เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 580 ใจจืดใจดำ
บทที่ 580 ใจจืดใจดำ
สวี่ชิงไม่ทันได้คิดว่าเย่หนานหมายถึงอะไร ตอนนี้เธอมัวแต่กังวลว่าจะล้างหน้าให้เจ้าเด็กมอมแมมนี้ให้สะอาดอย่างไรดี?
เธอไม่ได้คิดตามคำพูดของเย่หนาน อีกทั้งยังพาเสี่ยวเป่าเข้าไปในห้องครัว ใช้น้ำร้อนขัดตามผิว ถูสบู่ครั้งแล้วครั้งเล่า จนใบหน้าอันแสนบอบบางกลายเป็นสีแดงเถือก ถึงกระนั้นก็ยังไม่สามารถล้างสีน้ำเงินบางส่วนออกไปได้
เวลานี้น้ำหมึกฝังแน่นและล้างออกได้ยาก หากไม่มีผลิตภัณฑ์ชำระล้างดี ๆ จึงทำได้แค่ขัดไปมา
ใบหน้าอันแสนบอบบางถูกแม่ขัดถูจนเริ่มผิดรูป ปากเบะราวกับกำลังจะร้องไห้ ทว่ากลับไม่ได้ร้องไห้ออกมา
ท้ายที่สุดเสี่ยวเป่าไม่ได้สะอาดหมดจด ผิวขาวที่เดิมทีดูอ่อนโยนน่าสัมผัส บัดนี้ถูกปกคุลมไปด้วยสีฟ้าอ่อน ราวกับถูกวางยาพิษ ตลกและน่าขำขัน
สวี่ชิงบีบแก้มของลูกน้อย “ต่อจากนี้ยังจะเล่นซนอยู่อีกไหม ถ้าหนูยังแตะต้องของของแม่อีก แม่จะตีให้ตูดบานเลย”
เธอพูดพร้อมกับเอื้อมมือออกไปตีก้นของเสี่ยวเป่า ทว่าริมฝีปากอันบอบบางของเสี่ยวเป่ากลับไม่กล้าร้องไห้ออกมา
ไป๋หลางที่นั่งยอง ๆ ดูอยู่ รีบเห่าออกมาอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นสวี่ชิงตีต้าเป่า
ก่อนจะพาเสี่ยวเป่าเข้าไปถามเย่หนานที่อยู่ในห้องของเฟิงซูฮวาอีกครั้ง “แม่คะ แม่บอกว่ามีวิธีรักษาซ่งจิ่นสือเหรอ วิธีไหนคะ?”
เย่หนานมองดูใบหน้ามอมแมมของเสี่ยวเป่า ยิ้มและโอบกอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขน “ดูหน้าเสี่ยวเป่าสิ เหมือนผีน้อยเลย ถ้าซ่งจิ่นสือยังอยู่ เราก็ลองดูได้”
สวี่ชิงยังคงไม่เข้าใจ เธอได้ยินเรื่องผีน้อยมาโดยตลอด แม้แต่ในชาติที่แล้วก็ยังเคยได้ยินมาไม่น้อย ส่วนใหญ่เป็นวิญญาณของเด็กแรกเกิดที่ติดอยู่ในป้ายวิญญาณ ถูกอัญเชิญกลับมาที่บ้านเพื่อให้เจ้าของบ้านโชคดี และยังให้โชคร้ายแก่คนที่ไม่ถูกชะตาอีกด้วย
ส่วนจะได้ผลหรือไม่นั้นเธอไม่รู้ ถึงกระนั้นเธอรู้มาว่าควันธูปในวัดบางประเทศกำลังเจริญเฟื่องฟู
เสี่ยวเป่านิ่งสงบอยู่ในอ้อมกอดของเย่หนานเป็นเวลาสองนาที จากนั้นจึงปีนป่ายขึ้นไปเล่นกับพี่ชายบนที่นอน ขณะที่ต้าเป่ากำลังจดจ่ออยู่กับการพลิกดูรูปในหนังสือสมุนไพร
หากเสี่ยวเป่าเข้ามาสร้างปัญหา ต้าเป่าที่สงบนิ่งและเรียบร้อยจะไม่แสดงความรำคาญ และเฝ้าดูเสี่ยวเป่าคว้าหนังสือของเขาไปด้วยความอดกลั้น
สวี่ชิงมองดูเสี่ยวเป่าที่เข้าไปคว้าหนังสือโดยพละการ และพูดพึมพำว่า “เสี่ยวเป่า ของเสี่ยวเป่า”
ในขณะที่ต้าเป่ามองดูเสี่ยวเป่าเงียบ ๆ ไม่ได้แย่งคืนมาหรือแสดงท่าทีโกรธเคือง เม้มริมฝีปากด้วยความอดทน
ภายในใจอดคิดไม่ได้ขณะมองดูปฏิกิริยาของต้าเป่า หรือว่าเขาจะลืมดื่มน้ำแกงยายเมิ่งแล้วกลับชาติมาเกิด เขายังมีความทรงจำในชาติที่แล้วอยู่หรือไม่?
เย่หนานทนไม่ไหวกับนิสัยเอาแต่ใจของเสี่ยวเป่า หล่อนจึงรีบหยิบหนังสือไปคืนให้ต้าเป่า “พี่ชายหนูอ่านอยู่ ต้าเป่า ถ้าเสี่ยวเป่ามาเอาไปอีก หนูก็ตีน้องได้เลย ตีเจ้ามือเล็ก ๆ นั่นซะ”
ต้าเป่าหยิบหนังสือขึ้นมาอย่างมีความสุข ก่อนจะชำเลืองเห็นเสี่ยวเป่าที่ทำหน้ามุ้ย น้ำตาคลอเบ้า เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และส่งหนังสือคืนให้เสี่ยวเป่า
เย่หนานถอนหายใจ “เจ้าเด็กแสบ ทำตัวสมกับเป็นพี่ชายจริง ๆ”
หลังจากพูดคุยกับเด็กน้อยอยู่พักหนึ่ง เย่หนานก็หันไปคุยเรื่องผีน้อยกับสวี่ชิงอีกครั้ง ในเมื่อหาพิษในร่างกายของซ่งจิ่นสือไม่เจอ ก็จำเป็นจะต้องใช้วิธีการคดโกง
เย่หนานเล่าเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับกู่และวิญญาณเด็กทารกให้สวี่ชิงฟัง จนเธออดจะขนหัวลุกไม่ได้เมื่อได้ยินเช่นนั้น
หนังศีรษะเริ่มชาขณะฟังเรื่องราวอันน่าพิศวง จู่ ๆ เสียงเคลื่อนไหวในลานบ้านก็ดังขึ้นจนทำให้สวี่ชิงสะดุ้งลุกขึ้นมาพรวดพราด
เธอเอามือตบหน้าอกเบา ๆ “แม่ เล่าเรื่องอะไรน่ากลัวจังค่ะ แม่ทำฉันกลัวไปหมดแล้วเนี่ย”
เธอพูดและเดินออกมา หากไป๋หลางไม่ส่งเสียงเห่า แสดงว่าจะต้องเป็นคนรู้จัก
ฉินเหมียวเหมียวรีบเอ่ยถามเมื่อเห็นสวี่ชิงเปิดประตูออก “ตามหาซ่งจิ่นสือเจอหรือยัง?”
สวี่ชิงรู้สึกมึนงง ตั้งแต่วันนั้นเธอไม่ได้เจอฉินเหมียวเหมียวอีกเลย และฉินเหมียวเหมียวก็ไม่ได้ถามเกี่ยวกับซ่งจิ่นสือเช่นกัน
ก่อนจะเรียกฉินเหมียวเหมียวเข้าไปในบ้าน และพูดขณะเดินว่า “กำลังหาอยู่ ยังไม่รู้แน่ชัด แต่น่าจะเจอเร็ว ๆ นี้แหละ”
ท้ายที่สุดพวกเหยียนจี้ชวนทำงานกันอย่างมีประสิทธิภาพมาก
สีหน้าของฉินเหมียวเหมียวเต็มไปด้วยความหดหู่ใจ “คุณยายฉันเสีย เลยกลับไปร่วมพิธีงานศพที่ชนบทสองสามวัน เพิ่งกลับมาวันนี้เองค่ะ คุณว่าเขาจะไปไหนได้คะ? จะตกอยู่ในอันจายหรือเปล่า? ฉันแอบไปถามเพื่อน ๆ มาแล้ว พวกที่เกี่ยวข้องกับซ่งจิ่นสือค่อนข้างอันตราย เขาจะตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย”
สวี่ชิงไม่รู้เช่นกัน ทำได้เพียงพูดปลอบฉินเหมียวเหมียว “ยังไม่มีข่าวคราวอะไรถือว่าเป็นข่าวดีแล้วนะคะ เพราะความโชคร้ายจะกลายเป็นดีแน่นอน”
ทว่าฉินเหมียวเหมียวไม่เชื่อ “ไหนจะร่างกายของเขา ไหนจะอากาศหนาว…”
เย่หนานยิ้มขณะกล่าวทักทายฉินเหมียวเหมียว “เหมียวเหมียวมาแล้วเหรอ รีบเข้ามานั่งก่อนนี้ สองวันนี้ข้างนอกอากาศหนาวมาก”
ฉินเหมียวเหมียวเก็บงำความคิดไว้ในใจ และคลี่ยิ้มขณะกล่าวทักทายเย่หนานกับเฟิงซูฮวา จากนั้นจึงเดินเข้าไปหยอกล้อกับต้าเป่าและเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่าที่มีเพื่อนเล่น รีบโยนหนังสือทิ้งและเข้าไปเกาะติดฉินเหมียวเหมียวทันที
เมื่อเห็นว่าเริ่มมืดแล้ว สวี่ชิงจึงขอให้ฉินเหมียวเหมียวอยู่กินข้าวเย็นด้วยกัน
ทว่าฉินเหมียวเหมียวกลับโบกมือปฏิเสธ “ฉันกลับไปกินข้าวที่บ้านดีกว่า พี่สาวฉันรออยู่ที่บ้านน่ะ พรุ่งนี้เช้าพี่ต้องกลับมาเข้าห้องทดลองแล้ว”
หล่อนพูดและหันไปกระซิบกับสวี่ชิงว่า “พ่อแม่ฉันไม่เห็นด้วยเรื่องอาเล็กกับพี่สาว ทุกครั้งที่ฉันกลับบ้านไป แม่จะบอกกับพี่แบบนี้เสมอ และตอนที่ไปเราไปงานศพคุณยาย มีคนเข้ามาแนะนำตัวกับพี่สาวฉันด้วยนะ ภูมิฐานดีทีเดียว จนแม่ฉันตื่นเต้นมาก ยังไงเดี๋ยวคงจะได้กลับมาเจอกันอีก”
สวี่ชิงตอบกลับ “มันเร็วไปไหมน่ะ? อีกอย่างที่อาเล็กจำไม่ได้ มันไม่ใช่ความผิดเขาสักหน่อย”
ฉินเหมียวเหมียวโบกมือ “ไม่เกี่ยวหรอก แต่สาเหตุหลักมาจากตัวพี่สาวฉันที่ต้องทนทุกข์ทรมานตลอดช่วงสี่ปีที่ผ่านมา จะมีพ่อแม่คนไหนปล่อยลูกไปล่ะ? อีกอย่างคนฝั่งนั้นเขามาจากสำนักการคลังด้วย เป็นถึงหัวหน้าแผนกแน่ะ มีอนาคตที่สดใสรออยู่ แต่ถึงยังไงฉันก็ยังได้อาเล็กของคุณเป็นพี่เขยอยู่นะคะ”
สวี่ชิงเลิกคิ้ว “คุณคิดว่าอาเล็กพอใช้ได้ไหมคะ?”
ฉินเหมียวเหมียวยิ้มและส่ายหัว “ไม่เท่าไหร่ แต่หลังจากที่อาเล็กกลายเป็นพี่เขยของฉันแล้ว ฉันก็จะมีศักดิ์เป็นน้า พวกเสี่ยวเป่าจะได้เรียกฉันว่าคุณยายไงดีมั้ยคะ?”
สวี่ชิงทำอะไรไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่ง และเหลือบมองฉินเหมียวเหมียวที่อยู่ด้านข้าง “คุณคิดได้ดีมากค่ะ”
ถึงกระนั้นเธอจำเป็นต้องบอกเรื่องนี้กับเหยียนจี้ชวนให้ได้ เพราะความระหองระแหงของทั้งสองคนน่าเป็นห่วงอย่างมาก
ก่อนจะส่งฉินเหมียวเหมียวออกไป ฉินเหมียวเหมียวก็หันมาพูดย้ำกับสวี่ชิงครั้งแล้วครั้งเล่า “ถ้ารู้ข่าวเกี่ยวกับซ่งจิ่นสือ คุณมาบอกฉันหน่อยนะคะ เอาไว้ว่างฉันจะมาถามคุณใหม่”
สวี่ชิงพยักหน้าเห็นด้วย “ไม่ต้องห่วงค่ะ เมื่อไหร่ที่รู้ข่าว ฉันจะไปบอกคุณเอง”
หลังจากฉินเหมียวเหมียวออกไปได้ไม่นาน โจวจินหนานกับเหยียนจี้ชวนก็กลับเข้ามา
สวี่ชิงมองดูเหยียนจี้ชวน และอดคิดเรื่องที่บ้านสกุลฉินกำลังจะนัดดูตัวให้กับฉินเฟยไม่ได้ เธอจึงชำเลืองมองเขาอยู่สองสามครั้ง
ขณะทีเหยียนจี้ชวนรู้สึกถึงการถูกจ้องมองแปลก ๆ “หลานมองอาทำไมนัก?”
สวี่ชิงถอนหายใจ “ทำไมอายังไม่รีบาหาอาหญิงให้ฉันอีกคะ? ไม่ได้เจออาแค่สองสามวัน ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมดเลย ถ้าอายังไม่รีบ ต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าจะเข้าโรงเรียนแล้วนะคะ แล้วสุดท้ายอาก็ต้องหัวเดียวกระเทียมลีบเหมือนเดิม”
จากนั้นจึงพูดเตือนว่า “ฉินเฟยกำลังจะนัดดูตัว อีกฝ่ายเป็นถึงหัวหน้าแผนกด้วย ทำงานในสำนักการคลัง ยังหนุ่มยังแน่น มีอนาคตสดใส”
เหยียนจี้ชวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น “นัดดูตัว? ใจจืดใจดำจริง ๆ เลยนะ”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
อาเล็กก็รีบสารภาพรักกับคุณหมอฉินเร็ว ๆ สิค้า ช้าไปเดี๋ยวโดน ม ค ป ด ไม่รู้ด้วยนะ
ไหหม่า(海馬)