เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 514 ลูกอมรสส้ม
บทที่ 514 ลูกอมรสส้ม
สวี่ชิงตกใจเมื่อเห็นรอยฟกช้ำบนใบหน้าของเหยียนจี้ชวน “อาเล็ก หน้าไปโดนอะไรมาคะ?”
เหยียนจี้ชวนมีท่าทางสงบนิ่ง แต่มองไปที่ฉินเฟยด้วยสายตาคลุมเครือ “ไม่มีอะไรหรอก แค่มีเรื่องนิดหน่อย”
สวี่ชิงคิดว่าเหยียนจี้ชวนรู้สึกอับอายเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาต่อหน้าฉินเฟย เธอจึงพูดเร่งว่า “ไปกันเถอะค่ะ รีบกลับกัน จะได้รีบไปทำความสะอาดทำกับข้าว”
ฉินเฟยชำเลืองมองเหยียนจี้ชวนเล็กน้อย หล่อนรู้สึกเป็นกังวล แต่ก็อายเกินกว่าจะแสดงท่าทางว่าเป็นห่วงออกไป
เหยียนจี้ชวนค่อย ๆ เดินตามหลังทั้งสองไป แต่กว่าจะรู้ตัว เขาก็เดินไปเทียบข้างกับฉินเฟย และมองดูสวี่ชิงที่เดินนำหน้าไปกว่าครึ่งเมตรและรีบอุ้มเสี่ยวเป่าเดินนำหน้าไปอย่างรวดเร็ว
เขากระแอมและถามฉินเฟยเบา ๆ ว่า “วันศุกร์นี้คุณหยุดหรือเปล่า?”
ฉินเฟยประหลาดใจ “ค่ะ คุณรู้ได้ยังไง?”
เหยียนจี้ชวนส่งเสียงฮึดฮัดราวกับกำลังบ่นพึมพำถึงบาดแผนที่มุมปาก จนฉินเฟยอดจะแสดงท่าทางห่วงใยออกมาไม่ได้ “ยังไม่ได้ทำแผลเหรอคะ? ข้างในช้ำหรือเปล่า? ถ้าไม่รีบรักษาให้ทันเวลาจะเป็นแผลเปื่อยเอาได้นะคะ”
เหยียนจี้ชวนส่ายหัว “ยัง เมื่อกี้โจวจินหนานโทรมาบอกว่าคุณจะมากินข้าวด้วย พอทำงานเสร็จผมก็รีบมาที่นี่เลย”
เขาพูดและหยิบของจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋า ยัดใส่มือของฉินเฟย
ฉินเฟยที่ไม่ทันตั้งตัวกำลูกอมรสผลไม้เอาไว้ในมือ มันเป็นลูกอมรสส้มที่หล่อนโปรดปรานเป็นพิเศษ
หล่อนก้มหน้ามองภาพวาดรูปส้มที่ติดอยู่บนเปลือกกระดาษลูกอมสีเหลืองในอุ้งมือ และมองไปที่สวี่ชิงที่กำลังเดินนำหน้าไปอย่างรีบร้อน ก่อนจะรู้สึกซาบซ่านในหัวใจ
เหมือนรสชาติของลูกอมรสส้มที่แผ่ซ่านไปที่หัวใจ เปรี้ยวอมหวานวกวนไปมา รู้สึกขวยเขินท่ามกลางความเปรี้ยวหวาน
สวี่ชิงจงใจรีบสาวเท้าฉับ ๆ เธอมองดูท่าทางเอ้อระเหยของอาเล็กและรู้ว่าอีกฝ่ายจะต้องมีแผนการอะไรในใจ
เสี่ยวเป่าที่อยู่ในอ้อมกอดแม่ เอาแขนโอบกอดรอบคอแม่และมองไปทางข้างหลัง เห็นคุณตาเล็กกำลังป้อนขนมให้กับคุณป้าคนสวยอย่างเอร็ดอร่อย
นอกจากนี้เขายังเห็นว่ามันเป็นลูกอม!
เขาเอามือแตะปากน้อย ๆ รู้สึกโลภมากจนน้ำลายหยดย้อยลงมา และชี้นิ้วไปที่ฉินเฟย “แม่ กินอม เสี่ยวเป่ากินอม”
บรรยากาศที่ตลบอบอวลไปด้วยเสน่หาถูกเสี่ยวเป่าทำลายลงในทันที
ฉินเฟยเดินสาวเท้าขึ้นมาสองก้าว และส่งลูกอมให้เสี่ยวเป่า “อันนี้ลูกอมให้เสี่ยวเป่า แต่อย่ากินเยอะนะ เดี๋ยวปวดฟันเอา”
หล่อนลอกกระดาษห่อลูกอมออกและยัดลูกอมใส่ปากเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่าอมยิ้มทันทีเมื่อได้กินลูกอม ถึงกระนั้นลูกอมที่อยู่ในปากเล็ก ๆ กลับไม่ได้กลิ้งไปมา เพียงแต่แน่นิ่งอยู่ฝั่งเดียวจนแก้มปูดโปน จนมือเล็กอดไม่ได้ที่จะหยิบลูกอมออกมาจากปาก
ฉินเฟยรีบเอื้อมมือออกไปกับจับมือเล็กเพื่อหยุดการกระทำของเขา
เสี่ยวเป่ากลอกตามองรอบ ๆ เหยียนจี้ชวนอีกครั้ง และยื่นมือไปทางเหยียนจี้ชวน นิ้วเล็ก ๆ อ้วน ๆ ขยับเขยื้อนไปมา ส่งสัญญาณบอกว่าเขาต้องการลูกอมอีก
เขาเห็นว่าคุณตาเล็กเอาลูกอมให้คุณป้าคนสวย เลยอยากจะเอาลูกอมกลับไปฝากคุณยาย คุณย่าทวดและพี่ชายด้วยเช่นกัน
เหยียนจี้ชวนจ้องมองเด็กดื้อด้วยสายตาฉุนเฉียว “เดี๋ยวรอถึงบ้านก่อนสิ เจ้าเด็กตะกละ”
เสี่ยวเป่าเม้มปากด้วยความสุขใจ หวาดกลัวว่าลูกอมจะหลุดร่วงออกมาจากปาก
เนื่องจากเสี่ยวเป่าขัดจังหวะพวกเขา เหยียนจี้ชวนจึงไม่มีโอกาสได้คุยกับฉินเฟยอีกเลย และเดินต่อไปที่บ้านของสวี่ชิง
ฉินเฟยมองดูบ้านเช่าหลังใหม่และอุทานออกมา “ใหญ่จัง แถมยังอยู่ในเขตมหาลัยอีก ไปเรียนง่ายเลย”
สวี่ชิงพยักหน้า “ฉันเช่าไว้เพื่อจะได้ไปเรียนสะดวกนี่แหละค่ะ และคุณจะได้แวะมาที่นี่ง่าย ๆ ด้วย เอาไว้แวะมาพักผ่อนที่นี่ได้นะคะ”
ฉินเฟยพยักหน้า “ได้เลยค่ะ”
หลังจากนั้นไม่นาน โจวจินหนานก็ปั่นรถจักรยานกลับมา คันบังคับกับเบาะหลังเต็มไปด้วยผักมากมาย
เขารู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเห็นรอยฟกช้ำบนใบหน้าของเหยียนจี้ชวน “ไปโดนอะไรมา? ถูกโดนชนเหรอ?”
หากบอกว่ามีคนต่อยเหยียนจี้ชวน เขาคงจะไม่เชื่อ
แม้แต่ผู้คนในตัวเมืองจังหวัดก็ไม่มีใครกล้าทิ้งรอยฟกช้ำไว้บนใบหน้าของเหยียนจี้ชวน
เหยียนจี้ชวนลูบหน้าตนเอง และไม่ได้ปฏิเสธอะไร “เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยน่ะ แกไปซื้ออะไรมาเยอะแยะ? พิธีรีตองเกินไปหรือเปล่า”
และมองดูโจวจินหนานที่กำลังถือผักลงมาจากรถจักรยาน “ไม่ได้ซื้อเหล้ามาด้วยเหรอ? จะกินเลี้ยงทันทีไม่มีเหล้ามันน่าเสียดายนะ”
ฉินเฟยที่กำลังหยอกล้อต้าเป่าอยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดของเหยียนจี้ชวน จึงพูดกระซิบว่า “คุณบาดเจ็บอยู่ ยังกินเหล้าไม่ได้”
เหยียนจี้ชวนเลิกคิ้วและยิ้ม “ไม่เป็นไร มีแผลอยู่ปากพอดี จะได้กินล้างเชื้อโรคสักหน่อย”
ฉินเฟยขมวดคิ้วด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ก่อนที่หล่อนจะพูดอะไร เหยียนจี้ชวนก็รีบโพล่งขึ้นมาก่อน “ล้อเล่นหรอกน่า ไม่ดื่มอยู่แล้วล่ะ ก็แค่อยากรู้ว่าโจวจินหนานจะมีน้ำใจพอจะเตรียมมาเผื่อไหม”
สวี่ชิงที่อยู่ข้างลานบ้านระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น อาเล็กเริ่มหวาดกลัวว่าชะตาชีวิตจะไปแขวนอยู่บนเขียงแล้วสินะ
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะต้องกลายเป็นคนกลัวเมียอย่างแน่นอน
สวี่ชิงพับแขนเสื้อขึ้นและเข้าไปเตรียมอาหารที่ห้องครัว ในขณะที่ฉินเฟยก็ตามมาช่วยเช่นกัน
ฉินเฟยเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดและดูเข้ากับคนได้ยาก แต่เมื่อได้รู้ความจริงแล้ว หล่อนก็เป็นคนอารมณ์ดีคนหนึ่ง เพียงแต่ไม่ค่อยพูดเท่านั้น และมักจะทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี
สวี่ชิงชอบบุคลิกของฉินเฟยมาก ถึงแม้ว่าจะดูดื้อรั้นแต่กลับใจเย็น
“เหมียวเหมียวล่ะคะ? ปีใหม่นี้จะกลับบ้านไหม?”
ฉินเฟยส่ายหัว “ไม่รู้สิคะ แต่น่าจะกลับมั้ง?”
อวี๋เซี่ยงตงกลับมาแล้ว ฉินเหมียวเหมียวที่รู้ข่าวคราวจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน
สวี่ชิงยังคงรู้สึกประหลาดใจ “นึกไม่ถึงว่าเหมียวเหมียวจะอยู่ต่อนานขนาดนี้”
เมื่อพิจารณาถึงบุคลิกอันกระตือรือร้นของหล่อน หล่อนดูเป็นคนที่ไม่น่าอยู่กับที่ได้นานขนาดนี้ อีกทั้งยังเติบโตมาจากครอบครัวที่ดูแลเอาใจใส่ แต่หล่อนกลับเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในที่ทุรกันดารและอยู่ที่นั่นได้เป็นเวลานาน
ฉินเฟยยิ้มเบา ๆ “ฉันก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน แต่เหมียวเหมียวโตขึ้นมากแล้ว ไม่ว่าหล่อนจะอยากทำอะไร และไม่ว่ามันจะยากลำบากสักแค่ไหน หล่อนก็จะก้าวผ่านมันไปได้”
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่ เหยียนจี้ชวนเดินเอามือไพล่หลังมายืนมองอยู่ห่าง ๆ เขาเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่ง และพูดออกมาว่า “ชิงชิง ที่บ้านมียาหยวนหนานไป๋เย่า(1)ไหม อาเจ็บแผลที่ปากมาก คิดว่าคงจะกินไม่ได้ไปอีกพักหนึ่ง อ้อ แล้วมีแหนบด้วยไหม รู้สึกเหมือนจะมีเศษแก้วฝังอยู่ในแผล ไม่รู้ทำไมถึงเจ็บแปล๊บขนาดนี้”
สวี่ชิงตกใจ “ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ? แล้วทำไมก่อนหน้านี้อาไม่บอก แหนบมีค่ะ เดี๋ยวฉัน…”
จู่ ๆ สวี่ชิงก็ตระหนักได้เจตนารมณ์ของเหยียนจี้ชวน และพูดขึ้นมาอย่างลังเลว่า “ฉันพอจะฝังเข็มให้ได้ แต่ทำแผลไม่ค่อยเก่ง กลัวว่าจะทำไม่ได้น่ะสิคะ”
เธอพูดและมองไปที่ฉินเฟย “ให้ฉินเฟยทำให้แล้วกันนะคะ ฉันจะไปเอาแหนบกับยาแก้อักเสบมาให้ หล่อนเป็นถึงหมอมืออาชีพ ถ้าไม่ให้หล่อนทำจะไปให้ใครทำล่ะคะ”
เธอพูดเบา ๆ และรีบกลับไปเอาแหนบกับยาหนุนหนานไป๋เย่าที่ห้อง
กล่องยาดังกล่าวเคยถูกใช้รักษาแผลให้โจวจินหนานมาก่อน ถึงแม้ว่าจะแต่งงาน ย้านบ้านมาแล้ว แต่เธอก็ยังพกกล่องยาติดตัวมาด้วยเสมอ ในกล่องบรรจุด้วยยาชนิดต่าง ๆ และผ้าก๊อซสำหรับพันแผล
เธอเดินถือของเข้ามา และเห็นฉินเฟยกับเหยียนจี้ชวนจ้องตากันและกันอยู่ในห้องครัว เธอจึงผลักให้เหยียนจี้ชวนนั่งลง “อาเล็ก มานั่งตรงนี้สิคะ แสงตกถึงพอดี”
จากนั้นจึงยื่นของให้ฉินเฟย “คุณช่วยดูทีนะคะ ถ้าจะเอาอะไรเพิ่มอีกก็บอกฉันได้เลย ฉันจะไปหามาให้ ที่บ้านมีของอยู่เยอะค่ะ”
ฉินเฟยชำเลืองมองชายที่กำลังนั่งรออยู่บนม้านั่ง ทั้งสองมือประสานกันอยู่บนเข่า จนหล่อนรู้สึกประหม่าอย่างอธิบายไม่ถูก ถูนิ้วเบา ๆ เล็กน้อยและรับผ้าก๊อซกับยาหยวนหนานไป๋เย่าจากมือสวี่ชิง
เดินตรงไปหาเหยียนจี้ชวนด้วยใจที่สั่นระรัว…
…………………………………………………………………………………………………………………………
*(1) ยาหยวนหนานไป๋เย่า เป็นยาแพทย์แผนจีนที่ไว้ใช้สำหรับห้ามเลือด ฆ่าเชื้อ แก้ปวด มีลักษณะเป็นผงโรยตามบาดแผล
สารจากผู้แปล
จะได้คืนดีกันตอนนี้ไหมนะคู่นี้ ทำแผลไปจ้องตากันไปน่าจะหวั่นไหวกันมั่งแหละ
ไหหม่า(海馬)