เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 576 ลุกขึ้นยืน
บทที่ 576 ลุกขึ้นยืน
หลังจากที่ขึ้นไปบนภูเขาแล้ว อวี๋เซี่ยงตงก็สั่งให้ปิดไฟหน้ารถและขับรถขึ้นไปท่ามกลางความมืดมิด ต้องขอบคุณทักษะของเสี่ยวจางกับแสงจันทร์ที่สะท้อนกับหิมะบนภูเขาจนเกิดแสงสว่างไสว สามารถมองเห็นทางขึ้นเขาและทางขรุขระระหว่างสองข้างทางได้ลาง ๆ
เขาหยุดรถและสั่งให้ไป๋หลางขึ้นมาบนรถ ทว่าไป๋หลางกลับดื้อรั้นไม่ยอม ค่อย ๆ วิ่งไปข้างหน้าทีละก้าวด้วยเสียงฟุดฟิด
จนกระทั่งถึงไหล่เขา ถนนเริ่มลาดชันขึ้น ไป๋หลางหยุดกระดิกหางและมองไปที่ภูเขา
อวี๋เซี่ยงตงที่นั่งอยู่ข้างคนขับรถมองไปรอบ ๆ ก่อนจะขอให้เสี่ยวจางพาเขาลงจากรถ นั่งลงบนรถเข็น และเคลื่อนตัวเข้าไปหาไป๋หลาง เงยหน้ามองไปที่ภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยต้นสนซึ่งสาดเงาราวกับผีสาง
มีเสียงนกฮูกร้องฮูก ๆ เป็นครั้งคราว
ไป๋หลางหันหน้ากลับมามองอวี๋เซี่ยงตง กระดิกหางและเดินต่อไปข้างหน้า
อวี๋เซี่ยงตงนั่งรถเข็นตามไป แต่หลังจากเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว หินก้อนหนึ่งก็ร่วงหล่นลงมาจากบนภูเขา ตกลงมายังทิศทางของอวี๋เซี่ยงตง
อวี๋เซี่ยงตงรีบหลบอยู่ภายในรถเข็น ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะแปลก ๆ ถึงสองครั้ง ร่างดำทมิฬยืนอยู่บนก้อนหินที่ยื่นออกมาจากภูเขา ชะโงกหน้าออกมามองอวี๋เซี่ยงตง “อวี๋เซี่ยงตง! นึกไม่ถึงว่าแกจะกล้ามาที่นี่”
อวี๋เซี่ยงตงจับที่วางแขนบนรถเข็นไว้แน่น จนเส้นเลือดแทบจะระเบิดออกมา และแหงนหน้ามองชายที่อยู่ห่างออกไปเพียงแค่ไม่กี่เมตร “หลู่ฮั่นเซียง?!”
หลู่ฮั่นเซียงหัวเราะสองครั้ง “ข้าไม่คิดว่าเอ็งจะจำเสียงข้าได้ อวี๋เซี่ยงตงนะอวี๋เซี่ยงตง ตอนนั้นฉันมองผิดไปจริง ๆ ถึงได้รู้สึกสงสารแกน่ะเจ้าเด็กเมื่อวานซืน”
อวี๋เซี่ยงตงที่เท้าแขนอยู่ เอานิ้วเคาะรถเบา ๆ เขารู้ว่าหลูฮั่นเซียงจะไม่ปล่อยซูช่านไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน และกำลังจะรอให้ตายไปพร้อมกับเขา
เห็นได้ชัดว่าเจ้าพวกนักเลงพวกนี้สิ้นหวังอย่างแท้จริง ถึงกระนั้นก็ยังแต่พล่ามถึงศีลธรรมทางโลก
ครั้งที่แล้วที่อวี๋เซี่ยงตงบุกเข้าไปในรังเก่าของพวกเขา มันสมองแถวหน้าล้วนถูกจับกุมทั้งหมด แต่แทนที่จะล้มลงและแยะย้ายไปกัน ลูกสมุนเหล่านี้กลับคิดวิธีการแก้แค้น
หลู่ฮั่นเซียงหัวเราะออกมาอีกสองสามครั้งเมื่อเห็นว่าอวี๋เซี่ยงตงไม่พูดอะไร “ข้ารู้ว่าเอ็งกำลังรอตำรวจพวกนั้น แต่แล้วยังไงล่ะ ในเมื่อข้าอยู่ที่นี่แล้ว ข้าก็จะไม่ปล่อยให้เอ็งรอดกลับไปอีก ข้าได้ยินมาว่าตอนนี้เอ็งกลายเป็นคนไร้ประโยชน์แล้ว ไหนจะแม่คนนั้นที่เนียนละมุนนั่นอีก พี่น้องพวกข้าไม่ได้ลิ้มลองมานานแล้วด้วยสิ”
อวี๋เซี่ยงตงรีบจ้องเขม็งไปที่หลู่ฮั่นเซียง “บังอาจ!”
หลู่ฮั่นเซียงหัวเราะเยาะ “แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ ในเมื่อเอ็งกลายเป็นคนพิการไปแล้ว ถ้ากล้านักก็ปีนขึ้นมาสิ แล้วข้าจะปล่อยเมียแกไป”
อวี๋เซี่ยงตงเคลื่อนมือลงไปสัมผัสกระบอกปืนที่อยู่ข้างเอว
ทว่าหลู่ฮั่นเซียงไม่ใช่คนโง่เขลา รีบร้องตะโกนว่า “อวี๋เซี่ยงตง ข้าว่าเอ็งอย่าตุกติกดีกว่า เอ็งคิดว่าพวกข้าไม่ได้เตรียมตัวมารึไง ถ้าเอ็งลงมือเมื่อไหร่ เอ็งจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!”
เขาพูดขณะโบกมือ เรียกชายหนุ่มที่ชื่ออากงให้ผลักซูช่านออกมาจากความมืดมิด ขณะที่คมมีดยังจี้อยู่บนลำคอระหงของซูช่าน
อวี๋เซี่ยงตงเกลียดที่ตนเองไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ จับที่วางแขนบนรถเข็นแน่น กัดฟันจนดังกรอด แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้
หลู่ฮั่นเซียงมั่นใจว่าอวี๋เซี่ยงตงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เขาจึงยื่นมือออกไปบีบหน้าซูช่าน “อวี๋เซี่ยงตง ถ้าเอ็งปีนขึ้นมาตอนนี้ แม่นี่จะยังมีสิทธิ์รอดนะ และพวกตำรวจที่มาปิดล้อมอยู่ที่นี่ ข้าแนะนำว่าอย่าเสียเวลาเปล่าเลย ครั้งนี้พวกข้าจะไม่กลับไปแน่ อย่างมากก็แค่ตายไปด้วยกัน”
อวี๋เซี่ยงตงรู้ว่าสองคนนี้บ้าไปแล้ว พวกมันสามารถทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งวางระเบิดภูเขา
เขาพยุงรถเข็นและค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แต่ทันทีที่เท้าสัมผัสพื้น เขากลับไม่รู้สึกถึงแรงกำลังใด ๆ
และล้มลงตรงหน้าทันทีที่ปล่อยมือ
ซูช่านร้องตะโกนทันทีทั้งที่ยังมีผ้ายัดอยู่ในปาก พยายามส่ายหน้าอย่างแรงและส่งเสียงครวญครางบอกอวี๋เซี่ยงตงว่าอย่าขึ้นมา
เสี่ยวจางอยากจะก้าวออกไปช่วยอวี๋เซี่ยงตง ทว่าหลู่ฮั่นเซียงกลับพูดปราม “อย่าขยับ ไม่งั้นก็อย่าว่าพวกข้ารุนแรง”
เขามีความสุขอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อเห็นอวี๋เซี่ยงตงตะเกียกตะกายคลานขึ้นมาข้างหน้า และร้องตะโกนว่า “อวี๋เซี่ยงตง นี่คือผลกรรมของเอ็ง ผลกรรมที่เอ็งทรยศหักหลังพวกข้า! ปีนขึ้นมาสิ ปีนขึ้นมา! ถ้าภายในห้านาทีเอ็งยังปีนขึ้นมาไม่ได้ ก็อย่าหาว่าข้ารุนแรงแล้วกัน”
เขาพูดและยกปืนแก๊ปในมือเล็งไปทางด้านข้างอวี๋เซี่ยงตง ยิงลูกกระสุนออกจนไปกองหิมะตกลงมาใส่อวี๋เวี่ยงตง
อวี๋เซี่ยงตงถอนหายใจ ก่นด่าอยู่ในใจ และใช้นิ้วมือจิกหิมะขณะคลานไปข้างหน้า ในเมื่อหลู่ฮั่นเซียงต้องการเห็นเขาเป็นตัวตลก เขาก็จะทำทุกอย่างให้อีกฝ่ายพึงพอใจ ไม่เช่นนั้นจะหนีออกไปได้ยาก
ภูเขาสูงชัน ยากต่อการปีนป่าย
แม้แต่ผู้คนที่มีแขนขาแข็งแรงยังต้องพยายามดิ้นรนปีนป่ายขึ้นไป นับประสาอะไรกับอวี๋เซี่ยงตง
อวี๋เซี่ยงตงเกาะอยู่ซอกหิน และใช้แรงกำลังแขนอันน่าทึ่งปีนป่ายขึ้นไป ทว่าเขากลับไม่สามารถใช้ขาได้เลย
หลู่ฮั่นเซียงเฝ้าดูอวี๋เซี่ยงตงปีนป่ายขึ้นมาด้วยท่าทางไม่แยแส ขณะที่อีกฝ่ายกำลังปีนขึ้นไปถึง เขาเหยียดเท้าออกไปเหยียบไหล่ของอีกฝ่าย และเตะอวี๋เซี่ยงตงลงมาอีกครั้ง ร่วงกายนั้นหล่นลงมาจางความสูงหลายเมตร ตกลงมากระแทกเข้ากับพื้นน้ำแข็งและหิมะบนท้องถนน จนเกิดเสียงดังตุ้บ
ซูช่านเฝ้าดูด้วยความทุกข์ใจ พยายามบิดแขนขา และร้องตะโกนให้อวี๋เซี่ยงตงยอมแพ้ไปเสีย
ทว่ากลับไม่มีใครสนใจว่าไป๋หลางหายไปไหน ไป๋หลางรีบคลานไปตามพื้นและหายไปทันทีเมื่อหลู่ฮั่นเซียงปรากฏกาย
อวี๋เซี่ยงตงปีนขึ้นไปถึงสามครั้งติดต่อกัน แต่กลับถูกหลู่ฮั่นเซียงเตะลงมาจนใบหน้าบอบช้ำ ปวดร้าวไปถึงกระดูกจากแรงกระแทกที่ตกลงมา
เขานอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้เป็นเวลานาน ช่วยซื้อเวลาให้กับไป๋หลางได้เป็นอย่างมาก
หลู่ฮั่นเซียงมองดูอวี๋เซี่ยงตงที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น และยิ้มอย่างมีเลศนัย “เอ็งนี่กำเริบเสิบสานไปหน่อยไหม? จะลุกขึ้นไหม? ลุกขึ้นมา! ข้าจะนับถอยหลังสิบถึงหนึ่ง ถ้าเอ็งไม่ลุกขึ้นมาก็อย่าหาว่าข้าหยาบคายแล้วกัน”
“สิบเก้าแปดเจ็ด… สาม… สอง”
ทว่าก่อนที่เขาจะพูดจบ เขากลับได้ยินเสียงลมกรรโชกอย่างรุนแรงมาจากทางด้านหลัง ไป๋หลางกระโจนเข้ามาหาหลู่ฮั่นเซียงจากที่ไหนสักแห่ง ทำให้หลู่ฮั่นเซียงตกใจมากจนหลบไปทางด้านหนึ่ง ขณะไป๋หลางรีบหันขวับกลับไปไล่กัดอากง
มันกัดหัวไหล่อากงภายในงับเดียว เขี้ยวแหลมแทงทะลุเสื้อคลุมผ้าฝ้ายตัวหนาและเจาะเข้าที่สะบักหลัง เพื่อบดขยี้ให้อีกฝ่ายเป็นชิ้น ๆ
อากงเจ็บปวดมากจนไม่ได้สนใจซูช่านที่กำลังจะหนี เพียงแต่ไม่ลืมผลักซูช่านให้ล้มลงอย่างแรง
อวี๋เซี่ยงตงที่นอนแน่นิ่งรอเวลาอยู่บนพื้นรีบลุกขึ้นเข้าไปรับตัวหล่อนทันทีที่เห็นซูช่านถูกผลักจนล้มลง ก่อนจะไถลลงมาจากหิมะด้านข้าง
เมื่อเห็นว่าตัวประกันหายไปแล้ว ตำรวจที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ความมืดมิดก็ออกมาล้อมหลู่ฮั่นเซียงกับอากงทันที
หลู่ฮั่นเซียงนึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์ล่าสุดจะเป็นฝีมือของสุนัข เขายกกระบอกปืนขึ้นและเล็งไปทางไป๋หลาง แต่นึกไม่ถึงว่ามันจะมีจิตวิญญาณอันแรงกล้า หันหลังและวิ่งกลับไป
รวดเร็วดังสายฟ้าแลบ จนเล็งปืนไม่ทัน
หลู่ฮั่นเซียงหัวเราะเยาะขณะมองดูกลุ่มตำรวจที่รายล้อมอยู่ “พวกเอ็งคิดว่ามันจบแล้วหรือไง?”
อวี๋เซี่ยงตงรีบร้องตะโกน “รีบถอยเร็ว! มีระเบิด”
เขาอุ้มซูช่านไว้ในอ้อมแขนและวิ่งไปบนท้องถนนที่อยู่ด้านข้างภูเขา เขากอดซูช่านเอาไว้แน่นและกลิ้งลงมาจากทางลาดชันอีกด้านหนึ่งของภูเขา ก่อนจะได้ยินเสียงดังต่อเนื่องกันสองสามครั้ง และเปลวไฟที่กระจัดกระจายเต็มท้องฟ้า…
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ระทึกมากค่ะ น้องไป๋หลางจะรอดไหม ขอให้หนีทันนะ
ไหหม่า(海馬)