เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 524 เด็กน้อยผู้ทำการใหญ่
บทที่ 524 เด็กน้อยผู้ทำการใหญ่
อวี๋เซี่ยงตงที่อยู่ต่อหน้าโจวจินหนาน สวี่ชิง และฉินเหมียวเหมียวยังมีท่าทางเฉยเมย พูดจาไม่แยแส สร้างความเจ็บแสบเหมือนเช่นเคย
หากสวี่ชิงไม่รู้เรื่องราวของอวี๋เซี่ยงตงจากปากซูช่าน เธอคงจะคิดว่าอวี๋เซี่ยงตงมีกำลังใจดี และยอมรับความเป็นจริงได้อย่างใจเย็น
อวี๋เซี่ยงตงนอนลงบนเตียงพยาบาล และถามด้วยความสงสัย “งานแต่งของสวีหย่วนตงสนุกไหม ไอ้หมอนั้นมันไม่ยอมส่งการ์ดเชิญมาให้ฉัน กลัวว่าฉันจะไม่มีเงินใส่ซองหรือยังไง?”
โจวจินหนานตอกกลับอย่างเย็นชา “ก็แล้วนายไปลอบกัดสวีหย่วนตงทำไมล่ะ ไม่อย่างนั้นเขาจะถูกย้ายไปเป็นสัตวแพทย์ที่ฐานทัพสุนัขทหารเหรอ”
อวี๋เซี่ยงตงจิ๊ปากสองครั้ง “โจวจินหนาน ดูเหมือนว่าตอนแรกแม่เขาก็รับได้ไม่ใช่เหรอ สภาพบ้านของสวีหย่วนตงเป็นยังไง ทุกคนในบ้านเอาแต่พึ่งพาเขา ถ้าไม่มีเขาสักคน แม่กับน้องสาวจะทำยังไง? ไม่เหมือนนายนะที่ยังมีน้องชาย ถึงแม้ว่าฉันจะรู้มานานแล้วก็เถอะว่าน้องนายไม่ใช่พี่น้องกันจริง ๆ”
สวี่ชิง “…”
ต้องบอกว่าสมควรแล้วที่เขาได้รับความทุกข์ทรมาน ถึงกระนั้นเขาก็ยังคอยทำให้โจวจินหนานไม่พอใจอยู่ร่ำไป
โจวจินหนานดึงเก้าอี้มานั่งลงข้าง ๆ เตียงผู้ป่วยของอวี๋เซี่ยงตง ในขณะที่สวี่ชิงกับฉินเหมียวเหมียวเดินไปนั่งลงฝั่งตรงข้าม คอยดูอวี๋เซี่ยงตงกับโจวจินหนานคุยกัน
สวี่ชิงแอบสังเกตท่าทางและสีหน้าของฉินเหมียวเหมียว ดวงตาของหล่อนมีประกายวูบวาบทุกครั้งที่มองไปทางอวี๋เซี่ยงตง
ทว่าอวี๋เซี่ยงตงกลับยังโต้เถียงอยู่กับโจวจินหนาน ทั้งยังสั่งให้โจวจินหนานปอกแอปเปิลให้เขา “ปอกแอปเปิลให้ฉันหน่อยสิ”
โจวจินหนานหยิบมีดขึ้นมาปอกแอปเปิ้ลอย่างเชื่อฟัง
อวี๋เซี่ยงตงนอนพิงหัวเตียงอย่างรู้สึกมีชัย “นึกไม่ถึงเลยว่าวันหนึ่งนายจะมาปอกแอปเปิลให้ฉัน”
โจวจินหนานเยาะเย้ย “ถ้าไม่กลัวถูกวางยาพิษตายก็กินเข้าไปซะ”
สวี่ชิงมองดูคนทั้งสอง และรู้สึกว่าพวกเขายังชอบทำตัวเป็นเหมือนศัตรูกันอยู่ตลอดเวลา!
โจวจินหนานกับสวี่ชิงอยู่ในห้องผู้ป่วยพักหนึ่งแล้วจึงกลับออกไป ในขณะที่ฉินเหมียวเหมียวรู้สึกเคอะเขินเกินกว่าจะอยู่ต่อ รีบส่งเสียงดังร้องขอสวี่ชิงว่าจะเยี่ยมต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าด้วย
และยังไม่วายพูดถากถางอวี๋เซี่ยงตงก่อนจากไป “นายก็ดูแลตัวเองให้ดีล่ะ ไม่มีอะไรทำก็หัดออกแรงบ้าง ไม่งั้นจะไม่เหลืออะไรให้ใช้เลยนอกจากปาก”
อวี๋เซี่ยงตงรีบตอบโต้กลับเพื่อไม่ให้เสียเปรียบ “สงสารผู้ชายที่ต้องแต่งงานกับเธอในอนาคตจริง ๆ เลย”
สวี่ชิงเกิดภาพลวงตาว่าทั้งสองคนนี้น่าจะเป็นคู่กัดที่ชอบพอกัน!
การที่อวี๋เซี่ยงคงจะเข้ากับใครสักคนได้ ทั้งสองจะต้องพูดคุยกันจนเกิดความรู้สึกรักใคร่ชอบพอกันใช่ไหม?
หลังจากเดินออกมาจากโรงพยาบาล ฉินเหมียวเหมียวรีบพูดอธิบายกับสวี่ชิง “ตั้งแต่กลับมาฉันตั้งใจจะไปหาคุณคนแรกเลยนะ แต่ฉันได้ยินมาว่าอวี๋เซี่ยงตงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล พอมาคิด ๆ ดูแล้วเขาก็น่าสงสาร ไม่มีญาติเหลือเลยสักคน เลยแวะมาดูหน่อยว่าสาหัสขนาดไหน จะน่าสงสารอย่างที่คิดหรือเปล่า”
สวี่ชิงจับแขนฉินเหมียวเหมียวที่กำลังพูดอธิบายไปเรื่อยเปื่อย และพูดถามด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ว่า “คุณชอบอวี๋เซี่ยงตงใช่ไหม?”
ใบหน้าของฉินเหมียวเหมียวเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ และพยักหน้าอยู่นาน “ใช่”
สวี่ชิงรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยเมื่อนึกถึงนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตนของซูช่าน “แล้วคุณไปชอบเขาได้ไง? รายนั้นชอบพูดจาวาร้ายใส่คนอื่นจะตาย เถียงกันทุกวี่ทุกวันเลยไม่ใช่เหรอ?”
ฉินเหมียวเหมียวไม่รู้ว่าตนเองชอบอะไรในตัวอวี๋เซี่ยงตงเช่นกัน แต่ทำได้แค่เกาศีรษะแกรก ๆ “คงเป็นเพราะไม่มีผู้ชายคนไหนทำให้ฉันพูดไม่ออกแบบนี้ล่ะมั้ง?”
สวี่ชิงชอบฉินเหมียวเหมียว และชอบซูช่านด้วยเช่นกัน ถึงกระนั้นเธอก็หวังว่าทั้งสองคนจะไม่ทำตัวเลวร้ายขึ้นเพียงเพราะผู้ชายคนเดียว และจบลงด้วยการไม่มีความสุข
ยิ่งคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกแย่มากเท่านั้น “แล้วถ้าอวี๋เซี่ยงตงชอบผู้หญิงคนอื่นล่ะ?”
ฉินเหมียวเหมียวคาดไม่ถึงว่าเธอจะเจอคำถามนี้ และตกตะลึงไปชั่วขณะ “ไม่มีทาง? ผู้หญิงคนไหนจะโชคร้ายถึงขนาดทำให้เขามาชอบได้?”
สวี่ชิง “…”
ปฏิกิริยาของฉินเหมียวเหมียวผิดแปลกไป หล่อนควรจะเศร้าหรือตกใจไม่ใช่หรือ แต่ทำไมถึงมีปฏิกิริยาเช่นนั้น?
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดถึงอวี๋เซี่ยงตงอีก ฉินเหมียวเหมียวเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทางตอนใต้ของเตียนหนานไปตลอดทาง และยังบอกว่าคิดถึงชีวิตที่นั่น
หลังจากกลับมาถึงบ้าน ฉินเหมียวเหมียวกรีดร้องและรีบวิ่งเข้าไปทันทีที่เห็นเด็กชายสองคนนั่งอยู่ในลานบ้าน “พระเจ้า สวี่ชิงคุณเก่งมาก คลอดลูกยังไงให้ออกมาหน้าตาดีขนาดนี้”
วันนี้ต้าเป่าไม่ได้บิดเชือกป่าน แต่กับทำอย่างอื่นที่ทำให้สวี่ชิงประหลาดใจไปไม่น้อยกว่ากัน เขาถือตะปูและใช้มือเล็ก ๆ หยิบไส้เดือนออกมาจากถึงอย่างว่องไว วางมันลงบนโต๊ะกระดานและใช้ตะปูตอกลงบนไส้เดือนจนแน่น
เฟิงซูฮวาหยิบมืดขึ้นมาผ่าไส้เดือนในแนวตั้งอย่างว่องไว แยกหนังไส้เดือนออก เพื่อเอามาทำเป็นไส้เดือนยาจีน
ขั้นตอนการทำจะค่อนข้างน่าสะอิดสะเอียนไปหน่อย
ทว่าสีหน้าของต้าเป่ากลับนิ่งเรียบราวกับนักฆ่าตัวฉกาจ ถึงกระนั้นใบหน้าเจ้าเนื้อก็ยังแสดงสีหน้าไม่เป็นประสาออกมา
ส่วนเสี่ยวเป่าไปไกลเกินกว่าพี่ชายมาก เจ้าตัวน้อยนั่งยอง ๆ อยู่บนพื้น ใช้ก้อนหินทุบคางคกจนเลือดสาด
ฉินเหมียวเหมียวที่ตั้งใจจะมาเชยชมความน่ารักของเด็กน้อยทั้งสองเห็นสิ่งที่เด็กน้อยทั้งสองทำอยู่ก็เริ่มท้องไส้ปั่นป่วนจนเกือบจะอาเจียนออกมา รีบเอามือปิดปากและวิ่งหนีไป
ก่อนจะมองไปที่สวี่ชิงด้วยสายตาสยดสยอง “หลานทั้งสองมีงานอดิเรกต่างจากคนอื่นเกินไปหรือเปล่าน่ะ?”
สวี่ชิงรู้สึกเวียนหัวเช่นกัน “คุณย่า แม่คะ ไปเอาไส้เดือนกับคางคกพวกนี้มาจากที่ไหนกัน”
ถ้าเป็นกบก็ว่าไปอย่าง
เย่หนานเกรงว่าจะเผลอทำให้ฉินเหมียวเหมียวหวาดกลัว จึงรีบพาเสี่ยวเป่าไปล้างมือที่อ่างล้างหน้า ก่อนจะหยิบเสียมขึ้นมาขูดซากคางคกออกและฉีดน้ำชำระล้างกองเลือดทั้งหมด
เฟิงซูฮวาเก็บข้าวของ และขอให้เย่หนานช่วยเอาไส้เดือนที่ถลกหนังออกแล้วไปตากแห้ง ก่อนจะปิดส่วนที่เหลือเอาไว้
เห็นได้ชัดว่าต้าเป่ายังสนุกไม่หนำใจ เขาชี้นิ้วไปถังไส้เดือนอีกครั้ง “คุณย่าเอามา คุณย่าเอามา ต้าเป่าเอาอีก”
เฟิงซูฮวายิ้มและลูบหัวต้าเป่า “ค่อยทำตอนบ่ายเถอะจ้ะ ตอนนี้ย่าทวดปวดหลังแล้ว อยากพักก่อน”
ต้าเป่าเบะปาก และเดินไปล้างมือด้วยความผิดหวัง
หลังจากทำความสะอาดเสร็จ ฉินเหมียวเหมียวเดินกลับมานั่งลงอีกครั้ง หล่อนมองไปที่โต๊ะกระดานเล็ก ๆ และรู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งหนังศีรษะ เนื้อตัวสั่นเทาเล็กน้อยขณะพูดกับสวี่ชิง “ลูกคุณใจกล้ากันดีนะคะ”
สวี่ชิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “พวกเขายังเด็ก ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่รู้จักความกลัวหรอกค่ะ จะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนน่ากลัว”
เย่หนานทำความสะอาดและกลับมาพูดอธิบายกับสวี่ชิง “เมื่อเช้าพวกแม่ไม่มีอะไรทำ ก็เลยออกไปเดินเล่นกันมา มีแหล่งไส้เดือนเพาะพันธุ์อยู่ตรงนั้นพอดี แม่เดินเข้าไปดู พูดชี้แนะพวกเขาสองสามอย่าง พวกเขาก็เลยแบ่งไส้เดือนมาให้ถังหนึ่งให้เอากลับมาเล่นกัน”
สวี่ชิงรู้ดีว่ามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนมักจะใช้สิ่งเหล่านี้เป็นหลักสูตรทดลอง และการเพาะเลี้ยงไส้เดือนก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน
แต่การยกไส้เดือนทั้งถังให้เย่หนานก็ถือว่าใจกว้างเกินไป “แม่ แน่ใจนะคะว่าแม่ไม่ได้อยากได้ไว้เองน่ะ?”
เย่หนานเหลือบมองเธอ “แม่ไปช่วยพวกเขามาตั้งเยอะ ขอไส้เดือนมาหน่อยจะเป็นไรไป? อีกอย่างตากแห้งเสร็จแล้วแม่จะเอากลับไปให้พวกเขาด้วย พวกเขาจะได้เห็นว่าไส้เดือนตากแห้งของแม่ดีกว่าเป็นไหน ๆ”
สวี่ชิงรู้ดีว่านั่นเป็นสิ่งที่ควรจะเป็น “เพราะงั้นแม่ก็เลยออกไปไล่หาคางคกมาสินะคะ? ไม่กลัวว่าเสี่ยวเป่าจะถูกพิษคางคกหรือยังไง”
เย่หนานส่งเสียงหึๆ “พิษธรรมดาทั่วไปจะมาเข้าใกล้หลานชายของแม่ได้ยังไง”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หมดกันความน่ารักไร้เดียงสาของเด็กๆ แง…กระบวนการทำยามันต้องโหดร้ายขนาดนี้เลยเหรอ
ไหหม่า(海馬)