เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 238 เรื่อง
บทที่ 238 เรื่อง
เธอลุกขึ้นกอดเฟิงซูฮวาด้วยความทุกข์ใจ “เราอย่าพูดถึงเรื่องนี้กันอีกเลยค่ะ อย่าพูด…”
ฟางซูฮวาเอื้อมมืออกไปลูบหลังสวี่ชิง “ไม่เป็นไร นั่นมันก็นานนมแล้ว ย่าทำใจได้แล้วล่ะ ขอแค่ปู่ของหลานได้รับการช่วยเหลือ แค่นั้นก็คุ้มค่าแล้ว”
ดวงตาของสวี่ชิงกลายเป็นสีแดงก่ำ “แต่คุณย่าคะ หยวนฮวาเป็นคนโง่เขลาที่สุด”
เฟิงซุฮวาเงียบไปครู่หนึ่ง “ตอนสองสามปีแรกย่าเกลียดหล่อนมาก แต่หลังจากนั้นมาก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดแล้วล่ะ เพราะว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ต่อให้ย่าไม่มีลูกหลาน แต่ปู่หลานก็ดูแลย่าอย่างดี เพียงแต่ขั้นตอนการรักษาค่อนข้างล่าช้า ร่างกายของปู่หยั่งลึกไปถึงโรคร้าย ไหนจะโภชนาการทางอาหารที่ไม่ดี ทำให้ปู่จากไปก่อนวัยอันควร”
ถอนหายใจหลังจากพูดจบ “แต่ไปได้ก็ดี เพราะถ้าวันไหนฝนโปรยปรายทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ร่างกายคงต้องทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวด”
น้ำตาของสวี่ชิงยังคงพรั่งพรูออกมา “นี่ไม่ดีเลยนะคะคุณย่า เป็นฉันคงปล่อยวางไม่ได้”
เฟิงซูฮวาหัวเราะ และตีหลังสวี่ชิงเบา ๆ “ไม่เป็นไรหรอก พ่อของหลานเป็นคนดี ย่าหลานเองก็ไม่แย่ แค่ตอนเด็กหล่อนดื้อรั้นไปหน่อย พอได้เข้าไปเรียนสองสามวันคงจะคิดว่าตนเป็นคนยุคสมัยใหม่ คิดว่าตนเองเก่ง และคิดว่าเรื่องจะคลี่คลายลงหลังจากผ่านมานานหลายปี”
สวี่ชิงสูดจมูก “คุณย่าคะ คุณย่าใจดีจังค่ะ ถึงกับพูดปกป้องหล่อนด้วย”
เฟิงซูฮวายังคงยิ้มเหมือนเช่นเคย “ไม่ใช่ว่าแก้ตัวหรอกนะ แต่ย่าแค่รู้จักปล่อยวาง เพราะครั้งนั้นย่าถึงได้เจอกับคนที่เก่งกาจมาก ทักษะฝีมือเกือบครึ่งย่าก็เรียนรู้มาจากหล่อน แต่น่าเสียดายที่นานมาแล้ว ไม่รู้ว่าหล่อนจะยังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า กลัวว่าชาตินี้จะไม่ได้เห็นอย่างนั้นอีก”
สวี่ชิงรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยินคำปลอบโยนของเฟิงซูฮวา ถ้าคุณทำผิดนั่นหมายความคุณทำผิด คุณไม่สามารถลบล้างความผิดเพียงเพราะว่าคุณเป็นเด็กและไม่รู้ความได้
ยิ่งไปกว่านั้น ทัศนคติของหยวนฮวาในวันนี้ดูไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย
ดังนั้นเธอจึงไม่มีความประทับใจที่ดีต่อคุณย่าคนนี้
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง เหยียนป๋อชวนยังคงถามซักไซ้หยวนฮวาว่ารู้จักกับเฟิงซูฮวาได้อย่างไร
หยวนฮวาตอบคำถามเช่นเดียวกับเฟิงซูฮวา เพียงแต่พวกนางมีจุดยืนที่แตกต่างกัน “เดิมทีเฟิงซูฮวาชื่อว่าเฟิงจิ่นฮวา แต่ไม่รู้ว่าทำไมหล่อนถึงเปลี่ยนชื่อ หล่อนเป็นคนดีมาก แต่ความคิดกลับถูกพวกเศษซากศักดินาครอบงำ ไม่เชื่อในแพทย์แผนตะวันตก แต่กลับเชื่อวิธีการรักษาทางพื้นบ้าน”
ยิ่งพูดมากเท่าไรก็ยิ่งฮึกเหิมมากเท่านั้น “ตอนนั้นแม่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสวี่ฉงกวงถูกกู่ครอบงำ แต่ต่อให้เขาจะโดนพิษกู่ แพทย์แผนตะวันตกก็สามารถรักษาเขาได้ ทำไมจะรักษาไม่ได้ล่ะ? ตอนนี้แม่ถึงได้นำทีมวิจัยหัวข้อนี้อยู่ไง”
“สวี่ฉงกวงตกอยู่ในโรคร้าย ส่วนเฟิงซูฮวาแท้งลูก แม่เองก็เสียใจมาก แต่ถ้าหล่อนฟังแม่สักหน่อย ทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้ ถึงจะตามหาหมอพื้นเมืองจนเจอ แต่มันก็เป็นแค่การกระทำที่ไม่คิดไตร่ตรองให้ดี และสุดท้ายก็ไม่ยอมบอกว่ากู่คืออะไร”
เหยียนป๋อชวนขมวดคิ้ว “แม่ ถึงทฤษฎีของแม่จะถูกต้อง แต่แม่ก็ต้องเชื่อว่ายังมีคนแปลก ๆ อยู่ในโลกนี้อีกเยอะแยะ อย่าเหมารวมเอาอย่างเดียวสิครับ”
ยิ่งไปกว่านั้นเขาเคยเห็นเย่หนานใช้พิษมาก่อน และนั่นคือหญิงสาวอาบยาพิษตัวจริง
ท่าทางของหยวนฮวาดูจริงจังขึ้น “ป๋อชวน เกิดอะไรขึ้นกับลูก? ลูกเชื่อในเรื่องลี้ลับพวกนี้งั้นเหรอ? ตอนนี้เรากำลังกำจัดเศษเสี้ยวศักดินาพวกนี้ออกไปอยู่นะ ยึดมั่นในวิทยาศาสตร์ซะ”
เหยียนป๋อชวนถึงกับพูดไม่ออก “ผมไม่รู้หรอกว่าแม่จะคิดยังไง แต่ผมอยู่ข้างชิงชิง และแม่ควรปล่อยวางความคิดพวกนี้ซะ อีกอย่างผมจะอยู่ข้างคุณป้าด้วย ถ้าแม่ไม่อยากรับรู้ก็ไม่ต้องรับรู้”
หยวนฮวาขมวดคิ้ว “ลูกหมายความว่ายังไง? ช่างเถอะ แม่ไม่สนหรอก แม่ว่าชิงชิงก็ดูดีอยู่ เหมือนกับแม่ของหล่อนไหมล่ะ?”
เหยียนป๋อชวนพูดพึมพำ “คล้ายกันมาก”
หยวนฮวาเงียบไปครู่หนึ่ง “แม่ของชิงชิงไม่อยู่แล้วจริง ๆ เหรอ?”
“น่าจะยังมีชีวิตอยู่” เหยียนป๋อชวนไม่รู้ว่าเขาควรจะเริ่มมองหาหล่อนจากที่ไหนดี และคงต้องใช้เวลาอีกวันถึงสองจึงจะคิดออก
หยวนฮวาแสดงความคิดเห็น “ถึงจะหาเจอ แต่ก็ผ่านไปแล้วตั้งหลายปี หล่อนคงจะใจโหดเหี้ยมไม่อยากได้ลูกคืนแล้วมั้ง บางทีหล่อนอาจจะแต่งงานมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว ให้แม่พูดเถอะ อย่าตามหาจะดีเสียกว่า อีกอย่างเสวี่ยอิงก็รอลูกมาหลายปีแล้ว ลูกไม่สะเทือนใจบ้างเลยเหรอ?”
ใบหน้าของเหยียนป๋อชวนดูเกรี้ยวโกรธขึ้น “แม่ ผมหวังว่าหลังจากนี้ไปแม่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก สำหรับผม เสวี่ยอิงไม่ใช่น้องสาวด้วยซ้ำ หล่อนเป็นแค่คนแปลกหน้า”
เมื่อพูดจบ เขาก็เดินตึงตังออกไปด้วยความโกรธ
หยวนฮวาโกรธมากเมื่อเห็นเหยียนป๋อชวนเดินออกไป และรีบเดินไปคว้าเขาเอาไว้ “งั้นฉันก็จะไม่พูดอะไรเหมือนกัน ถ้าแกไม่อยากฟังก็อย่าพูดถึงมันอีก”
เหยียนป๋อชวนรู้สึกทุกข์ใจกับปฏิกิริยาของหยวนฮวา ฝีเท้าของเขาก้าวช้าลง ขณะที่สีหน้ายังดูขุ่นเคือง
เดิมทีหยวนฮวาต้องการจะพูดเกี่ยวกับสวี่ชิง แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่มืดหม่นของลูกชาย สุดท้ายก็กล้ำกลืนคำพูดดังกล่าวลงคอ
……
คำพูดของเฟิงซูฮวาทำให้สวี่ชิงยืนหยัดอยู่ข้างหญิงชราอย่างมั่นคง
ไม่ว่าหยวนฮวาจะมีเจตนาดีหรือไม่ก็ตาม แต่การก้าวก่ายชีวิตของผู้อื่นเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจที่สุด
ดังนั้นเธอจะไม่สนใจหยวนฮวาอีก และเตรียมของไปสถานพยาบาลผู้สูงอายุกับเฟิงซูฮวาอย่างกระตือรือร้น เธอหวังว่าหยวนฮวาจะจากไปหลังจากที่พวกเธอกลับออกมา
ไม่ว่านางจะกลับไปที่เมืองหลวงเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือศาสตราจารย์ นั่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเธอ
ดูเหมือนว่าเฟิงซูฮวาจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร อีกทั้งยังร้อยเชือกป่านอย่างมีความสุข และเตรียมมันใส่ไว้ในกระเป๋า
สวี่ชิงสงสัย “คุณย่าคะ จะเอาเชือกป่านไปทำอะไรคะ? เราอยู่กันแค่สองวัน ไม่ต้องใช้มันหรอกค่ะ”
พวกเธอไม่ได้เพาะปลูกพืชพันธุ์หรือเลี้ยงปศุสัตว์ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้เชือกพวกนี้
เฟิงซูฮวายิ้มอย่างมีเลศนัย “นี่ไม่ใช่เชือกป่านธรรมดา มันอาจจะมีประโยชน์ก็ได้”
หลังจากพูดจบ คำถามก็ผุดขึ้นมาในหัว “หยวนฮวาไม่รู้ว่าหลานท้องใช่ไหม?”
สวี่ชิงส่ายหน้า “ไม่รู้ว่าพ่อได้บอกหรือเปล่าค่ะ”
เฟิงซูฮวาไม่พูดอะไรต่อ ก้มเก็บขวดทั้งหลายใส่กระเป๋า
……
เหยียนป๋อชวนไปส่งหยวนฮวาที่โรงแรม และรู้สึกว่าการพาหยวนฮวามาที่จังหวัดเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์ อีกทั้งยังรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
นั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่เห็นสีหน้าที่มีความสุขของหยวนฮวา หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง หยวนฮวาไม่รู้สึกตื่นเต้นแม้แต่น้อยทั้งที่รู้ว่าเขามีลูก
เขาคิดว่าสาเหตุคงมาจากการที่ไม่เคยเห็นลูกมาก่อน และตอนนี้เขาคงคิดมากไป
หลังจากออกมาจากโรงแรม เขาก็พบว่าเหยียนจี้ชวน โจวจินหนานและสวีหย่วนตงกำลังรออยู่ในรถจี๊ป
เหยียนป๋อชวนเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าไปในรถและถามเหยียนจี้ชวนว่า “เจอไหม?”
เหยียนจี้ชวนหัวเราะฮึ “วางใจได้ ต่อให้เป็นสวี่จื้อกั๋วก็เอาอยู่ เกาจ้านกำลังจับตาดู เรารีบไปกันเถอะ”
การจับตัวสวี่จื้อกั๋วมาสอบปากคำเป็นเรื่องที่น่าขายขี้หน้ามาก และเพื่อป้องกันไม่ให้สวี่จื้อกั๋วพูดจาสับขาหลอก พวกเขาจะต้องใช้วิธีการที่มีลับลมคมนัย
เหยียนป๋อชวนโบกมือ “ไปเถอะ”
ทันทีที่เหยียนจี้ชวนสตาร์ทรถ เขาก็ได้ยินเหยียนป๋อชวนพูดว่า “พรุ่งนี้นายซื้อตั๋วขากลับให้แม่ด้วยนะ”
เหยียนจี้ชวนไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม แต่ตอบกลับด้วยการพูดอีกเรื่องแทน “กังวลว่าแม่จะให้นายหาแม่เลี้ยงให้ชิงชิงหรือไง? แต่ตอนที่พี่ไปเตียนหนาน เจียงเสวี่ยอิงส่งเสื้อผ้า รองเท้า และพวกยาให้พี่ไม่น้อยเลยนะ”
เหยียนป๋อชวนเลิกคิ้ว “อะไรนะ?”
โจวจินหนานรีบจ้องไปทางเหยียนป๋อชวนด้วยความสงสัยในทันที!
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มันเกิดจากความที่ย่าแต่ละคนยึดในอุดมการณ์ของตัวเองด้วยแหละ มันก็เลยขัดแย้งกันจนไม่มีทางคลิกติด
ไหหม่า(海馬)