เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 308 คนฉลาดอย่างเธอ
บทที่ 308 คนฉลาดอย่างเธอ
เหยียนป๋อชวนรู้ว่าเย่หนานฉลาด รู้เพียงเล็กน้อยก็สามารถคาดเดาทุกอย่างได้แล้ว
ดังนั้นการจะปิดบังหล่อนจึงเป็นไปไม่ได้เช่นกัน “ใช่ พวกเราคิดจะใช้ร่างกายของเจียงเสวี่ยอิงเลี้ยงแม่กู่พิษ ถึงตอนนั้นค่อยคิดวิธีอื่นอีก”
เย่หนานจ้องตาเหยียนป๋อชวน “งั้นคุณรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงกลายมาเป็นแบบนี้?”
เหยียนป๋อชวนพยักหน้า “รู้ ป้าเฟิงบอกว่าคุณใช้อาคมแลกชีวิตมามอบชีวิตใหม่ให้ชิงชิง”
เย่หนานพูดอืมคำหนึ่งไม่ได้พูดอะไรอีก ที่แท้เหยียนป๋อชวนก็ยังไม่รู้เรื่องสินะ
เนิ่นนานถึงค่อยพยักหน้า “ได้ พวกเรากลับยูนนานกัน”
อย่างไรหล่อนก็คิดจะกลับยูนนานอยู่แล้ว ในเมื่อเหยียนป๋อชวนกระตือรือร้นขนาดนี้ งั้นก็กลับด้วยกันเสียเถอะ
ไม่ใช่ว่ายังมีเจียงเสวี่ยอิงคนเดียวเสียหน่อย ที่เตียนหนานยังมีเย่เหม่ยเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของหล่อนด้วยอีกคน
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว ชีวิตหลังจากนี้ค่อยดูน่าสนใจหน่อย
เหยียนป๋อชวนมองเย่หนานที่ดวงตาหม่นแสงพลันมีประกายเจิดจ้าขึ้นมาก็รู้ได้ว่าในหัวของหล่อนตอนนี้กำลังคิดแผนการซุนซนอะไรบางอย่างอยู่ ในใจเขาก็รู้สึกชื่นใจขึ้นมาบ้าง เย่หนานที่ผ่านความลำบากและทุกข์ทรมานมา ยากนักที่หล่อนจะรักษาความมีชีวิตชีวาไว้ได้สักเล็กน้อย
สวี่ชิงไปบ้านฉินเสวี่ยเหมย ทำชุดสองตัวเสร็จก็กลับมา เย่หนานตกลงแล้วว่าจะไปยูนนานด้วยกันกับเหยียนป๋อชวน อีกทั้งยังอีกสองวันเดินทางด้วย
ทำให้เธอมองเย่หนานอย่างประหลาดใจไม่ได้ “พวกคุณคืนดีกันแล้วเหรอคะ”
เย่หนานอุ้มแมวอยู่แค่นหัวเราะหึอย่างเย็นชา “เปล่า เดิมทีแม่เองก็คิดจะกลับยูนนานอยู่แล้ว ไปทำความเคารพหลุมศพของยายทวดลูก และในเมื่อเขาอยากเป็นพ่อบ้านให้ฟรีๆ งั้นก็ไปเถอะ คุณย่าของลูกเองก็จะไปด้วยเหมือนกัน”
สวี่ชิงยิ่งประหลาดใจหนักกว่าเดิม “คุณย่าก็จะไปกับพวกคุณด้วย? คงไม่ใช่ว่าพวกคุณคุยกันเสร็จสรรพก่อนหน้านี้แล้วหรอกนะคะ ยังมีเรื่องอะไรที่ฉันยังไม่รู้หรือเปล่า?”
เย่หนานตีมึน “จะมีเรื่องอะไรได้เล่า? ก่อนหน้านี้คุณย่าของลูกพูดกับแม่ว่าจะไปทำความเคารพหลุมศพคุณยายของลูกด้วยกันกับแม่ที่ยูนนาน เพราะอายุของท่านตอนนี้ก็ไม่น้อยแล้ว หากรอไปอีกก็ไม่รู้ว่าจะได้ไปอีกทีตอนไหน”
พอสวี่ชิงได้ฟังคำพูดเช่นนี้ก็รู้สึกสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง แต่ก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ทั้งยังตัดใจจากเย่หนานไม่ได้ด้วย “งั้นพวกคุณจะกลับมาเมื่อไหร่คะ”
เย่หนานส่ายหน้า “ไม่รู้ แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเราจะกลับมากันก่อนที่ลูกจะคลอดนะ”
สวี่ชิงนับแล้วก็พบว่าเป็นอีกห้าเดือน จะว่าไปก็ไม่สั้นและไม่ยาว “แต่ฉันตัดใจจากแม่ไม่ลงนี่คะ ไม่สู้ให้ฉันไปกับพวกคุณด้วย ถึงตอนที่ลูกคลอดก็อยู่ที่นั่นไปเลย”
เย่หนานหัวเราะพลางตบเธอเบาๆ “เด็กโง่ อย่าพูดไร้สาระน่า ไม่ใช่ว่าลูกยังมีเรื่องต้องทำที่นี่อยู่เหรอ? อีกทั้งที่นั่นปัจจัยการใช้ชีวิตก็ไม่ดี เราไม่อาจทำให้เด็กน้อยของเราลำบากได้หรอกนะ”
สวี่ชิงกอดคอเย่หนาน “แต่ฉันตัดใจจากแม่ไม่ลงนี้คะ แม่ต้องรอตอนลูกคลอดกลับมาให้ได้นะ ไม่งั้นฉันกับโจวจินหนานคงเลี้ยงลูกกันไม่ได้แน่”
เย่หนานยิ้มขณะรับปาก “กลับมาสิ กลับมาแน่นอน”
เหยียนป๋อชวนไปซื้อตั๋วรถไฟมาแล้ว ถือโอกาสรับเฟิงซูฮวากลับมาด้วยเช่นกัน
สวี่ชิงมองเห็นเฟิงซูฮวาเดินยิ้มแย้มตั้งแต่ต้นจนจบหัวใจถึงค่อยสงบลง ตอนที่เย่หนานหลับ จึงดึงเฟิงซูฮวาไปที่ห้องของเธอแล้วเอ่ยถาม “คุณย่าพูดความจริงกับฉันเถอะค่ะ พวกคุณไปที่เตียนหนานกันเป็นเพราะมีเรื่องอื่นใช่ไหม”
เฟิงซูฮวายิ้มแล้วตบมือสวี่ชิง “จะมีเรื่องอะไรได้? พ่อหลานก็แค่จะพาแม่หลานไปสถานที่ที่พวกเขาคุ้นเคยกันเท่านั้น มองดูให้ดี บางทีแม่หลานอาจยกโทษให้เขาแล้วก็ได้ ย่าก็แค่จะตามไปร่วมสนุกกับพวกเขาเท่านั้น และก็จะไปจุดธูปให้ยายทวดของหลานด้วย”
“พริบตาเดียวย่าก็ใกล้จะเจ็ดสิบแล้ว ใช้ชีวิตอย่างมีวันนี้ไม่มีพรุ่งนี้ ถ้ายังไม่ไปอีก ก็ไม่รู้ว่าจะได้ไปอีกทีตอนไหนแล้ว”
สุดท้ายความสงสัยเล็กน้อยของสวี่ชิงก็หายไป ส่งเงินห้าร้อยหยวนให้เฟิงซูฮวา “คุณย่า รับเงินนี้ไว้เถอะนะคะ ซื้อของอร่อยเยอะ ๆ หน่อย อย่าทำให้ตัวเองลำบาก”
เฟิงซูฮวาเห็นเงินมากขนาดนี้ก็รีบโบกมือ “ให้เงินเยอะขนาดนี้ไว้ทำอะไร? ย่ากับพวกพ่อของเธอจะไปอดอยากหรือไง? ไม่ใช่ว่าช่วงนี้หลานกำลังทำธุรกิจอยู่เหรอ อย่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายสิ”
สวี่ชิงยังคงยัดเงินใส่กระเป๋าของเฟิงซูฮวา “เมื่อเย็นฉันทำกระเป๋าตรงเสื้อซับในของคุณย่าไว้สองช่อง ถึงเวลาให้เอาเงินใส่ตรงนี้จะได้ไม่หายง่าย ๆ คุณย่าอยากใช้เงินเมื่อไหร่ให้หยิบออกมาทีละสิบหยวนนะคะ คุณย่าไปกับพ่อแม่ฉันรอบนี้อยากกินอะไรก็คงเอ่ยปากบอกลำบาก ดังนั้นมีเงินติดตัวหน่อยค่อยสะดวกขี้นเยอะ”
เฟิงซูฮวายิ้มมองสวี่ชิง “เธอนี่นะ จิตใจดีเกินไป แบบนี้จะถูกเอาเปรียบได้ง่ายนะ”
สวี่ชิงยัดเงินเสร็จแล้วก็ยิ้มมองเฟิงซูฮวา “ฉันก็ไม่ได้ทำดีกับทุกคนเสียหน่อย เพราะคุณย่าคู่ควรต่างหากล่ะคะ”
เธอพูดเอาใจประโยคเดียวก็ทำให้เฟิงซูฮวาอารมณ์ดีแล้ว ดวงตายิ้มตาหยีกลายเป็นขีดเดียว นำขวดทั้งหมดทิ้งเอาไว้ให้สวี่ชิง ให้เธอศึกษาด้วยตัวเองเวลาไม่มีอะไรทำ
คืนก่อนที่เย่หนานจะไปหนึ่งวัน หล่อนก็รอให้สวี่ชิงล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วเอนตัวลงนอน ส่งหนังสือที่มีขอบเปื่อยยุ่ยแล้วให้สวี่ชิงหนึ่งเล่ม หน้าปกเขียนด้วยมือว่าตำราแพทย์เผ่าเหมียว
“แม่ไม่มีเวลาสอนลูก ถ้าลูกมีเวลาก็เอาหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน อ่านจนชี้หน้าไหนแล้วก็สามารถท่องหน้านั้นได้ มีคำกล่าวว่าหนังสืออ่านร้อยรอบแล้วจึงจะมองเห็นได้เอง หลังจากลูกท่องได้แล้ว รอแม่กลับมาจะสอนลูกอีกที”
หรือต่อให้กลับมาไม่ได้ หล่อนก็ยังมีวิธีจะสอนสวี่ชิงอยู่
สวี่ชิงพลิกหนังสือดูรอบหนึ่งแล้ววางไว้อีกข้างหนึ่ง ยื่นมือไปกอดเย่หนาน “แม่คะ ยังไงฉันก็ตัดใจจากแม่ไม่ลงอยู่ดี”
ตอนเธออยู่กับเย่หนานก็ออดอ้อนหล่อนไม่หยุด นี่เป็นความรู้สึกที่เธอเองก็ไม่เคยสัมผัส
ตอนยังเด็กเมื่ออยู่กับฟางหลานซิน เธอต้องระมัดระวังตลอด กลัวว่าจะทำให้หล่อนไม่พอใจ
เพราะเธอรู้ว่านั่นคือแม่เลี้ยง ไม่สามารถออดอ้อนเอาแต่ใจหรือยิ่งไม่อาจแย่งความรักกับสวี่หรูเยว่ได้ ดังนั้นเธอจึงกลายเป็นเด็กที่รู้ความเร็วกว่าเด็กคนอื่น
เย่หนานยิ้มแล้วตบหลังของสวี่ชิง “อีกไม่กี่เดือนเอง อีกไม่นานก็กลับมาแล้ว ไม่ใช่ว่าโจวจินหนานใกล้จะกลับมาแล้วหรือ? ถึงแม่จะขัดหูขัดตาเขานิดหน่อย แต่ก็ให้เขาแสดงความจริงใจสักห้าเดือน ถ้าเขาทำให้ลูกผอมลงล่ะก็ แม่จะไม่ปล่อยเขาไว้เลยคอยดู”
สวี่ชิงร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก อยากจะทอดถอนใจกับความสามารถในการเปลี่ยนหัวข้อของเย่หนาน ทำให้เธอไม่มีแรงพอจะเสียใจ แล้วเริ่มสาธยายข้อดีของโจวจินหนาน
เย่นหานเพียงฟังยิ้มหลังฟังจบก็ไม่ให้คะแนนอะไรทั้งสิ้น “แม่ไปแล้ว ทิ้งแมวดำไว้ให้ลูกนะ อย่าคิดว่าวัน ๆ มันไม่สนใจใครล่ะ ที่จริงแล้วมันร้ายกาจมาก คนธรรมดาสู้มันไม่ไหวหรอก”
สวี่ชิงพยักหน้า “ได้ค่ะ แม่ เสื้อซับในที่ฉันให้แม่มีช่องกระเป๋าหนึ่งช่อง ในนั้นใส่เงินเอาไว้ ถ้าแม่เจออะไรที่อยากได้ก็ซื้อ ถ้าเงินไม่พอก็โทรศัพท์บอกฉัน ฉันจะส่งเงินไปให้อีก”
เย่หนานประหลาดใจ แล้วก็หัวเราะออกมา ยื่นมือไปลูบศีรษะของสวี่ชิง “ชิงชิงของเราโตแล้ว ถึงกับให้เงินแม่ได้แล้วด้วย”
ถึงจะยังตัดใจไม่ได้ แต่อย่างไรก็ต้องจากกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น เหยียนจี้ชวนขับรถไปส่งเหยียนป๋อชวน เย่หนาน และเฟิงซูฮวาที่สถานี
เพื่อให้ออกจากบ้านได้สะดวก สวี่ชิงได้ทำหมวกฟางเย็บผ้าคลุมไว้ให้เย่หนานด้วบใบหนึ่ง แบบนี้ก็ไม่ต้องเป็นเป้าสายตาใครแล้ว
สวี่ชิงยืนหยัดจะไปส่งทั้งสามที่สถานี มองรถไฟที่กำลังออกไป ก็อดตาแดงไม่ได้ ยื่นมือมาเช็ดน้ำตา
เหยียนจี้ชวนสูบบุหรี่อยู่ด้านข้าง มองสวี่ชิงที่กำลังร้องไห้ “ดูสิอายุเท่าไหร่แล้ว ยังจะร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่อีก ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไปไม่กลับมาสักหน่อย”
สวี่ชิงเช็ดน้ำตา “อาเห็นฉันโง่จริง ๆ เหรอคะ คุณย่ากับพ่อกำลังคิดหาวิธีช่วยชีวิตแม่ของฉันอยู่ ไปเคารพหลุมศพที่ไหนกัน ก็แค่เรื่องที่กุขึ้นมาหลอกฉันเท่านั้นเอง”
เหยียนจี้ชวนมองสวี่ชิงอย่างประหลาดใจ “เธอรู้เหรอ?”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ชิงชิงฉลาดเหมือนแม่เลย แปบเดียวก็รู้แล้วว่าไปยูนนานกันเพื่อไปทำอะไร
ไหหม่า(海馬)