อยู่ในมือ และตั้งใจฟังเสียงทะเลาะวิวาทที่มาจากลานบ้านเจียงหว่านจึงเข้าไปใกล้อย่างเงียบ ๆ แอบฟังอย่างระมัดระวัง ทันใดก็พบว่าเสียงหนึ่งเป็นของเกาซิ่วเหมย และอีกเสียงหนึ่งเป็นเจียงเสวี่ยเจียงเสวี่ยร้องไห้ “ป้าเกา ป้าทำเกินไปแล้ว ฉันไม่ได้ยั่วโมโหป้า ฉันแค่จะมาหาพ่อ ทำไมป้าถึงจ้องจับผิดฉันแบบนี้คะ!”“ฉันทำให้ป้าขุ่นเคืองตรงไหน บอกฉันมาเถอะ ฉันจะได้ขอโทษ!”ทุกคำพูดในน้ำเสียงนี้เต็มไปด้วยความอัดอั้น!เกาซิ่วเหมยกล่าวเสียงดัง “เธอไม่ได้ยั่วโมโหฉัน แต่เธอยั่วโมโหลูกของฉัน!”เจียงเสวี่ยร้องไห้อย่างเศร้าหมอง “ป้าเกา นี่ต้องเข้าใจผิดแน่ ๆ!”เกาซิ่วเหมยถ่มน้ำลายอย่างหนักและพูด “ฉันไม่ได้เข้าใจผิด เธอเป็นคนทำร้ายเฉินผิง และไปเจอคนที่วางยาเฉินผิงเป็นการส่วนตัว”เมื่อเห็นว่าเจียงเสวี่ยกำลังจะอธิบาย เกาซิ่วเหมยก็โบกมือห้าม “เธอไม่จำเป็นต้องรีบปฏิเสธหรอก ฆาตกรยอมรับแล้วว่าวางยาพิษเฉินผิง แค่ยังไม่ยอมรับว่าเธอเป็นคนยุยง!”เจียงเสวี่ยงงงวย “แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น?”เกาซิ่วเหมยตะคอกอย่างเย็นชา “หลังจากฆาตกรถูกจับได้ มีคนให้ใบเสร็จรับเงินมัดจำสามหมื่นหยวนแก่เธอ!”“และใบเสร็จรับเงินนั้นคือชื่อของเธอ เจียงเสวี่ย”เจียงเสวี่ยเหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางหัวหล่อนกะพริบตาปริบ ๆ ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรไปชั่วขณะหนึ่งเกาซิ่วเหมยพูดอย่างดูถูก “เธอกำลังพยายามทำร้ายเฉินผิงใช่ไหม ฉันคิดว่าเธออยากจะทำร้ายเฉียวเหลียนเฉิงซะอีก!!”“เจียงเสวี่ย ฉันรู้ว่าเธอจะไม่บอกความจริงแน่ แต่อย่าคิดที่จะปฏิเสธเลย””ไม่ต้องกังวล ยังมีเวลาอีกมาก!”เจียงเสวี่ยกัดฟันด้วยความโกรธทันใดนั้นหล่อนก็เงยหน้าขึ้น มองเกาซิ่วเหมยอย่างเกรี้ยวกราด“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับป้าเลย ถ้าป้ายืนกรานจะเข้ามายุ่งเกี่ยว ป้าไม่กลัวว่าป้าจะเป็นคนต่อไปที่จะตายเหรอ?”อาจเป็นเพราะเจียงเสวี่ยกังวล ทำให้ตอนนี้หล่อนไม่เหลือความนอบน้อม และความอ่อนโยนอีกต่อไปหล่อนมองเกาซิ่วเหมยอย่างเย็นชา ดวงตาแข็งกร้าวเป็นเหมือนเข็มจำนวนนับไม่ถ้วนทิ่มแทงใส่เกาซิ่วเหมยเกาซิ่วเหมยไม่สนใจ เธอหัวเราะเยาะ “อ้าว เลิกเป็นกระต่ายขาวตัวน้อยแล้วกลายเป็นหมาป่าตัวร้ายได้แล้วเหรอ?!”“ก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเกรงใจ!”พอพูดจบเธอก็พับแขนเสื้อขึ้น คิดที่จะลงมือฉีกทึ้งเจียงเสวี่ยด้วยมือของเธอเองเจียงเสวี่ยพูดอย่างดุเดือด “เกาซิ่วเหมย คุณรังแกฉันทุกวัน คุณคิดว่าฉันจะไม่ทำอะไรตอบโต้เลยงั้นเหรอ?”“ขอบอกเลยว่าวันนี้ฉันได้เตรียมคนไว้มากกว่าสามสิบคน เพื่อมาทักทายคุณ!”“เกาซิ่วเหมย วันนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณไปไหนอีกแล้ว!”เพียงสิ้นเสียง หล่อนก็ตะโกน “ออกมาทักทายยัยแก่นี่ที!”ท่าทีของเกาซิ่วเหมยเปลี่ยนไปทันควันหลังจากได้ยินคำพูดของเจียงเสวี่ย เธอก็เข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอมองเจียงเสวี่ยอย่างเย็นชาแล้วพูด “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน เธอคิดว่าตระกูลเกาจะปล่อยเธอไปเหรอ”เจียงเสวี่ยยิ้มเยาะ “ฉันจะไม่ทำร้ายคุณจนถึงชีวิตหรอกน่า ฉันจะหยุดเมื่อถึงเวลา แต่ฉันไม่คิดว่าคุณจะกล้าเดินไปบอกคนอื่นหรอกนะ ว่าคุณมีผู้ชายหลายคนมาร่วมหลับนอนกับตัวเอง”ใบหน้าของเกาซิ่วเหมยซีดลง เธอชี้ไปที่เจียงเสวี่ยและพูดอย่างเย็นชา “แก นังสารเลว ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะเลวทรามขนาดนี้!”เจียงเสวี่ยเบ้ปาก “คุณเพิ่งรู้เหรอว่าฉันเลว? หึ ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันได้รับยาของเฉินผิงมาก็จริง แต่ฉันไม่ได้ใช้กับเขา คุณจับผิดคนแล้ว!”“และฉันก็ทนไม่ไหวแล้วกับการที่คุณวิ่งพล่านไปมาตลอดสามวันมานี้!”“ทุกคน ออกมาได้แล้ว!”เจียงเสวี่ยตะโกนอีกครั้ง ทว่า…ไม่มีใครออกมาเจียงเสวี่ยขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ เธอหันมองไปที่กำแพงใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ทันใดนั้นน้ำเสียงเย้ยหยันก็ดังขึ้น“กำลังหาพวกนี้อยู่งั้นเหรอ?”