เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 36 แผนของโจวจินหนาน
บทที่ 36 แผนของโจวจินหนาน
โจวจินหนานขมวดคิ้ว เขาไม่พอใจต่อคำถามของติงชางเหวิน “ใช่ครับ เราเพิ่งได้รับทะเบียนสมรสเมื่อเช้านี้ ผู้เชี่ยวชาญติงสงสัยอะไรเหรอครับ?”
ติงชางเหวินหัวเราะ “เปล่าครับ ผมแค่อยากแสดงความยินดีล่วงหน้าสำหรับงานแต่งงาน ขอให้ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรนะครับ”
ทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับโจวจินหนานที่มีอายุน้อยกว่า เขากลับรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในใจโดยไร้เหตุผล อาจเป็นเพราะบุคลิกของคนจากหน่วยงานลับก็เป็นได้ เขาจึงไม่เคยเห็นโจวจินหนานยิ้มเลย
ทุกบทสนทนาเต็มไปด้วยความจริงจังจนอาจเรียกได้ว่าเคร่งขรึม
สวี่ชิงรู้สึกว่าการหัวเราะของติงชางเหวินช่างดูเสแสร้ง ทำให้คำอวยพรของเขาดูไม่จริงใจ
หลังเดินออกจากบ้านพร้อมกับโจวจินหนาน เธอก็ถามเสียงเบา “รู้จักผู้เชี่ยวชาญคนนั้นด้วยเหรอคะ? เขาเป็นเพื่อนร่วมงานของพ่อพี่หรือเปล่า?”
โจวจินหนานส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ ที่ทำงานของผู้เชี่ยวชาญติงอยู่ติดกับหน่วยงานของผม เราเลยได้พบกันหลายครั้งในตอนที่ก่อสร้างร่วมกัน”
ฉินเสวี่ยเหมยที่อยู่ด้านข้างรู้สึกผิดเล็กน้อย “สวี่ชิง ขอโทษนะ ฉันไม่รู้ว่าคุณย่าติงจะเป็นคนแบบนี้ ฉันไม่รู้ว่าท่านไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านมาก่อน และไม่คิดว่าจะรับมือยากขนาดนี้”
สวี่ชิงโบกมือ “มันใช่ความผิดเธอที่ไหนล่ะ? ถ้าอยากจะเช่าบ้านสักหลังก็ควรดูอย่างใจเย็นและรอบคอบ หากบ้านหลังนี้ใช้ไม่ได้ ก็หาบ้านหลังใหม่”
อย่างไรก็ตาม เธอไม่คิดจะเช่าบ้านของครอบครัวติงอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นของคุณย่าติงหรือติงชางเหวิน
เมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว ฉินเสวี่ยเหมยก็บอกลาสวี่ชิงอย่างรวดเร็ว “ฉันกลับก่อนนะ ไว้เจอบ้านที่เหมาะสมแล้วจะบอกอีก”
สวี่ชิงโบกมืออย่างเฉยเมย “ได้สิ ไว้คุยกันนะ”
เมื่อฉินเสวี่ยเหมยจากไป โจวจินหนานก็กล่าวขึ้นทันที “ติงชางเหวินน่าจะรู้จักกับแม่เลี้ยงของคุณนะครับ เมื่อวานนี้ติงชางเหวินไปที่บ้านพ่อของผมแล้วก็แนะนำให้จินซวนและสวี่หรูเยว่แต่งงานกัน”
ข้อสงสัยทั้งหมดในใจของสวี่ชิงได้รับการชี้แจงแถลงไขทันที ฟางหลานซินไปยังอาคารผู้เชี่ยวชาญเพื่อพบติงชางเหวิน แสดงว่าทั้งสองรู้จักกัน และติงชางเหวินต้องเคยได้ยินฟางหลานซินพูดถึง
วันนี้เธอกับโจวจินหนานมารับใบทะเบียนสมรส ไม่มีใครนอกจากครอบครัวโจวและครอบครัวสวี่ที่รู้เรื่องนี้ แต่ติงชางเหวินกลับรู้
แสดงว่าฟางหลานซินและติงชางเหวินเพิ่งพบกันเมื่อคืนนี้
ติงชางเหวินและฟางหลานซินแอบเล่นชู้กันใช่หรือไม่?
หากไม่มีความสำคัญต่อกัน จะวิ่งแจ้นไปมาเพื่อช่วยเหลือกันทำไม!
นอกจากนี้ก็เป็นไปได้ว่าสวี่หรูเยว่คงไม่ใช่ลูกสาวของสวี่จื้อกั๋ว แต่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของติงชางเหวิน!!
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ หัวใจของสวี่ชิงก็เต้นเร็วขึ้น หากเป็นอย่างที่เธอคาดเดา เรื่องราวต่าง ๆ ก็จะเร่าร้อนมากขึ้น
“พี่จินหนานรู้ไหมคะว่าผู้เชี่ยวชาญติงเป็นคนแบบไหน? แล้วเขาย้ายมาจากชนบทเมื่อปีไหนคะ?”
โจวจินหนานส่ายศีรษะ “ผมไม่รู้เลย”
สวี่ชิงรู้ว่าโจวจินหนานไม่ใช่คนชอบซุบซิบนินทา และแน่นอนว่าเขาไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของคนอื่น
ถึงเขาไม่รู้ แต่คุณป้าคนขายไอติมจะต้องรู้อย่างแน่นอน ไว้ค่อยถามนางตอนไปเยี่ยมปู่กับย่าของโจวจินหนานในวันพรุ่งนี้แล้วกัน
เธอจะไม่ยอมให้ฟางหลานซินและสวี่หรูเยว่ตายไปอย่างง่ายดาย แต่จะทำให้ชีวิตของพวกหล่อนเลวร้ายยิ่งกว่าตาย!
ขณะที่ทั้งสองยืนพูดคุยกันอยู่ข้างถนน หญิงสูงวัยร่างท้วมสวมผ้าคลุมศีรษะลายดอกไม้ก็เดินเข้ามา “พวกคุณกำลังมองหาบ้านเช่าใช่ไหม?”
สวี่ชิงเหลือบมองคุณป้าร่างท้วมด้วยความประหลาดใจ “ใช่ค่ะ ฉันกำลังมองหาบ้านเช่า”
หญิงชราผู้นั้นชี้ไปยังบ้านที่อยู่ข้างบ้านของติงชางเหวิน “ถึงบ้านของฉันจะทำเลไม่ดีนัก แต่ก็ราคาถูก เพียงสี่หยวนต่อเดือนเองนะ”
สวี่ชิงจ้องมองไปยังทิศทางที่หญิงชราชี้ บ้านของนางและติงชางเหวินห่างกันเพียงกำแพงกั้น เห็นได้ชัดว่านางแอบฟังการสนทนาของพวกเขา
จากนั้นจึงวิ่งตามมาพร้อมถามว่าต้องการเช่าบ้านหรือไม่
หญิงสูงวัยร่างท้วมกังวลว่าสวี่ชิงอาจคิดว่าตนเป็นพวกสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่น จึงรีบอธิบาย “ฉันอาศัยอยู่กับหลานสาวในบ้าน แต่ฉันมีสองหลัง สามารถปล่อยให้เช่าได้ เราไม่ใช่คนไม่ดี แค่อยากปล่อยบ้านเช่าเพื่อหารายได้ก็เท่านั้น”
สวี่ชิงจ้องมองหญิงสูงวัยร่างท้วม นางดูไม่เหมือนคนเจ้าเล่ห์สักนิด
หลังเงียบไปครู่หนึ่งจึงกล่าวขึ้น “งั้นเราไปดูบ้านกันเถอะค่ะ”
หญิงสูงวัยร่างท้วมรีบนำสวี่ชิงและโจวจินหนานมาที่บ้านของตน แม้จะห่างจากบ้านของติงชางเหวินเพียงหนึ่งกำแพงกั้น แต่ก็อยู่ลึกเข้าไปในตรอก สภาพบ้านดูทรุดโทรมเป็นอย่างมาก ผนังห้องมีเสาค้ำยันเป็นระยะ ดูราวกับว่าจะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อยามเกิดฝนตกหนัก
สวี่ชิงขมวดคิ้ว แน่นอนว่าหลังจากตัดสินใจเช่า เธอต้องซ่อมแซมบ้านหลังนี้ด้วย
แน่นอนว่ามันต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก เธอที่คิดจะทำธุรกิจและไม่ได้คิดทำการกุศลไม่มีทางยอมจ่ายเงินสี่หยวนเพื่อเช่าบ้านหลังนี้เด็ดขาด
หล่อนส่ายศีรษะอย่างเสียดาย “คุณป้า ไว้เราจะมาดูกันใหม่นะคะ”
หญิงสูงวัยร่างท้วมรู้ทันทีว่าสวี่ชิงไม่ชื่นชอบบ้านหลังนี้ ใบหน้าของนางเผยแววผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไร ไว้มาดูใหม่นะ ถ้าหาบ้านที่เหมาะสมไม่ได้ก็ค่อยกลับมาดูบ้านฉัน”
กล่าวจบแล้วสวี่ชิงก็เดินออกไปพร้อมโจวจินหนาน
ระหว่างทางกลับ สวี่ชิงก็อธิบายลักษณะบ้านของหญิงสูงวัยร่างท้วมให้โจวจินหนานฟัง “บ้านหลังนั้นทรุดโทรมมาก หากฉันตกลงเช่าก็เท่ากับต้องซ่อมบ้านให้คุณป้าด้วย”
โจวจินหนานเงียบไปครู่หนึ่ง “แล้วถ้าผมซื้อที่นั่นล่ะ?”
สวี่ชิงถอนหายใจ “จริง ๆ ซื้อไว้ก็ดีเหมือนกันนะคะ ถึงบ้านหลังนี้จะมีสภาพไม่ดีนัก แต่ก็อาจมีมูลค่าไม่น้อย เมื่อประเทศเปิดระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี เหล่าผู้มั่งมีก็จะทำธุรกิจได้อย่างอิสระ และแน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาหมายจะลงเล่นคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บ้านและที่ดินจะมีราคาสูงขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ”
เธอไม่กล้าบอกโจวจินหนานว่าในอนาคตจะมีที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง ซึ่งจะทำให้ราคาบ้านในเมืองสูงขึ้น
โจวจินหนานรู้สึกว่าการวิเคราะห์ของสวี่ชิงค่อนข้างสมเหตุสมผล จึงพิจารณาอย่างเงียบงันว่าควรขอยืมเงินเพิ่มเพื่อกลับมาซื้อบ้านหลังนี้ให้สวี่ชิงดีหรือไม่
สวี่ชิงไม่ได้กังวลเรื่องธุรกิจมากนัก เธอกระวนกระวายใจเรื่องของฟางหลานซินมากกว่า หมายจะกดอีกฝ่ายลงกับพื้นเพื่อสั่งสอน ไม่ต้องการให้ลุกขึ้นมาทำเรื่องน่ารังเกียจได้อีก
เธอส่งโจวจินหนานกลับบ้าน เฝ้ามองเขาเดินเข้าไป
จากนั้นเธอก็รีบเดินทางไปยังอาคารผู้เชี่ยวชาญ
หญิงสูงวัยที่ขายไอติมโบกมือหยอยๆ เมื่อเห็นสวี่ชิง สวี่ชิงเดินเข้าไปหานางอย่างเชื่องช้า
“ป้ารอเธออยู่ตั้งนาน ในที่สุดก็มาสักที”
ป้าขายไอติมหันมองโดยรอบก่อนและกวักมือให้สวี่ชิงเข้าไปใกล้ก่อนเอ่ยซุบซิบ “เมื่อคืนนี้ตอนที่ป้ากำลังปิดร้าน ป้าเห็นแม่เลี้ยงของเธอเข้าไปในอาคารผู้เชี่ยวชาญ หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง แม่เลี้ยงของเธอก็กลับออกมา ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด”
นางแสดงท่าทางขณะเล่าเรื่องราวกับได้เห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเอง
สวี่ชิงแสร้งทำเป็นไม่เชื่อ “ไม่จริงใช่ไหมคะ?”
หญิงสูงวัยยิ้มเยาะ “ฉันเห็นกับตา แม่เลี้ยงของเธอนี่ไม่ธรรมดาเลย ผู้หญิงอายุสามสิบก็เหมือนหมาป่า อายุสี่สิบก็เหมือนเสือ*(1) หล่อนใช้เวลาอยู่บนนั้นนานสองนานเลย”
สวี่ชิงลังเล “แล้วคุณป้าเห็นใครเดินออกมาส่งแม่เลี้ยงไหมคะ?”
หญิงสูงวัยส่ายหน้า “ไม่เห็นเลย”
“คุณป้ารู้จักผู้เชี่ยวชาญติงไหมคะ?”
หญิงสูงวัยตอบกลับ “หมายถึงติงชางเหวินเหรอ? เธอกำลังสงสัยว่าแม่เลี้ยงของเธอแอบเล่นชู้กับติงชางเหวินใช่ไหม? จุ๊ ๆ หากเป็นติงชางเหวิน แม่เลี้ยงของเธอจะต้องทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน”
นางกล่าวด้วยสีหน้านิ่งเฉย แต่ไม่สามารถซ่อนประกายแห่งความมีชีวิตชีวาในดวงตาได้
สวี่ชิงยังคงสงสัย “ทำไมถึงต้องทุกข์ทรมานล่ะคะ?”
……………………………………………………………………………………………………………………
สำนวน หมายถึง เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป จะเป็นช่วงวัยที่ผู้หญิงมีประสบการณ์เจนจัดในเรื่องทางเพศและมีความสุขกับการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น
สารจากผู้แปล
พี่จินหนานคิดจะเป็นเจ้าพ่อบุญทุ่มเพื่อชิงชิงอีกแล้ว
นังแม่เลี้ยงเสร็จแน่ ถ้าโดนแฉขึ้นมาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนนะ
ไหหม่า(海馬)