เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 523 ความสัมพันธ์ของคู่แข่งทางความรัก
บทที่ 523 ความสัมพันธ์ของคู่แข่งทางความรัก
ซูช่านไม่มีเพื่อนอยู่ในตัวเมืองเอกเลย และไม่มีเพื่อนเล่นตั้งแต่ยังเล็ก ถึงแม้หล่อนจะมีเพื่อนตัวน้อยที่อยากเล่นด้วย ทว่าพ่อแม่ของอีกฝ่ายกลับบอกว่าอย่าออกมาเล่นกับนังมะกันต่างด้าวนี่
หล่อนจึงทำได้เพียงติดตามอวี๋เซี่ยงตงต้อย ๆ หรือติดตามคุณปู่ไปคัดลอกสรรพคุณของสมุนไพรที่บ้าน
ทำให้ตัวหล่อนในวัยเด็กคัดลายมือได้เก่งมาก
ต่อมาหล่อนก็ไปเรียนตามปกติที่ปักกิ่ง มีเพื่อนเล่นปกติ และใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ทว่าความทรงจำในวัยเด็กกลับมีค่ากับหล่อนมาก
หล่อนไม่เคยเห็นอวี๋เซี่ยงตงหดหู่ขนาดนี้มาก่อน ถึงกระนั้นก็คิดหาทางออกที่ดีไม่ได้เช่นกัน
ก่อนจะตัดสินใจกลับไปหารือกับสวี่ชิง
สวี่ชิงกำลังนั่งอยู่กับโจวจินหนานอยู่ในบ้าน พวกเขากำลังหารือเรื่องการไปงานแต่งของฉินเสวี่ยเหมยกับสวีหย่วนตงในวันพรุ่งนี้ พิจารณาจากความสัมพันธ์ในปัจจุบันแล้ว เธอจึงตัดสินใจที่จะไม่พาต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าไปร่วมงานด้วย จะเข้าร่วมงานในเวลาเลี้ยงฉลอง และกลับออกมาหลังจากงานเลี้ยงฉลองเสร็จสิ้น
หากไม่ใช่เพราะว่าโจวจินหนานกับสวีหย่วนตงรู้จักกัน เธอคงไม่อยากไปร่วมงาน
ตอนนี้ทุกคนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความรักหรือมิตรภาพ ทุกคนล้วนต้องมีความจริงใจต่อกัน และไม่มีใครให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
ขณะเดียวกันเธอไม่อยากให้อีกฝ่ายหยิบฉวยความใจดีไปตามอำเภอใจ
โจวจินหนานไม่ได้คัดค้านอะไร เดิมทีเขาไม่ต้องไปรับตัวเจ้าสาวอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับการปลุกห้องเจ้าสาว(1)
ทั้งสองนั่งคุยกันอยู่ที่ลานบ้าน ส่วนเสี่ยวเป่ากำลังเล่นลูกบอลอยู่กับกับแมวดำ ในขณะที่ต้าเป่ายังคงหมกมุ่นอยู่กับการบิดเชือกป่านกับคุณย่า
บางครั้งสวี่ชิงก็สงสัยว่าเฟิงซูฮวาไปหาเไม้ป่านมาทำเชือกป่านจากที่ไหนเยอะแยะ? แล้วไหนจะวิธีการบิดเชือกของคุณย่าคุณหลานอีก
บิดเชือกป่านเป็นเกลียวจนจะหมุนรอบโลกได้ทั้งสัปดาห์แล้วมั้ง ถึงกระนั้นก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์มากเท่าไร
มีเพียงชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่ถูกบิดไปมาตลอดทั้งวัน
ข้อได้เปรียบจากการที่ต้าเป่าบิดเชือกป่านบ่อย ๆ เพียงอย่างเดียวคือมือของเขายืดหยุ่นมาก และจับตะเกียบได้ดีกว่าเสี่ยวเป่า
อีกทั้งการเคลื่อนไหวหลายอย่างยังทำได้ดีกว่าเสี่ยวเป่า
สวี่ชิงประหลาดใจมากเมื่อเห็นซูช่านเดินเข้ามา เธอลุกขึ้นและเชิญให้อีกฝ่ายเข้ามานั่งในลานบ้าน “ไม่ได้ไปโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนกับอาจารย์เหรอ? ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ”
ซูช่านพยายามฝืนยิ้ม “พรุ่งนี้ถึงจะเข้าไปอย่างเป็นทางการ วันนี้ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณหน่อย”
สวี่ชิงมองดูท่าทางของซูช่านและคาดเดาว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะเกี่ยวข้องกับอวี๋เซี่ยงตง แต่เนื่องจากโจวจินหนานอยู่ที่บ้านด้วย เธอจึงกลัวว่าซูช่านจะไม่สบายใจ จึงรีบลากอีกฝ่ายไปที่ศาลาในมหาวิทยาลัย
ซูช่านนั่งลง เม้มริมฝีปากและนิ่งเงียบเป็นเวลานาน ก่อนจะเล่าให้สวี่ชิงฟังว่าบังเอิญเจออวี๋เซี่ยงตงในโรงพยาบาล และพูดคุยเกี่ยวกับสภาพร่างกายของอวี๋เซี่ยงตง
สวี่ชิงตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น และหายแคลงใจว่าทำไมเช้านี้อวี๋เซี่ยงตงถึงไม่แวะมาหา
“แน่ใจนะ? แต่แม่บอกว่าตอนนี้ก็ยังหาทางออกไม่ได้เหมือนกัน”
ซูช่านขมวดคิ้ว “ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามีความหวังเหลืออยู่นิดเดียว เป็นเพราะว่าเขาเคยติดยามาก่อน”
สวี่ชิงเงียบไป ไม่แปลกใจว่าทำไมผ้าพันแผลที่เธอกับฉินเฟยทำให้จึงไม่ได้ผล
หากเป็นเช่นนั้น เย่หนานก็น่าจะบอกก่อนสิ หรือว่าเย่หนานไม่รู้เหมือนกัน?
ซูช่านบิดสายสะพายกระเป๋าอย่างสิ้นหวัง “ฉันคิดว่าตราบใดที่ไม่พูดมันก็ไม่มีหวัง ลองดูก่อนก็ไม่เสียหาย แต่ตอนนี้เขาไม่อยากเห็นหน้าฉัน คุณกับสามีช่วยเกลี้ยกล่อมเขาให้หน่อยได้ไหมคะ ฉันจะคิดหาวิธีการเหมือนกัน”
สวี่ชิงมองดูซูช่าน ใบหน้าสดใสของหล่อนกลายเป็นตึงเครียด แม้แต่สายตายังดูแข็งกร้าวขึ้น
เธอชอบรูปลักษณ์ที่นุ่มนวล งดงามและไม่ก้าวร้าวของซูช่าน รอยยิ้มของหล่อนทำให้ผู้คนรู้สึกว่าพวกเขาถูกรายล้อมไปด้วยความอ่อนโยน จนทำให้ทุกคนอยากจะเข้าไปใกล้หล่อน
“คุณพอจะคิดอะไรดี ๆ ออกแล้วหรือยัง?”
ซูช่านส่ายหน้า “แต่ฉันรู้จักการนวดแผนจีนอยู่นะ พอจะลองได้”
ก่อนจะพูดอย่างหมดอาลัยตายยากอีกครั้ง “ติดที่เขาไม่อยากเจอฉันนี่สิคะ”
สวี่ชิงจับมือหล่อน “ก็ได้ งั้นหามาหาทางออกด้วยกัน ส่วนอวี๋เซี่ยงตงน่ะ ตอนนี้เขาให้โจวจินหนานไปทำงานแทนให้”
เธอต้องกลับไปถามเย่หนานว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เธอกลับไปเล่าสถานการณ์ของอวี๋เซี่ยงตงให้โจวจินหนานฟัง และตัดสินใจไปเยี่ยมอวี๋เซี่ยงซงหลังจากเสร็จจากงานแต่งของฉินเสวี่ยเหมยในวันพรุ่งนี้
อากาศในวันที่สิบเอ็ดค่อนข้างดี งานแต่งงานของสวีหย่วนตงกับฉินเสวี่ยเหมยถูกจัดขึ้นที่โรงอาหารของสหภาพแรงงาน
สวี่ชิงกับโจวจินหนานไปถึงช่วงที่งานกำลังจะเริ่มพอดี
ทั้งสองทำตามพิธีการ และนั่งลงบนที่ว่างบริเวณปากประตู พวกเขารอดื่มอวยพรให้สวีหย่วนตงกับฉินเสวี่ยเหมยก่อน จากนั้นจึงรีบกลับออกไป
สวี่ชิงเอาแต่คิดว่าจะเกลี้ยกล่อมอวี๋เซี่ยงตงอย่างไรดี จนลืมสังเกตสีหน้าอึดอัดของฉินเสวี่ยเหมย
พวกเขาออกมาจากโรงงานของสหภาพแรงงาน และตรงดิ่งไปที่โรงพยาบาล
ระหว่างทาง สวี่ชิงคอยพูดกำชับโจวจินหนานว่า “กลับไปแล้วคุณก็พูดกับอวี๋เซี่ยงตงดี ๆ นะ อย่าทำให้เขาอึดอัดเหมือนกับสาวน้อย อีกอย่างบอกให้เขาเชื่อฟังหมอนวดที่ทางโรงพยาบาลจัดมาให้ด้วย”
โจวจินหนานฟังที่สวี่ชิงพูด และรู้สึกไม่พอใจกับประโยคครึ่งหลังที่เธอพูดถึงอวี๋เซี่ยงตง ถึงกระนั้นกลับไม่กล้าปฏิเสธ
ทำได้เพียงพยักหน้าเบา ๆ
ทว่าสวี่ชิงกลับประหลาดใจเมื่อเห็นฉินเหมียวเหมียวที่ห่างหายไปนานอยู่ในห้องพักของอวี๋เซี่ยงตง
ตั้งแต่ไปอยู่ทางเตียนหนาน หล่อนตัดผมสั้นและผิวคล้ำขึ้นมาก ทำให้ดูเหมือนเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง
ขณะนี้หล่อนกำลังตะโกนโวยวายเหน็บแหนมอวี๋เซี่ยงตงอยู่ “เก่งนะถึงได้อยู่มาถึงทุกวันนี้ ไหนบอกว่าชอบแบบนี้นักไง ตอนนี้ฉันล้มนายได้ด้วยนิ้วเดียวด้วยซ้ำ”
อวี๋เซี่ยงตงยังคงปากร้ายสู้กลับ “ดูสารรูปเธอก่อนเถอะ ถ้าใครไม่รู้คงจะคิดว่าผู้ชายปลอมตัวมาเป็นผู้หญิง ไม่ได้ดูเหมือนสาวน้อยสักนิดเลย”
ฉินเหมียวเหมียวหัวร้อนทันที “อวี๋เซี่ยงตง นายอยากตายนักใช่ไหม?”
หล่อนโพล่งออกไปทั้งที่ไม่ได้สนใจบาดแผลบนร่างกายของอวี๋เซี่ยงตง และยกกำปั้นขึ้นจะทุบเขา
อวี๋เซี่ยงตงรีบหลบ และโต้กลับอย่างไร้ความปราณี “ดูสิ อายจนโกรธเลยแฮะ”
สวี่ชิงที่กำลังยืนมองอยู่หน้าประตู รับรู้ได้ทันทีว่าฉินเหมียวเหมียวชอบอวี๋เซี่ยงตง!
ความสัมพันธ์นี้…
ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้ว่าฉินเหมียวเหมียวชอบอวี๋เซี่ยงตง และคิดว่าซูช่านกับอวี๋เซี่ยงตงเข้ากันได้ดี คนหนึ่งนุ่มนวล ส่วนอีกคนแข็งกระด้าง
แต่เมื่อได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างฉินเหมียวเหมียวกับอวี๋เซี่ยงตง เธอก็รู้ว่าฉินเหมียวเหมียวกับอวี๋เซี่ยงตงเข้ากันได้ดีเช่นกัน!
ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมฉินเหมียวเหมียวถึงยืนกรานจะอยู่ทางเตียนหนานต่อ นั่นคงเป็นเพราะอวี๋เซี่ยงตง
ฉินเหมียวเหมียวหันหลังกลับมา เห็นสวี่ชิงกับโจวจินหนานแล้วก็กรีดร้องทันทีและปรี่เข้ามากอดสวี่ชิง “สวี่ชิง ฉันกลับมาแล้ว คิดว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วซะอีก”
สวี่ชิงยิ้มและรีบปรี่เข้าไปกอดฉินเหมียวเหมียวเหมือนคนบ้า “คิดถึงจัง ว่าแต่รู้ทางกลับบ้านด้วยเหรอ?”
ฉินเหมียวเหมียวหัวเราะแหะ ๆ ในขณะที่อวี๋เซี่ยงตงถอนหายใจอย่างโล่งอก และมองไปที่โจวจินหนาน “พวกนายมาร่วมงานแต่งของสวีหย่วนตงกันเหรอ? ไม่เห็นเอาขนมติดไม้ติดมือมาให้ฉันสักชิ้น”
โจวจินหนานเมินเขา และเดินเข้าไปดูแขนกับขาของเขาแทน “ได้ยินว่าหมดหนทางแล้วเหรอ?”
อวี๋เซี่ยงตงส่งเสียงอืม และหัวเราะเยาะตนเอง “นายวางใจได้ ชาตินี้ฉันคงเอาชนะนายไม่ได้อีกแล้วล่ะ”
โจวจินหนานหัวเราะ “ต่อให้นายสบายดี นายก็เอาชนะฉันไม่ได้อยู่ดี มารอดูต่อจากนี้ไปเถอะ”
ขณะที่ฉินเหมียวเหมียวเอื้อมมือมาจับแขนสวี่ชิง จู่ ๆ เรื่องบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในใจเธอ ถ้าเกิดฉินเหมียวเหมียวกับซูช่านชอบอวี๋เซี่ยงตงเหมือนกัน
เธอจะอยู่ฝั่งไหนดี?
ทั้งที่อวี๋เซี่ยงตงตกอยู่ในสภาพเหมือนผี ชะตาดอกท้อของเขากลับเบ่งบานสะพรั่ง
………………………………………………………………………………………………………………………….
*(1) ปลุกห้องเจ้าสาว เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่แขกในงานสร้างความสนุกสนานให้กับคู่บ่าวสาว ซึ่งในคืนส่งตัวเจ้าสาว แขกเหรื่อทั้งหลายจะมารวมตัวกินดื่มส่งเสียงดังเอิกเกริกกัน ทั้งนี้การปลุกห้องเจ้าสาวก็จะแตกต่างไปตามพื้นที่และประเพณีในท้องถิ่นนั้นๆ
สารจากผู้แปล
ยุ่งแล้วสิ จะเชียร์เรือไหนดีนะ
ไหหม่า(海馬)