เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 572 เจ้าตัวแสบไม่ได้เกลี้ยกล่อมกันง่าย ๆ
บทที่ 572 เจ้าตัวแสบไม่ได้เกลี้ยกล่อมกันง่าย ๆ
สวี่ชิงรู้สึกไม่สบายใจยิ่งขึ้นเมื่อไม่เห็นไป๋หลางกลับมา แม้โจวจินหนานจะบอกว่าไป๋หลางไม่เป็นอะไร ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี เธอจึงอุ้มเสี่ยวเป่าเข้าไปในบ้านและถามเย่หนานว่า “แม่คะ เห็นไป๋หลางกลับมาบ้างไหม?”
แม้แต่เย่หนานยังรู้สึกแปลกใจ “ไป๋หลางไม่ได้ออกไปกับพวกลูกเหรอ? ทำไมมันถึงไม่กลับมาด้วยล่ะ? หลงทางหรือเปล่า?”
สวี่ชิงส่ายหน้า “ไม่ค่ะ ไป๋หลางรู้ทาง แค่พาไปเดินรอบเดียว มันก็จำทางกลับมาได้แล้ว”
โจวจินหนานเดินตามเข้ามาปลอบสวี่ชิง กล่าวทักทายเย่หนานและเดินออกไป
สวี่ชิงนอนหลับไม่สนิทตลอดทั้งคืน คอยฟังการเคลื่อนไหวข้างนอกเป็นครั้งคราว และตื่นขึ้นมาตั้งแต่รุ่งสาง เปิดประตูออกไปมองดูหิมะที่ตกหนักทั่วลานบ้าน
หิมะตกหนักในบางจุดตลอดทั้งคืน ตอนนี้โลกทั้งใบจึงปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ก่อตัวเป็นชั้นหนาถึงข้อเท้า
นกบางตัวกระโดดโลดเต้นอยู่บนกองหิมะ ทิ้งรอยเท้าเอาไว้ตื้น ๆ ผสมปนเปกับรอยเท้าของแมวดำประปราย และไม่มีรอยเท้าอื่นอีก
สวี่ชิงยืนถอนหายใจอยู่ที่หน้าประตู ดูเหมือนว่าเมื่อคืนนี้ไป๋หลางจะไม่ได้กลับมา
เธอหันกลับเข้าไปในบ้าน มองดูเสี่ยวเป่าลุกขึ้นมานั่ง ขยี้ตาและพูดพึมพำว่า “ต้าไป๋กลับมายัง?”
เขามักจะตัดคำยาก ๆ ออกทุกครั้งที่พูดออกมา ทำให้มีคำหายไปหนึ่งถึงสองคำ
สวี่ชิงเดินเข้าไปกล่อมให้เสี่ยวเป่านอนลง “ยังจ๊ะ เสี่ยวเป่านอนต่ออีกสักแปบสิ”
เสี่ยวเป่ายังไม่ตื่นดี เขาพูดขึ้นขณะนอนหลับตา พลิกตัว ทำปากขมุบขมิบและผล็อยหลับไป
หลังเลิกเรียนในตอนเที่ยง ไป๋หลางก็ยังไม่กลับมา
ต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าเริ่มรู้สึกไม่มีความสุข ต้าเป่าเป็นเด็กที่ค่อนข้างไม่ค่อยแสดงออก มักจะเอาหัวถูกับเชือกป่านเมื่อครั้งรู้สึกไม่พอใจ ปากอันกระจิริดเม้มเข้าหากันแน่น ใบหน้าน้อย ๆ บูดบึ้งอย่างไม่สบอารมณ์ ถึงกระนั้นเขากลับไม่ได้พูดอะไรออกมา
ทว่าเสี่ยวเป่าแตกต่างออกไป เขาเอาแต่ส่งเสียงเรียกหาไป๋หลาง อีกทั้งยังลากเย่หนานออกไปหา
สวี่ชิงกลับเข้ามา ในขณะที่เสี่ยวเป่ากำลังลากมือเย่หนานออกไป พร้อมกับร้องตะโกนว่า “หาต้าไป๋ หาต้าไป๋”
เย่หนานทำอะไรไม่ถูก “เจ้าตัวยุ่ง เราจะไปหาต้าไป๋ท่ามกลางหิมะแบบนี้ได้ที่ไหน? ต้าไป๋ไปหาเพื่อนของมัน พอเล่นเสร็จเดี๋ยวมันก็กลับมาเอง เรารอมันอยู่ที่บ้านดีกว่าไหมจ๊ะ?”
เสี่ยวเป่าดื้อดึงมาก ลากเย่หนานและชี้นิ้วไปข้างนอก “หา เสี่ยวเป่าจะหา”
อีกทั้งยังคลี่ยิ้มราวกับกำลังจะร้องไห้แหล่ไม่ร้องไห้แหล่
เย่หนานมองดูสวี่ชิงที่เดินเข้าประตูมาราวกับผู้ช่วยชีวิต “รีบมาเกลี้ยกล่อมเจ้าตัวยุ่งที ตั้งแต่ตื่นนอนมาก็จะไปหาต้าไป๋ลูกเดียว พูดยังไงก็ไม่ยอมฟัง นี่ก็ออกไปหาตั้งสองรอบแล้ว”
สวี่ชิงวางกองหนังสือลงและรีบลงไปนั่งยอง ๆ ข้างหน้าเสี่ยวเป่า และจับมือเล็ก ๆ ของเสี่ยวเป่าไว้ “เดี๋ยวไป๋หลางอยากกลับบ้านเมื่อไหร่มันก็กลับมาเอง หนูออกไปก็หามันไม่เจอหรอกลูก เข้าใจไหมครับ?”
ถึงกระนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพูดเกลี้ยกล่อมเสี่ยวเป่า ศีรษะเล็ก ๆ ส่ายระรัว “หาต้าไป๋ ต้าไป๋จะตาย”
สวี่ชิงจิ๊ปากและบีบหน้าของเสี่ยวเป่าเบา ๆ “ไม่ต้องมาพูดไร้สาระเลย ต้าไป๋ไม่ตายหรอก ต้าไป๋กำลังไปทำเรื่องใหญ่อยู่ งั้นแม่พาเสี่ยวเป่าออกไปซื้อน้ำตาลปั้นดีไหมจ๊ะ?”
เสี่ยวเป่าที่ได้ยินว่าจะได้ซื้อน้ำตาลปั้น ก็หลงลืมการตามหาตัวไป๋หลางไปเสียสนิท และพยักหน้าเบา ๆ “เอา กินน้ำตาลปั้น เอาสองตัว”
เขากางนิ้วขาวนวลอันแสนบอบบางออกมาห้านิ้ว เพื่อแสดงถึงความคิดของตน
สวี่ชิงหัวเราะ “ได้ ซื้อสองตัวเลย ไปกันเลยไหม?”
เย่หนานยืนมองอยู่ข้าง ๆ อย่างทำอะไรไม่ถูก “พอเขากินน้ำตาลปั้นเสร็จแล้วก็จะไปตามหาไป๋หลางอีกรอบ นี่ก็ออกไปสองครั้งแล้ว กินลูกอมไปตั้งสองอัน กินขนมแท่งข้าวโพดกรอบอีกสาม”
สวี่ชิงทำอะไรไม่ถูกเมื่อมองไปที่ใบหน้ายิ้มแย้มของเสี่ยวเป่า เจ้าตัวแสบคิดจะออกไปหาของอร่อยกินหรือคิดจะไปตามหาไป๋หลางกันแน่?
สวี่ชิงรีบพาเสี่ยวเป่าออกไปเดินเล่น เพื่อไม่ให้เสี่ยวเป่าส่งเสียงร้องงอแงอยู่ในบ้าน
ประจวบเหมาะกับเป็นเวลาพักเที่ยงในโรงอาหารพอดี ซึ่งซูช่านยังคงซื้อกล่องอาหารเอาไว้ในมือ
ซูช่านประหลาดใจเมื่อเห็นสวี่ชิงกับเสี่ยวเป่า “หนาวขนาดนี้ พวกคุณจะไปไหนกันคะ? ทำไมพาเสี่ยวเป่าออกมาข้างนอกล่ะ?”
สวี่ชิงรีบพูดสรุปคร่าว ๆ ถึงการหายตัวไปของไป๋หลาง “เสี่ยวเป่าโตมากับไป๋หลาง พอไม่เห็นมาที่บ้านก็อยู่ไม่เป็นสุข ฉันก็เลยออกมาหามันค่ะ”
ซูช่านประหลาดใจมาก “ฉันได้ยินอวี๋เซี่ยงตงบอกว่าไป๋หลางเก่งมาก ตอนนั้นถูกขนานนามว่าเป็นเจ้าแห่งสุนัขที่ชายแดนด้วย ทำผลประโยชน์ทางทหารมากมาย มันจะหลงทางได้ยังไงคะ?”
สวี่ชิงส่ายหัว “มันคงไปเจออะไรบางอย่างเข้า ว่าแต่คุณกำลังจะไปไหนคะ?”
ซูช่านเหลือบมองกล่องอาหารในมือ “วันนี้ที่โรงอาหารมีเมนูเนื้อ ฉันจะตักเอาไปให้อวี๋เซี่ยงตงค่ะ ให้ฉันถามอวี๋เซี่ยงตงให้ไหมคะว่าพอจะรู้จักใครที่ช่วยตามหาไป๋หลางให้ได้บ้าง?”
สวี่ชิงต้องการจะพูดต่ออีกสองคำ ทว่าเธอกลับถูกเสี่ยวเป่าดึงเสื้อลากออกไป
และทำได้เพียงบอกลาซูช่านลวก ๆ พาเสี่ยวเป่าออกไปซื้อน้ำตาลปั้นนอกประตู และมองหาไป๋หลางไปด้วย
ซูช่านเข้าใจถึงการสูญเสียไป๋หลางไป และรีบไปบอกให้อวี๋เซี่ยงตงหาทางช่วยเหลือ
สถานที่ที่อวี๋เซี่ยงตงพักอยู่ตอนนี้อยู่ไม่ไกลจากทางมหาวิทยาลัยมากนัก ใช้เวลาเดินเพียงแค่ยี่สิบนาที และเป็นลานบ้านของทางสำนักอนุรักษ์น้ำ
ไม่รู้ว่าโจวจินหนานใช้วิธีการใดช่วยเขาหาที่อยู่บนชั้นสองให้จนได้ มีขนาดสองห้องนอน กว้างห้าสิบตารางเมตร ค่อนข้างกว้างขวางสำหรับคนคนเดียว
เดิมทีมีการจัดแจงคนให้เข้ามาคอยดูแลอวี๋เซี่ยงตง ทว่าอวี๋เซี่ยงตงกลับไล่ออก เนื่องจากว่าเขามีรถเข็นและสามารถดูแลตนเองได้
ส่วนการฟื้นฟูสมรรถภาพก็ทำเองที่บ้านได้ทั้งหมด
อวี๋เซี่ยงตงเป็นคนเจ้าอารมณ์ ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเขาได้ เขาจึงอาศัยอยู่ที่นี่เพียงลำพัง ทว่าตอนนี้โชคดีที่มีซูช่านอยู่ด้วย
ซูช่านมาถึง และเห็นว่าอวี๋เซี่ยงตงกำลังหมุนรถเข็นไปมาง่วนอยู่กับการทำบะหมี่ในครัว การเคลื่องไหวของเขาเป็นไปอย่างสบาย ๆ ไม่ได้เร่งรีบอะไร เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถปรับตัวเข้าชีวิตแบบนี้ได้
อวี๋เซี่ยงตงได้ยินเสียงประตู หันหน้ากลับมาและพูดว่าเป็นซูช่านที่เดินเข้ามา เขาจึงปิดไฟและหมุนเข็นกลับมา “ไม่มีเรียนเหรอ?”
ซูช่านยิ้มและส่งกล่องข้าวให้อวี๋เซี่ยงตง “วันนี้ตอนกลางวันที่มหาวิทยาลัยมีเนื้อตุ๋น ฉันตักมาเผื่อพี่ด้วยนะ”
หล่อนพูดและเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่ออุ่นอาหาร
จู่ ๆ อวี๋เซี่ยงตงก็นึกอะไรบางอย่างออก เขารับหมุนรถเข็นตามไปทันทีที่เห็นซูช่านเดินเข้าไปในห้องครัว ถึงกระนั้นก็ยังช้ากว่าหนึ่งก้าว
ซูช่านมองดูกากยาจีนที่ยังไม่ได้ชำระล้างอยู่ข้างอ่าง ซึ่งข้างๆ มีรอยสีเหลืองจาง ๆ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองอวี๋เซี่ยงตงด้วยแววตาโกรธจัด “อวี๋เซี่ยงตง!”
อวี๋เซี่ยงตงหัวเราะทันที “อย่าโกรธสิ ฉันเอามาต้มเพราะเห็นว่ามันเย็นชืด…”
หน้าอกของซูช่านกระเพื่อมด้วยความขุ่นเคืองจนไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ ดวงตาของเธอแดงก่ำ เดินออกจากห้องครัวและทิ้งตัวลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น
อวี๋เซี่ยงตงแตะจมูก รีบตามออกไป และรู้สึกปวดหัวขณะมองดูซูช่าน
หากผู้หญิงคนนี้โกรธเคืองปกติคงจะไม่เป็นอะไร ทว่าสิ่งที่เขาเกรงกลัวคือความเงียบของหล่อน ดวงตาของหล่อนแดงก่ำและมีทีท่าว่ากำลังจะร้องไห้ ดูเหมือนว่าหล่อนจะเข้าใจผิดครั้งใหญ่
จนทำให้เขารู้สึกผิดโดยที่ไม่ทันตั้งตัว “เอ่อ สาวน้อย อย่าร้องไห้สิ หรือว่าฉันควรต้มอีกสองหม้อทีหลังดี?”
ซูช่านจ้องมองไปที่เขาทั้งที่น้ำตาคลอเบ้า พยายามที่จะไม่ให้มันไหลลงมา
อวี่เซี่ยงตงปวดหัว นี่สินะเจ้าตัวแสบ ไม่ได้เกลี้ยกล่อมกันง่าย ๆ!
“ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เอาของสำคัญของเขาไปเททิ้งอย่างนั้นก็ควรโดนงอนล่ะค่ะ จะง้อสำเร็จไหมนะ
ไหหม่า(海馬)