เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 61 ละครดีๆ กำลังเริ่ม
บทที่ 61 ละครดีๆ กำลังเริ่ม
ฉินเสวี่ยเหมยพูดคุยอยู่กับสวี่ชิงสักพัก ก็ถูกสวี่ชิงไล่ให้กลับบ้านไป
เพราะท้องฟ้าด้านนอกใกล้จะมืดแล้ว ไม่ปลอดภัยสำหรับหล่อนที่ขี่จักรยานกลับบ้านคนเดียว
รอจนส่งฉินเสวี่ยเหมยจากไป สวี่ชิงก็กลับห้องไปดูเฟิงซูฮวาที่กำลังนั่งเอาเท้าพาดกับเก้าอี้ สวมแว่นเย็บเสื้ออยู่ เธอเดินไปนั่งลงข้าง ๆ เฟิงซูฮวา “คุณย่าคิดว่าฉันแย่เกินไปหรือเปล่าคะ”
เฟิงซูฮวาวางเข็มกับด้ายลงพลางมองสวี่ชิง “ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะจ๊ะ?”
สวี่ชิงดึงมือนาง “เป็นเพราะฉันเห็นติงชางเหวินกับฟางหลานซินเดินใกล้ชิดกัน อีกทั้งสวี่หรูเยว่ยังเป็นลูกสาวของติงชางเหวินกับฟางหลานซิน ดังนั้นฉันเลยตั้งใจให้ฉินเสวี่ยเหมยปล่อยข่าวลือจนภรรยาของติงชางเหวินรู้ แต่คิดไม่ถึงว่าตอนบ่ายภรรยาของเขาจะไปหาสวี่หรูเยว่ทันที จนทำให้ทั้งสองผิดใจกัน…”
แม้จะไม่แสดงตัว แต่เธอก็เป็นเบื้องหลังของทุก ๆ อย่าง
เฟิงซูฮวายิ้มอย่างอ่อนโยน “พวกหล่อนต้องทำเรื่องเลวร้ายกับหลานเป็นแน่ เลยทำให้หลานทำแบบนี้ลงไป เมื่อถึงขีดจำกัดก็ต้องแก้แค้นเอาคืน คนเราน่ะไม่ได้มีแค่มุมเดียว ไม่ช้าก็เร็วอย่างไรก็ต้องเอาคืน และอย่าให้อภัยคนที่เคยทำลายเราง่าย ๆ พวกเขาทำร้ายเราครั้งหนึ่งก็สามารถทำร้ายเราครั้งที่สองได้”
สวี่ชิงกอดเฟิงซูฮวา “คุณย่า ขอบคุณนะคะที่เชื่อฉัน”
ความแค้นของเธอกับฟางหลานซินและสวี่หรูเยว่เป็นความแค้นชนิดที่แทบอยากจะสับพวกหล่อนเป็นพัน ๆ ชิ้น ดังนั้นการแก้แค้นพวกนี้นับว่าเป็นอะไรได้?
เฟิงซูฮวายิ้มแล้วตบลงบนมือของสวี่ชิง “หลานไม่ต้องคิดเยอะอะไรขนาดนั้น แค่มีความสุขก็พอ ตอนนี้หลานต้องคิดแต่เรื่องที่ว่าจะใส่อะไรในงานแต่งก็พอ”
สวี่ชิงคิดว่าตอนนี้นอกจากชุดสีแดงเครื่องประดับศีรษะที่เป็นดอกไม้สีแดงแล้วก็ไม่มีอะไรที่ต้องเตรียมเป็นพิเศษอีก “พรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อผ้าแดงกลับมาทำชุดใส่ด้วยตัวเองค่ะ”
เฟิงซูฮวายิ้ม “กระโปรงสีแดงสวยนะ ชิงชิงของย่าต้องใส่กระโปรงสวยเป็นแน่”
สวี่ชิงคิดแล้วก็ตกลงเช่นกัน “งั้นฉันจะทำกระโปรงสีแดงสักตัวแล้วกันค่ะ”
เฟิงซูฮวามองสวี่ชิงยิ้ม ๆ “น่าเสียดายที่ตอนนั้นย่าไม่ได้เก็บชุดไว้ ไม่งั้นหากชิงชิงได้ใส่คงจะสวยเป็นแน่”
สวี่ชิงรู้ว่าชุดแต่งงานของเฟิงซูฮวาจะต้องทำมาจากผ้าไหมอย่างดีแน่ เพียงแต่ในตอนที่เกิดสงคราม สิ่งของทุกอย่างถูกส่งไปให้ทางการหมดแล้ว
ในตอนที่สวี่ชิงกำลังอารมณ์ดีเมื่อคิดว่าจะเตรียมไปซื้อของอะไรทำชุดแต่งงานดี บ้านสวี่ก็ทำโจ๊กเสร็จพอดี
ตอนนี้ทั้งบ้านรู้เรื่องจากหม่าเสวี่ยหลานหมดแล้ว
หลังจากสวี่หรูเยว่ที่ยืมชุดของป้าใหญ่ตัวอ้วนกลับมาเข้ามาในห้อง หล่อนก็กรีดร้องลั่นบอกว่าจะผูกคอตาย
ฟางหลานซินมองใบหน้าบวมช้ำของลูกสาวทั้งยังมีรอยเลือดกรีดลึกหลายแห่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิงหลุดลุ่ย ชุดก็ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ก็เอ่ยถามอย่างตกใจ “หรูเยว่เกิดอะไรขึ้น ลูกบอกแม่มาสิว่านี้มันเรื่องอะไรกัน”
สวี่หรูเยว่สะอื้นไห้ “แม่ ปล่อยฉัน ให้ฉันตายนั่นแหละดีแล้ว! ฉันไม่มีหน้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว”
หล่อนขายหน้าต่อหน้าคนอื่นในโรงเรียนแบบนั้น ตอนนี้ยังถูกคนกล่าวหาว่ายั่วยวนอาจารย์ ถูกผู้คนทุบตี
ต่อให้หน้าของหล่อนหนาว่านี้ จิตใจเข้มแข็งกว่านี้ หล่อนก็ไม่อาจหาวิธีใช้ชีวิตต่อไปได้แล้วเหมือนกัน
ฟางหลานซินตกใจจนต้องดึงสวี่หรูเยว่มากอด “เด็กดี ลูกบอกแม่มาสิว่าสรุปแล้วมันเรื่องอะไรกัน แม่จะได้ช่วยคิดหาวิธี”
สวี่หรูเยว่ร้องไห้แล้วค่อยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง
ฟางหลานซินโกรธจนตัวสั่น “ติงชางเหวินก็มองภรรยาของเขาทุบตีลูกอย่างนั้นเหรอ”
สวี่หรูเยว่พยักหน้าทั้งน้ำตา “แม่คะ ต่อไปฉันจะมีชีวิตอยู่ยังไง”
ฟางหลานซินกัดฟันกรอดพูดด้วยนัยน์แข็งกร้าว “ดี ติงชางเหวิน อย่าคิดเลยว่าเขาจะมีชีวิตที่ดีต่อไปได้”
สวี่หรูเยว่เช็ดน้ำตาแล้วมองฟางหลานซิน “แม่ สรุปแล้วแม่กับคุณลุงติงมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่”
ฟางหลานซินตาแดงอย่างเย็นชา”ลูกไม่ต้องถามอะไรเยอะแยะ สองสามวันนี้ดูแลตัวเองอยู่ในบ้านซะ”
ถึงสวี่หรูเยว่จะอยากออกไปข้างนอกตอนนี้ก็ไม่มีหน้าให้ออกแล้ว “แม่ ฉันกับจินซวน…”
ตอนนี้ฟางหลานซินเข้าใจทุกอย่างอย่างชัดเจนแล้ว เกิดเรื่องวุ่นวายในครั้งนี้ การแต่งงานระหว่างสวี่หรูเยว่กับโจวจินซวนก็คงจะเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว หล่อนลังเลเล็กน้อย “หรูเยว่ ฟังคำของแม่นะ หากไม่ได้ก็แต่งกับต้าหย่งซะ ต่อให้พ่อแม่เขาจะใช้ไม่ได้ แต่ต้าหย่งดีกับลูกไม่เลวเลย”
สวี่หรูเยว่ไม่ยอมรับ “ฉันไม่แต่ง! ถ้าให้ฉันแต่งกับต้าหย่งก็ให้ฉันตายซะเลยดีกว่า”
“ต่อให้แกตายก็ต้องแต่ง!”
สวี่จื้อกั๋วผลักประตูเข้ามาอย่างกะทันหัน ใบหน้าดำทะมึน ไม่รู้ว่ายืนฟังอยู่ด้านนอกนานเท่าไร สายตาที่มองสวี่หรูเยว่นั่นแทบจะทนรอฉีกลูกสาวคนนี้ของตัวเองไม่ไหวอยู่แล้ว
สวี่หรูเยว่มองท่าทางที่สวี่จื้อกั๋วแสดงออกก็หวาดกลัวไม่น้อย ใช้ฟางหลานซินเป็นที่พึ่ง พลางร้องห่มร้องไห้
ตอนนี้เป็นเรื่องยากแล้วที่ฟางหลานซินจะยืนข้างสวี่หรูเยว่ “ตอนนี้ลูกมีแต่ต้องแต่งงานกับหลี่ต้าหย่งแล้ว ไม่งั้นต่อไปแม้แต่หลี่ต้าหย่งก็ไม่อาจแต่งให้ลูกได้”
สวี่จื้อกั๋วนั่งเก้าอี้ด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด เพียงชั่วขณะเดียวก็ทำเขาขายหน้าคนทั้งโรงงานมากพอแล้ว วันนี้มาได้ยินคนอื่นพูดถึงสวี่หรูเยว่ว่าคบกับอาจารย์จนถูกภรรยาของเขาจับตัวไว้ ทั้งยังทุบตีอีกด้วย
สายตาที่คนเหล่านั้นมองเขา เต็มไปด้วยแววเยาะเย้ยและรอเรื่องสนุก
มันทำให้สวี่จือกั๋วไม่อาจทนอยู่ในสำนักงานได้อีกต่อไป ครั้นเปิดประตูกลับมาที่บ้านก็ได้ยินเรื่องที่ฟางหลานซินให้สวี่หรูเยว่แต่งงาน นั่นหมายความว่าต้องก่อเรื่องแล้วอย่างแน่นอน!
ไม่อย่างนั้นเหตุใดจู่ ๆ ฟางหลานซินถึงบังคับให้สวี่หรูเยว่แต่งงานกับหลี่ต้าหย่งอย่างกะทันหันล่ะ
สวี่จือกั๋วยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห นั่งโมโหกระฟัดกระเฟียดอยู่อย่างนั้น
สวี่หรูเยว่มองพ่อแม่ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างหาได้ยาก ก็ลุกขึ้นวิ่งกลับห้องปิดประตูแล้วร้องไห้
หล่อนไม่ยอมแต่งงานกับหลี่ต้าหย่งเด็ดขาด!
…..
สวี่ชิงไม่ได้รับผลกระทบอะไรแม้แต่น้อย พอตื่นนอนก็ออกไปดูปูนบนผนังก่อนว่าแห้งดีหรือยัง แล้ววัดความกว้างยาวของบ้านทั้งสองฝั่งไปด้วย
แม้จะเป็นบ้านใหม่ ก็ต้องเตรียมทุกอย่างใหม่ทั้งหมด
พอวัดขนาดเสร็จก็ออกมาข้างนอก ขับจักรยานไปห้างสรรพสินค้า เธอกลัวว่าเดี๋ยวจักรยานจะหาย จึงยอมเสียเงินค่าจอดให้ที่จอดรถ
สวี่ชิงให้ความสำคัญกับงานแต่งงานครั้งนี้มาก ซื้อผ้าห่มนกยวนยางเล่นน้ำสีแดงผืนหนึ่ง ผ้าปูที่นอนสีแดง แล้วยังซื้อปลอกหมอนสีชมพูปักลายนกยวนยางเล่นน้ำด้วย
แม้ว่าตอนแต่งงานจะได้รับของขวัญเป็นกระติกน้ำร้อนสีแดง กล่องใส่สบู่อ้างล้างหน้าหรือผ้าห่มอะไรพวกนั้นอยู่แล้ว แต่สวี่ชิงก็ยังคงซื้อของทั้งหมดมาด้วย
สุดท้ายยังซื้อผ้าใยสังเคราะห์สีแดงมาด้วยหนึ่งพับ คิดว่าจะเอามาทำเป็นกระโปรงแต่งงาน
ของทั้งหมดใช้เงินไม่ถึงสองร้อยหยวน สวี่ชิงทอดถอนใจอย่างจำใจ เงินช่างไร้ค่าเสียจริง
เมื่อถือของทั้งหมดออกมาแล้วก็มองเห็นฟ่านเจี๋ยพอดี
ฟ่านเจี๋ยสะดุดตากับกระติกน้ำร้อนสีแดงในมือของสวี่ชิง หล่อนกำมือแน่นขณะมองเธอ “สวี่ชิง สมใจเธอแล้วสินะ”
สวี่ชิงมองฟ่านเจี๋ยอย่างงุนงง รู้สึกเหมือนเห็นสุนัขบ้าที่ไม่ผูกเชือกให้ดีจนหลุดออกมารบกวนผู้อื่นตัวหนึ่ง
ฟ่านเจี๋ยมองสวี่ชิงอย่างเย็นชา “เธออย่าลำพองว่าตัวเองสามารถแต่งงานกับโจวจินหนานได้เชียวนะ คิดว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพราะชอบเธอเหรอ?”
สวี่ชิงหัวเราะ “เขาแต่งงานกับฉันเพียงเพราะชอบฉัน? จะบอกให้นะ เขาจะชอบหรือไม่ชอบฉันมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย? แค่ฉันชอบเขาก็พอแล้ว”
ฟ่านเจี๋ยได้ยินวาจาโอหังของสวี่ชิงแล้วก็โมโหจนตาแดงก่ำ “หน้าไม่อายจริง ๆ!”
สวี่ชิงไม่ถือสาหล่อน “ฉันคิดว่าคนที่หน้าไม่อายคือเธอถึงจะถูก รู้ว่าคนอื่นเขาจะแต่งงานกันแล้ว ยังกล้ามาหาเรื่องกัน ถ้าไม่ใช่เพราะสมองมีปัญหา ก็คงเป็นสามัญสำนึกที่มีปัญหา ถ้าเธอยังทำแบบนี้อีกฉันจะเขียนจดหมายให้หัวหน้าของเธอ บอกเขาว่าความคิดของเธอน่ะมันมีปัญหาแล้ว”
…………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
นังแม่เลี้ยงกับลูกจะทำยังไงต่อไป อย่าเพิ่งตายกันนะ ชิงชิงเพิ่งเริ่ม
ฟ่านเจี๋ยนี่ก็อีกคน อย่าได้มาแหยมชิงชิงนะ ถ้าไม่อยากมีสภาพเหมือนนังหรูเยว่
ไหหม่า(海馬)