เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 306 หลัวชิงซานถูกเจียงหว่านหลอกอีกครั้ง
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 306 หลัวชิงซานถูกเจียงหว่านหลอกอีกครั้ง
บทที่ 306 หลัวชิงซานถูกเจียงหว่านหลอกอีกครั้ง
ทันทีที่กู้ซานเยี่ยปรากฏตัว หลัวชิงซานก็มีความคิดมากมายในใจ
สำคัญที่สุดคือ กู้ซานเยี่ยอาจจะแค่ล้อเล่นเท่านั้น
เกือบทุกคนในหลินเฉิงรู้ดีว่ากู้ซานเยี่ยมีฉายาว่าไก่โต้ง
ถ้าถามว่าไก่โต้งคืออะไรน่ะหรอ?
อย่างแรกคือมันตระหนี่มาก กู้ซานเยี่ยยินดีที่จะส่งคนไปไล่ล่าลูกหนี้ที่อยู่ห่างไปสองกิโล เพื่อผลประโยชน์แค่หยวนเดียวด้วยซ้ำ
อย่างที่สองคือ ทัศนคติต่อผู้หญิง
เขาไม่มีภรรยา และไม่มีผู้หญิงคนไหนอยู่เคียงข้างเขาได้
ผู้ชายคนนี้จะมองหาผู้หญิงตามท้องถนน ถ้าชอบก็พาขึ้นรถ เหมือนการไล่ตามแม่ไก่ และเหยียบไข่ของมันเมื่อตามทันนั่นแหละ
ทวา่ตอนนี้เขากลับบอกว่าหลิวเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้หญิงของตนต่อหน้าต่อตาหลัวชิงซาน
หลัวชิงซานมองหลิวเชี่ยนเชี่ยนด้วยความตกใจ และสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้ใช้ยาวิเศษ หรือร่ายเวทมนตร์คาถาบทไหนใส่กู้ซานเยี่ยกัน?
“ว่าไง? มีอะไรจะพูดหรือเปล่า?” เมื่อเห็นหลัวชิงซานตกตะลึง กู้ซานเยี่ยก็ถามอย่างเย็นชา
หลัวชิงซานรีบส่ายหัวปฏิเสธ แต่หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะลองพูดโน้มน้าวใจ
“คุณกู้ ถ้าคุณชอบผู้หญิงแบบหลิวเชี่ยนเชี่ยน ผมหาผู้หญิงแบบนี้ที่ยังบริสุทธิ์ให้คุณก็ยังได้”
“ผู้หญิงคนนี้เคยแต่งงานแล้ว อีกทั้งยังผ่านมือผู้ชายหลายคน เธอไม่เหมาะกับคุณหรอกครับ!”
กู้ซานเยี่ยหัวเราะลั่น “ฮ่า ๆ นายจะบอกว่านายก็เคยนอนกับเธอเหมือนกันเหรอ?”
ใบหน้าของหลัวชิงซานซีดลง
เขาได้แต่คิดว่า กู้ซานเยี่ยอาจได้ยินสิ่งที่เขาพูดกับหลิวเชี่ยนเชี่ยนเมื่อครู่นี้เข้าแล้ว
แต่เขาดันปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดไปแล้วนี่สิ
หลัวชิงซานครุ่นคิดและลังเลอยู่นาน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถตอบอะไรออกไปได้เลย
นีน่าเห็นเหตุกาณ์ตรงหน้า จึงรีบคลี่คลายสถานการณ์ “คุณกู้คะ นี่เป็นเรื่องครอบครัวของคุณ เราจะมีข้อโต้แย้งได้ยังไง”
หลัวชิงซานขมวดคิ้วและพยายามจะปกป้องตัวเอง แต่นีน่าจ้องมองเขาอย่างห้ามปราม
“มาเริ่มเรื่องธุรกิจกันเถอะค่ะ!”
พอนี่น่าพูดแบบนี้ หลัวชิงซานก็รู้สึกตัวขึ้นมา เขาจึงรีบเบี่ยงประเด็น
“คุณกู้ คือว่า…จากเดิมที่เราต้องคืนเงินภายในสองสามวันข้างหน้า”
“แต่ช่วงนี้มีสินค้าเยอะมาก คุณก็น่าจะเห็น…”
กู้ซานเยี่ยเอาแขนโอบรอบเอวหลิวเชี่ยนเชี่ยนก่อนจะกระชับเข้ามาใกล้ และหมุนลูกประคำในมืออีกข้างไปด้วย พลางก็หรี่ตามองอย่างเงียบ ๆ
หลัวชิงซานรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย และกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่นีน่าก็ส่ายหัว ส่งสัญญาณให้เขาหยุดเพื่อหยุดเขา
หลัวชิงซานส่งสายตาให้น้องสาวอย่างกังวลใจ
นีน่าก็จ้องมองเขาเพื่อให้เขาหุบปาก
หลังจากนั้นไม่นาน กู้ซานเยี่ยก็พูดว่า “น้อยลงกว่านี้ไม่ได้แล้ว นี่คือกฎ”
“เอาอย่างนี้แล้วกัน น้องหลัว นายก็เป็นบุคคลสำคัญในหลินเฉิง ดังนั้นฉันต้องมีเมตตา”
หลัวชิงซานผ่อนคลายลงทันทีหลังจากได้ยินอย่างนั้น ดูเหมือนว่ายังพอมีโอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงชำระหนี้อยู่
กู้ซานเยี่ยกล่าวต่อ “เอาเรื่องธุรกิจของนายก่อน จ่ายดอกเบี้ยมา แล้วเงินต้นไว้ทีหลัง”
หลัวชิงซานพยักหน้าอย่างเร่งรีบ “ได้ครับคุณกู้ คุณมีน้ำใจ ผม หลัวชิงซาน จะจดจำความเมตตาของคุณในวันนี้ไว้!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ นีน่าก็รีบลุกขึ้นและจากไป เพราะกลัวว่าหากชักช้า พี่ชายของเธออาจจะพูดอะไรไม่คิดให้ดีก่อน
ทั้งสองคนเดินออกมาจนถึงประตู หลัวชิงซานก็พูดขึ้นว่า “ทำไมเธอถึงรีบลากฉันออกมา ฉันยังมีเรื่องที่จะพูดอีกนะ!”
หลัวนีน่าจ้องพี่ชายเขม็ง “พี่จะพูดอะไร หลิวเชี่ยนเชี่ยนคือเรื่องยุ่งวุ่นวายในชีวิตพี่นะ”
“เชื่อไหมล่ะว่าถ้าพี่พูดไป คุณกู้จะบังคับให้พี่จ่ายเงินคืนทันทีเลยน่ะ!”
หลัวชิงซานพูดอย่างเสียใจ “ก็จริง เขามีอิทธิพลขนาดนั้นแท้ ๆ แต่ทำไมเขาหาผู้หญิงอื่นไม่ได้ ทำไมต้องมาคว้ายัยผ้าขี้ริ้วนั่นด้วย!”
นีน่ากัดฟันด้วยความเกลียดชัง “โอ๊ย ทำไมฉันต้องมีพี่ชายโง่แบบพี่กันนะ!”
“อะไรอีกล่ะ?”
“เพราะเขาชอบและหลงไง!”
“ทุกคนมีความชอบเป็นของตัวเองทั้งนั้น เข้าใจไหม”
หลัวชิงซานคิดถึงเรื่องนี้ ต้องยอมรับว่ารสนิยมของหลิวเชี่ยนเชี่ยนในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งก็ยังคงดีมาก เธอดูตราตรึงใจต่อสายตาผู้ชายไม่น้อย
หลัวนีน่ารู้ทันทีว่าพี่ชายคิดอะไรอยู่ เธอถึงกับกัดฟันด้วยความโกรธ
“หยุดเพ้อฝันแล้วรีบหาเงินซะ!”
หลัวชิงซานหัวเสียทันที เขาจึงรีบพาน้องสาวออกไป
หลังจากพวกเขาจากไปแล้ว กู้ซานเยี่ยก็บีบเอวหลิวเชี่ยนเชี่ยนอย่างหยอกล้อ
“ตอนนี้ฉันพอใจแล้ว!”
หลิวเชี่ยนเชี่ยนตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นความขี้เล่นในดวงตาของอีกฝ่าย และเธอก็เข้าใจได้ทันทีว่านายท่านเห็นกลอุบายของเธอแล้ว
เธอรู้สึกกลัวในใจ แต่ยังคงโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขาอย่างออดอ้อน
“นายท่านคะ เมื่อก่อนฉันถูกเขาเอามีดมาขู่ ฉันกลัวแทบตายเลย”
“แล้วตอนนี้ฉันก็อยากจะแก้แค้น!”
กู้ซานเยี่ยบีบแก้มเล็ก ๆ ของเธออีกครั้ง
“เธอนี่นะ ช่างเจ้าคิดเจ้าแค้นจริง ๆ!”
หลิวเชี่ยนเชี่ยนคำนวณอยู่ในใจว่า…เธออาจสามารถแก้ปัญหานี้ได้
เจียงหว่านบอกว่าต่อหน้ากู้ซานเยี่ยไม่จำเป็นต้องซ่อนความปรารถนาใด ๆ เพียงแค่ตอนแสดงให้เขาเห็นเมื่อเราโกรธ ก็ต้องรู้จักใช้จริตจะก้านด้วย
อย่างเช่นตอนนี้…
หลิวเชี่ยนเชี่ยนเม้มริมฝีปากอย่างไม่พอใจ แล้วพูดว่า “จะไม่ให้แค้นได้ยังไงคะ ฉันเคยเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอ เคว้งคว้าง และทำอะไรไม่ถูก”
“ถึงฉันจะมีสามี เขาก็เลี้ยงดูฉันไม่ได้ ใครจะรู้ถึงความทุกข์และความไม่ยุติธรรมที่ฉันต้องเจอกัน!”
“ตอนนี้ฉันอยู่กับคุณ และฉันรู้ว่าคุณปกป้องฉันได้ ฉันก็เลย…แค่อยากจะแก้แค้น ทำไมล่ะ ฉันทำไม่ได้เหรอ?”
เธอพูดทุกถ้อยคำอย่างเจ้าเล่ห์และจงใจ นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์แพรวพราว ทำให้ใจของกู้ซานเยี่ยละลายแล้ว
เขาระเบิดหัวเราะออกมาทันที “เอาล่ะ ๆ เข้าใจแล้ว เธอมันแสบได้ใจฉันจริง ๆ!”
“ยัยจิ้งจอกตัวแสบ!”
หลังจากพูดจบ เขาก็วางลูกประคำลง อุ้มหลิวเชี่ยนเชี่ยนขึ้นมา แล้วพาตรงไปที่ห้องนอน
อีกด้าน เฉียวเหลียนเฉินออกจากฟาร์ม กลับมาหาเจียงหว่าน สิบสามวันผ่านไปนับตั้งแต่วันที่หลัวชิงซานยืมเงินนอกระบบ
เมื่อเจียงหว่านเห็นเขา เธอก็อดจะต่อว่าไม่ได้ “นายยังกลับมาถูกอยู่เหรอ? ไหนบอกว่าไม่เกินห้าวันจะกลับมา แล้วทำไมนานขนาดนี้เล่า!”
“ถ้ามาช้ากว่านี้อีกสองสามวัน ฉันจะจับนายมาตัดแขนทิ้งซะ!”
เฉียนเหลียนเฉิงตัวแข็งทื่อ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาจึงเดินไปเข้าไปหาและมอบถุงใบเล็กให้เจียงหว่าน พลางอธิบายเสียงแผ่ว
“ผมเลือกลูกทับทิมมาฝากคุณ คุณต้องชอบรสหวานอมเปรี้ยวของมันแน่ ๆ”
เขากล่าวเสริมอีกว่า “ที่ฟาร์มมีบางอย่างล่าช้าน่ะ”
“สินค้าบนภูเขาชุดที่สองจากหมู่บ้านนายพรานถูกส่งไปแล้ว ผมบรรจุและส่งออกไปเหมือนที่คุณทำครั้งก่อน”
“อ้อ ใช่ นี่เป็นของที่มู่เหย่ฝากมาให้คุณ แล้วก็มีจดหมายของคุณด้วย”
เฉียวเหลียนเฉิงนำถุงผ้าออกมาอีกถุง เป็นถุงที่ทำจากผ้าที่ถักทอกันในแนวทแยงและผูกปมไว้
พอแกะปมออก ของก็เทออกมามากมาย
เจียงหว่านหยิบกล่องกระดาษแข็งขึ้นมาสองสามแผ่นแล้วขมวดคิ้ว
กล่องใบนี้ค่อนข้างหนา
ที่สำคัญคือดูเหมือนขยะ
“มู่เหย่นี่เป็นคนยังไงกัน? นี่มันกระดาษแข็งชัด ๆ ไม่มีใครอยากได้แล้ว!”
เฉียวเหลียนเฉิงเหลือบมองกล่องนั่นด้วยความประหลาดใจ “แต่มันสวยมากเลยนะ”
เจียงหว่านกลอกตามองเขา เธอโยนกล่องนั้นออกไป แล้วหยิบจดหมายของมู่เหย่ขึ้นมา ในนั้นมีรูปแบบบรรจุภัณฑ์ และชื่อผลิตภัณฑ์อยู่อย่างหลากหลาย
เจียงหว่านเยาะเย้ย “น่าเกลียดจริง ๆ!”
เฉียวเหลียนเฉิงไม่กล้าพูดอะไรอีก
ส่วนจดหมายอื่น ๆ ของเธอ ทั้งหมดมาจากการส่งต้นฉบับนิยายในครั้งก่อน ๆ
ตอนเธอมาที่ค่ายทหารครั้งแรก เธอส่งต้นฉบับนิยายหลายไปฉบับออกไปในคราวเดียว แต่หลายเรื่องก็ไม่ได้ถูกใช้
จดหมายพวกนี้เหมือนซากศพที่จมลงทะเลไปนานแล้ว ไม่รู้ว่าบรรณาธิการคนไหนมีเซนส์ดีถึงให้เธอผ่านตอนนี้ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้เห็นผลของความตั้งใจแล้ว
อีกทั้งยังได้กำไรแบบไม่คาดคิดด้วย