เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 322 ทำไมฉันต้องมาอยู่กับคนโง่พวกนี้ด้วย?
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 322 ทำไมฉันต้องมาอยู่กับคนโง่พวกนี้ด้วย?
บทที่ 322 ทำไมฉันต้องมาอยู่กับคนโง่พวกนี้ด้วย?
เจียงหว่านหยุดฝีเท้า เธอไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย ทั้งยังยกริมฝีปากเป็นรอยยิ้มแปลกประหลาดอีก
เธอหันหลับมาหาหลัวชิงซาน
“ที่นี่คือโถงประมูล ไม่ใช่คุก ทำไมฉันจะเข้า ๆ ออก ๆ ไม่ได้!”
“ทำไม? คุณคิดจะกักขังพวกเราไว้ที่นี่เหรอ?”
หลัวชิงซานหัวเราะ “ฉันไม่ได้ขังพวกคุณ แต่เรากำลังจะเริ่มการประมูลแล้ว และคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปตามอำเภอใจ นี่คือกฎที่ทุกคนในนี้จะต้องทำตาม”
“ใครจะรู้ว่าคุณอาจกำลังร่วมมือกับคนข้างนอกเพื่อดักทำร้ายพวกเราหรือเปล่า!”
เจียงหว่านหัวเราะ “กลัวว่าเราจะทำร้ายคุณงั้นเหรอ? เป็นคุณต่างหากล่ะมั้งที่กำลังคิดทำร้ายพวกเรา!”
“คุณมีลูกน้องหลายสิบหรือหลายร้อยรออยู่ที่ห้องด้านนอก และทุกคนมีอาวุธครบมือ แต่ตอนนี้คุณกำลังบอกว่าฉันจะทำร้ายคุณงั้นเหรอ?”
“ฉันมากกว่าที่ควรคิดว่าคุณกำลังจะฉ้อโกงคนอื่น!”
“หา!” คำพูดของเจียงหว่านสร้างความวุ่นวายให้บรรดาผู้ประมูลทั้งหมดทันที
ทุกคนหันมองหลัวชิงซานด้วยความสงสัย
หลัวชิงซานเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน มีความตื่นตระหนกฉายชัดในแววตา แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น ไม่นานเขาก็เผยความเย็นชาพร้อมกล่าวปฏิเสธหนักแน่น
“พูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน? ฉัน หลัวชิงซาน ใครบ้างในเมืองหลินเฉิงที่ไม่รู้จักพวกเราพี่น้องตระกูลหลัว ถ้าหากฉันทำผิด ฉันก็ถูกลงโทษอยู่แล้ว!”
หลัวนีน่าได้ยินก็รีบกล่าวเสริม “หยุดพูดพล่ามได้แล้ว ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่พวกเราพี่น้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งนะ”
“คนด้านนอกที่อยู่สองริมฝั่งทางเดินมีไว้เพื่อปกป้องความปลอดภัยของทุกคน เพราะมีคนเข้าร่วมงานประมูลจำนวนมาก ใครจะรู้ว่าจะมีคนแบบพวกคุณโผล่มาสร้างปัญหาอีกไหม”
คำพูดของสองพี่น้องตระกูลหลัวทำให้ผู้คนทั้งหมดชื่นชม
บางคนถึงกับตะโกนออกมา “ใช่ ๆ สองพี่น้องตระกูลหลัวเป็นคนดี พวกเขาจะทำแบบนั้นได้ยังไง!”
“ใช่ พวกเขาผิดหรือไงที่ใช้คนมากมายเพื่อปกป้องพวกเรา?”
ชายร่างผอมในชุดสีแดงกระโดดออกมาจากฝูงชนก่อนจะตะโกนเสียงดัง
“พวกคุณมาจากไหน? เราทั้งหมดคุ้นเคยกับเมืองนี้และเมืองใกล้เคียง แต่กลับไม่เคยเห็นหน้าคุณสองคนมาก่อน”
“หากจะต่อว่าพี่น้องตระกูลหลัวคิดฉวยผลประโยชน์จากคนอื่น ฉันจางซานเป็นคนแรกที่จะไม่เชื่อข่าวบ้าบอพวกนี้ และคิดว่าพวกคุณคงจะมีแผนการณ์อยู่ในใจแน่!”
คนที่อยู่ใกล้ ๆ รีบตะโกนเสริม “ใช่ พูดถูกแล้ว ฉันหลี่ซือก็ไม่เชื่อเรื่องนี้เหมือนกัน!”
ทันทีที่ทั้งสองคนลุกขึ้นต่อว่า ทุกคนก็หันมาตั้งคำถามกับเจียงหว่านแทน
เจียงหว่านกล่าวออกไปอย่างเหยียดหยาม
“เรื่องแบบนี้พูดยากนะ แล้วนี่พวกคุณเป็นพี่น้องกับพวกเขาด้วยเหรอ?”
“คนพวกนี้เป็นหนี้นอกระบบอยู่ 80,000 หยวน และไม่สามารถชำระคืนได้”
“เขาสร้างความขุ่นเคืองให้กับลูกชายคนโตตระกูลมู่แห่งเมืองหลวง ใครก็ถูกห้ามให้เขายืมเงินแม้แต่แดงเดียว!”
“ลองคิดดูเถอะ พวกคุณมีกันเท่าไหร่? และถือเงินมาเท่าไหร่? ถ้าหากถูกปล้นแล้วโจรหลบหนีออกนอกประเทศไป พวกคุณจะมีปัญญาเอาเงินคืนไหม? เหอะ รอถึงชาติหน้าก็ยังยาก!”
“โอ้!” ทุกคนตกตะลึงอีกครั้ง
เจียงหว่านกล่าวถ้อยคำเหล่านี้อย่างเชื่องช้า ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกในใจของทุกคน
พวกเขาได้รับข่าวก่อนหน้านี้แล้วว่าหลัวชิงซานติดหนี้นอกระบบ และเขาเป็นคนบอกกับทุกคนเองว่าจะขายข้าวในราคาต่ำเพราะจะหาเงินไปใช้หนี้
แต่พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะเป็นหนี้มากถึง 80,000 หยวน
ยิ่งกว่านั้น พวกเขาไม่รู้ว่าคนในเมืองหลวงทั้งหมดถูกสั่งห้ามไม่ให้พี่น้องหลัวยืมเงิน!
ทุกคนตกอยู่ในความวุ่นวายอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้คำพูดของเจียงหว่านทำให้พวกเขาตะหงิดใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้ความสงสัยเพิ่มขึ้นกว่าครึ่ง!
ทุกคนเริ่มกระซิบกระซาบกัน
“มันเกิดอะไรขึ้น?”
“พวกคุณคิดว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริงไหม? พวกเขาวางแผนจะปล้นเงินพวกเราจริงเหรอ?”
“ไม่รู้สิ แต่ที่ทั้งสองคนนั้นพูดมาก็ถูกนะ พวกเรามีกันตั้งมากมาย และมีเงินกว่า 50,000 หยวนในกระเป๋า รวม ๆ แล้วก็ราว ๆ ล้านหยวนเลยนะ!”
“ล้านหยวน! พระเจ้า! นั่นมากพอที่จะอยู่อย่างสุขสบายไปได้ตลอดชีวิตเลยนะ!”
“ฉันไม่คิดอย่างนั้น ถึงหลัวชิงซานจะกำลังแย่ แต่ครอบครัวของเขาก็ยังมีธุรกิจขนาดใหญ่มากมาย และการขายข้าวตอนนี้ก็น่าจะเพียงพอให้ชำระหนี้ได้หลายส่วนแล้ว”
“เขาเป็นหนี้ 80,000 หยวนนะ แต่ขายเมล็ดข้าวคราวนี้จะได้เงินแค่ 50,000 หยวนเท่านั้นเอง”
ขณะที่ทุกคนโต้เถียงกัน ถานหย่งที่อยู่ข้างกายหลัวนีน่าก็หัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน!”
เสียงหัวเราะทำให้ทุกคนหันกลับมามองทันที
“ถานหย่ง คุณหัวเราะอะไร?” จางซานถึงกับเอ่ยปากถาม
ถานหย่งยิ้ม เขาคว้าข้อมือของหลัวนีน่าเอาไว้ และอดไม่ได้ที่จะลอบบีบก้นของเธอสักที
หลัวนีน่าหน้าแดงก่ำ เธอจ้องมองอย่างขุ่นเคือง แต่ก็ไม่กล้าต่อว่าอีกฝ่ายตรง ๆ
จากนั้นถานหย่งก็กล่าวขึ้นว่า “ฉันหัวเราะเยาะที่พวกคุณโง่ไงล่ะ!”
“ต่อให้หลัวชิงซานจะตายวันนี้ ฉันก็จะบอกพวกคุณว่าฉันจะแต่งงานกับหลัวนีน่า!”
“โอ้!” ทุกคนตกใจกับข่าวใหม่นี้อย่างเห็นได้ชัด
ถานหย่ง เขาคือบุคคลที่ทุกคนรู้จักดี ไม่มีใครในเมืองไป๋เหอไม่รู้จักเขา
ไม่เพียงแต่เขาจะมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง แต่ถานหย่งยังมีความโดดเด่นมาก จนทำให้ผู้อาวุโสหลายคนในตระกูลยกให้เขาเป็นผู้บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ของตระกูล และเขาก็เป็นผู้ชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลอันดับที่หนึ่งหรือสองด้วย
ถ้าหากว่าหลัวนีน่าแต่งงานกับถานหย่ง ตระกูลหลัวจะกลับมาโลดแล่นแน่นอน!
เห็นสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว ถานหย่งกล่าวต่อว่า “วางแผนจะปล้นเรอะ? ต่อให้เงินหนึ่งล้านหยวนจะมาก แต่จะเทียบเท่ากับเงินที่ฉันมีได้เหรอ?”
“อากับลุงของฉันทำอะไร พวกคุณก็รู้ดีอยู่แล้ว เพราะงั้นตราบใดที่หลัวนีน่าแต่งงานกับฉัน เงินแค่หนึ่งล้านมันก็แค่เล็กน้อย!”
คำพูดของเขาดังก้องหูของทุกคน และทำให้คนที่เคยเคลือบแคลงใจก่อนหน้าหยุดความสงสัยลงทันที
“ใช่ พี่น้องตระกูลหลัวเป็นผู้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ พวกเขาจะไม่เอาเปรียบพวกเราแน่!” จางซานยังเป็นคนแรกที่เห็นด้วยเช่นเดิม
หลี่ซื่อเองก็กล่าวออกมาด้วยเช่นกัน “ใช่ ถ้าหากพวกเขากล้าเอาเปรียบพวกเราจริง ฉันยอมกินขี้เลย!”
ทุกคนหัวเราะลั่น และเวลานี้ปัญหาทั้งหมดก็ถูกคลี่คลายแล้ว
เห็นทุกคนเชื่ออย่างนั้น หลัวนีน่าจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ถานหย่งส่งยิ้มละโมบให้หลัวนีน่า ก่อนจะบีบก้นเธออีกครั้ง “เป็นยังไงบ้างจ้ะที่รัก? พอใจไหม?”
หลัวนีน่ากัดฟัน แล้วเปล่งเสียงรอดไรฟัน “พอใจ!”
“แล้วคุณจะตอบแทนฉันยังไงล่ะ?” ถานหย่งขยับเข้าไปใกล้ พร้อมกับหอมแก้มหลัวนีน่าเบา ๆ แววตาของเขาชัดเจนถึงความปรารถนาภายใน
หลัวนีน่าหัวเราะแห้ง “พี่หย่งต้องการให้ฉันขอบคุณแบบไหนล่ะคะ?”
ถานหย่งยิ้ม “ไม่ยากเลย คืนนี้แค่กลับไปกับฉัน และแต่งงานกับฉัน หรือจะอีกหนึ่งหรือสองวันข้างหน้าก็ได้!”
หลัวนีน่ากัดฟันแน่น เธออยากจะให้อีกฝ่ายรีบตายไปเร็ว ๆ แต่เมื่อคิดถึงแผนของพี่ชาย เธอจึงทำได้เพียงอดกลั้นและพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจ
แต่ในสายตาของถานหย่ง เขากลับเห็นสิ่งตรงหน้าเป็นว่า หญิงสาวกำลังเขินอาย และยินยอมต่อเขาแล้ว
อารมณ์ของเขายิ่งพลุ่งพล่าน
ตอนนี้ในห้องโถง คำพูดของถานหย่งเปลี่ยนสถานการณ์ไปโดยสมบูรณ์
หลายคนเริ่มนั่งประจำที่อีกครั้ง เฝ้ารอการประมูลต่อไป
เจียงหว่านกอดอก มองเหล่าคนโง่เง่าเหล่านี้ด้วยความเหนื่อยหน่าย และเธอไม่ต้องการจะพูดคุยกับคนไร้สมองอีก
เวลานี้เธอขยิบตาให้เฉียวเหลียนเฉิง แล้วพูดว่า “เราไปกันเถอะ”
ทั้งสองคนเก็บของแล้วเดินตรงไปยังประตู
เมื่อประตูเปิดออก ก็เจอชายหน้าดุยืนอยู่หน้าประตู และชายคนนั้นก็ถือมีดยาวเล่มใหญ่อยู่ด้วย
“หยุดซะ การประมูลยังไม่จบ พวกคุณจะไปไหน?”
เจียงหว่านหงุดหงิดจึงด่าออกไปโดยตรง “ฉันไม่อยากเข้าร่วมการประมูลคราวนี้แล้ว หลบไปซะอย่ามาขวาง!”
“ในเมื่อพวกคุณไม่ได้คิดวางแผนปล้น แล้วทำไมถึงไม่ปล่อยให้ฉันออกไปเล่า?!”