เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 213 ล่วงรู้อาการบาดเจ็บที่แขนซ้าย
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 213 ล่วงรู้อาการบาดเจ็บที่แขนซ้าย
บทที่ 213 ล่วงรู้อาการบาดเจ็บที่แขนซ้าย
ทุกคนล้วนทราบกันดี ใบไม้สามารถร่วงหล่นลงมาได้ถ้าหากว่าถูกสั่นสะเทือน ต่อให้เป็นผู้หญิงถีบมันอย่างแรง ใบไม้ก็สามารถหล่นลงมาได้
แต่อยู่ที่ว่าจะหล่นน้อยหรือมากเท่านั้น
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมก่อนหน้านี้หัวหน้าหมู่บ้านถึงดูถูกเขา
ทว่า การโค่นต้นไม้หนาเท่าคนด้วยหนึ่งฝ่ามือ มันไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์จะสามารถทำได้
อีกทั้ง ผู้ชายในหมู่บ้านนายพรานก็ไม่มีใครสามารถทำได้สักคน
การโค่นต้นไม้ต้นนี้ด้วยมือเปล่า ต่อให้รวมกันเจ็ดคนก็ยังทำให้เขยื้อนไม่ได้ นับประสาอะไรกับคน ๆ เดียว!
ไม่ใช่แค่ชาวบ้านที่แปลกใจ แม้แต่เสี่ยวไช่เองก็ยังอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
เขาเป็นทหารมาหลายปี แม้จะเป็นเพียงทหารอาสา ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในฟาร์มเท่านั้น
และเขาก็ได้ยินเกี่ยวกับพลังของหัวหน้ากองพันเฉียวมานานแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยได้เห็นด้วยตาของตัวเองเลย ทั้งยังแอบคิดอยู่เสมอว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนเล่าลือกันไปเกินจริง
ทว่าวันนี้เขาได้เห็นมันด้วยตัวเองแล้ว นั่นทำให้เสี่ยวไช่ตื่นตระหนกจนพูดไม่ออกอยู่นาน
สถานการณ์โดยรอบเงียบงัน
หัวหน้าหมู่บ้านและพวกตกอยู่ในความตะลึง ไม่มีเสียงให้เอื้อนเอ่ย
สายตาที่ทุกคนมองเฉียวเหลียนเฉิงเปลี่ยนไปแล้ว
เหล่าโจรในหมู่บ้านนายพรานมองเขาด้วยสายตาลุกโชน
พวกเขาทั้งหมดล้วนเคารพผู้แข็งแกร่งกว่าเสมอ
แต่อย่างไรแล้วในหมู่คนจำนวนมากก็ย่อมมีคนแปลกแยก
ทันทีที่เห็นว่าทุกคนเงียบ แม้แต่พวกพ้องบางส่วนก็เริ่มก้าวถอยอย่างไม่รู้ตัวราวกับยอมจำนน ต้าหลางก็เป็นกังวล
เขารีบตะโกน “มัวยืนทำอะไรกันอยู่ รีบมาช่วยฉันเร็วเข้า!”
พอทุกคนฟื้นคืนสติกลับมา พวกเขาก็หันมองหัวหน้าหมู่บ้าน
หัวหน้าหมู่บ้านขมวดคิ้ว และยกมือให้ทุกคนเงียบ
“หัวหน้าเฉียว การหักต้นไม้หน้าหมู่บ้านเราแบบนี้คุณหมายความว่ายังไง? คุณกำลังพยายามจะขู่พวกเรางั้นเหรอ?”
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้ารับอย่างไม่แยแส “ใช่!”
คำตอบของเขาทำให้ผู้คนโดยรอบทั้งหมดถึงกับพูดไม่ออกอีกครั้ง
เฉียวเหลียนเฉิงกล่าวต่อว่า “ถ้าฐานะหัวหน้ากองพันมันไม่อยู่ในสายตาของพวกคุณ ถ้าอย่างนั้น ผมก็ไม่ใช่หัวหน้ากองพันอีกต่อไป แต่จะเป็นแค่คนธรรมดาที่ชื่อเฉียวเหลียนเฉิง”
“เป็นเฉียวเหลียนเฉิงที่หักต้นไม้ใหญ่ต้นนี้!”
หัวหน้าหมู่บ้านตกตะลึงพูดไม่ออกเข้าไปอีก
ถ้าอีกฝ่ายอยากแสดงความแข็งแกร่ง แล้วเขาจะทำอะไรได้!
ต้าหลางกลอกตาไปมา กรีดร้องอย่างทุรนทุราย ก่อนจะหมดสติไป
ทุกคนพยายามจะคลี่คลายเรื่องนี้อย่างสันติวิธี แต่ตอนนี้เมื่อเห็นต้าหลางหมดสติไป พวกเขาก็เริ่มกังวลอีกครั้ง
ด้านหลังของหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อนของต้าหลางชื่อพี่ซานพูดขึ้น “กองทัพมีหน้าที่ปกป้องประชาชนไม่ใช่รึไง? นี่กล้าจับชาวบ้านตาดำ ๆ เป็นตัวประกันได้ยังไง?”
สิ้นเสียง หลายคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ใช่ ๆ กองทัพควรจะปกป้องประชาชนไม่ใช่เหรอ? เอาเหตุผลอะไรมาทำกับเราแบบนี้?”
“จับชาวบ้านเป็นตัวประกันได้ยังไง!”
เมื่อมีคนหนึ่งตะโกนออกมา คนอื่น ๆ ก็เริ่มทำตาม ฝูงชนทั้งหมดเผยความขุ่นเคืองผ่านน้ำเสียง
เฉียวเหลียนเฉิงเห็นอย่างนั้น สีหน้าก็ยิ่งเย็นชา เขากวาดสายตามอง ก่อนจะหยุดสายตาลงที่หัวหน้าหมู่บ้าน
เขาอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะพูดยังไง!
หัวหน้าหมู่บ้านลังเล แน่นอนว่าเขาทำเหมือนชาวบ้านคนอื่น ๆ ไม่ได้ เมื่อเกิดความวุ่นวายเช่นนี้ เขาก็รู้สึกว่าศีรษะกำลังร้อนจนใกล้ระเบิดเต็มที
หากว่าเฉียวเหลียนเฉิงมาคนเดียว เขาคงไม่สนใจอะไรมาก
ตราบใดที่ไม่มีใครตายก็ใช้ได้
แต่ว่าเฉียวเหลียนเฉิงคนนี้ไม่ธรรมดา ทั้งยังมีอีกคนมากับเขาด้วย ในเมื่อทักษะของชายคนนี้ยอดเยี่ยม การจัดการเขาก็ไม่ง่ายเช่นกัน!
ทันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไป พี่ซานก็ขว้างก้อนหินใส่เฉียวเหลียนเฉิง
ทว่าก้อนหินนั้นใหญ่เกินไป จึงไม่เข้าเป้า… แต่มันพุ่งเข้าหาต้าหลางแทน
ฟิ้ว…
ตุ้บ!
ก้อนหินร่วงใส่ศีรษะต้าหลางอย่างแม่นยำ
ต้าหลางตะโกนลั่นด้วยความเจ็บปวดทันที
แต่ก่อนที่ต้าหลางจะพูดอะไร พี่ซานก็ชิงตะโกนขึ้นก่อน “ทุกคน! มาดูนี่เร็วเข้า! เจ้าหน้าที่กำลังทุบตีชาวบ้าน! เจ้าหน้าที่ทุบหัวต้าหลาง!”
ทันทีที่เสียงตะโกนดังขึ้น ทุกคนก็เริ่มตะโกนตาม ๆ กัน ไม่สนว่าก่อนหน้านี้เป็นฝ่ายพวกเขาที่เริ่มปาก้อนหินออกไปก่อน
“ใช่ เจ้าหน้าที่ทุบตีพวกเรา ทั้งยังทุบหัวต้าหลางด้วย เขาทำเกินไปแล้ว! เจ้าหน้าที่กล้าลงมือกับชาวบ้านแบบนี้ พวกเราไม่ยอม!”
ท่ามกลางความโกรธแค้นของทุกคน หัวหน้าหมู่บ้านไม่สามารถรั้งพวกเขาได้อีกต่อไป คนเหล่านั้นพุ่งเข้าหาเฉียวเหลียนเฉิงหมายจะเอาชนะให้ได้
เฉียวเหลียนเฉิงสบถออกมาอย่างเย็นชา จิตสังหารรุนแรงปะทุผ่านแววตาไม่ต่างอะไรจากยมทูตที่มาเยือนโลกมนุษย์
เขาพูดกับเสี่ยวไช่โดยที่ไม่ได้หันไปมอง
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายอีกต่อไปแล้ว กลับฟาร์มไปซะ!”
เสี่ยวไช่ไม่เห็นด้วย “หัวหน้า ผมจะกลับไปตอนนี้ได้ยังไง!”
เฉียวเหลียนเฉิงตะคอกออกมาอีกครั้ง “นี่คือคำสั่ง!”
เสี่ยวไช่ชะงักค้าง เขายอมกลับไป แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับมามองอยู่หลายที
เขากำลังลังเล
ใช่ เขารู้ว่าควรรีบออกไปโดยเร็วที่สุด แต่เขาไม่อยากจะทิ้งเฉียวเหลียนเฉิงไว้คนเดียว
เขาอยากจะรอ…
บางทีเฉียวเหลียนเฉิงอาจจะเปลี่ยนใจ และขอให้เขาอยู่ช่วยก็ได้!
แม้เขาจะหันหลังกลับไปบ่อยครั้ง แต่เพียงระยะเวลาสั้น ๆ เขาก็เดินห่างออกมากว่าสิบเมตรแล้ว
เมื่อหันกลับไปอีกครั้ง เขาเห็นเฉียวเหลียนเฉิงเตะต้าหลางออกไปให้พ้นทาง แล้วเดินเข้าไปในหมู่บ้าน
เหล่าผู้ชายในหมู่บ้านพุ่งเข้าหาเฉียวเหลียนเฉิง ผู้นำกลุ่มชาวบ้านก็คือพี่ซาน และทั้งสองฝ่ายก็เข้าปะทะกัน
ช่วงปีแรก พี่ซานกับต้าหลางไปเที่ยวตลาดมืดเพื่อขายสินค้าบนภูเขา แต่พวกเขาบังเอิญได้พบเจอสาวงามคนหนึ่งจึงตามตอแยหล่อน และตั้งใจจะพากลับบ้าน เอาหล่อนมาเป็นภรรยา
แต่บังเอิญคราวนั้นมีทหารสองสามนายเดินผ่านมา ทั้งสองจึงถูกสั่งสอนจนแผนการล้มเหลว
เขาอยากจะพาชาวบ้านในหมู่บ้านไปแก้แค้นให้กับตัวเอง แต่เพราะหัวหน้าหมู่บ้านไม่ยินยอมจึงไม่สามารถทำได้
การพาชาวบ้านบุกเข้าไปล้างแค้นทหารในค่าย ไม่ต่างจากการรนหาความตาย!
ด้วยเหตุผลนั้น พวกเขาสองคนจึงถูกลงโทษตามกฎของหมู่บ้านด้วย นั่นคือการเฆี่ยนตีสามสิบครั้ง
ทั้งต้าหลางและพี่ซานเกลียดชังทหารมากตั้งแต่วันนั้น
จนกระทั่งวันนี้พวกเขาได้รับโอกาสล้างแค้น แน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป
พี่ซานวิ่งเข้าหาเฉียวเหลียนเฉิง ก่อนจะใช้ไม้ในมือทุบศีรษะคู่ต่อสู้ ด้วยใจที่หมายเอาชีวิต
เขาคิดว่าด้วยการโจมตีนี้ มันจะทำให้คู่ต่อสู้พ่ายแพ้ในคราวเดียว
แต่ทุกอย่างไม่ง่ายดายอย่างนั้น
เฉียวเหลียนเฉิงมองเขาอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะยกมือขึ้นคว้าแขนของเขาเอาไว้ แล้วขยับเบา ๆ
แกร๊ก!
“อ๊าก!” เสียงกรีดร้องดังลั่น
พี่ซานโกรธจัดเพราะความเจ็บปวด เขาพยายามทุบตีร่างกายของเฉียวเหลียนเฉิงด้วยมือซ้าย โดยไม่สนใจความเจ็บปวดที่แขนขวา
ปกติแล้วเฉียวเหลียนเฉิงจะต้องโบกแขนซ้ายปัดป้องกันการโจมตี แต่ตอนนี้แขนซ้ายของเขาไม่อาจเคลื่อนไหวได้เช่นเดิม ทุกอย่างจึงช้าลงมาก
เขาทำได้เพียงเอียงศีรษะหลบไปทางอื่นเท่านั้น
พี่ซานเห็นบางอย่างผิดปกติทันที แววตาของเขาเป็นประกายวูบวาบ อดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ คว้าไม้ที่พื้น และใช้มันตีใส่แขนซ้ายเฉียวเหลียนเฉิงอย่างแรง
ดวงตาของเฉียวเหลียนเฉิงเยือกเย็น เขาคว้าแขนซ้ายและขวาของพี่ซาน แล้วขยับมันอย่างเชี่ยวชาญ พลันข้อต่อของแขนทั้งสองข้างก็หลุดในทันที
ข้อต่อของแขนสองข้างหลุดออกจากหัวไหล่ มือของพี่ซานห้อยต่องแต่ง ร่างกายชุ่มโชกด้วยเหงื่อ และความเจ็บปวด
แม้ร่างกายจะสู้ไม่ได้แล้ว แต่ปากยังทำงานได้ดี
พี่ซานรีบถอยหลังไปสองสามก้าว หลบซ่อนในที่ปลอดภัย
“โจมตีแขนซ้ายของมัน แขนซ้ายมันบาดเจ็บ!”
เขาตะโกนลั่น ทุกคนมุ่งเป้าไปที่แขนซ้ายของเฉียวเหลียนเฉิงอย่างพร้อมเพรียงทันที
หากนี่เป็นการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งก็คงดีกว่านี้ ถนนบนภูเขาค่อนข้างแคบมาก แต่เขาต้องรับมือกับคนสามถึงสี่คนพร้อมกัน นั่นทำให้เฉียวเหลียนเฉิงไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้ด้วยแขนข้างเดียว
ทันใดนั้นเอง ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านหลัง
เฉียวเหลียนเฉิงเหลือบมอง ก่อนจะร้องอุทานออกมา “เสี่ยวไช่!”
เสี่ยวไช่รีบตอบกลับ “หัวหน้าไม่ต้องกังวล ตอนนี้ผมไม่ใช่เสี่ยวไช่ แต่เป็นแขนซ้ายของคุณ!”