เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 39 โจวจินหนาน - ออกไป!
บทที่ 39 โจวจินหนาน – ออกไป!
โจวจินหนานกำมือแน่นข้างลำตัว เขาไม่เก่งเรื่องการโกหก
อาจกล่าวได้ว่าตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา เขาใช้ชีวิตอย่างยุติธรรมและซื่อสัตย์ยิ่งกว่าใคร ไม่เคยละอายต่อการกระทำของตัวเองเลย!
แต่สำหรับสวี่ชิงนั้นเขาเคยทำร้ายเธอมาก่อน เพื่อปกป้องเธอให้มากขึ้นแล้ว เขาจึงไม่สามารถเล่าความจริงได้
ได้แต่มองเธอจมปลักอยู่ในข่าวลือมานาน โดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
เขาทำได้เพียงแต่งงานกับเธอ พร้อมใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อชดเชย เขาพร้อมให้ในสิ่งที่หญิงสาวต้องการ แม้แต่ชีวิตก็มอบให้ได้!
แต่เขาไม่อาจบอกความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้สวี่ชิงรู้ได้
สวี่ชิงเอียงศีรษะจ้องมองโจวจินหนานด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ริมฝีปากของเขากลับเม้มแน่น ดูเหมือนอายเกินกว่าที่จะตอบ
“จินหนาน ชิงชิง ได้เวลากินข้าวแล้วจ้ะ”
เสียงของซูฮุ่ยหรูที่หน้าประตูทำลายบรรยากาศอันเงียบสงบและน่าขนลุกในห้องได้ทันท่วงที
สวี่ชิงหัวเราะ “ไปกินข้าวก่อนดีกว่าค่ะ เรามีเวลาอยู่ด้วยกันอีกทั้งชีวิต ฉันจะค่อย ๆ สืบหาเหตุผลเอง”
หลังกล่าวจบ เธอก็จับมือโจวจินหนานเดินออกมาจากห้องนอน
สวี่ชิงคุ้นเคยกับห้องอาหารของตระกูลโจวเป็นอย่างดี
เธอพาโจวจินหนานไปยังห้องอาหาร โจวเฉินหยิงจัดให้เฟิงซูฮวานั่งข้างตัวเอง โจวเฉิงเหวินยังไม่กลับมาเนื่องจากเขาต้องทำงาน แต่โจวจินซวนกลับมาแล้ว เขายืนอยู่ด้านหลังซูฮุ่ยหรู จ้องมองสวี่ชิงที่จูงมือโจวจินหนานเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
ใบหน้าของฟ่านเจี๋ยดูเศร้าหมองยิ่งกว่า ดวงตาของหล่อนจับจ้องโจวจินหนานและสวี่ชิงไม่กะพริบ ราวกับหมายจะให้อีกฝ่ายสลายไปจากสายตา
หลิวเหวินผิงเอ่ยพึมพำ “ไร้ยางอาย”
ในยุคนี้ การจับมือของชายหญิงถือเป็นเรื่องธรรมดา อีกอย่างพวกเขาทั้งสองก็กำลังจะแต่งงานกัน อะไรที่เรียกว่าไร้ยางอาย?
แม้เสียงของหล่อนจะเล็ก แต่โจวจินหนานก็ได้ยินอย่างชัดเจน สีหน้าของเขาพลันเคร่งขรึมลง จ้องมองไปทางหลิวเหวินผิงก่อนเอ่ยขึ้น “ออกไป!”
เสียงของเขาไม่ดังมาก แต่เต็มไปด้วยความเย็นชาและน่าเกรงขาม
หลิวเหวินผิงสั่นเทาด้วยความตกใจ ซ่อนตัวอยู่หลังโจวลี่หงพลางกระซิบ “แม่คะ”
โจวลี่หงยืนอยู่ข้างหลิวเหวินผิงย่อมได้ยินสิ่งที่ลูกสาวพูด แต่หล่อนกลับเผยสีหน้าดูแคลนพร้อมกล่าวอย่างเฉยเมย “จินหนาน เหวินผิงยังเด็ก เป็นเรื่องปกติที่จะพูดจาไม่คิด หลานเป็นพี่ชายคนโต ทำไมถึงพูดจาแบบนี้กับน้อง”
สวี่ชิงไม่ได้ยินสิ่งที่หลิวเหวินผิงพูด แต่ดูจากความโกรธของโจวจินหนานแล้ว เธอจึงเดาได้ว่าไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน และต้องเกี่ยวข้องกับเธอด้วย
หลิวเหวินผิงซึ่งอายุ 16 ปีเหล่มองโจวลี่หงผู้เป็นแม่ ความหยิ่งทระนงตนจนดูถูกผู้อื่นเช่นนี้ ถือเป็นการกระทำที่โง่เขลาและไร้สมอง
สวี่ชิงจับมือโจวจินหนานเพื่อหยุดเขา “ไปกินข้าวกันดีกว่าค่ะ”
เธอรู้สึกประทับใจมากที่ได้รับการปกป้องอย่างไม่มีเงื่อนไขจากโจวจินหนาน แต่เธอสามารถจัดการเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องให้เขาออกหน้า
หลังกล่าวจบก็จ้องมองหลิวเหวินผิงอย่างมีเลศนัย
เฟิงซูฮวามองดูอย่างเย็นชาโดยไม่พูดอะไร ใบหน้าของโจวเฉินหยิงเต็มไปด้วยความอับอาย นางกำลังจะตำหนิโจวลี่หงที่ไม่สั่งสอนลูกสาวให้ดี แต่ไม่คิดว่าสวี่ชิงจะตัดบทขึ้นมาก่อน
โจวเฉินหยิงไม่อยากมารยาท นางไม่ต้องการให้เฟิงซูฮวาและหลานสาวต้องอับอายหรือกลายเป็นตัวตลก จึงเหลือบมองโจวลี่หงพร้อมลูกสาวอีกครั้งพลางตำหนิ “หากพูดอะไรดี ๆ ไม่เป็นก็หุบปากซะ!”
จากนั้นนางก็มองสวี่ชิงด้วยรอยยิ้ม “ชิงชิง พาจินหนานมานั่งนี่สิจ๊ะ”
สวี่ชิงดึงโจวจินหนานให้นั่งลงข้างเฟิงซูฮวา นี่คือแผนการที่เธอวางไว้ว่าจะให้เขานั่งระหว่างเธอกับเฟิงซูฮวา
หลังจากที่พวกเขานั่งลง ซูฮุ่ยหรูก็จัดที่นั่งสำหรับคนอื่นที่เหลือ
น่าเสียดายที่หลิวเหวินผิงได้นั่งตรงข้ามกับสวี่ชิง
ฟ่านเจี๋ยนั่งตรงข้ามโจวจินหนาน ถัดจากฟ่านเจี๋ยคือโจวลี่หง ซูฮุ่ยหรู และโจวจินซวน
แม้จะนั่งร่วมโต๊ะอย่างสบายใจ แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีสายตารังเกียจจ้องมองสวี่ชิงอยู่
สวี่ชิงหลับตาลงเพื่อหลบซ่อนการเสียดสีในแววตาของฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากฟ่านเจี๋ยไม่ใช่แฟนเก่าของโจวจินหนาน นี่จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ
อาหารกลางวันที่โจวเฉินหยิงจัดเลี้ยงทุกคนนั้นดูบริบูรณ์มาก มีทั้งปลา ไก่ และเนื้อแกะตุ๋นจานใหญ่ เป็นอาหารมาตรฐานสูงสุดที่สร้างความสุขและความบันเทิงให้แก่แขก
โจวเฉินหยิงตักเนื้อซี่โครงแกะให้เฟิงซูฮวาด้วยรอยยิ้ม “ลองชิมดูสิคะ ฉันขอให้ปู่ของจินหนานซื้อมาให้ตั้งแต่เช้า มันสดและอร่อยมากค่ะ”
นางยืนขึ้นอีกครั้งพลางตักเนื้อแกะให้สวี่ชิง “จินหนานไม่กินหมู ดังนั้นบ้านเราเลยไม่กินหมูด้วยน่ะจ้ะ”
สวี่ชิงยิ้มและลุกขึ้นตักเนื้อแกะให้โจวจินหนาน “สีของเนื้อดูน่าอร่อยมาก พี่จินหนานลองชิมดูสิคะ”
หลิวเหวินผิงเพิ่งถูกโจวจินหนานตะคอกใส่จึงเผยสีหน้าบูดบึ้งและไม่สบอารมณ์ตลอดเวลา ยิ่งเมื่อเห็นสวี่ชิงพูดคุยกับลูกพี่ลูกน้องของตัวเองด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า หล่อนก็ยิ่งรู้สึกรำคาญมากขึ้นไปอีก
หล่อนจ้องมองสวี่ชิงด้วยความขัดเคือง
โจวลี่หงยังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับโจวจินหนานเช่นกัน ขณะคีบน่องไก่ให้หลิวเหวินผิง “รีบกินจะได้รีบกลับ”
หลิวเหวินผิงไม่อาจระงับความคับข้องใจได้อีกต่อไป “ทำไมต้องรีบกลับล่ะคะ ทำไมต้องกลับเพียงเพราะผู้หญิงขยะคนนี้!”
ก่อนที่หล่อนจะพูดจบ สวี่ชิงก็ลุกขึ้นสาดน้ำชาในถ้วยราดศีรษะหล่อนทันที
น้ำชาอุ่น ๆ ไหลลงจากศีรษะจนเปื้อนทั่วหน้าของหลิวเหวินผิง
หลิวเหวินผิงลุกขึ้นกรีดร้องด้วยความตกใจ โจวลี่หงเห็นลูกสาวถูกทำร้ายก็พลันตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นด้วยความโกรธ “สวี่ชิง! เธอพยายามจะทำอะไร!”
สวี่ชิงเยาะเย้ย “ฉันก็แค่เห็นว่าปากของหล่อนสกปรกเลยช่วยล้างให้ ไม่อยากนั้นคงเป็นที่โจษจันกันทั่วว่าหลานสาวตระกูลโจวปากพล่อยและไร้มารยาท”
ใบหน้าของโจวคังอันหรือพ่อเฒ่าโจวที่นั่งอย่างมีความสุขมาตลอดพลันเปลี่ยนไป เขาขว้างตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างรุนแรงและจ้องมองโจวลี่หง “พาหล่อนออกไปซะ น่าละอายสิ้นดี!”
ใบหน้าของเฟิงซูฮวาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน จ้องมองโจวลี่หงอย่างเย็นชา
โจวเฉินหยิงก็โกรธมากเช่นกัน นางรู้ว่าโจวลี่หงมักจะให้ท้ายหลิวเหวินผิง แต่ก็ไม่คาดว่าเด็กสาวจะไร้มารยาทเช่นนี้
มีเพียงโจวจินหนานเท่านั้นที่นั่งตัวตรงและดูเหมือนจะไม่ตอบสนองอะไร
เมื่อโจวลี่หงเห็นว่าทุกคนจ้องมองมายังหล่อนและลูกสาวด้วยความไม่พอใจ ความโกรธที่สวี่ชิงทำให้ลูกสาวต้องอับอายก็ทำให้หล่อนเดือดดาล “พ่อกับแม่หมายความว่าไงคะ? แม้เหวินเผิงจะยังอายุน้อย แต่สิ่งที่หล่อนพูดก็เป็นความจริงนะคะ”
โจวเฉินหยิงตบโต๊ะด้วยความโกรธ “หุบปาก! แล้วแกล่ะ อายุตั้งเท่าไหร่แล้ว? จะสร้างปัญหาไปถึงเมื่อไหร่! สวี่ชิงเป็นสะใภ้ตระกูลโจว มีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของแก ในฐานะผู้ใหญ่ ไม่รู้จริงๆ เหรอว่าควรทำตัวยังไง?”
เฟิงซูฮวาเงียบอยู่นาน แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกไม่มีความสุข “ฉันไม่ชอบในสิ่งที่หล่อนพูดเอาซะเลย ชิงชิงของฉันทำอะไรผิด ทำไมต้องอดทนให้อาสามีที่มีนิสัยแบบนี้เหยียบย่ำด้วย?”
โจวเฉินหยิงรู้สึกอับอายกับโจวลี่หง จึงรีบหันกลับมาขอโทษเฟิงซูฮวาทันที “คุณย่า อย่าเข้าใจผิดนะคะ ฉันไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เลย ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเองที่ไม่ได้สั่งสอนลูกให้ดี”
หลิวเหวินผิงจับผมที่เปียกโชกของตัวเองและรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่ก็ไม่กล้าร้องออกมา จากนั้นก็รู้สึกได้ว่าตนกำลังตกที่นั่งลำบาก
เมื่อโจวลี่หงเห็นว่าผู้เป็นแม่ไม่เพียงดุด่าตนเอง แต่ยังยอมขอโทษขอโพยเฟิงซูฮวาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หล่อนก็รู้สึกไม่พอใจ “แม่ แล้วแม่ล่ะ ทำไมถึงทำแบบนี้? ตอนนี้คนเขารู้กันทั่วแล้วว่าโจวจินหนานเอาผู้หญิงชั้นต่ำมาเป็นเมีย เขาซุบซิบนินทาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว…”
โจวจินหนานพลันลุกขึ้น ก่อนหยิบถ้วยชาของเขายัดใส่มือสวี่ชิง “สาดหล่อนซะ!”
……………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เป็นคำถามที่ตอบยากเหมือนกันนะ ตอบไปแล้วก็คือเป็นเรื่องใหญ่
สวี่ชิงเป็นภรรยาสุดโหดยังไงก็ดูได้จากตอนนี้นะคะ แถมพี่จินหนานยังให้ท้ายอีก
ไหหม่า(海馬)