เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 570 คนตัวเล็กโกรธจัด
บทที่ 570 คนตัวเล็กโกรธจัด
สวี่ชิงที่มีบางอย่างอยู่ในใจไม่ได้สนใจที่จะอาบน้ำให้ลูกน้อยทั้งสองอีกต่อไป เธอรีบล้างตัวพวกเขา อุ้มออกมาเช็ดตัวจนแห้ง และปล่อยให้ต้าเป่านั่งรอคุณยายมาแต่งตัวให้เขาอย่างเชื่อฟัง
เสี่ยวเป่าคลานไปทั่วเตียงด้วยสภาพเปลือยเปล่าอย่างคล่องแคล่วว่องไว จนสวี่ชิงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการแต่งตัวให้เขา
หลังจากไล่จับกันอยู่ครึ่งชั่วโมง สวี่ชิงก็จับเสี่ยวเป่ามาใส่เสื้อผ้าและพาเขาขึ้นบนที่นอน “วันนี้เสี่ยวเป่านอนกับคุณยายนะลูก แม่จะอ่านหนังสือสักหน่อย”
เสี่ยวเป่าดีดดิ้นด้วยความไม่เต็มใจ ถึงกระนั้นกลับรู้อยู่ในใจว่าเขาไม่สามารถรบกวนแม่เวลาอ่านหนังสือได้ และถ้าเขาฉีกหนังสือของแม่ แม่จะตีเขาอย่างแรง พอนึกถึงเรื่องนี้ ก้นของเขาก็ยังเจ็บอยู่เลย
หลังจากโต้เถียงกันอยู่สักพักหนึ่ง และรู้แน่ชัดว่าแม่จะไม่พาเขาเข้าไปนอนด้วย จึงรีบคลานไปเล่นกับต้าเป่าอย่างเชื่อฟัง
สวี่ชิงจึงตามโจวจินหนานกลับเข้าไปในห้องที่ปลอดเสียงเอะอะโวยวาย
เธอรีบถามด้วยท่าทางกระวนกระวายหลังจากปิดประตูลง “หาเจอแล้วเหรอคะ? เป็นยังไงบ้าง? ขอฉันดูหน่อย”
โจวจินหนานยิ้ม และดึงเธอเข้าไปนั่งข้างเตียง “บังเอิญว่ามีสหายสองสามคนอยู่ในหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ซ่านซีพอดี ถึงได้ตรวจสอบกันเร็วมาก ผมเอาบันทึกมาให้ด้วย”
เขาส่งเอกสารบันทึกให้สวี่ชิง และปล่อยให้เธอค่อย ๆ อ่าน
สวี่ชิงเปิดกระเป๋าและหยิบกองกระดาษสองสามแผ่นขึ้นมา เป็นบันทึกวันเดือนปีเกิดของหวางเหวินหลงกับเฉินหวาชิง ที่อยู่บ้าน สมาชิกในครอบครัว รวมถึงที่ทำงานของพวกเขา
ปีที่เข้าทำงาน ผลงานในที่ทำงาน และผู้อำนวยการในเวลานั้น ๆ ล้วนถูกบันทึกไว้หมด
สวี่ชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลังจากเปิดอ่าน พวกเขาทั้งสองคนทำงานในโรงงานผลิตรถยนต์หงกวง อยู่ในตำแหน่งฝ่ายกิจการ ทว่าก่อนหน้านั้นสองสามเดือนทั้งสองคนขโมยชิ้นส่วนจากโรงงานมาขาย ถึงแม้จะไม่ได้ถูกจับได้จากสถานการณ์ดังกล่าว แต่พวกเขาก็ต้องรับผิดชอบต่อความประมาทในหน้าที่ทำงาน ทำให้ถูกสั่งย้ายมาที่ตำแหน่งฝ่ายกิจการ
ช่วงนี้พวกเขาจะต้องเดินทางมาเก็บค่าค้างชำระงวดสุดท้ายที่ซินเจียง ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไร และการเรียบเก็บจากบัญชีระหว่างองค์กรต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก พวกเขาจึงมีเวลามากมายมาวิ่งเพ่นพ่านแถวนี้
สวี่ชิงรู้สึกเหลือเชื่อมากหลังจากอ่านบันทึกจบ “ถ้าเป็นแบบนี้ คนที่อยู่เบื้องหลังตามหาพวกเขาเจอได้ยังไง? แค่บังเอิญเหรอ?”
โจวจินหนานหยักหน้า “น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ สองคนนี้มีหนึ่งสิ่งที่เหมือนกันคือชอบฉวยโอกาสในที่ทำงาน ชายคนที่ชื่อว่าหวางเหวินหลงเคยเห็นหัวหน้ากลุ่มก่อกบฏมาก่อน เขาทำหลายอย่างในโรงงานมาก จนวิศวกรหลายคนถูกส่งตัวไปที่ฟาร์มเพราะเขา”
สวี่ชิงกัดฟันด้วยความเกรี้ยวโกรธ “ถ้าอย่างนั้นจะปล่อยให้เขาทำสำเร็จไม่ได้ ฉันเปลี่ยนใจแล้ว จะไม่ให้เขาเลยแม้แต่พันหยวน”
โจวจินหนานยิ้มและลูบศีรษะเธอ “คุณจะทำอะไรก็ตาม แต่ปล่อยให้ผางเจิ้งหัวจับตาดูสองคนนี้ก็พอ”
สวี่ชิงเก็บเอกสารลงอย่างระมัดระวัง และถอนหายใจอย่างเหลืออด “ไหนจะเรื่องเปิดร้านอีก คงต้องหาจังหวะเปิดสงครามสายลับแล้ว ไม่รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังกำลังคิดอะไรอยู่”
หากมันสามารถทำเงินได้จริง ๆ อีกฝ่ายคงจะใช้เล่ห์เหลี่ยมทุกรูปแบบ
โจวจินหนานไม่รู้เรื่องธุรกิจมากนัก ทว่าเขาตระหนักได้ถึงการต่อสู้เพื่อแย่งชิงดินแดนเป็นอย่างดี “เห็น ๆ กันอยู่ว่าฝั่งนั้นสนใจธุรกิจนี้มาก แต่พวกเขาคงจะลงมาแข่งขันไม่ไหว ถึงได้แอบย่องเข้ามาทำให้พวกเรากระเด็นออกไป”
วันถัดมาเป็นวันอาทิตย์พอดี โจวจินหนานยังต้องไปทำงาน ขณะที่สวี่ชิงไปหาผางเจิ้งหัว
ขณะที่เธอกำลังแต่งตัวอยู่ เสี่ยวเป่าก็วิ่งเข้ามาเกาะขา “แม่ เสี่ยวเป่าไป เสี่ยวเป่าไป เสี่ยวเป่าจะนั่งรถ”
เด็กน้อยฉลาดขึ้นแล้ว เขาแอบได้ยินแม่กับคุณยายพูดว่าเธอไม่มีเรียน และกำลังจะออกไปข้างนอก
ตอนนั้นเย่หนานถามสวี่ชิงว่าจะปั่นจักรยานออกไปหรือจะนั่งรถบัส สวี่ชิงจึงบอกว่าจะนั่งรถบัสไป
เสี่ยวเป่าที่กำลังกินไข่อยู่จำบทสนทนาของแม่กับคุณยายได้อย่างขึ้นใจ เมื่อรู้ว่าแม่กำลังจะนั่งรถบัสออกไปข้างนอก เขารีบปล่อยแมวดำให้เล่นเพียงลำพัง และหันมาสนใจการเคลื่อนไหวของแม่แทน
ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปเกาะขาแม่ ไม่ยอมปล่อยเมื่อเห็นว่าแม่แต่งตัวเสร็จแล้ว
สวี่ชิงนั่งยอง ๆ พยายามพูดเกลี้ยกล่อม “แม่ออกไปทำธุระ หนูรอแม่อยู่ที่บ้านได้ไหมจ๊ะ? เดี๋ยวแม่จะรีบกลับมา”
เสี่ยวเป่าส่ายหัว รีบพูดปฏิเสธหนักแน่นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ไม่เอา เสี่ยวเป่าไปด้วย”
สวี่ชิงคิดพิจารณาว่าเธอจะไปพูดคุยกับผางเจิ้งหัวเพียงแค่ไม่กี่คำ พาเสี่ยวเป่าไปด้วยคงไม่เป็นอะไร
ก่อนจะหันหน้าไปมองต้าเป่าที่กำลังนั่งบิดเชือกป่านอยู่บนเบาะเด็ก หากต้าเป่าจะไปด้วย เธอกับเย่หนานจะพาพี่น้องคู่นี้ออกไปด้วยกัน และแวะซื้อของหลังจากขากลับ
“ต้าเป่า อยากไปเที่ยวกับแม่ไหมจ๊ะ?”
ต้าเป่าส่ายหัว มือน้อย ๆ ยังคงขยับอย่างทะมัดทะแมง ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด “ไม่ไป ต้าเป่าไม่ไป”
คุณย่าทวดบอกว่าถ้าบิดเชือกป่านเสร็จแล้ว จะเอาแมงมุมตัวใหม่มาให้
สวี่ชิงเดินเข้าไปลูบหัวต้าเป่า “เก่งมากต้าเป่า เดี๋ยวแม่กลับมาแล้วจะซื้อน่องไก่มาฝากต้าเป่านะ”
เธอพูดและพาเสี่ยวเป่าเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อแจ็กเก็ตบุนวมผ้าฝ้าย ด้านในแจ็กเก็ตบุผ้านวมหนา เสื้อคลุมด้านนอกเป็นสีน้ำตาล หมวกไหมพรมสีน้ำเงินสลับขาว เดิมทีเขาเป็นเด็กน้อยตัวอ้วน ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นลูกบอลที่ไม่แม้แต่จะงอข้อศอกได้
สวี่ชิงเป็นคนทำรองเท้าผ้าฝ้ายให้เสี่ยวเป่ากับมือ ซึ่งทำมาจากผ้าแคชเมียร์สลับกับผ้าฝ้าย ให้ความอบอุ่นอย่างมาก
เขาถือลูกบอลออกนอกประตูไปด้วย ทำให้เสียเวลาไปไม่น้อย
ไป๋หลางรู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งที่เห็นสวี่ชิงพาเสี่ยวเป่าออกไปข้างนอกประตู มันรีบวิ่งตามพวกเธอออกนอกประตูไปอย่างกระตือรือร้น แม้ว่าสวี่ชิงจะเดินไม่รอ มันก็สามารถแกะรอยตามเสี่ยวเป่าไปได้
เนื่องจากเป็นวันหยุดพักผ่อน จึงมีคณะอาจารย์และนักเรียนจำนวนมากมายืนออกันอยู่ที่สถานีหน้ามหาวิทยาลัย ผู้คนล้วนอยากเข้าไปซื้อของในเมือง ในขณะที่บรรดาพวกหนอนหนังสือชอบไปร้านหนังสือซินหวา คนที่ไม่ชอบเรียนชอบไปเที่ยวเตร็ดเตร่ย่านแม่น้ำเหลือง หรือไปห้างสรรพสินค้า
สวี่ชิงอุ้มเสี่ยวเป่าเอาไว้ในอ้อมแขน พยายามเบียดฝูงชนขึ้นไปหาที่นั่งว่างบนรถบัส ก่อนจะเดินทางไปถึงใจกลางเมือง
เสี่ยวเป่านั่งคุกเข่าอยู่บนตักแม่ มือเล็ก ๆ ไม่ได้หวาดหวั่นกับอากาศที่เหน็บหนาว เกาะกระจกใสและมองดูทิวทัศน์ด้านนอก ปากเล็ก ๆ ยิ้มและพูดพึมพำไม่หยุด คอยพูดคุยกับไป๋หลางที่วิ่งตามรถบัสมา
สวี่ชิงมองดูไป๋หลางและคิดในใจว่าถ้าต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าไปโรงเรียน ไป๋หลางน่าจะไปรับไปส่งเด็กทั้งสองได้ และน่าจะรอบคอบมากกว่าเธอ
หากต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าในอายุเจ็ดแปดขวบชกต่อยกัน โดยมีไป๋หลางกับแมวดำยืนอยู่ข้างหลัง ภาพที่เห็นคงจะดูแปลกประหลาด แต่ก็อบอุ่นมากเช่นกัน
บางคนในรถบัสสังเกตเห็นสุนัขหมาป่าผู้แข็งแกร่งที่วิ่งตามรถบัสราวกับเงา เดินไปรอบ ๆ และพูดกระซิบว่า “ดูหมาป่าตัวใหญ่นั่นสิ มันจะกัดคนไหม?”
“มันดูดุก็จริง แต่น่าจะเป็นสุนัขตำรวจ ฉันคิดว่ามันน่าเคยอยู่ในกรมตำรวจนะ”
“ถึงจะถูกฝึกมาแต่ก็กัดคนได้เหมือนกันนั่นแหละ ลงจากรถก็ระวังหน่อยแล้วกัน”
เสี่ยวเป่าที่เกาะกระจกอยู่และพูดพึมพำไม่หยุด รีบหันหน้ากลับมาจ้องมองคนในรถด้วยสีหน้าดุร้าย และร้องตะโกนว่า “ต้าไป๋ไม่กัดคน กัดแต่คนเลว!”
เสี่ยวเป่าโพล่งออกไปด้วยคำพูดเรียบง่ายที่ชัดถ้อยชัดคำ ยิ่งประโยคหลังยิ่งชัดเจน
ควบคู่ไปกับสายตาจ้องเขม็งของคนตัวเล็ก ทำให้ดูรุนแรงเป็นพิเศษ
สวี่ชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และนึกไม่ถึงว่าเสี่ยวเป่าจะโกรธ!
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
น้องผูกพันกับต้าไป๋มาก อย่าว่าต้าไป๋นะ
ไหหม่า(海馬)