เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 79 ไป๋หลางบาดเจ็บ
บทที่ 79 ไป๋หลางบาดเจ็บ
(TW: มีฉากทำร้ายจิตใจคนรักสัตว์)
สวี่ชิงรีบปกปิดอาการดีใจอย่างห้ามไม่อยู่ของตนไว้ เรื่องอะไรจะให้โจวจินหนานเห็นด้านร้ายกาจของเธอกันเล่า “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่คิดจะทำธุรกิจ แต่อากาศร้อนมากจนเก็บของกินไม่ได้ คุณป้าคนนั้นเลยพูดกับฉันว่าโรงงานไอศกรีมมีน้ำแข็งอะไรพวกนั้นขายอยู่ ถึงเวลาก็วางไว้ข้าง ๆ ของกิน เท่านี้มันก็ไม่เน่าเสียเร็วแล้ว”
โจวจินหนานพยักหน้าเชื่อในคำพูดของเธอ “เป็นวิธีที่ดีทีเดียว”
ในตอนที่ทั้งสองค่อยเดินมาจนถึงบ้านตระกูลโจว ครอบครัวโจวก็นั่งกินข้าวกันอยู่พอดี โจวเฉิงเหวินยังไม่ได้ออกไปทำงาน พอเห็นสวี่ชิงกับโจวจินหนานก็ประหลาดใจไม่น้อย “จินหนานกับชิงชิงกลับมาแล้วเหรอ กินข้างหรือยัง”
สวี่ชิงพยักหน้า “คุณพ่อ พวกเรากินข้าวเช้ามาแล้วค่ะ”
เพียงเธอเรียกพ่อประโยคเดียวอย่างสนิทสนม ก็ทำให้ใบหน้าของโจวเฉิงเหวินยิ้มกว้างยิ่งขึ้น “ดี งั้นพวกเธอนั่งก่อน ตอนเที่ยงพ่อจะกลับมากินข้าวด้วย”
โจวจินซวนที่นั่งอยู่ข้างๆ ฟังด้วยใบหน้าดำทะมึน จ้องหน้าของสวี่ชิงอย่างไม่อยากละสายตา
เพียงไม่ได้เจอกันสามวัน สวี่ชิงก็เหมือนจะดูสวยขึ้นมาก ราวดอกไม้เบ่งบานยามอรุณรุ่งที่แต่งแต้มด้วยหยาดน้ำค้าง ดูมีน้ำมีนวลผุดผ่องนัก
โจวจินซวนพลันไม่พอใจ สวี่ชิงไม่ควรเป็นแบบนี้สิ!
เธอไม่ควรใช้ชีวิตได้ดีขนาดนี้!
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเป็นหญิงไม่บริสุทธิ์ เป็นดอกไม้หักกิ่งหลิวเฉา เธอควรที่จะอับเฉาไม่ใช่เบ่งบาน!
ยิ่งมองรอยยิ้มสดใสของสวี่ชิงแล้ว สายตาของเขาก็ยิ่งมืดมน
สวี่ชิงไม่คิดจะสนใจโจวจินซวน เธอทักทายโจวเฉิงเหวิน แล้วก็ข้ามไปทักทายเฉินหยิงกับโจวคังอัน “คุณปู่ คุณย่า พวกเรากลับมาเยี่ยมค่ะ”
เฉินหยิงยิ้มแล้วหยิบซองอั่งเปาที่เตรียมไว้ออกมาจากกระเป๋า “ตั้งแต่เช้าย่าก็พูดอยู่ว่าพวกเธอจะมาวันนี้ แต่ป้าสะใภ้เธอกลับบอกว่าวันนี้พวกเธอจะไม่มา”
นางพูดพลางจับมือสวี่ชิงไปด้วย ก่อนจะมองโจวจินหนาน สีหน้าในยามนี้ของเขาดูดีกว่าตอนอยู่ที่บ้านเสียอีก จึงพยักหน้าอย่างพอใจ “ดีแล้ว ดูเหมือนพวกเธอจะสบายดีกันสินะ เห็นพวกเธอสบายดีย่าก็วางใจ มา รีบไปนั่งในบ้านกันเถอะ”
มือหนึ่งดึงมือสวี่ชิง อีกมือหนึ่งดึงมือโจวจินหนานเข้าห้องรับแขก
ภายในห้องรับแขกมีเพียงเหยียนเฉียวอวี้ที่อยู่ในห้อง หล่อนยิ้มทักทายโจวจินหนานกับสวี่ชิง “ฉันว่าหลังจากชิงชิงแต่งงานแล้วก็ดูดีขึ้นนะ สีหน้าของจินหนานก็ดีขึ้นเหมือนกัน ดูเหมือนชีวิตสามีภรรยาของพวกเธอจะไม่เลวเลยนะ”
แล้วหล่อนก็หันมาพูดกับเฉิงหยิง “แม่คะ เมื่อก่อนแม่ยังกังวลเรื่องพวกเขาอยู่เลย ฉันว่าแม่คงกลุ้มใจเปล่าซะแล้วล่ะค่ะ”
เฉิงหยิงยิ้ม “ก็ไม่ใช่หรือยังไง คนแก่ก็ชอบกลุ้มใจอย่างนี้แหละ เร็ว รีบๆ นั่งเถอะ กลับบ้านมาครั้งนี้พวกเธอจะทำตัวเหมือนเป็นแขกไปทำไมกัน”
สวี่ชิงยิ้มแล้วนั่งลง มองไปรอบ ๆ แล้วก็ไม่เห็นโจวเฉิงเฉียนกับซูฮุ่ยหรู จึงถามไปตามมารยาทว่า “ทำไมไม่เห็นคุณแม่กับคุณลุงเลยล่ะคะ”
เหยียนเฉียวอวี้ถอนหายใจ “ก็วันที่เธอแต่งงานไม่ใช่ว่าลุงเธอล้มหรือไง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สบายอยู่เลย นอนพักอยู่ในห้องน่ะ ส่วนแม่เธอเห็นว่าพวกเธอกลับมาก็ออกไปซื้อกับข้าวแล้ว”
สวี่ชิงจึงไม่ถามอีก พูดคุยกันสักพัก เฉิงหยิงก็ให้สวี่ชิงพาโจวจินหนานไปพักผ่อนในห้อง
ในสายตาของนาง โจวจินหนานไม่เพียงบาดเจ็บที่ตา แม้แต่ร่างกายก็อ่อนแอมาก ควรจะพักผ่อนให้มากจึงจะฟื้นฟูสภาพร่างกายกลับมาได้
ประกอบกับสวี่ชิงไม่รู้จะพูดอะไรพอดี โดยเฉพาะเมื่อมีเหยียนเฉียวอวี้อยู่ด้วย มันก็ทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ บางอย่าง จึงใช้จังหวะนี้พาโจวจินหนานไปนอนพักในห้อง
แม้หลังแต่งงานเขาจะไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านแล้ว แต่เฉิงหยิงก็ยังคงเก็บรักษาห้องของโจวจินหนานเอาไว้อยู่
เตียงถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนสีแดงสด หน้าต่างมีคำว่า “ซี” แปะอยู่ แม้แต่ตู้เสื้อผ้ากับกระติกน้ำร้อนก็มีคำนี้ติดอยู่เช่นกัน
สวี่ชิงประคองโจวจินหนานไปนั่ง มองแล้วก็พูดไปด้วยว่า “คิดไม่ถึงว่าพวกคุณย่าจะใส่ใจรายละเอียดขนาดนี้นะคะ พวกเราไม่ได้กลับมาอยู่ พวกเขาน่าจะเสียใจมาก ต่อไปพวกเรากลับมาอยู่ที่นี่สัปดาห์ละครั้งแล้วกันนะคะ”
สำหรับโจวลี่หงกับซูฮุ่ยหรูแล้ว เธอไม่กลัวพวกหล่อนหรอก
หากไม่ล้ำเส้นเกินไป เธอก็ไว้หน้าพวกหล่อนได้ตลอดชีวิต เห็นแก่หน้าของพวกหล่อนสักหน่อย
แต่ถ้าล้ำเส้นกัน เธอก็ย่อมไม่ไว้หน้าพวกหล่อนเช่นกัน
โจวจินหนานกลับส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก ไว้มีเวลาค่อยกลับมากินข้าวก็พอ เรื่องค้างคืนน่ะไม่ต้องหรอก”
เพราะมีบางคนที่ไม่ยินดีให้พวกเขากลับมาเช่นกัน
ทั้งสองพูดคุยกันสักพัก สวี่ชิงก็ให้โจวจินหนานขึ้นเตียงนอนพักผ่อน ส่วนเธอออกไปดูงานในครัวว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่
สวี่ชิงเข้าไปในครัวแล้วเดินวนรอบหนึ่ง ซึ่งแม่บ้านเตรียมผักต่างๆ ไว้พร้อมแล้ว ครั้นมองผักกาดขาวที่หั่นเรียบร้อยดีบนโต๊ะทำครัวก็นึกสงสัยอยู่ในใจ ในเมื่อมีผักเยอะขนาดนี้แล้ว ซูฮุ่ยหรูจะไปซื้อผักอีกทำไมกัน?
เหยียนเฉียวอวี้เห็นสวี่ชิงเข้าไปในครัวจึงตามเข้าไปด้วย ยิ้มเล็กยิ้มน้อยขณะมองสวี่ชิง “คุณย่าของจินหนานเตรียมต้อนรับให้พวกเธอเป็นพิเศษ เธอไม่ต้องมาช่วยในครัวก็ได้จ้ะ”
สวี่ชิงหยิบกระเทียมขึ้นมาช่วยปอก “ไม่เป็นไรค่ะ คุณย่าก็พูดแล้วนี่ค่ะว่าไม่ต้องคิดว่าตัวเองเป็นแขก ดังนั้นฉันก็ควรทำอะไรบ้างสักหน่อย”
เหยียนเฉียวอวี้ยกยิ้มพลางจ้องมองสวี่ชิงอย่างไม่วางตา และเอ่ยลองเชิงขึ้นว่า “ในวันนั้นที่พวกเธอแต่งงานกัน ลุงของเธอได้รับบาดเจ็บ เรื่องนี้เธอรู้หรือเปล่า”
สวี่ชิงพยักหน้า “ฉันได้ยินคนพูดกันแล้วล่ะค่ะ”
เหยียนเฉียวอวี้จ้องตาสวี่ชิง “แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่าคุณลุงถูกคนทำร้าย”
สวี่ชิงสะดุ้งตกใจเล็กน้อย “ถูกคนทำร้ายหรือคะ ใครกันช่างกล้าขนาดนี้ แจ้งความหรือยังคะ ฉันนึกว่าเขาล้มเองเสียอีก”
เหยียนเฉียวอวี้มองแสดงออกของสวี่ชิงที่ดูราวกับเพิ่งรู้เรื่องจริง ๆ หล่อนก็ถอนหายใจ “ที่คุณลุงของเธอพูดว่าล้มก็เพราะไม่อยากให้เรื่องใหญ่ เธอคิดดูสิว่างานแต่งงานของพวกเธอออกจะใหญ่โตปานนั้น ถ้าแจ้งความแล้วมันจะแย่ขนาดไหน”
สวี่ชิงยกยิ้ม “ฉันไม่สนใจหรอกค่ะ”
ทว่าในใจลอบครุ่นคิด เห็นชัดว่าคำพูดของเหยียนเฉียวอวี้มีอะไรแฝงอยู่ ราวกับว่าหล่อนรู้ว่าใครเป็นคนลงมืออย่างนั้นแหละ
แล้วใครเป็นคนลงมือล่ะ
จู่ ๆ ก็คิดถึงตอนดื่มเหล้ามงคลในวันแต่งงานและคำพูดไม่น่าฟังเหล่านั้นของโจวเฉิงเฉียนขึ้นมา
ตอนนั้นโจวจินหนานไม่พูดอะไรสักคำ ต่อมาก็พาไป๋หลางออกไปพักหนึ่ง หรือจะเป็นโจวจินหนานที่ทำร้ายโจวเฉิงเฉียน?
เธอตกตะลึงอยู่ในใจ แต่ก็พยายามรักษาสีหน้าท่าทางให้ดูเป็นปกติ
เหยียนเฉียวอวี้เห็นว่าถามสวี่ชิงไปก็ไม่ได้อะไร จึงหยิบกระเทียมขึ้นมาปอก “ช่างเถอะ วันนั้นคุณลุงของเธอซวยเอง กินเหล้ามงคลอยู่ดี ๆ ก็ดันมาเจอเรื่องแย่ ๆ แบบนี้เสียได้”
สวี่ชิงไม่พูด ปล่อยให้เหยียนเฉียวอวี้บ่นไปคนเดียว
รอจนถึงตอนผัดกับข้าว สวี่ชิงจึงออกมาจากห้องครัว และหันไปเห็นซูฮุ่ยหรูยืนนิ่งอยู่ในความมืดตรงหน้าต่างห้องใต้หลังคาพอดี ร่มไม้ด้านนอกบดบังใบหน้าหล่อน ทำให้มองไม่ชัดนัก แต่ก็สร้างความตกใจให้คนที่พบเห็นไม่น้อย
ตลอดทั้งวันสวี่ชิงพลันรู้สึกว่าทั้งเหยียนเฉียวอวี้กับซูฮุ่ยหรูดูแปลกไปมาก
เมื่อถึงมื้อเที่ยง โจวเฉิงเฉียนก็ยังไม่ออกมาจากห้อง เหยียนเฉียวอวี้จึงยกกับข้าวบางส่วนแบ่งไปกินกับโจวเฉิงเฉียน
โจวเฉิงเหวินรีบกลับมา แต่โจวจินซวนไม่ได้กลับมาด้วย
เฉิงหยิงเองก็ไม่ถามถึงเช่นกัน นางทักให้สวี่ชิงกับโจวจินหนานนั่ง “ชิงชิง มานั่งกับจินหนานด้านนี้ วันนี้ย่าให้คนครัวตุ๋นไก่บำรุงให้เธอด้วยนะ”
สวี่ชิงพลันรู้สึกเกรงใจขึ้นมา ดึงโจวจินหนานให้นั่งลง
โจวจินหนานเพิ่งจะจับตะเกียบ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงครางโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ไป๋หลางจะพุ่งเข้ามา ขนตรงคอของมันหลุดเป็นกระจุก เนื้อหนังเหวอะหวะจนมองเห็นกระดูกสีขาวอยู่รำไร
สวี่ชิงตกใจจนทำตะเกียบร่วงลงพื้น “ไป๋หลาง!”
โจวจินหนานจับต้นทางของเสียงแล้ววิ่งกระเผลกเล็กน้อยเข้าไปหา!
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ทำไม เห็นชิงชิงสวยขึ้นทั้งที่ไม่ซิงแล้วนึกองุ่นเปรี้ยวขึ้นมาเหรอ ผู้ชายใจแคบอย่างแกชาตินี้อย่าได้มีเมียเลยจินซวน
คนบ้านนี้ดูแปลก ๆ กันนะคะ นอกจากปู่ย่ากับพ่อของพี่หนานแล้วที่เหลือก็ไม่ปกติกันสักคน
ใครทำร้ายไป๋หลาง ใครทำน้องงงง แงงงงง
ไหหม่า(海馬)