เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 510 สิ่งที่คนเขาทำกัน?
บทที่ 510 สิ่งที่คนเขาทำกัน?
สวี่ชิงมองดูเย่หนานแบกเสียมไว้บนบ่าและเดินออกไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ถึงแม้ว่าเหยียนจี้ชวนกับโจวจินหนานจะตามติดไปด้วย แต่เธอก็ยังอดกังวลไม่ได้ เธอหยิบขนมปังกรอบให้ลูกทั้งสองและปล่อยให้พวกเขานั่งกินขณะคอยมองอยู่หน้าปากประตู
เฟิงซูฮวาไม่ได้กังวลใจแม้แต่น้อย นางนั่งมองเด็กน้อยทั้งสองกินขนมอยู่เก้าอี้หวายอย่างมีความสุข
นางชอบมองดูเสี่ยวเป่ากินอาหาร เพราะไม่ว่าเขาจะกินอะไร มันก็มักจะดูน่าอร่อยเสมอ จนอดไม่ได้ที่อยากจะลองชิมสักคำ
เสี่ยวเป่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นคุณย่าทวดมองมาที่ตน ก่อนจะหยิบขนมปังกรอบครึ่งชิ้นออกมาจากปากและยื่นให้เฟิงซูฮวา “ย่ากิน”
เขาคิดว่าคุณย่าทวดคงจะอยากกินขนมปังกรอบในปากเขาแน่ ๆ
เฟิงซูฮวาทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ลูบศีรษะของเสี่ยวเป่า “เสี่ยวเป่านี่จริง ๆ เลย กินเถอะ ย่าทวดไม่กินหรอก”
สวี่ชิงหันกลับมาอีกครั้ง และอดไม่ได้ที่จะถามเฟิงซูฮวาว่า “คุณย่า คุณย่าคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อฉันคะ? มันไม่มีอะไรผิดปกติจริง ๆ เหรอ?”
สิ่งที่เธอกำลังพูดอยู่หมายความว่าถ้าเกิดขุดหลุมฝังศพออกมาแล้วจะมีศพฝังอยู่ในนั่นหรือไม่
เฟิงซูฮวายิ้มตาหยีขณะมองดูหลานทั้งสองคน ก่อนจะส่ายหน้าอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่รู้สิ แต่มันอาจจะดีก็ได้”
สวี่ชิงไม่เข้าใจ “มันจะดีได้ยังไงคะ?”
หลุมฝังศพที่ไม่มีศพอยู่ มันกลายเป็นเรื่องดีได้อย่างไร?
แต่จู่ ๆ เธอก็นึกถึงหลุมศพที่ว่างเปล่าของแม่ จนรู้สึกตกใจและมองไปที่เฟิงซูฮวาด้วยความลังเล “คุณย่า หรือว่าพ่อหนูจะยังไม่ตายเหมือนแม่คะ?”
เฟิงซูฮวามองไปที่สวี่ชิงด้วยความประหลาดใจ “ทำไมหลานถึงได้คิดอะไรแบบนั้น? พ่อหลานไม่หายใจแล้ว แถมทางโรงพยาบาลก็ออกใบมรณบัตรให้ ต่างจากแม่หลานเป็นไหน ๆ”
ความสุขของสวี่ชิงถูกข้อเท็จจริงของเฟิงซูฮวาทำลายหายไปในเพียงเสี้ยววินาที ทั้งที่ตอนนั้นพ่อเสียชีวิตลง แม่กับคุณย่าก็อยู่ด้วย แล้วทำไมพวกหล่อนถึงจะไม่รู้ว่าตายจริงหรือตายปลอม
เธอนั่งเท้าคางอยู่บนม้านั่ง และถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เฟิงซูฮวาหัวเราะ “ชิงชิงเปลี่ยนไปแล้วสินะ กลายเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวง่ายจัง ยังจำความสดใสก่อนที่หลานจะแต่งงานกับจินหนานได้อยู่ไหม?”
สวี่ชิงรู้ดีว่าตนเองเปลี่ยนไป ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีความสุข แต่เป็นเพราะเธอมีหลายเรื่องเข้ามาพัวพันจนทำให้รู้สึกกังวลมากเกินไป “คุณย่า ก็ตอนนั้นมันไม่เหมือนกันนี่คะ”
ในตอนนั้นเธอคิดแค่สองอย่าง แก้แค้นฟางหลานซินกับสวี่หรูเยว่ และตามมาใช้ชีวิตดี ๆ กับโจวจินหนาน
จุดประสงค์ค่อนข้างชัดเจน
ทว่าตอนนี้เธอมีคนให้คอยห่วงใยมากเกินไป อีกทั้งมุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ ก็แตกต่างกันมาก เธอจึงหลายเป็นคนโลเลและอ่อนไหวง่าย
เฟิงซูฮวายิ้มและพยักหน้า “แต่นั่นมันก็ดี ดีมากแล้วจริง ๆ”
สวี่ชิงพูดคุยต่ออีกสักพักขณะที่ยังรู้สึกสับสนอยู่เล็กน้อย ก่อนจะไปทำอาหารเย็นเป็นไข่ตุ๋นกับเกี๊ยวชิ้นเล็ก ๆ ให้ลูกทั้งสอง
หลังจากเฝ้าดูลูกทั้งสองกินเสร็จ เธอก็พาพวกเขาไปล้างมือล้างปาก และเอาผ้ากันเปื้อนที่ใช้แล้วไปซัก
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น โจวจินหนานก็ถือเสียมกลับมา ในขณะที่สีหน้าของเย่หนานมีแต่ความมืดมน ส่วนเหยียนจี้ชวนไม่ได้กลับมาด้วย เขาคงจะกลับไปที่พักของเขาแล้ว
สวี่ชิงมองดูท่าทางของเย่หนานและคิดว่าตนเองเดาถูก หลุมฝังศพว่างเปล่าจริง ๆ
ส่วนร่างอาจจะถูกคุณปู่ผู้ไร้เหตุผลพรากจากไป
เธอไม่รู้จะปลอบแม่อย่างไรดี แต่ได้พูดพึมพำว่า “แม่ พี่จินหนาน ไปล้างตัวกันก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอุ่นกับข้าวให้นะคะ”
เย่หนานไปล้างหน้าและเดินกลับมานั่งลง หล่อนมองดูหลานทั้งสองที่นั่งเล่นปืนไม้อยู่บนโต๊ะ กัดฟันและพูดเบา ๆ ว่า “ไอสารเลวนั่นมันเอาศพออกไปจริง ๆ ด้วย ดีมาก ให้มันได้แบบนี้สิ”
หล่อนเข้าใจว่าตาเฒ่าไม่ต้องการให้หล่อนได้อยู่กับเหยียนป๋อชวนแม้กระทั่งตอนที่อีกฝ่ายตายไปแล้ว และที่พรากศพของเขาไปเพราะไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของพวกเขา
เย่หนานโกรธจัดและรู้สึกเสียใจในเวลาเดียวกัน “ถ้ารู้แบบนี้น่าจะเผาศพเขาตั้งแต่เนิ่น ๆ เอาขี้เถ้าไปโปรยไว้บนภูเขาด้านหลัง จะได้ไม่มีใครมาทำแบบนี้อีก”
หล่อนโกรธตาเฒ่าเหยียนจอมปลิ้นปล้อน อีกฝ่ายแสดงท่าทางเสียใจและกล่าวขอบคุณต่อหน้า แต่ลับหลังกลับทำตัวไม่รู้จักคิด และแอบขุดย้ายศพออกไป
นี่คือสิ่งที่คนเขาทำกันอย่างนั้นหรือ?
สวี่ชิงนั่งฟังเงียบ ๆ และไม่กล้าตั้งคำถามอะไร เธอเอาอาหารออกมาและเรียกสองคนให้มากินด้วยท่าทางสำรวมที่สุด
สวี่ชิงทำความสะอาดห้องครัวหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เฝ้าดูเย่หนานพาเด็กน้อยทั้งสองคนไปอาบน้ำและเข้าไปในบ้าน ก่อนจะรีบลากโจวจินหนานเข้าไปในห้องเช่นกัน “เกิดอะไรขึ้น? คุณปู่นิสัยเสียคนนั้นเอาพ่อฉันไปไว้ที่ไหน?”
โจวจินหนานรู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่สามารถปิดบังความลับได้อีกต่อไป เขาจึงเล่าแผนการที่ตาเฒ่าพรากร่างของเหยียนป๋อชวนไป
สวี่ชิงส่งเสียงพึมพำ “พี่รู้แต่แรกเลยเหรอ? ทำไมไม่พูดอะไรเลย เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไหนเขาบอกว่าคนตายมีเกียรติไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงย้ายไปนู้นไปนี่อยู่ได้”
เธอไม่เข้าใจจริง ๆ เลยว่าคนพวกนี้กำลังคิดอะไรกันอยู่
โจวจินหนานคิดไม่ออกเช่นกัน และรีบดึงสวี่ชิงเข้ามา “รอเวลาก่อน ถึงตอนนั้นไปปักกิ่งแล้วคงจะรู้เอง”
สวี่ชิงรู้สึกไม่สบายใจแทนเย่หนานเป็นอย่างมาก เธอรู้ดีว่าถึงแม้แม่เธอจะไม่พูดอะไร แต่แม่คงจะรู้สึกอึดอัดใจน่าดู เฉกเช่นเดียวกับที่แม่ไม่เคยยอมรับว่าแม่รักพ่อ
แม่เป็นคนยืนกรานว่าจะทำสิ่งใดมากกว่าใคร ๆ และมักจะเก็บกลืนความทุกข์เอาไว้เพียงลำพัง
เช้าวันต่อมา เย่หนานตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกฟุ้งซ่าน ดวงตาของหล่อนแดงก่ำ และจู่ ๆ ก็พูดอะไรบางอย่างระหว่างที่กำลังกินข้าวกับสวี่ชิง “แม่จะออกไปข้างนอกสักพัก ลูกอยู่ดูแลหลานไปก่อนนะ”
สวี่ชิงมองดูสีหน้าของผู้เป็นแม่ และไม่ได้ถามว่าหล่อนจะไปที่ไหน “ระวังตัวด้วยนะคะ รีบกลับมาล่ะ”
เย่หนานหัวเราะหึๆ “ลูกคิดอะไรอยู่? คงไม่ได้คิดว่าแม่จะไปหาที่ระบายความเศร้าหรอกใช่ไหม? แม่จะไปดูเหยียนฮวาหน่อยว่าช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง จู่ ๆ ก็คิดถึงหล่อนขึ้นมาเฉยเลย”
“……”
สวี่ชิงพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง กลับกลายเป็นว่าหนทางระบายของแม่คือการมองดูคนอื่นทุกข์ทรมาน
แม้เธอจะไม่ได้เห็นเหยียนฮวามานานมากแล้ว แต่เธอก็ได้ยินมาว่าอาการของอีกฝ่ายย่ำแย่มาก ทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ อยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช
และมักจะถูกกลุ่มคนบ้าด้วยกันทำร้าย
หลังจากที่เย่หนานออกไปแล้ว สวี่ชิงก็เอาผ้านวมในบ้านออกมาตาก เพื่อที่เธอย้ายไปแล้วจะได้ไม่ต้องเอาผ้านวมออกมาตากทีหลังอีก
เฟิงซูฮวาหลับตาลงขณะนั่งฟังวิทยุอยู่บนเก้าอี้หวาย ในขณะที่โจวจินหนานซักผ้าอยู่หน้าก๊อกน้ำ
ลูกทั้งสองคนกำลังเล่นเกมขว้างลูกบอลอยู่กับไป๋หลางและแมวดำ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไป๋หลางที่คอยวิ่งเก็บลูกบอล ในขณะที่แมวดำคอยยืนนั่ง ๆ อยู่ด้านข้างเสี่ยวเป่า มองดูไป๋หลางด้วยสายตาเย็นชา
ฉากตรงหน้าดูอบอุ่นขึ้นทุกวัน
แต่มันกลับถูกผู้มาเยือนทำลายโดยไม่คาดคิด
คนที่มาเยือนคือหลี่กุ้ยฮวา แม่ของสวีหย่วนตง
นางมาที่นี่เพียงลำพัง ในมือถือถุงตาข่ายที่บรรจุเหล้าขาวสองขวดและน้ำตาลก้อนอีกหนึ่งถุง
หลี่กุ้ยฮวามาครั้งแรกแต่กับดูคุ้นเคยมาก นางยืนอยู่หน้าประตู โน้มตัวเข้ามาและพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่บ้านของสวี่ชิงกับโจวจินหนานหรือเปล่า?”
สวี่ชิงที่กำลังตบผ้านวมหยุดชะงักชั่วคราว และหันไปพยักหน้าให้หลี่กุ้ยฮวา “ใช่ค่ะ”
“ไอหยา บ้านเธอหาง่ายจังเลยนะ ฉันเป็นแม่ของสวีหย่วนตง อยากจะแวะมาคุยกับพวกเธอหน่อย” หลี่กุ้ยฮวาพูดขณะถึอของเข้าไปในลานบ้าน
ไป๋หลางเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กทั้งสอง แยกเขี้ยวและร้องคำรามใส่หลี่กุ้ยฮวา…
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ยัยป้านี่มาบ้านชิงชิงทำไมเนี่ย มาสร้างความวุ่นวายอะไรหรือเปล่า
ไหหม่า(海馬)