เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 325 พวกแกทุกคนสมควรตาย!
บทที่ 325 พวกแกทุกคนสมควรตาย!
อย่างไรก็ตาม หากตำรวจมา วันนี้พวกเขาก็ไม่อยากประมูลแล้ว
การประมูลของในยุคสมัยนี้เป็นเรื่องยากมาก แม้จะมีการประมูลบ้างในต่างประเทศ แต่ในประเทศยังไม่เป็นที่นิยม
หรือแม้แต่การเปิดประมูลภายในประเทศได้รับอนุญาตหรือไม่ ทุกคนก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน
หลังจากฟังคำของชายคนนั้นแล้ว ก็มีคนเปิดประเด็นท้วงขึ้นมา “พวกเราแค่มาซื้อข้าวสาร ทำไมถึงมีเรื่องมากขนาดนี้ ช่างมันเถอะ วันนี้ฉันไม่ประมูลแล้ว”
“ใช่ ตำรวจกำลังมา ใครรู้บ้างว่าการประมูลนี่ถูกกฎหมายหรือเปล่า?!”
“มัวทำอะไรอยู่ แบบนี้ถ้าโดนจับในข้อหาเปิดบ่อนการพนันจะทำยังไง ยิ่งทุกคนมีเงินติดตัวมาแบบนี้ด้วย!”
ประโยคนี้ตรงกับความคิดของทุกคน
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนใหญ่คนโตจากตระกูลใหญ่ แต่ก็ไม่มีใครอยากทำให้ประวัติของตัวเองเสียหาย เพราะนั่นไม่เพียงแต่เป็นการดูหมิ่นตัวเอง แต่ยังส่งผลกระทบกับคนรุ่นต่อไปของตระกูลด้วย
หลังจากทุกคนได้ยินอย่างนั้นจึงรีบหยิบกระเป๋าเงิน และเตรียมตัวออกไป
หลัวชิงซานเห็นว่าแผนที่เขาวางไว้อย่างดีกำลังจะพังทลาย กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกอยู่สองสามที เขากัดฟันกรอด ก่อนจะตะโกนสั่ง
“ลงมือ!”
เขารอไม่ได้แล้ว ถ้าหากวันนี้จบลงแบบคว้าน้ำเหลว เขาก็ไม่รู้จะไปอธิบายให้กู้ซานเยี่ยฟังยังไง
อีกทั้งเรื่องในวันนี้ก็ทำให้การประมูลครั้งหน้าเกิดขึ้นได้ยากแล้ว คนเหล่านี้เป็นผู้มีอิทธิพล ฉลาดทันคน และยังขี้ขลาดมากด้วย พวกเขากลัวว่าเรื่องนู้นเรื่องนี้จะถึงตัวอยู่ตลอด
ดังนั้นวันนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็จำเป็นต้องกำจัดพวกเขา
ตำรวจอาจจะมา แต่ตอนนี้ยังไม่มาสักหน่อย!
ขอเพียงแค่ถ่วงเวลาได้สักครึ่งชั่วโมง ก็เพียงพอสำหรับแผนที่วางไว้แล้ว
ด้วยคำสั่งของหลัวชิงซาน พวกลูกน้องที่ขวางกั้นประตูอยู่ก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา
เจียงหว่านกับเฉียวเหลียนเฉิงสุดยอดมาก พวกเขาไม่คิดจะสู้ให้ตายกันไปข้างกับสองคนนั้น จึงไม่มีใครเข้ามาขวางทั้งสองคนอีก
แต่ในห้องนี้แตกต่างออกไป
ตอนนั้นมีคนหลายสิบคนเดินอ้อมตัวเฉียวเหลียนเฉิง และขวางเขาไว้
แต่ตอนนี้ เหล่าคนโง่ในห้องประมูลกำลังจะเดินออกไปง่าย ๆ นั่นทำให้หน้าของหลัวชิงซานเปลี่ยนไป และเขาก็เริ่มสั่งลูกน้องให้ดำเนินตามแผนการอะไรสักอย่าง
เหล่าคนในห้องประมูลสับสนหนัก ในตอนนั้นเองหลัวนีน่าที่นั่งอยู่ข้างถานหย่งก็หัวเราะขึ้นมา
เธอหันมองไปที่ถานหย่งและถาม “วันนี้คุณพกเงินมาไหม?”
ถานหย่งหัวเราะ “ผมไม่ได้มาซื้อข้าวจะพกเงินทำไม? ผมแค่มาหาคุณ และมาดูแลความปลอดภัยให้คุณ”
เขาพูดพร้อมยื่นมือไปบีบคางของหลัวนีน่า
มองดูใบหน้างดงามอ่อนช้อยที่กำลังขึ้นสีรอยนิ้วมือของเขา ถานหย่งก็ตื่นเต้นขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างเย็นชาแผ่รัศมีความน่ากลัวราวกับงูพิษ
ช่วงขณะที่ถานหย่งหมายจะประทับจูบบนริมฝีปากสีแดงเย้ายวน ทันใดหลัวนีน่าก็เผยรอยยิ้มแปลก ๆ ส่งให้เขา
ชั่วพริบตา ความเจ็บปวดแล่นปราดขึ้นสมอง ตอนนี้มีดอันแหลมคมแทงเสียบอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของถานหย่ง
“อ๊าก!” ถานหย่งรู้สึกเจ็บปวดแบบที่ไม่สามารถอธิบายได้ เขาร้องตะโกน เสียงดังลั่นไปทั่วทั้งห้อง
เพราะเจ็บปวดและทรมานมาก เสียงร้องของถานหย่งจึงดังออกไปเกือบถึงข้างนอกตึก
หลังจากแทง หลัวนีน่าก็เหยียดยิ่ม เธอยืนขึ้น ตบหน้าถานหย่ง และตะโกนอย่างร้ายกาจ
“ฉันไม่ชอบแกมานานแล้ว แกมันก็แค่พวกนักเลงหัวไม้ คิดอยากจะแต่งงานกับฉันเรอะ? ใครให้ความกล้ากับแกกัน!”
พอพูดจบก็ตบหน้าเขาเป็นครั้งที่สอง
หลังจากเสียงตะโกนดังขึ้น คนในห้องนี้ก็กลับมาได้สติ ทว่าตอนนี้คนของหลัวชิงซานก็เข้ามาแล้ว พวกมันเข้ามาขวางและจัดการทุกคนที่เห็น
จางซานเพิ่งตื่นขึ้นมาหลังจากโดนเจียงหว่านทุบจนสลบ เขาหมายจะลุกขึ้นมาคิดบัญชีกับเจียงหว่าน แต่ก็เห็นลูกน้องของหลัวชิงซานวิ่งเข้ามา
จางซานดีใจมาก เขารีบตะโกนบอก “พวกแกมาแล้ว ระ รีบจับเจ้านั่นซะ…!”
ยังพูดไม่ทันจบ ทันใดมีดเล่มใหญ่ก็ฟันเข้าที่คอของเขา
ดวงตาของจางซานยังคงเบิกโพลงด้วยความกลัว เขาไม่ทันจะได้พูดอะไร ก็ตายไปเสียแล้ว
หลี่ซื่อยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก เขาเห็นเหตุการณ์ของจางซาน พลันก็ร้องลั่นด้วยความตกใจ “อ๊าก…หลัวชิงซานมันบ้าไปแล้ว!”
“พวกเราสู้มัน!”
หลี่ซื่อจัดการได้ค่อนข้างไว และคนติดตามรอบตัวเขาก็ตอบสนองได้ทันท่วงที
ขณะนี้ทุกคนจึงเริ่มตอบโต้ หยิบอาวุธที่หาได้รอบตัวขึ้นมาสู้
ภายในห้องเริ่มชุลมุน หลัวนีน่ารีบไปหาหลัวชิงซาน พวกเขาลากกระเป๋าเงินของคนที่ถูกฟันตายมากองรวมกัน พอเปิดดูข้างในก็เห็นแต่เงินเต็มไปหมด
หลัวนีน่าจิตใจเบิกบานมาก “พี่ชาย เยี่ยมมาก คราวนี้พวกเรารวยแล้ว!”
หลัวชิงซานพยักหน้า “อย่าเพิ่งรีบไป ทำตามแผนก่อน ฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ นำเงินไปทิ้งไว้ที่ห้องน้ำหญิง หลังจากนั้นพวกเราค่อยหนีไป!”
ขณะที่สองพี่น้องกำลังทบทวนแผนกัน เจียงหว่านกับเฉียวเหลียนเฉิงก็ต่อสู้ ฝ่าออกมาจนเกือบถึงบันไดแล้ว
ทว่า…แม้แต่ตรงบันไดก็ยังเต็มไปด้วยคนของหลัวชิงซาน เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะออกไปทางประตู
โชคดีที่ในห้องประมูลเกิดความวุ่นวายแล้ว แม้หลายคนดื่มยาเข้าไป แต่ยายังไม่ออกฤทธิ์ ต่อสู้จึงค่อนข้างดุเดือดรุนแรง
ด้วยเหตุนี้จึงลดกำลังคนที่เข้ามาหาพวกเจียงหว่านไปได้โดยปริยาย
เฉียวเหลียนเฉิงยังคงต่อสู้อยู่ข้างหน้า ทันใดนั้นเจียงหว่านก็คว้าตัวเขาไว้ “ไปห้องน้ำหญิง ที่นั่นมีหน้าต่างปิดไม่สนิท”
เฉียวเหลียนเฉิงตกลง และมุ่งหน้าไปทางห้องน้ำหญิงทันที
ลูกน้องส่วนใหญ่ของหลัวชิงซานอยู่ตรงบันได ห้องน้ำหญิงอยู่ไม่ไกลจากทางลงบันได แต่เพราะไม่ว่าจะทำความสะอาดอย่างไรห้องน้ำก็ยังมีกลิ่น จึงไม่ค่อยมีใครมายืนเฝ้าบริเวณนี้
เฉียวเหลียนเฉิงตัดสินใจไปที่ห้องน้ำหญิง ทำให้พวกที่ตามมารับมือไม่ทัน
ทั้งสองจึงทะลุผ่านวงล้อมออกไปได้อย่างสบาย ๆ
เฉียวเหลียนเฉิงรีบเข้าไปในห้องน้ำหญิง เขาก็เห็นอวี๋เฉียนกำลังเดินออกมาอย่างมึน ๆ งง ๆ
อวี๋เฉียนยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พอฟื้น เขาก็เดินออกมาข้างนอกตามสัญชาตญาณ
ตอนมาเผชิญหน้ากับเฉียวเหลียนเฉิง
เขาก็ยังรู้สึกเบลอ ๆ งง ๆ ไม่หาย เขารู้สึกเหมือนเคยเจอคนคนนี้ที่ไหนมาก่อน แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน
เพราะเหตุนี้เขาจึงขวางอยู่หน้าประตู ชี้นิ้วใส่เฉียวเหลียนเฉิง และพูดเสียงยานคางวกวน
เฉียวเหลียนเฉิงไม่มัวเสียเวลาพูดจาไร้สาระกับอีกฝ่าย เขาคว้าแขนอวี๋เฉียน และเตะออกไป
อวี๋เฉียนที่ยืนไม่มั่นคง ซวนเซไปทางบันไดสองสามก้าว
พอเจียงหว่านเห็นถึงอวี๋เฉียนไปอยู่ตรงหน้าบันได เธอก็ยิ้มออกมา
อวี๋เฉียนยังยืนไม่ทันนิ่ง เจียงหว่านก็เข้าไปเตะก้นเสียก่อน
อวี๋เฉียนโดนเตะตกบันได กลิ้งกวาดทับคนข้างล่างลงไปกว่าสิบคนในคราวเดียว
เหมือนกับก้อนหิมะที่กลิ้งลงจากที่สูง และเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนนี้รอบ ๆ ตัวของเจียงหว่านไม่มีคนแล้ว เธอจึงไม่ได้รีบเข้าไปในห้องน้ำ และหยุดมองบันไดอย่างดีใจอยู่ครู่หนึ่ง
เวลานั้นเอง จู่ ๆ ก็มีหัวคนโผล่ออกจากใต้บันได ใครคนนั้นบังเอิญเห็นเจียงหว่านที่ยืนอยู่ข้างบนพอดี
คนคนนี้มีใบหน้าเหลี่ยมได้รูป รับกับคิ้วหนาและดวงตาโต ความลงตัวบนหน้านั้นทำให้คนที่พบเจอรู้สึกสบายตา
สิ่งที่ทำให้เจียงหว่านรู้สึกประหลาดใจคือ บุคคลนี้สวมหมวกแฟลตแค็ปสีขาว และมีตราประจำชาติอยู่ตรงกลาง
สหายตำรวจอยู่ที่นี่!
เมื่อเห็นแบบนั้นเจียงหว่านก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มยิงฟัน ยกมือตะเบ๊ะที่หน้าผาก ทำท่าเคารพ แม้ว่าท่าทางที่ทำจะดูไม่ได้เรื่องก็ตาม
จากนั้นเธอก็วิ่ง มุ่งหน้าไปทางห้องน้ำหญิง