เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 507 ขูดเลือดจากเสือ?
บทที่ 507 ขูดเลือดจากเสือ?
“ก็ได้คำแนะนำเป็นพิเศษจากเหอซานไห่นี่แหละ!”
เหอซานไห่ยิ้ม “ผมเข้าถึงหนทางที่คดเคี้ยวพวกนี้ได้หมดแหละ เพราะผมพอจะทำได้แค่นี้!”
เจียงหว่านได้ยินอย่างนั้นก็ไม่เห็นด้วย “ในช่วงที่วิกฤติแบบนี้ คุณมีประโยชน์มากต่างหาก!”
เฉียวเหลียนเฉิงถาม “แล้วร่างของเฉินผิงของจริงหายไปไหน?”
เจียงหว่านส่ายหัว
“ฉันไม่รู้ แต่คิดว่าน่าจะอยู่ในมือของถานหย่ง”
เฉียวเหลียนเฉิงตกตะลึง “ถานหย่ง? เขามาเกี่ยวอะไรด้วย?”
แต่เจียงหว่านเปลี่ยนหัวข้อและถาม “เมื่อวานนายกลับมาดึก ฉันยังไม่ได้ถามเลยว่านายออกมาได้ยังไง?”
เฉียวเหลียนเฉิงที่กลับมาเมื่อคืนนี้ อยู่ในสภาพจิตใจที่ไม่สู้ดีและดูซีดเซียวมาก
และในที่สุดเธอก็มีเวลาถาม
เฉียวเหลียนเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เจียงเฉิงยอมสารภาพน่ะ”
“ไม่ใช่แค่เจียงเฉิงยอมสารภาพเท่านั้น แต่ยังมีคนที่เป็นพยานให้เขาด้วย”
“ส่วนคนที่เป็นพยานให้เจียงเฉิงก็คือ เสี่ยวไช่!”
เจียงหว่านรู้สึกประหลาดใจ “ก่อนหน้านี้เสี่ยวไช่ก็ถูกพาตัวไป แล้วทำไมตอนนั้นเขาไม่บอกว่าเป็นเจียงเฉิงล่ะ!”
เฉียวเหลียนเฉิงส่ายหัว “เสี่ยวไช่ไม่เคยถูกสอบปากคำมาก่อน หลังจากเจียงเฉิงกับผมพาเฉินผิงออกไป เสี่ยวไช่ก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่ของเขาบอกว่าเธอป่วยหนัก”
“เขาไปหาผู้บัญชาการขออนุญาต เพื่อกลับไปเจอแม่เป็นครั้งสุดท้าย”
“คนที่มาสอบสวนจึงไม่ได้พบเสี่ยวไช่ และเสิ่นหรูเหมยกับคนอื่น ๆ ก็ไม่อยู่ในเหตุการณ์ พวกเขาเลยไม่ได้หลักฐานที่ชัดเจน!”
“แม่ของเสี่ยวไช่เพิ่งเสียไป ก่อนที่งานศพจะจัดขึ้น เขาได้ยินว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่ เลยรีบกลับมา”
“เพราะเจียงเฉิงยอมสารภาพ และเสี่ยวไช่ก็พิสูจน์ตัวเองได้ว่าเขาอยู่กับผม ตอนที่เกิดเรื่อง”
“และเขายืนยันได้ว่า ผมไม่ได้ออกไปข้างนอก จนกระทั่งได้ยินคนตะโกนโหวกเหวกข้างนอก”
“แล้วผู้บัญชาการก็ขอให้ผมเขียนรายงานตัวเอง เพราะผมสมัครใจยอมรับทุกข้อกล่าวหา”
เฉียวเหลียนเฉิงไม่รู้สึกยินดีใด ๆ เลยเมื่อเขาพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งยังรู้สึกหนักใจและหดหู่แทนด้วยซ้ำ
เจียงหว่านพูดขึ้น “สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือช่วยเจียงเฉิง”
“เราต้องไม่ปล่อยให้ไห่หนิงซวงทำอะไรตามอำเภอใจ”
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้าเห็นด้วย
ตอนนี้เจียงหว่านค่อนข้างกังวล เธอพูดต่อ “ฉันอาจจะรู้ว่าร่างของเฉินผิงอยู่ในมือของใคร แต่ก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขาซ่อนศพไว้ที่ไหน”
“ที่ฉันคิดแผนนี้ขึ้นมา เพราะฉันแน่ใจว่าไห่หนิงซวงกับถานหย่งไม่ได้ร่วมมือกัน”
“มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ!”
ดวงตาของเฉียวเหลียนเฉิงฉายแววเย็นชา เขาพอจะเดาแผนการของเจียงหว่านได้แล้ว
ทั้งสองกำลังคุยกันถึงแผนการ แต่ทันใดนั้น คนที่ดูแลโลงศพก็ลุกขึ้นยืน
พวกเขามองหน้ากันและชี้นิ้วไปที่คนรอบ ๆ
คนอื่น ๆ ในลานบ้านก็ยืนขึ้น และเดินไปหาเจียงหว่านอย่างโกรธเคือง
“สหายเจียง เราทำตามที่เธอขอให้เราทำแล้ว เธอควรทำตามสัญญาของเธอด้วยไม่ใช่หรือไง?”
ก่อนที่เจียงหว่านจะเอ่ยปาก เฉียวเหลียนเฉิงก็มายืนอยู่ตรงหน้าเธอ และถามอย่างสงสัย
“สัญญาอะไร? เกิดอะไรขึ้น!”
“บอกมาสิว่าคุณต้องการอะไร ผมเป็นสามีของเธอ!”
เฉียวเหลียนเฉิงจงใจออกหน้า เพราะรู้ว่าคนเหล่านี้จัดการไม่ได้ง่าย ๆ
และเขาปล่อยให้เจียงหว่านเป็นอะไรไปไม่ได้
ทว่าเจียงหว่านดึงแขนเสื้อของเฉียวเหลียนเฉิงเข้ามากระซิบ
“ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการเอง”
หลังจากพูดจบ เธอก็เดินไปยืนข้างหน้าเฉียวเหลียนเฉิง และพูดกับคนพวกนั้น
“คุณหมายถึงอะไร?”
ผู้นำของคนพวกนั้นคือโจวเจิ้ง ลุงของสามีที่เสียชีวิตของจ้าวเสี่ยวซิ่ว
โจวเจิ้งก้าวมาข้างหน้าแล้วพูด “เราตกลงกันว่าเราจะช่วยเธอแสดงละครตบตา และการแสดงมันก็จบลงแล้ว”
“ถึงเวลาที่เธอต้องมอบร่างของเขาให้เราแล้ว!”
เจียงหว่านแค่นหัวเราะ “ตลกหรือเปล่า เราสัญญาว่าจะแสดงเป็นฉาก ๆ ตอนนี้มันยังไม่จบเลย!”
โจวเจิ้งโกรธมาก “เธอหลอกฉันเหรอ?!”
ก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อไป ผู้คนที่อยู่ข้างหลังก็เริ่มโกรธกันมากขึ้น
“อีกฝั่งมีแค่สามคน ไม่มีอะไรต้องกลัว ฆ่าพวกมันเลย!”
“ใช่ ๆ ปล่อยให้พวกมันมาหลอกเราไม่ได้!”
เจียงหว่านยืนกอดอกพร้อมรอยยิ้มบนริมฝีปาก ปล่อยให้อีกฝ่ายตะโกนอยู่อย่างนั้น
ส่วนเฉียวเหลียนเฉิงกำลังสับสน เพราะเขาไม่ได้รับคำตอบจากเจียงหว่านสักที ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงหันกลับไปถามเหอซานไห่
“เกิดอะไรขึ้น?”
เหอซานไห่จึงรีบเล่าสถานการณ์ก่อนหน้านี้ให้ฟังด้วยเสียงต่ำ
จากนั้นเขาก็พูดต่อ “คนพวกนี้คือครอบครัวของสามีจ้าวเสี่ยวซิ่ว”
“เธอค้นหาศพเกือบทั้งวันแต่ก็ยังไม่พบศพของเฉินผิง แล้วครอบครัวของจ้าวเสี่ยวซิ่วก็มาพอดี”
“คนพวกนี้โง่มาก เจียงหว่านจึงโกหกพวกเขาไป ซึ่งพวกเขาก็ยอมทุกอย่าง”
ตามที่โจวเจิ้งและคนอื่น ๆ กล่าว ไม่กี่วันก่อน ชายคนหนึ่งซื้อร่างของโจวเฉียน น้องชายโจวเจิ้งไปด้วยเงิน 30,000 หยวน ต่อมาพวกเขาพบว่าสิ่งที่ชายคนนั้นต้องการไม่ใช่ร่างของน้องชาย แต่ต้องการคนมาแทน‘
พอพวกเขาไปถามจ้าวเสี่ยวซิ่ว จ้าวเสี่ยวซิ่วก็โกรธแทบบ้า และไม่ยอมให้แตะต้องร่างของชายคนนั้น
พวกเขาจึงคิดว่า ผู้ชายคนนั้นน่าจะเป็นชายชู้ของจ้าวเสี่ยวซิ่วแน่ ไม่อย่างนั้นเธอจะหวงเขาขนาดนั้นได้ยังไง!
และตอนที่ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกัน จ้าวเสี่ยวซิ่วก็ถูกผลักลงไปที่พื้น จนหัวแตกและเสียชีวิต
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตาย พวกเขาก็ตกใจมาก และคิดจะเผาร่างของจ้าวเสี่ยวซิ่ว
ตอนนั้นโจวเจิ้งบอกว่า ร่างของเฉินผิงถูกเอาไปนานแล้ว
ร่างเขาถูกพาไปด้วยเกวียนวัว แต่เขาไม่รู้ว่าร่างนั้นถูกเอาไปที่ไหน!
ท้ายที่สุด ทั้งสองฝ่ายจึงได้เจรจากัน เจียงหว่านบอกพวกเขาว่าจะไม่มอบศพของจ้าวเสี่ยวซิ่วให้กับตำรวจ แต่พวกเขาต้องช่วยเจียงหว่านแสดงละครตบตา
สถานการณ์จึงออกมาเช่นนี้
หลังจากได้ยินคำอธิบายของเหอซานไห่ เฉียวเหลียนเฉิงก็ขมวดคิ้ว “นั่นคือการฆาตกรรมชัด ๆ!”
แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกโล่งใจ เพราะเขาเชื่อในเจียงหว่าน และเชื่อว่าเธอจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ เธอแค่ใช้ประโยชน์จากคนพวกนี้ โดยตกลงจะร่วมมือกันชั่วคราวเท่านั้น
แน่นอนว่าเมื่อเขามองไปที่เจียงหว่าน เจียงหว่านก็กระขยิบตามาให้อย่างจงใจ
มาถึงตอนนี้ โจวเจิ้งและคนอื่น ๆ ก็เริ่มหมดความอดทนแล้ว
ทันใดนั้น ชายที่อายุน้อยกว่าและมีแรงมากกว่าก็หยิบไม้ขึ้นมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ รีบพุ่งไปหาเจียงหว่าน
“เอาศพของผู้หญิงคนนั้นมา ไม่งั้นฉันจะส่งเธอไปตายด้วยกันเลย!”
ก่อนจะพูดจบ ชายคนนั้นก็ง้างไม้เตรียมทุบเจียงหว่านให้เต็มแรง