เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 303 พ่อจะคอยสนับสนุนเธอ
บทที่ 303 พ่อจะคอยสนับสนุนเธอ
เย่หนานพูดจบก็เดินมาอยู่ตรงหน้าของสวี่จื้อกั๋ว ยังไม่ทันที่เหยียนป๋อชวนจะได้สติ ปลายเท้าหล่อนก็กระทุ้งเข้าที่ท้องของสวี่จื้อกั๋วแล้ว
เพียงชั่วอึดใจเดียว สวี่จื้อกั๋วก็เริ่มกลิ้งไปกับพื้น แต่ไม่ส่งเสียงออกมาเลยสักนิด
เหยียนป๋อชวนอดลูบหน้าไม่ได้ ขนาดป้องกันเพียงนี้แล้ว เย่หนานยังสามารถวางยาพิษได้อีก
รู้สึกว่าร่างกายของหล่อนทุกซอกทุกมุมจะมีแต่พิษ
เขายื่นมือมาดึงแขนหล่อนและก้าวถอยสองก้าว “คุณอย่าขยับ ให้ผมจัดการเอง”
เย่หนานแค่นเสียงหึอย่างเย็นชา “ลูกสาวของฉัน ใครก็รังแกไม่ได้ทั้งนั้น”
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไอ้ชั่วสารเลวสวี่จื้อกั๋ว!
สวี่ชิงมองท่าทางปกป้องลูกของเย่หนาน ดวงตาก็พลันแดงระเรื่อ การถูกแม่ปกป้องอย่างไร้เงื่อนไขช่างรู้สึกดีจริง ๆ จึงเดินไปกอดไหล่เย่หนาน “แม่คะ ฉันโตแล้วนะ จัดการเรื่องพวกนี้ได้แล้ว”
เย่หนานมองสวี่จื้อกั๋วที่กลิ้งอยู่บนพื้น แค่นหึคำหนึ่ง “คนแบบนี้ ควรทำให้มันเป็นใบ้ไปเลย”
เหยียนป๋อชวนรู้ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับสวี่จื้อกั๋วที่บ้านสวี่ชิง ก็จะสร้างปัญหาให้สวี่ชิงได้ จึงหันมาหาเย่หนาน “คุณแก้พิษให้เขา ให้เขาออกไปก่อน”
เย่หนานมองอย่างโมโห “คุณยังคิดจะไว้ชีวิตมันอีกเหรอ? มันพูดจาไร้สาระมาดขนาดนั้น ก็ให้มันเป็นใบ้ไปตลอดชีวิตนั่นแหละ!”
เหยียนป๋อชวนเตือนยังใจเย็น “ตอนนี้เขาอยู่ในบ้านชิงชิง ถ้าพวกเราทำให้เขาเป็นอะไรที่นี่ ต่อไปจะไม่เป็นผลดีกับชิงชิง กลับไปผมค่อนจัดการเขาอีกที ดีไหม?”
แม้ว่าเย่หนานจะดื้อดึง แต่ก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล ได้ยินเหยียนป๋อชวนพูดแบบนี้ หล่อนก็ปัดมือ ทำให้ยากระเด็นออกมาจากกระเป๋ากางเกงเม็ดหนึ่ง ก่อนกลิ้งหลุน ๆ ที่พื้น “รีบกินแล้วไสหัวไปให้พ้นๆ”
สวี่จื้อกั๋วไม่สนใจว่าจะมีฝุ่นคือไม่แล้ว คว้ายาเข้าปากได้ก็พยายามกลืนลงไป
ไม่เกินสองหรือสามนาที ความเจ็บปวดก็หายไป และส่งเสียงพูดได้แล้ว แต่เสียงยังแหบเล็กน้อย “เย่หนาน ๆ ฉันไม่เคยคิดทำร้ายเธอเลยจริง ๆ …..”
“ไสหัวไป!”
เย่หนานตะโกนลั่น ราวกับว่าถ้าสวี่จื้อกั๋วยังไม่ไปอีก วินาทีถัดไปหล่อนจะทำให้เขาอยู่แบบไม่สู้ตาย
สวี่จื้อกั๋วไม่กล้าพูดไร้สาระอีก รีบลุกขึ้นมาและทำท่าวิ่งออกไป
เหยียนป๋อชวนใช้เท้าเขี่ยเตะมีดปังตอ “เอานี่ไปด้วย”
สวี่จื้อกั๋วหันกลับมาก้มเก็บมีดอีกครั้ง แล้ววิ่งออกไปแบบไม่หันกลับมา ราวกับมีหมาป่าไล่อยู่ข้างหลังอย่างไรอย่างนั้น
เหยียนป๋อชวนมองสวี่จื้อกั๋ววิ่งไปแล้ว ก็หันมาอธิบายกับเย่หนานเสียงเบา “พวกเราจะจัดการเขาในบ้านของชิงชิงไม่ได้ เพราะหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง…”
เย่หนานส่งเสียงหึคำหนึ่ง เดินไพล่หลังกลับเข้าห้อง
เหยียนป๋อชวนรีบตามเย่หนานไป และแก้มัดผ้าพันคอสีแดงที่ยังมัดมือหล่อนอยู่
สวี่ชิงรู้สึกตัวเองถูกมองข้ามอีกครั้ง พ่อแม่กลับไม่ถามเธอสักคำ?
แต่ก็อดรู้สึกอยากหัวเราะไม่ได้ รู้สึกว่าพ่อแม่ตอนนี้เหมือนคู่รักทะเลาะกัน แล้วรู้สึกถึงความอ่อนโยนหวานล้ำอย่างไรไม่รู้
…………
สวี่จื้อกั๋วเหน็บมีดปังตอไว้ข้างเอว เดินไปตามถนนด้วยท่าทางเหม่อลอย
เย่หนานกลับมาแล้ว หล่อนหาผู้ชายที่ต้องการหาเจอแล้ว ครอบครัวพวกเขาจะได้อยู่ร่วมกันสามคนแล้ว!
ส่วนเขาล่ะ? ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว งานก็ไม่มี บ้านก็ไม่มีแล้วเช่นกัน ก่อนหน้านี้มีแต่คนอิจฉาเขา ตอนนี้ใคร ๆ ต่างก็ดูถูกเขา
ระหว่างเดินอยู่ก็เกิดภาพหลอนขึ้นมาไม่รู้ตัว คิดว่าคนบนถนนต่างก็ชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
“ดูสิ คนนั้นไงที่เป็นไอ้งั่งแล้วยังดีใจอยู่ได้”
“เหอะๆๆ คิดไม่ถึงว่าจะเลี้ยงลูกสาวที่ไม่ใช่ลูกตัวเองมายี่สิบปีเชียวนะ”
“สมน้ำหน้าแล้ว เขาอยากฆ่าภรรยาตัวเองแล้วไปแต่งกับผู้หญิงคนอื่นเอง”
สวี่จื้อกั๋วกุมศีรษะแน่น ไม่ใช่นะ เขาไม่เคยคิดจะทำร้ายเย่หนานเลย เย่หนานต่างหากที่ไม่ยอมใช้ชีวิตกับเขาดี ๆ
เป็นเย่หนานที่ไม่เคยให้เขาแตะต้องตัวเลย
คิดไปก็วิ่งไป เพียงชั่วหายใจก็วิ่งมาถึงบ้านเก่าที่เคยอยู่
ฟางหลานซินเพิ่งทะเลาะกับฉินกุ้ยจือไปรอบหนึ่ง ตอนนี้กำลังโมโหไม่มีที่ระบาย ไม่ว่าอย่างไรหล่อนก็ญาติดีกับฉินกุ้ยจือไม่ได้แล้ว จึงคิดจะให้สวี่หรูเยว่หย่ากับหลี่ต้าหย่ง
อย่างเลวร้ายที่สุดพวกหล่อนสองแม่ลูกก็แค่ไม่อยู่ที่นี่และย้ายไปใช้ชีวิตที่ภาคใต้
ตอนที่หล่อนกำลังโมโหอยู่ในบ้าน สวี่จื้อกั๋วก็เดินหน้าดำทะมึนเข้ามา ดวงตาถมึงทึงเต็มไปด้วยเส้นเลือดจ้องมองฟางหลานซิน ดูราวกับจะฉีกอีกฝ่ายเป็นชิ้น ๆ
ฟางหลานซินตกใจ คิดไม่ถึงว่าสวี่จื้อกั๋วจะปรากฏตัว จู่ ๆ ก็คิดถึงแก้วน้ำที่เย่หนานให้ จึงค่อย ๆ ดึงสติกลับมา “คุณมาทำอะไร?”
สวี่จื้อกั๋วไม่พูดไม่จา เพียงจ้องหล่อนเขม็ง
ในใจฟางหลานซินพลันรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมานิดหน่อย “งั้นเดี๋ยวฉันรินน้ำให้นะ”
สวี่จื้อกั๋วไม่ได้ขัดขวาง เพียงใช้สายตามองตามฟางหลานซินไปเทน้ำเดินมา รับแก้วมาแล้วดื่มอึกๆ อย่างโมโห จากกนั้นก็โยนแก้วชาลงพื้น จ้องฟางหลานซินอย่างดุร้าย “เย่หนานกลับมาแล้ว คุณรู้หรือเปล่า?”
ฟางหรานพยักหน้า “รู้ แต่หล่อนตอนนี้ดูขี้เหร่มาก”
สวี่จื้อกั๋วยกมือขึ้นตบหน้าหล่อน “นังแพศยา! นังแพศยา! แกเป็นคนทำลายชีวิตฉัน!”
เดิมฟางหลานซินยังกลัวสวี่จื้อกั๋วอยู่บ้าง แต่พอถูกตบหน้าอย่างกะทันหันก็โมโหขึ้นมาบ้างแล้ว “สวี่จื้อกั๋ว แกกล้าตบฉันเหรอ! หรือว่าเห็นเย่หนานกลับมาก็เกิดนึกถึงความหลังขึ้นมา? น่าเสียดายที่ต่อให้เขากลายเป็นคนอัปลักษณ์ขนาดนั้นแล้วก็ยังไม่ชอบแกอยู่ดี”
“แกสวี่จื้อกั๋วมีดีอะไรเหรอ? แกคิดว่าตัวเองวิเศษวิโสมาจากไหน ถึงว่าล่ะเย่หนานถึงไม่เคยมองแกเลย แม้กระทั่งฉันยังรังเกียจแกด้วยซ้ำ”
น้ำเสียงทั้งเสียดสีทั้งทิ่มแทง ในเวลาเดียวกันคำพูดก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
“แกดูสิว่าตัวเองยังเหมือนผู้ชายคนหนึ่งอยู่ไหม? สมน้ำหนักที่แกโดนคนอื่นว่าเอาว่าเป็นไอ้งั่ง ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะฉันไม่มีทางเลือก แกคิดว่า แกคิดว่าฉันจะตามไปกับแกเหรอ?”
สวี่จื้อกั๋วถูกกระตุ้นจนบันดาลโทสะสูญสิ้นสติสัมปชัญญะ หยิบมีดปังตอที่เหน็บอยู่ข้างเอวแล้วพุ่งเข้าใส่ฟางหลานซินอย่างเดือดดาลทันที…..
…….
วันถัดมาสวี่ชิงก็ได้ยินว่าสวี่จื้อกั๋วใช้มีดฟันฟางหลานซินจนตาย และตัวเขาเองก็ตายอยู่ข้างฟางหลานซิน
คนอื่นเดาว่า เป็นสวี่จื้อกั๋วที่ฆ่าฟางหลานซิน จากนั้นเขาก็ฆ่าตัวตายตาม
เนื่องจากฟางหลานซินทำลายครอบครัวของเขา และยังสวมหมวกเขียวให้เขาด้วย ผู้ชายที่ไหนจะยอมรับได้กันล่ะ?
เพียงแต่เรื่องนี้ก็ผ่านมานานแล้ว แต่ทำไมสวี่จื้อกั๋วถึงเพิ่งลงมือทำร้ายฟางหลานซิน เรื่องนี้คนอื่นคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก
เย่หนานทราบข่าวแล้วก็แทะเมล็ดแตง ทอดถอนใจอย่างรังเกียจไปด้วย “สองคนนั่นตายแบบนี้เหรอ? น้อยเกินไปสำหรับพวกเขาด้วยซ้ำ ฉันยังเล่นไม่พอเลย”
เหยียนป๋อชวนนั่งกะเทาะเมล็ดแตงอย่างระมัดระวัง แล้วอธิบายด้วยน้ำเสียงระรื่น “ทางตำรวจกำลังตรวจสอบเรื่องนี้ ถึงตอนนั้นจะต้องรู้แน่ว่าที่สุดท้ายที่สวี่จื้อกั๋วมาก็คือบ้านพวกเรา และก็คงถามชาวบ้านรอบ ๆ ด้วย”
เพราะถึงอย่างไรเพื่อนบ้านก็น่าจะได้ฟังเรื่องที่พวกเขาทะเลาะกันเมื่อวานอยู่บ้าง
สวี่ชิงลูบคางนั่งลงข้างเย่หนาน มองเหยียนป๋อชวนกะเทาะเมล็ดแตงเตรียมจะป้อนเย่หนานแล้วก็ยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนนั้นเขาเป็นฝ่ายด่าฉันตลอด ฉันถึงค่อยกระตุ้นเขา ถึงตอนนั้นฉันค่อยอธิบายให้พวกเขาฟังเอง”
เย่หนานมองสวี่ชิงอย่างยากจะอธิบายแวบหนึ่ง “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับลูกสักนิด ไม่ใช่ว่าพ่ออยู่นี่เหรอ? ให้เขาไปจัดการสิ”
รอยยิ้มของเหยียนป๋อชวนจางลงเล็กน้อย แต่ยังคงมองเย่หนานอย่างรักใคร่ “คุณฉลาดจริง ๆ ผมจะไปหาคนมาจัดการเรื่องนี้เอง”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ศัตรูชิงชิงโดนสอยร่วงไปแล้วสอง ไปใช้กรรมในนรกต่อนะ
แสดงว่าคุณแม่เริ่มยอมรับคุณพ่อแล้วใช่ไหม
ไหหม่า(海馬)