เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 4 ชดใช้ในสิ่งที่ทำกับฉันซะ
บทที่ 4 ชดใช้ในสิ่งที่ทำกับฉันซะ
ในชีวิตที่แล้ว สวี่ชิงรู้เรื่องเย่หนานมารดาผู้ให้กำเนิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และรู้ว่าแม่ของเธอเสียชีวิตเมื่อตอนที่เธออายุได้เพียงหนึ่งขวบ
ในปีถัดมา ฟางหลานซินพาลูกสาวที่อายุมากกว่าเธอครึ่งปีเข้ามาในบ้านและเปลี่ยนชื่อเป็นสวี่หรูเยว่
เนื่องจากทั้งสองยังเด็ก พวกเธอจึงเรียกสวี่จื้อกั๋วว่าพ่อและเรียกฟางหลานซินว่าแม่ตั้งแต่เริ่มพูดได้ ในสายตาของคนทั่วไป พวกเขาก็ดูเหมือนจะเป็นครอบครัวที่ใกล้ชิดและน่ารัก
สวี่ชิงรู้จากความทรงจำว่า ฟางหลานซินไม่ใช่แม่ของเธอเอง
เพราะทุกปีในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง ฟางหลานซินจะพาเธอไปเยี่ยมหลุมฝังศพของเย่หนาน หล่อนให้เธอเคารพหลุมศพ ชี้ไปที่หลุมฝังศพและพูดว่า “ชิงชิง นี่คือแม่ของหนูนะ หล่อนเสียเพราะร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงน่ะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมหล่อนล่ะ”
ดูสิ ช่างเป็นแม่เลี้ยงผู้มีคุณธรรมเหลือเกิน…
ดังนั้นสวี่ชิงจึงไม่เคยสงสัยเลยว่าทำไมแม่ของเธอถึงจากไป พอตอนนี้ได้ฟังจากคำพูดของฟางหลานซิน มันก็ดูเหมือนว่ายังมีความลับที่ซ่อนอยู่อีก!
สีหน้าของสวี่ชิงเย็นยะเยือก เธอเดินเข้าไปหาฟางหลานซินทีละก้าว “คุณหมายความว่าอย่างไร!”
ฟางหลานซินตกใจกับความเยือกเย็นในแววตาของสวี่ชิง หล่อนถอยกลับไปสองก้าว และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าตนเองเพิ่งโพล่งอะไรออกมา จึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที “สวี่ชิง รู้สึกผิดชอบชั่วดีแล้วก็ถามตัวเองบ้างนะ ว่าฉันปฏิบัติกับเธออย่างไรตลอดสิบแปดปีที่ผ่านมา? แต่ตอนนี้เธอกลับมาทำร้ายหรูเยว่! ถ้าไม่พอใจกับการแต่งงาน เราก็หาวิธีแก้ไขได้ แต่เธอกำลังต่อต้านและสร้างปัญหาให้ที่บ้าน เธอต้องการจะทำอะไร…”
จู่ ๆ หล่อนก็ร้องไห้ออกมา “พวกเราทุกคนทำแบบนี้ก็เพื่อตัวเธอเองนะ”
สวี่ชิงรู้ว่าบ้านหลังปัจจุบันไม่เก็บเสียง การที่ส่งเสียงเอะอะมะเทิ่งกันจึงทำให้เพื่อนบ้านทั้งชั้นบนและชั้นล่างต่างได้ยินกันหมด ซึ่งแต่ละบ้านต่างก็ได้ยินเสียงอย่างชัดเจน
แถมภาพลักษณ์ของฟางหลานซินในละแวกนี้ก็ดีเกินไป การที่หล่อนร้องไห้แบบนี้ เธอจึงเกรงว่าทุกคนจะคิดว่าเธอ สวี่ชิงนั้นโง่เขลา
แล้วพวกเขาก็จะพากันเห็นอกเห็นใจฟางหลานซินที่เป็นแม่เลี้ยงมากขึ้น!
สวี่ชิงจะปล่อยให้หล่อนสมปรารถนาได้อย่างไร!
ถ้าเธอยังประมาทและโง่อยู่แบบนี้ แล้วจะได้เกิดใหม่ไปเพื่ออะไร!
เธอเอื้อมมือออกไปบีบคอฟางหลานซิน “คุณไม่จำเป็นต้องส่งเสียงดังมากนักหรอกนะ ฉันจะให้คุณกับสวี่หรูเยว่ชดใช้ทุกอย่างที่ทำกับฉันไว้ให้หมด”
หลังจากพูดจบ เธอก็กำนิ้วของตัวเองแน่นขึ้น… ความตื่นเต้นของการบีบคอหล่อนกำลังกลับมาอีกครั้ง
ไม่ เธอจะบีบคอหล่อนไม่ได้!
มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองขนาดนั้น
สวี่ชิงถอนมือออกอย่างรังเกียจ ถอยหลังสองก้าวและจ้องมองฟางหลานซินด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย
สวี่จื้อกั๋วกำลังเล่นหมากรุกใต้ต้นหวายฉู่เก่าแก่หลังลานบ้าน ทันใดนั้นเพื่อนบ้านก็วิ่งมาบอกว่ามีการทะเลาะวิวาทกันที่บ้าน เขาจึงวิ่งกลับบ้านด้วยความตื่นตระหนกโดยไม่ทันได้ดื่มน้ำสักแก้ว
เมื่อเข้าประตูบ้านมา เขาก็เห็นสวี่หรูเยว่นั่งบนพื้นหน้าโซฟากำลังใช้มือปิดหน้าร้องไห้ ส่วนฟางหลานซินพิงกำแพงและมองสวี่ชิงด้วยความหวาดผวา
มีเพียงสวี่ชิงที่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ ด้วยท่าทางเย็นเยียบและรุนแรง แสดงออกถึงความเย็นชาที่น่าสะพรึงกลัวระคนความเกลียดชังอย่างแรงกล้า
สวี่จื้อกั๋วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะสงบลงและคำรามด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “เอะอะโวยวายอะไรกัน! อายุตั้งเท่าไหร่แล้ว ไม่กลัวถูกหัวเราะเยาะรึไง”
ฟางหลานซินร้องไห้ออกมา และดึงสวี่หรูเยว่ขึ้น “เหล่าสวี่คะ เป็นความผิดของฉันเองค่ะ เป็นฉันเองที่ไม่ควรเข้าไปยุ่ง…”
หลังจากพูดไปครึ่งประโยค หล่อนก็ลากสวี่หรูเยว่เข้าไปซ่อนตัวในห้องนอนของตนกับสวี่จื้อกั๋ว
สวี่จื้อกั๋วถอนหายใจและมองไปที่สวี่ชิงอย่างโกรธจัด “แกก่อเรื่องอะไรอีก! ทำไมถึงชอบทำให้เดือดร้อนใจอยู่เรื่อย!”
สวี่ชิงมองสวี่จื้อกั๋วอย่างเย็นชา “แม่ของฉันตายอย่างไรคะ?”
สวี่จื้อกั๋วตกตะลึงในทันใด สิบแปดปีที่ผ่านมาสวี่ชิงไม่เคยถามเลย ทำไมจู่ ๆ เธอถึงถามเอาในวันนี้?
เขาขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด “ร่างกายแม่แกไม่ค่อยดีตอนคลอด ก็เลยเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บน่ะ!”
สวี่ชิงไม่ได้เพิกเฉยต่อความรู้สึกผิดที่แสดงออกบนใบหน้าของเขา ดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลอื่นที่ทำให้แม่ของเธอเสียชีวิต
เบื้องหลังความดีทั้งหมดที่เธอเห็นในชาติที่แล้ว มีสิ่งสกปรกเหลือทนมากเกินไป
สวี่ชิงรู้ว่าเธอไม่อาจถามอะไรได้เลย จึงหันหลังเดินกลับไปที่ห้องนอน แล้วกระแทกประตูปิดดังปัง
สวี่จื้อกั๋วอ้าปากกลืนคำพูดที่กำลังจะดุด่าออกมา …จริง ๆ แล้วเขาก็มีความผิดเช่นกัน
ห้องนอนเล็กมีขนาดเล็กมาก มีพื้นที่ไม่ถึงสิบตารางเมตร มีเตียงเดี่ยวขนาดเล็กสองเตียงวางเคียงข้างกัน และตรงกลางริมหน้าต่างมีโต๊ะสีซีดจาง
เตียงทั้งสองมีโครงเป็นไม้ตอกติดกับผนัง ซึ่งใช้สำหรับเก็บหนังสือ เสื้อผ้า และของเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับเด็กผู้หญิง
สวี่ชิงกับสวี่หรูเยว่อาศัยอยู่ในห้องเล็ก ๆ แห่งนี้เป็นเวลาสิบปี พวกเธอมักทะเลาะกันบ่อยครั้ง เพราะเรื่องที่วางสิ่งของไว้บนโต๊ะและเตียงของอีกฝ่าย
ทุกครั้งที่ทั้งสองทะเลาะกัน ฟางหลานซินจะดุสวี่หรูเยว่ ในขณะที่สวี่จื้อกั๋วดุสวี่ชิง
ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังคิดถึงลูกสาวของอีกคน
แต่จริง ๆ แล้ว…
หลังยอมรับได้ว่าตัวเองมาเกิดใหม่ สวี่ชิงจึงมีเวลาที่จะนั่งลงและคิดทบทวนช้า ๆ
เธอต้องการทราบสาเหตุการตายของแม่ของเธอ
ตอนนี้เธอต้องรายงานถึงความเกลียดชังของสวี่หรูเยว่ที่วางแผนทำร้ายเธอ และทำให้เธอเสียชีวิต
เหตุการณ์นี้ในชาติที่แล้วเป็นหนามยอกอกเธออยู่ไม่หาย หลังจากหย่าร้างแล้วเธอก็มีผู้ชายดี ๆ มาคอยจีบ แต่ถึงกระนั้นก็ยังเอาชนะอุปสรรคในใจของตนไม่ได้
แม้ว่าเธอจะตกเป็นเหยื่อ แต่มักจะรู้สึกว่ามีคนคอยชี้นำและยุแหย่อยู่เบื้องหลังเสมอ
กี่ครั้งแล้วที่เธอคิดฆ่าตัวตายแต่ขี้ขลาดเกินกว่าที่จะทำ
สวี่ชิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้ง แล้วค่อย ๆ นึกถึงคืนนั้นเมื่อสามเดือนที่แล้ว…
หลังจากที่โจวจินเซวี่ยนสารภาพกับเธอในวันนั้นไม่นาน เขาก็สัญญาว่าจะให้พ่อแม่มาขอแต่งงานจนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม
เมื่อเลิกงานในตอนเย็น เธอได้รับจดหมายฉบับเล็ก ๆ ที่โจวจินเซวี่ยนทิ้งไว้ในห้องจดหมายที่ทางเข้าหน่วย เพื่อขอให้เธอไปที่แม่น้ำหวงเพื่อชมพระอาทิตย์ตกกับเขา
และยังทิ้งกระติกบรรจุน้ำผสมน้ำตาลทรายแดงไว้ให้อย่างเอาใจใส่ด้วย
ตรงปลอกกระติกด้านนอกติดด้วยขนสัตว์ชั้นดี มันเป็นของขวัญชิ้นแรกที่สวี่ชิงมอบให้โจวจินเซวี่ยน
สวี่ชิงมองฝาครอบกระติกอันคุ้นเคย และไม่สงสัยเลยว่าเขาอยู่ที่นั่น เธอหยิบกระติกบรรจุน้ำผสมน้ำตาลทรายแดงเดินไปที่แม่น้ำหวง
แม้ว่าแม่น้ำหวงจะไหลผ่านเมือง แต่แม่น้ำหวงในปัจจุบันยังคงรกร้าง และเป็นสถานที่ที่ผู้คนจำนวนมากพูดว่าจะไป
เมื่อสวี่ชิงมาถึง โจวจินเซวี่ยนก็ยังมาไม่ถึง ดังนั้นเธอจึงยืนอยู่ที่ริมแม่น้ำหวงจากระยะไกลและมองดูใครบางคนกำลังตกปลาในแม่น้ำ พลางจิบน้ำผสมน้ำตาลทรายแดง
และในท้ายที่สุด สติของเธอก็ค่อย ๆ ดับวูบไป…
แม้จะผ่านไปหลายสิบปี แต่สวี่ชิงยังคงจดจำทุกรายละเอียดได้ชัดเจน
เธอรู้สึกว่ามีคนแบกร่างของเธอเข้าไปในส่วนลึกของพงหญ้าก่อนจะหมดสติไป
สวี่ชิงหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด หากเธอไม่ถูกบังคับ เธอก็ไม่อยากจำอดีตเลยแม้แต่น้อย เธอพยายามค้นหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่พบว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชายที่ทำร้ายเธอเลย
และตั้งแต่ต้นจนจบ ดูเหมือนเขาจะไม่ได้พูดอะไรสักคำ
สวี่ชิงปวดหัวจนแทบจะระเบิด และทันใดนั้นเธอก็จำรายละเอียดได้ นั่นคือหลังจากที่ถูกลากไปบนพื้นหญ้าขณะเหลือสติอยู่น้อยนิด อีกฝ่ายได้ปิดปากปิดจมูกของเธอ จนไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้ แต่ดูเหมือนว่าจะได้ยินคนเรียกชื่อหลี่ต้าหย่ง ตามมาด้วยประโยคที่คลุมเครือว่า ‘เห็นเขาไหม?’
หลี่ต้าหย่ง! นั่นมันพวกอันธพาลที่มีชื่อเสียงบนท้องถนนไม่ใช่เหรอ?
เนื่องจากพ่อของเขาทำงานในโรงงานเนื้อสัตว์และแม่ทำงานในโรงอาหารของรัฐ อาหารการกินของหลี่ต้าหย่งจึงดีเป็นพิเศษ มีกลุ่มคนหนุ่มสาวอายุเท่ากันที่ว่างงานอยู่รอบตัวเขา
หลี่ต้าหย่งชอบสวี่หรูเยว่ และมักจะขโมยหัวใจและตับหมูจากบ้านของเขาเพื่อสวี่หรูเยว่ประจำ
ดังนั้นสวี่หรูเยว่จึงขอความช่วยเหลือจากหลี่ต้าหย่ง?
นอกจากนี้ เมื่อวันนั้นสิ้นสุดลง ดูเหมือนชายคนนั้นจะพูดอะไรบางอย่าง นั่นคือ ‘รอผมกลับมาแต่งงานกับคุณด้วยนะ!’
……………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ดีแล้วที่ยังไม่ลงไม้ลงมืออะไรกับนังแม่เลี้ยง เดี๋ยวนังใช้ความสงสารของคนอื่นมาเป็นเครื่องมือจัดการกลับ
สรุปแล้ววันนั้นที่เกิดเรื่องกับชิงชิง จินหนานมาช่วยทันเหรอ?
ไหหม่า(海馬)