เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 33 สวี่ชิง เธอตัดสินใจแล้วใช่ไหม?
บทที่ 33 สวี่ชิง เธอตัดสินใจแล้วใช่ไหม?
มือของซูฮุ่ยหรูแข็งค้างอยู่กลางอากาศขณะมองชายหนุ่มพยุงตัวเองนั่งข้าง ๆ หญิงชรา รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อนแทบจะไม่อาจคงอยู่ได้
หล่อนยังคงไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ลูกชายคนโตของตนถึงเย็นชากับตนนัก
ตั้งแต่สิบปีที่แล้ว โจวจินหนานไม่เคยโทรหาแม่อย่างหล่อนอีกเลย ทุกครั้งที่พวกเขาพบกัน มักมีความรู้สึกต่อต้านและเกลียดชังต่อกันอย่างเห็นได้ชัด
ลูกชายที่อยู่ในครรภ์ของหล่อนนานสิบเดือนกลับปฏิบัติต่อหล่อนเหมือนเป็นศัตรู
เขาเข้าร่วมกองทัพโดยที่ไม่ได้บอกหล่อน ในระยะเวลา 10 ปีในกองทัพก็ไม่ค่อยเขียนจดหมายกลับมาที่บ้านบ่อยครั้งนัก และต่อให้เขาทำ เขาก็ไม่เคยกล่าวถึงแม่อย่างหล่อนเลย
หล่อนไม่ได้รับอนุญาตให้ดูแลอาการบาดเจ็บของเขา และในท้ายที่สุดหล่อนก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมงานใหญ่อย่างการแต่งงาน
ซูฮุ่ยหรูรู้สึกผิดและเคยถามโจวจินหนานว่าทำไม แต่โจวจินหนานเพียงบอกหล่อนอย่างเย็นชาว่า ‘คุณเองก็รู้ดี!’
หล่อนไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลย!
ขณะที่ซูฮุ่ยหรูกำลังอึดอัดใจ แม่เฒ่าโจวก็ตะโกนว่า “ฮุ่ยหรูมัวทำอะไรอยู่ รีบมากินข้าวเร็วๆ”
แล้วนางก็เรียกให้คุณป้าแม่บ้านนำอาหารให้โจวจินหนาน
ทุกคนรู้ว่าโจวจินหนานทะเลาะกับแม่ของเขาอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครรู้เหตุผล
พ่อเฒ่าโจวและแม่เฒ่าโจวเองยังถามโจวจินหนานเป็นการส่วนตัวและพยายามเกลี้ยกล่อมเขา แต่โชคไม่ดีที่โจวจินหนานไม่พูดอะไรเลย และทำเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลยเช่นกัน
ซูฮุ่ยหรูถอนหายใจและนั่งลงตรงข้ามกับโจวจินหนาน ยิ่งเศร้าใจมากขึ้นที่เห็นเขาคลำหาจานอาหาร
หล่อนไม่เห็นด้วยที่เขาจะแต่งงานกับสวี่ชิง ผู้หญิงไร้มารยาทและยังมีมลทินนั่นจะคู่ควรกับโจวจินหนานผู้ยอดเยี่ยมได้อย่างไร? แต่โชคร้ายที่โจวจินหนานไม่ยอมฟังความคิดเห็นของหล่อนเลย
พวกเขาไม่ได้ขอให้หล่อนออกหน้าสู่ขอสะใภ้เลย และเกรงว่าเมื่อพวกเขาแต่งงานกันก็คงไม่ต้องการให้หล่อนเข้าร่วม
โจวเฉิงเหวินขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าบรรยากาศที่โต๊ะอาหารพลันอึมครึมจากการปรากฏตัวของโจวจินหนาน “จินหนาน แกกลับมาพอดี ทำไมไม่คุยกับชิงชิงล่ะว่าให้เลื่อนวันแต่งงานให้เร็วกว่ากำหนดหน่อย จินซวนกับหรูเยว่จะได้แต่งวันเดียวกันไปเลย”
โจวจินหนานชะงักตะเกียบในมือทันที “พรุ่งนี้ผมจะไปรับทะเบียนสมรสกับชิงชิง วันแต่งงานอาจเลื่อนเร็วขึ้น แต่ต้องไม่ใช่วันเดียวกัน”
โจวเฉิงเหวินตะลึง “ทำไมล่ะ? มันช่วยประหยัดเงินนะ”
”ชิงชิงจะไม่มีความสุข…”
โจวจินหนานพูดพร้อมกับก้มหน้ากินอาหาร แต่โชคดีที่เขามองไม่เห็น จึงไม่รู้ว่าคนที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารกำลังตกใจขนาดไหน
โจวเฉิงเหวินยิ่งตกใจมากกว่าเก่า “ทำไมจู่ๆ ถึงจะจดทะเบียนสมรสเลยล่ะ? ถ้าอย่างนั้นก็ต้องบอกครอบครัวด้วยสิว่าแกจะจัดงานแต่งงานเมื่อไหร่ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีเวลาเตรียมตัวนะ”
ซูฮุ่ยหรูพยักหน้าเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว “ใช่แล้ว แกต้องบอกครอบครัวล่วงหน้าด้วยสิ ไม่งั้นเราจะไม่ได้เตรียมการอะไรเลยนะ และเราต้องเชิญใครสักคนมาเขียนคำเชิญด้วย”
โจวจินหนานเงียบไปครู่หนึ่ง “ไม่ครับ ผมจะจัดการเอง”
ซูฮุ่ยหรูสำลักไปครู่หนึ่ง หล่อนหยุดพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ
โจวจินซวนรู้สึกอึดอัดใจ และอึดอัดอย่างยิ่ง
สวี่ชิงกำลังจะแต่งงานกับพี่ใหญ่ของเขาจริงๆ เธอต้องการแก้แค้นเขาแน่ๆ!
สวี่ชิงเคยบอกว่าเธอชอบคนที่มีความรู้ และชอบผู้ชายที่สะอาดและสดชื่น
แต่พี่ใหญ่เป็นคนหยาบคาย แม้จะเข้าเรียนที่โรงเรียนผู้บัญชาการ แต่ก็อยู่ในหน่วยตระเวนชายแดน เขาจะสะอาดและสดชื่นได้อย่างไร?
นอกจากนี้สวี่ชิงยังไม่เคยรู้จักพี่ใหญ่มาก่อน ที่เธอตกลงแต่งงานกับพี่ใหญ่รวดเร็วขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพื่อแก้แค้นเขาแล้วจะเป็นอะไร?
เขาชอบสวี่ชิง และชอบแววชื่นชมในสายตาของสวี่ชิงยามที่เธอมองมาทางเขา
ถ้าเธอไม่ถูกข่มขืน เขาจะแต่งงานกับเธอ
แต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โจวจินซวนก็อดไม่ได้ที่จะถามโจวจินหนาน “พี่ใหญ่ พี่ไม่สนใจอดีตของสวี่ชิงเหรอ? แล้วหล่อนชอบพี่หรือเปล่า?”
โจวจินหนานเยาะเย้ย “ไม่ให้ชอบฉันแล้วจะให้ชอบนายเหรอ?”
โจวจินซวนขมวดคิ้ว “พี่ก็รู้ว่าเราเคยคุยกันมาก่อน”
โจวจินหนานเอ่ยอีกครั้ง และครั้งนี้เต็มไปด้วยการเสียดสี “นายชอบอะไรในตัวหล่อน?”
โดยที่ไม่รอให้โจวจินซวนพูดอะไร โจวจินหนานพูดอย่างสบายๆ อีกครั้ง “นายชอบหล่อนแบบเช้าสามเย็นสี่[1] ไม่มีความเชื่อใจและรับผิดชอบ? หรือชอบเพราะนายไม่มีความสามารถในการแยกแยะว่าอะไรถูกผิด เว้นแต่จะปัดภาระเวลาเจอเรื่องอะไรเข้ากันล่ะ?”
โจวจินซวนหน้าแดงทันที “พี่ใหญ่…”
แม่เฒ่าโจวสงบลงและรีบกล่าวว่า “เป็นเรื่องดีสำหรับจินหนานนะที่จะแต่งงาน เป็นสิ่งที่ดี ย่ายังไม่เคยเจอผู้หญิงคนนั้นเลย พรุ่งนี้พอได้ทะเบียนสมรสพามาให้ย่าเจอหน่อยได้ไหม?”
โจวจินหนานพยักหน้า “ครับ”
หลังจากกินอาหารเสร็จ โจวจินหนานก็พาไป๋หลางกลับห้อง และซูฮุ่ยหรูก็เดินตามมา
จู่ ๆ โจวจินหนานก็หันกลับมาเมื่อเขากำลังจะผลักประตู และถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
ซูฮุ่ยหรูมองโจวจินหนานด้วยสายตาเจ็บปวด “จินหนาน ทำไมหลายปีมานี้แกถึงทำกับแม่แบบนี้ล่ะ? ต่อให้แกจะเกลียดและนึกตำหนิแม่ แต่ก็ควรให้เหตุผลกับแม่หน่อยนะ”
โจวจินหนานเม้มริมฝีปาก ระงับโทสะที่สะสมอยู่ในใจ “เป็นเพราะคุณทำให้ผมสะอิดสะเอียน!”
หลังจากพูดจบ เขาก็หันกลับไปแล้วผลักประตูเข้าไปในห้อง
อย่างไรก็ตาม ซูฮุ่ยหรูยืนอยู่ที่นั่นราวกับถูกฟ้าผ่า และความไม่แน่นอนมากมายก็ปรากฏขึ้นในใจของหล่อน
โจวจินหนานรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น!
เขาจะรู้ได้อย่างไร? คนที่รู้เรื่องนี้ตายหมดแล้ว โจวจินหนานรู้ได้อย่างไร!
ซูฮุ่ยหรูเดินกลับอย่างเฉยชา หัวใจของหล่อนยุ่งเหยิง ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
เช้าวันรุ่งขึ้น พระอาทิตย์ได้ส่องแสงสว่างสดใส
สวี่ชิงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงยาวสีดำ และมัดรวบผมเป็นหางม้า เผยให้เห็นหน้าผากที่สวยงามและสะอาด จนเฟิงซูฮวาอดไม่ได้ที่จะชื่นชม “ชิงชิงของเราสวยมาก ใครแต่งงานด้วยก็โชคดี”
สวี่ชิงยิ้มพลางหันหน้าไปทางเฟิงซูฮวา “ฉันก็คิดว่าตัวเองสวยเหมือนกันค่ะ คุณย่าคะ เมื่อคืนคุณย่าจุดเครื่องหอมอะไรเหรอคะ? กลิ่นหอมมาก นอนหลับสบายทั้งคืนเลยค่ะ”
เฟิงซูฮวายิ้ม “ธูปกู่น่ะ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างชื่อหรอกนะ มันดีต่อร่างกาย หลานต้องค่อยๆ ปล่อยใจให้ชินกับมัน ในอนาคตยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก”
สวี่ชิงสั่นสะท้านอย่างอธิบายไม่ได้ พลางสัมผัสซากแมลงทั้งสองตัวในกระเป๋ากระโปรง และรู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่นัก
ด้วยกลัวว่าเวลาจะสายเกินไป เธอไม่ได้สนใจที่จะคุยกับเฟิงซูฮวาต่อ และรีบวิ่งไปที่ถนนเพื่อพบกับโจวจินหนาน
เมื่อสวี่ชิงมาถึง โจวจินหนานก็มาถึงแล้วพร้อมกับเกาจ้านที่ยืนสูบบุหรี่
เธอไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกัน แต่โจวจินหนานกำลังเงี่ยหูฟัง สีหน้าของเขาดูมุ่งมั่น
ในวันนี้โจวจินหนานสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวรีดเรียบ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนังสามส่วนสำหรับทหาร และจัดทรงผมไว้อย่างเรียบร้อย สูงสง่าเป็นพิเศษ
สวี่ชิงชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อย มองดูแสงยามเช้าตกกระทบไหล่ของโจวจินหนานดูสว่างจ้าพร่าเลือน ชายผู้บริสุทธิ์และหล่อเหลาแต่เดิมกลับดูเลือนรางมากขึ้น
หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น เร็วจนแทบจะระเบิดออกจากอก
โจวจินหนานดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของเธอและหันไป ‘มอง’
สวี่ชิงยิ้มขึ้นทันทีและเดินไปหาโจวจินหนานอย่างรวดเร็ว “พี่จินหนาน พี่เกาจ้าน อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
เกาจ้านพยักหน้าเล็กน้อย “อรุณสวัสดิ์”
โจวจินหนานพยักหน้าด้วยท่าทางอบอุ่น “เอาทุกอย่างมาครบไหม?”
สวี่ชิงตบกระเป๋า “ฉันเอามาหมดแล้วค่ะ เข้าไปกันเถอะ”
โจวจินหนานไม่ได้เคลื่อนไหว แต่ถามอย่างลังเลว่า “สวี่ชิง คุณตัดสินใจแล้วใช่ไหม? หลังได้รับใบรับรองมาแล้ว คุณจะไม่มีโอกาสย้อนกลับไปอีกแล้วนะ”
……………………………………………………………………………………………………………………..
[1] เช้าสามเย็นสี่ 朝三暮四 หมายถึง เปลี่ยนแปลงโลเลไปมาอยู่เรื่อย จิตใจไม่แน่นอน ใช้เล่ห์เหลี่ยมปั่นหัวคนเล่น เปลี่ยนใจอยู่เสมอ
สารจากผู้แปล
ปมเรื่องเริ่มซับซ้อนแล้ว แม่แท้ๆ เคยทำอะไรลูกชายเหรอ ทำไมจินหนานถึงเกลียดแม่ขนาดนี้
ไหหม่า(海馬)