เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 82 ความแค้นของไป๋หลาง ให้ไป๋หลางแก้แค้นด้วยตัวเอง
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80
- บทที่ 82 ความแค้นของไป๋หลาง ให้ไป๋หลางแก้แค้นด้วยตัวเอง
บทที่ 82 ความแค้นของไป๋หลาง ให้ไป๋หลางแก้แค้นด้วยตัวเอง
สีหน้าซูฮุ่ยหรูพลันซีดขาว เสียงสั่นเครือเล็กน้อย “หมายความว่าไง ลูกคิดว่าแม่เป็นคนทำร้ายไป๋หลางอย่างนั้นเหรอ”
โจวจินหนานยกมุมปาก “ขอให้ไม่ใช่คุณจะดีที่สุด!”
ร่างกายซูฮุ่ยหรูสั่นสะท้าน “โจวจินหนาน ฉันอุ้มท้องแกมาสิบเดือน เลี้ยงดูแกมาอย่างยากลำบาก แกทำกับฉันแบบนี้เหรอ แกกลับสงสัยแม่แท้ ๆ แกยังมีจิตใจอยู่ไหม”
พูดอยู่ ๆ ก็สะอื้นไห้ขึ้นมา
สวี่ชิงมองท่าทางเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันนั่นอย่างตะลึง มองไปที่โจวจินหนานแล้วก็มองซูฮุ่ยหรู หรือว่าจะเป็นซูฮุ่ยหรูจริง ๆ ที่เป็นคนทำร้ายไป๋หลาง?
เฉิงหยิงทำตัวไม่ถูก “จินหนาน พูดอะไรต้องมีหลักฐาน หลานพูดแบบนี้กับแม่หลานได้ยังไง หลายปีมานี้พวกเธอสองแม่ลูกต่างก็มีเรื่องขัดแย้งกันตลอด ย่าขอถามพวกเธอให้มีชัดเจนไปเลยในวันนี้ว่าหลานมองว่าหลานมีความคิดเห็นอย่างไรกับแม่ของหลาน”
โจวจินหนานเม้มปากแน่น ชัดเจนว่าเขาปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้
ซูฮุ่ยหรูกลับเสียสติร้องไห้หนักกว่าเดิม “คุณแม่คะ ไม่ต้องถามแล้ว ฉันน่าจะทำได้ไม่ดีพอ ต้องไปฉันจะระวังให้ดีค่ะ”
เฉิงหยิงเองก็โมโหแล้วเหมือนกัน “พอแล้ว มีแม่ลูกบ้านไหนบ้างที่มีปัญหากันจนเป็นแบบพวกเธอสองคน แม้แต่ในบ้านในช่องก็ไม่ยอมพูด จินหนาน ตอนนี้หลานก็มีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว ต่อไปก็จะกลายเป็นพ่อคน ลองคิดกลับกัน ในตอนแรกแม่ของหลานเลี้ยงแกกับน้องชายที่ชนบทมาไม่ใช่ง่าย ๆ ”
ไม่พูดถึงเรื่องชนบทก็คงดี พอพูดถึงเรื่องที่ชนบท สีหน้าของโจวจินหนานก็เปลี่ยนไปทันที
แม้แต่สวี่ชิงยังดูออกว่าเขากำลังโกรธ เมื่อมองซูฮุ่ยหรูอีกครั้ง ก็เห็นว่าดวงตาสีแดงก่ำคู่นั้นฉายแววตกตะลึง หรือว่าตอนอยู่ที่ชนบทจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีขึ้น?
โจวจินหนานลุกขึ้นยืนทันที ยื่นมือให้สวี่ชิง “พวกเราไปกันเถอะ”
เกาจ้านเองก็รีบลุกขึ้นเช่นกัน ฉากวุ่นวายดูได้ครึ่งหนึ่ง ฉากต่อไปเกรงว่าจะไม่น่าดูแล้ว
สวี่ชิงจับมือโจวจินหนานอย่างเชื่อฟัง ดึงเขาออกประตูไป
เฉิงหยิงโมโหจริง ๆ แล้ว “จินหนาน! หยุดเดี๋ยวนี้นะ วันนี้พวกเธอสองคนแม่ลูกมีปัญหาอะไร ต้องพูดออกมาให้หมด และให้ย่ารู้ด้วยว่าพวกเธอมีปัญหาอะไรกันอยู่”
โจวจินหนานหยุดฝีเท้าแล้วหันตัวกลับมา ซูฮุ่ยหรูตกใจจนวิ่งไปกอดแขนของเฉิงหยิง “คุณแม่ คุณอย่าถามเขาเลยค่ะ ฉันไม่ดีเอง เป็นฉันเองที่ไม่ได้ดูแลจินหนานให้ดี”
หล่อนกลัวว่าโจวจินหนานจะพูดอะไรออกมาจากใจจริง แล้วทำให้คุณย่าโกรธจนตายได้
โจวจินหนานไม่พูดอะไร หมุนตัวออกนอกประตูไปกับสวี่ชิง
สวี่ชิงออกมาประตูใหญ่แล้วยังสามารถได้ยินเสียงร้องไห้ของซูฮุ่ยหรู ภายในดูเหมือนจะยังพูดไม่จบ
เธออดที่จะแบ่งประสบการณ์กับโจวจินหนานไม่ได้ “คุณกับหล่อนสรุปแล้วเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณไม่พูดตอนนี้กลับไปเกรงว่าคงกลายเป็นคุณที่ผิด”
เกาจ้านที่ยืนมองเรื่องวุ่นวายข้าง ๆ อยู่นานพูด “ใช่ ๆ คนอื่นเขาได้ร้องห่มร้องไห้ว่านายเป็นลูกอกตัญญู กลับไปอธิบายคงไม่มีประโยชน์แล้ว”
โจวจินหนานพึมพำ “ไม่เป็นไร ไปเถอะ หาที่ดี ๆ กินข้าวกันเถอะ”
ถ้าเขาพูดออกไป การแตกแยกกับบ้านหลังนี้ก็เป็นเรื่องเล็ก แต่น่ากลัวว่าเฉิงหยิงกับโจวอันคังจะโมโหตายก่อน
เกาจ้านขับรถพาทั้งสองไปร้านเกี๊ยว ร้านเกี๊ยวนี้เป็นกิจการส่วนตัว ดังนั้นเกี๊ยวจึงมีแป้งบางไส้เยอะ พอกัดแล้วจะมีน้ำซุปชุ่มช่ำหอมน้ำมันแตกในปาก
หลังจากทั้งสามนั่งลง เกาจ้านก็สั่งเกี๊ยวไส้เนื้อวัวกับต้นหอมสามชั่ง และเกี๊ยวทอดไส้หมูกับผักกาดขาว
ระหว่างที่รอ เกาจ้านก็พูดอย่างเสียใจว่า “นายบอกว่าทำไมนายไม่กินเนื้อหมูนะ เกี๊ยวทอดไส้หมูกับผักกาดขาวรสชาติยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว”
โจวจินหนานไม่พูด นั่งหลังตรงบนเก้าอี้อยู่อย่างนั้น
สวี่ชิงชอบตอนที่เขาไม่สนใจอะไรแบบนี้ หลังตั้งตรง ใบหน้าขรึมจริงจัง
จากนั้นก็ถามถึงอาการบาดเจ็บไป๋หลางอย่างเป็นห่วง “ไม่หนักใช่ไหมคะ ต่อไปจะมีโรคแทรกซ้อนอะไรอีกหรือเปล่า อีกนานแค่ไหนถึงจะหายดี”
เกาจ้านส่ายหน้า “ไม่หรอก โชคดีที่ไป๋หลางหลบได้ทัน ถ้าช้ากว่านี้อีกนิดเกรงว่าแม้แต่เทพเซียนก็ช่วยไม่ได้ อีกครึ่งเดือนก็กลับได้แล้ว เพียงแต่ถึงตอนนั้นแล้วมันอาจจะขี้เหร่ไปหน่อย”
สวี่ชิงคิดถึงตอนนี้ปกติของไป๋หลางก็ไม่ได้ดูดีตรงไหนอยู่แล้ว ถึงตอนนั้นต่อให้ขี้เหร่อีกสักนิดก็คงไม่เป็นอะไรมั้ง?
ครั้นเกี๊ยวถูกวางไว้บนโต๊ะ เกาจ้านก็กินไปด้วยพูดกับโจวจินหนานไปด้วย “เมื่อกี้ที่นายพูดมันหมายความว่าอะไร หรือว่านายสงสัยแม่แท้ ๆ ของนายว่าเป็นคนทำร้ายไป๋หลาง ไม่น่าจะใช่มั้ง?”
โจวจินหนานตอบอืมคำเดียว “เพื่อให้ฉันกับสวี่ชิงย้ายกลับมาอยู่บ้าน”
สวี่ชิงตกตะลึง “เป็นไปไม่ได้มั้งคะ แต่ต่อให้ไป๋หลางตายก็ไม่แน่ว่าพวกเราจะย้ายกลับมาอยู่บ้านเสียหน่อย”
ในใจด่าไปสิบตลบแล้ว เหลือแค่เพียงทำให้หล่อนตายเหมือนกันเท่านั้น
โจวจินหนานเงียบไปสักพัก “ผมมีลุงคนหนึ่ง ฝีมือการทำปืนพลุประดิษฐ์เขาดีมาก”
เกาจ้านสบถด่า “งั้นให้ฉันไปจับลุงของนายมาถามดีไหม”
โจวจินหนานส่ายหน้า “ยังไม่ต้อง ให้ไป๋หลางแก้แค้นด้วยตัวเอง”
เกาจ้านพูด “ให้ตายเถอะ นายนี่มันโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว ให้ไป๋หลางแก้แค้น นั่นน่ะทำให้คนตายได้เลยนะ”
นิสัยของไป๋หลางก็เหมือนกับเจ้าของของมัน มีแค้นก็ต้องชำระ!
ในสนามรบ ไป๋หลางไม่เคยได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ครั้งนี้ได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ หากปล่อยคนกระทำไว้ก็แปลกเกินไปแล้ว
สวี่ชิงเห็นทั้งสองพูดก็ยากที่จะแทรกแซง แต่ในใจก็รู้สึกประหลาดใจมาก ไป๋หลางดุขนาดนั้นเลยหรือ
ไหนจะโจวจินหนานอีก สรุปว่าเพราะอะไรเขาถึงเกลียดซูฮุ่ยหรูขนาดนั้น
…..
ชีวิตของสวี่ชิงผ่านไปอย่างสงบ ในขณะที่ด้านของสวี่หรูเยว่เองก็ได้ยินว่าไม่เลวเช่นกัน
ฟางหลานซินคิดว่าเรื่องที่ฉินกุ้ยจือจะซื้อทีวี จักเย็บผ้าและเครื่องซักผ้าให้จะเป็นเรื่องหลอกลวง คิดไม่ถึงว่าพอเช้ามาก็นำคูปองทีวีกับเครื่องซักผ้ามาจริง ๆ และลากตัวสวี่หรูเยว่ไปซื้อ
ฟางหลานซินมองสวี่หรูเยว่เข้าประตูมา ก็ถามอย่างเป็นห่วงว่าเรื่องจริงหรือ “ลูกเห็นของที่ซื้อมาจริง ๆ หรือเปล่า”
สวี่หรูเยว่ใบหน้ายับย่น ไม่มีความรู้สึกยินดีอยากแต่งเลยสักนิดเดียว “ซื้อแล้วค่ะ ฉันเห็นหล่อนจ่ายเงินแล้ว”
ฟางหลานซินประหลาดใจมาก “ครั้งนี้ฉินกุ้ยจือใจกว้างจริง ๆ ฉันนึกว่าหล่อนจะแต่พูดไปอย่างนั้น ไม่คิดว่าจะใจกว้างขนาดนี้”
พอสวี่หรูเยว่คิดถึงใบหน้าอ้วน ๆ ของฉินกุ้ยจือที่มองหล่อนอย่างดูแคลนตลอด ในใจก็รู้สึกแย่ “แม่คะ ฉันไม่อยากแต่ง”
ฟางหลานซินถลึงตามองหล่อน “การแต่งงานกำหนดแล้วว่าเป็นวันที่สิบ นับแล้วก็เหลืออีกแค่หกวัน การ์ดเชิญก็ส่งไปแล้ว ตอนนี้แกกลับบอกไม่อยากแต่ง นี้แกยังอับอายขายหน้าคนอื่นไม่พออีกเหรอ”
ทุกวันสวี่หรูเยว่รู้สึกเหมือนมีมีดมาปักอยู่ที่ใจ จนถึงตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยก็เลยไม่ให้ผลลัพธ์อะไรกลับมาเลย ไม่รู้ว่าตรวจสอบเรื่องเป็นอย่างไรแล้ว
เทอมหน้าไม่รู้ว่าหล่อนจะสามารถกลับไปเรียนได้อยู่ไหม
ฟางหลานซินมองสีหน้าเสียใจของสวี่หรูเยว่ “ตอนนี้แกตอนคิดให้ดี ๆ ครั้งนี้ตระกูลหลี่ก็ทำได้ไม่เลว ถึงตอนนั้นก็จะมีรถลากพาแกรอบโรงงานรอบหมู่บ้าน ทั้งหมดนี้ก็เพราะเห็นแก่หน้าแก! สิ้นสอดก็ให้ทั้งเครื่องซักผ้าทั้งทีวี ในแถบนี้มีแกเนี่ยแหละที่ได้คนแรก!”
สวี่หรูเย่วกลับไม่มีสีหน้ายิ้มแย้มดีใจ “แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร บ้านตระกูลหลี่ก็เล็กขนาดนั้น ยังมีฉินกุ้ยจื้ออีก หล่อนน่ะสกปรกจะตาย”
ยิ่งคิดว่าสวี่ชิงได้แต่งงานออกไปอยู่กับโจวจินหนานแบบสองสามีภรรยาก็ยิ่งน่าโมโห!
ฟางหลานซินจิ้มสมองสวี่หรู่เยว่ “แกน่ะแต่งงานออกไปอย่างมีความสุดซะ! ถึงเวลาแม่จะให้สิ้นเดิมดี ๆ ให้แกไปด้วย!”
สวี่หรูเยว่นึกว่าที่บ้านมีของอะไรดีบ้าง “แม่หลอกฉันอีกแล้ว”
ฟางหลานซินยิ้มมีเลศนัย “ฉันเคยหลอกแกเมื่อไรกัน แม่แท้ ๆ ของสวี่ชิงนังแพศยาคนนั้นทิ้งของดี ๆ เอาไว้เยอะเชียวล่ะ แม้แต่พ่อของแกก็ไม่รู้ ถึงตอนนั้นแม่จะให้เป็นสินเดิมทั้งหมดของแกเอง!”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
นังแม่เลี้ยงบังอาจฮุบสมบัติแม่สวี่ชิงเอาไว้เหรอ คายออกมาดีๆ เชียวนะอย่าให้ชิงชิงต้องร้าย
ไหหม่า(海馬)