เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 583 คนที่อยู่เบื้องหลังคือเขา
บทที่ 583 คนที่อยู่เบื้องหลังคือเขา
สวี่ชิงค่อนข้างประหลาดใจที่โจวจินหนานมาหาเธอในเวลานี้ เว้นแต่ว่าเรื่องราวภายในร้านค้าจะคืบหน้า ห้องครัวมีขนาดเล็กเกินไป และผางเจิ้งหัวกำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหาร จึงไม่สะดวกที่จะเข้ามาพูดคุยนัก
เธอบอกลาผางเจิ้งหัวและเดินออกไป
โจวจินหนานไม่เดินเข้ามาในร้านอาหาร เพียงแต่ยืนเอามือไพล่หลังอยู่ด้านนอก เงยหน้ามองป้ายร้าน ขมวดคิ้วราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
สวี่ชิงรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปคว้ามือของโจวจินหนานและปล่อยมืออย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าลูกจะโตกันแล้ว ทว่าโจวจินหนานก็ยังไม่ชินกับการแสดงความสนิทสนมนอกบ้านอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องรับรองที่มีผู้คนเดินเข้าออกันขวักไขว่
ช
โจวจินหนานหรี่ตาขณะส่งยิ้มให้สวี่ชิง “บังเอิญผ่านมาก็เลยแวะมาดูน่ะ ดูเหมือนว่าช่วงนี้กิจการจะดีขึ้นนะ”
สวี่ชิงคล้อยตามท่าทางของเขา ยืนอยู่ข้างโจวจินหนานโดยที่เอาสองมือไพล่หลัง พยักหน้าเล็กน้อยและส่งยิ้มให้เขา “ใช่ ช่วงนี้กิจการดีขึ้นมาก มีผู้โดยสารแวะเวียนเข้ามาทุกวัน”
โจวจินหนานชำเลืองมองสวี่ชิง “ขายดีแบบนี้ หลายคนคงอิจฉาแย่”
สวี่ชิงตอบกลับ “ใช่ค่ะ คนสมัยนี้ชอบดูถูกคนที่ทำธุรกิจ หาว่าไม่มีมาดเหมือนพวกคนที่ทำงานในหน่วยงาน ทั้งได้กินข้าวธัญพืช มีฐานเงินเดือนที่มั่นคง แต่พอเห็นคนทำธุรกิจร่ำรวยเป็นกอบเป็นกำก็อิจฉาตาร้อนขึ้นมาทันที”
โจวจินหนานพยักหน้า ก่อนจะมองไปทางสวี่ชิง “แล้วคุณเคยคิดมั้ยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังอาจเป็นคนที่อยู่ในสถานีนี้?”
สวี่ชิงตกตะลึงไปชั่วขณะ หลายคนแวบเขามาในความคิดขอเธอ ผู้อำนวยการหลี่หรือผู้จัดการเฉิน?
เธอไม่เคยคิดสงสัยคนเหล่านี้มาก่อนเลย เพราะตั้งแต่เปิดร้านอาหารมาจนถึงปัจจุบัน จากร้านเล็ก ๆ ขนาดไม่กี่ตารางเมตรไปถึงร้านแผงลอยและร้านค้าขนาดใหญ่ คนพวกนี้ให้ความช่วยเหลือเธอมากมาย
และเธอยังช่วยให้หน้าที่การงานของพวกเขาออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้แผนกขนส่งผ่านการประเมินประจำปี และทำให้พวกเขาได้รับโบนัสสิ้นปีไปไม่น้อย
ท้ายที่สุดร้านแผงลอยที่ใช้สร้างรายได้ยังจัดส่งอาหารออกไปยังสถานีต่าง ๆ จนทำรายได้ได้มหาศาล
ดังนั้นสวี่ชิงจึงไม่เคยคิดว่าคนเหล่านี้จะรู้สึกอย่างไร หรือคิดอย่างไรกันบ้าง และรู้สึกว่าปกติแล้วเธอจะได้รับการดูแลอย่างดี ทุกคนส่งยิ้มหวานทุกครั้งที่เห็นหน้าเธอ อีกทั้งยังเอาของขวัญทุกประเภทมาให้ในช่วงตรุษจีน
เธอรู้สึกว่าตอนนี้ผู้คนดูเรียบง่ายกันมาก และไม่มีทางที่จะแทงข้างหลังกัน
โจวจินหนานเห็นสวี่ชิงเงียบไป จึงพูดกระซิบต่อว่า “ผู้อำนวยการที่ขายไปแผนกขนส่งชื่อว่าหลี่กั๋วหัวใช่ไหม?”
สวี่ชิงพยักหน้า “ใช่ ตอนนี้เขาเป็นหัวหน้าหลี่ ที่ช่วยเราเปิดร้านค้าข้างนอกนั่นไง”
จู่ ๆ เธอก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี โจวจินหนานพูดแบบนี้จะต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับหลี่กั๋วหัวแน่ ๆ
โจวจินหนานเอื้อมมือออกไปจับไหล่สวี่ชิง “ตอนนี้เรากลับบ้านกันก่อนไหม? จะได้ไปคุยกัน”
โจวจินหนานขับรถจากหน่วยงานมาที่นี่ เขาจึงเล่าเรื่องผลการสืบสวนให้สวี่ชิงฟังระหว่างทาง
เหตุระเบิดไฟไหม้เป็นอุบัติเหตุจริง ๆ ทว่าน้องชายของภรรยาหลี่กั๋วหัวต้องการทำธุรกิจดังกล่าว เขาจึงใช้ผลประโยชน์จากอุบัติเหตุครั้งนี้
ถึงกระนั้นหลี่กั๋วหัวได้รับผลประโยชน์มากมายจากสวี่ชิง ได้รับเครื่องดื่มอาหารและอั๋งเปามากมายตลอดช่วงตรุษจีน เขาก็ละอายแก่ใจเกินว่าจะห้ามปรามสวี่ชิงให้หยุดทำธุรกิจดังกล่าว
นอกจากนี้เขาได้เซ็นสัญญาห้าปีกับสวี่ชิงไปแล้ว และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ทางสถานีจะละเมิดสัญญาก่อน
หากสัญญาถูกละเมิด ผู้คนหลายคนคงจะพาจับตาจ้องมองพื้นที่ในสถานีแห่งนี้ราวกับเนื้อติดมัน และถ้าหากสัญญาถูกฉีกลงง่าย ๆ ใครบางคนคงจะทำการเคลื่อนไหวไปแล้ว
น้องภรรยาเข้าหาหลี่กั๋วหัวอยู่หลายครั้ง ทว่าหลี่กั๋วหัวยืนกรานที่จะไม่ละทิ้งข้อตกลง และปฏิเสธกลับไปอย่างเรียบง่าย
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วย ทว่าน้องภรรยาก็จะเข้ามาหาเขาเป็นระยะ ๆ ในขณะที่ภรรยาคอยปกป้องน้องชายอยู่ตลอด และหาเรื่องโต้เถียงกับเขาทุกครั้งที่มีโอกาส จนชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง
นอกจากนี้ภรรยายังพูดวิเคราะห์กับเขาว่าหากน้องชายทำงานเปิดร้านแผงลอย อนาคตเขาจะได้รับเงินอีกตั้งเท่าไร และมีเงินแบ่งให้ครอบครับมากเพียงใด
หลี่กั๋วหัวค่อย ๆ เคลื่อนไหวทีละเล็กน้อย ในเมื่อมันไม่กระทบกระทั้งต่อผลประโยชน์ของเขา และสามารถรวมครอบครัวเป็นปึกแผ่นได้ แล้วใครล่ะจะไม่ทำมัน?
เขาที่กำลังกังวลว่าแก้ปัญหาด้วยวิธีการใด จู่ ๆ อุบัติเหตุดังกล่าวก็เกิดขึ้น หลี่กั๋วหัวจึงใช้ผลประโยชน์จากมัน
เขาไปหาผู้ได้รับบาดเจ็บสองคนเป็นอันดับแรก สัญญาว่าจะให้เงินห้าพันหยวนต่อคนทันทีที่ภารกิจสำเร็จลุล่วง และสั่งให้พวกเขาไปเดินเตร็ดเตร่ละแวกบ้านที่สวี่ชิงเคยอาศัย ให้แสร้งทำเป็นมองหาใครบางคน เพราะเขาได้ยินมาว่าสวี่ชิงมีเรื่องกับเพื่อนบ้านมาก่อน เขาจึงใช้ประโยชน์จากมัน
เมื่อสวี่ชิงมองย้อนกลับไป เธอจะคิดว่าเพื่อนบ้านที่ขุ่นเคืองใจกันมาก่อนเป็นคนแก้แค้นเธอ
ถึงแม้พวกสวี่ชิงจะไม่ได้รับการสูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าวมากนัก แต่ถ้าการทะเลาะวิวาทยังดำเนินการต่อไปทั้งที่สวี่ชิงยืนกรานว่าจะไม่เลิกทำกิจการ พวกเขาก็จะรอเวลาเพื่อไปบอกพวกสวี่ชิงจัดการไม่ดีจนสร้างชื่อเสียงเสื่อมเสียให้กับทางสถานี
ดังนั้นจึงไม่สามารถมอบหมายร้านค้าพวกนี้ให้ทางสวี่ชิงดำเนินการดูแลต่อไปได้อีก และถ้าเธอยืนกรานจะทำต่อไป เธอจะได้ครอบครองร้านแผงลอยเพียงร้านเดียวเท่านั้น
สวี่ชิงรู้สึกเจ็บใจหลังจากได้ยินคำพูดของโจวจินหนาน
อีกทั้งยังเกลียดตัวเองที่คิดไม่ได้ บังอาจคิดว่ามนุษย์ทุกคนล้วนใจดีมีเมตตา
โจวจินหนานชำเลืองสวี่ชิงที่นั่งขดตัวอยู่บนเบาะโดยที่ไม่พูดไม่จา และพูดปลอบว่า “ไม่ต้องไปสนใจหรอก ตอนนี้เรารู้แล้วว่าแผนการของเขาจะไม่สำเร็จ ต่อจากนี้ไปร้านค้าของคุณจะต้องไม่เป็นอะไร ผมไปตรวจสอบดูแล้ว ร้านแผงลอยร้านเดียวมันก็เกินไปจริง ๆ อีกอย่างจะจัดการได้อย่างพวกคุณหรือไง?”
สวี่ชิงเอนหลังพิงเก้าอี้และถอนหายใจ “จัดการมันก็จัดการได้อยู่หรอก แต่มันน่าขยะแขยงเกินไป ก่อนหน้านี้ฉันทำดีกับหลี่กั๋วหัวมากเลยนะ”
ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ แต่จะทำไม่ดีใส่เขาได้อย่างไร? เพราะเขาเป็นคนที่มีอำนาจอยู่ในกำมือ
โจวจินหนานหัวเราะ “จะมาควบคุมคนอื่นเขา แต่กับต้องไปขอความเหลือเสียเอง”
สวี่ชิงขมวดคิ้ว “ไม่ ฉันยอมไม่ได้จริง ๆ”
เธอมักจะยืนหยัดในหลักการเสียอะไรก็ได้แต่จะเสียเปรียบไม่ได้ และถ้ากล้ำกลืนความเสียเปรียบเข้ามาแล้ว จะต้องหาทางเอาคืนให้ได้
ในเมื่อหลี่กั๋วหัวใช้อำนาจเบียดเบียนเธอ จนทำให้เธอเผลอสะดุดล้ม เธอจะไม่เอาคืนได้อย่างไร?
เธอจะคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ และจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้หลี่กั๋วหัว
โจวจินหนานยิ้มและพูดปลอบ “ไม่เป็นไร คุณอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดผมจะช่วยคุณเอง”
สวี่ชิงมีความสุขขึ้นมาทันใด คำพูดของโจวจินหนานเป็นเหมือนคำพูดของผู้มีอำนาจรุ่นหลังที่ใช้พูดจีบสาวกัน
เธอรีบพูดเปลี่ยนเรื่องถึงอวี๋เวี่ยงตงทันที โดยไม่ได้รอให้โจวจินหนานได้คล้อยตาม “อวี๋เซี่ยงตงมาช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย บอกว่าจะตรวจสอบผลลัพธ์ให้เสร็จภายในสามวัน แต่นึกไม่ถึงว่าพี่จะเร็วกว่าเขาหนึ่งก้าว”
เขาอดหัวเราะไม่ได้เมื่อนึกถึงท่าทางที่มั่นใจของอวี๋เซี่ยงตง “จบเห่แล้ว ผมคงทำให้เขาผิดหวังอีกแล้วสินะ”
และทันทีที่เธอกับโจวจินหนานกลับไปถึง อวี๋เซี่ยงตงก็ตามหลังมาทันที
เขาแปลกใจมากเมื่อเห็นทั้งสองคนอยู่บ้าน “ไม่ไปทำงานเหรอ?”
โจวจินหนานจ้องมองเขาด้วยท่าทางสงบ “วันนี้พักผ่อน”
อวี๋เซี่ยงตงรู้สึกสงสัยเมื่อมองไปที่ท่าทางสงบนิ่งของโจวจินหนาน ก่อนจะเดาเหตุผลได้ทันทีที่เห็นรอยยิ้มที่กลั้นไว้ของสวี่ชิง “รู้เรื่องแล้วเหรอ?”
สวี่ชิงทนโกหกเขาไม่ไหว และพยักหน้า “เกือบหมดแล้วล่ะ”
อวี๋เซี่ยงตงหันไปรอบข้างขณะที่เอามือไพล่หลัง “งั้นคงมีอีกเรื่องที่นายยังไม่ได้ตรวจสอบ”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เกินไป เขาให้ประโยชน์ตั้งเยอะ มาพังร้านเขาเสียยังงั้น
ไหหม่า(海馬)