เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 23 พี่จะรังเกียจฉันไหม ถ้าจะจับมือพี่ไว้
บทที่ 23 พี่จะรังเกียจฉันไหม ถ้าจะจับมือพี่ไว้
โจวจินหนานยังคงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมือออกไปเพื่อแก้ผ้าก๊อซสีขาวที่อยู่ข้างหน้าชายหนุ่ม
รูปตาของเขาสวยมาก มันดูราวกับดวงตาของหงส์ทั้งในและนอก ชั้นตาแคบและมีรอยพับเล็กน้อย
เพียงแต่ว่าดวงตาที่ควรจะเป็นสีขาวดำกลับถูกปกคลุมไปด้วยชั้นของลิ่มเลือด
เป็นอะไรที่น่ากลัวไม่น้อย
เฟิงซูฮวาชำเลืองมอง “เอาล่ะ พันผ้าก๊อซก่อน แล้วส่งมือซ้ายให้ฉัน”
โจวจินหนานทำตามนั้น หลังจากปิดผ้าก๊อซแล้วก็ยื่นมือซ้ายให้เฟิงซูฮวา
เฟิงซูฮวาแตะชีพจรเบา ๆ หลับตาและขมวดคิ้ว
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ปล่อยมือ “เธอรู้จักตัวตนของฉันเมื่อไหร่?”
โจวจินหนานตอบอย่างตรงไปตรงมา “ครั้งก่อนที่ผมมาที่นี่ครับ เดิมทีผมมาเพื่อรับการรักษา แต่ผมเห็นรูปของสวี่ชิงในห้องของคุณ เลยเปลี่ยนใจชั่วคราว”
เฟิงซูฮวาพอใจกับคำตอบนี้มาก “เธอได้รับบาดเจ็บมานานแค่ไหนแล้ว? แล้วเธอได้รับบาดเจ็บมาได้อย่างไร?”
โจวจินหนานเงียบไปครู่หนึ่ง โดยหลีกเลี่ยงส่วนที่เขาไม่สามารถพูดได้ “ผมได้ภารกิจลับอีกครั้ง หลังจากที่ผมเกษียณจากแนวหน้า ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ภาคใต้ของยูนนาน เพื่อช่วยเหลือตัวประกัน ฝ่ายตรงข้ามถูกยิง และหลังจากนั้นหนึ่งเดือนเขาก็หายตัวไปโดยไม่มีเหตุผล”
เฟิงซูฮวาพยักหน้า “ยังมีอีกไหม อาการที่นอกเหนือจากการมองเห็นน่ะ?”
โจวจินหนานอดไม่ได้ที่จะกำมือแน่น “บางครั้งจะมีความปรารถนาที่ควบคุมไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมสามารถควบคุมได้แล้วครับ”
เฟิงซูฮวาถอนหายใจอย่างสบาย ๆ “มันอาจจะลำบากหน่อย แต่เธอต้องรอสักพักแล้วล่ะ”
โจวจินหนานเลิกหวังในการฟื้นฟู “ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ผมกำลังตั้งใจเรียนรู้อักษรเบรลล์อย่างหนัก ถ้าผมไม่สามารถกลับไปทำงานในหน่วยเดิมได้ ผมก็ยังดูแลสวี่ชิงเป็นอย่างดีได้”
เฟิงซูฮวายิ้ม “เธอมีจิตใจที่ดีนะ ชิงชิงเป็นเด็กที่มีจิตใจบริสุทธิ์และเรียบง่าย ปฏิบัติต่อหล่อนให้ดี ใครที่ดีต่อหล่อน หล่อนก็ดีด้วย หล่อนน่ะทุกข์ง่าย เธอแก่กว่าหล่อนสองสามปี และจำเป็นต้องช่วยหล่อนมากกว่านี้ในอนาคตนะ”
โจวจินหนานพยักหน้า “วางใจได้ครับคุณย่า ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกหล่อนแน่นอน”
เฟิงซูฮวายังคงต้องการจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นสวี่ชิงกลับมาพร้อมกับอ่างและห่อแป้งทอดในมือ นางก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ชิงชิงกลับมาแล้ว ฉันจะเตรียมโต๊ะกินข้าวนะ”
โจวจินหนานช่วยไม่ได้ แม้ว่าเขาอยากจะช่วย เขาทำได้เพียงนั่งรอ
สวี่ชิงกลับมาพร้อมกับหม้อเกี๊ยวและแป้งทอด เธอยื่นของให้เฟิงซูฮวา ย้ายโต๊ะอย่างเรียบร้อย วางลง และรีบวิ่งไปล้างมือ
เมื่อกลับมา เฟิงซูฮวาก็หยิบชามและตะเกียบขึ้นมาเตรียมคีบเกี๊ยวแล้ว
สวี่ชิงหยิบแป้งทอดไปให้โจวจินหนาน “พี่ใหญ่โจว ลองกินแป้งทอดดูสิคะ ฉันเห็นว่ามีคนเยอะมากที่ซื้อร้านนี้ พวกมันต้องอร่อยแน่ ๆ ค่ะ”
เฟิงซูฮวาถาม “ใช่ผู้หญิงอ้วนที่ขายไหม?”
สวี่ชิงพยักหน้า “ใช่ค่ะ มันมาจากครอบครัวของหล่อน ฉันรู้สึกว่าแป้งทอดร้านนั้นชิ้นใหญ่และสวยงาม มีผู้คนต่อแถวซื้อเยอะแยะเลยค่ะ”
เฟิงซูฮวาเหล่มองและยิ้ม “ใช่ ย่ายังซื้อแป้งทอดของหล่อนในทุกครั้งเลย และมันก็อร่อยมาก พวกเธอควรรีบกินซะนะ”
สวี่ชิงพบว่าเฟิงซูฮวาที่บอกว่าตนแก่แล้วและกินอาหารเช้ายาก ได้กินแป้งทอดสามชิ้นในคราวเดียวและกินเกี๊ยวอีกหนึ่งชามใหญ่
เมื่อคิดถึงแป้งในหม้ออีกครั้ง เธอก็ถามอีกคำถามหนึ่งว่า “คุณย่าคะ คุณย่าได้ใช่คูปองอาหารที่ฉันให้ไว้หรือเปล่า?”
เฟิงซูฮวาออกอาการอายเล็กน้อยและโบกมือ “ไม่เหลือแล้ว ๆ หมดแล้วล่ะ”
สวี่ชิงไม่เชื่อ หญิงชราจะกินแป้งข้าวเจ้ายี่สิบห้าชั่ง บวกกับเส้นก๋วยเตี๋ยวในเวลาน้อยกว่ายี่สิบวันได้อย่างไร
เมื่อเห็นว่าสวี่ชิงไม่เชื่อ เฟิงซูฮวาทำได้เพียงบอกความจริงด้วยความอับอาย
ปรากฎว่าหญิงชราก็มีนิสัยที่น่ารักมากเช่นกัน นางชอบกินขนม จึงมักจะเอาแป้งไปแลกขนม ขนมไข่ และขนมงากลับมากิน
ดังนั้นทุก ๆ ครั้งในชีวิต ครึ่งแรกของเดือนคุณย่าของเธอจะรวยมาก และครึ่งหลังของเดือนก็จนกรอบ
เช่นเดียวกับกลุ่มมนุษย์แสงเดือน*(1) ในยุคหลัง
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ สวี่ชิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เธอไม่ได้คาดหวังว่าคุณย่าจะมีด้านที่น่ารักเช่นนี้ “คุณย่า ขนมมันก็อร่อยอยู่หรอก แต่คุณย่ากินเป็นอาหารหลักไม่ได้นะคะ”
เฟิงซูฮวาพูดต่อโดยที่ไม่มีอะไรต้องอายแล้ว “ตอนเด็ก ๆ ย่ามักอยู่บ้าน อากาศดี ย่าเป็นผู้หญิงคนเดียวในรุ่น และไม่เคยได้กินขนมพวกนั้นมาก่อน ย่าเลยชอบขึ้นมาน่ะ”
ต่อมาในวันที่ยากลำบาก เฟิงซูฮวาก็กินกลีบดอกไม้ที่กินได้และเคี้ยวรากสมุนไพรรสหวานแทน
สวี่ชิงตัดสินใจไปตลาดหลังอาหารเย็นและซื้อขนมให้เฟิงซูฮวา ซึ่งคุณย่าก็ลังเลที่จะกินมากกว่านี้
…
หลังจากที่ฟางหลานซินกับสวี่จื้อกั๋วออกจากลานบ้านของเฟิงซูฮวา พวกเขาก็โกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างทาง
โดยเฉพาะฟางหลานซิน เมื่อนึกถึงความขี้ขลาดของสวี่จื้อกั๋วต่อหน้าเฟิงซูฮวาและสวี่ชิง หล่อนก็พลันโกรธขึ้นมาและบ่นอย่างไม่พอใจ “สวี่จื้อกั๋ว คุณคิดจะให้ฉันไปขอโทษสวี่ชิงเหรอ? ทั้งที่หล่อนปฏิบัติกับฉันอย่างนั้นเนี่ยนะ!”
“ทำไมเมื่อกี้ไม่พูดอะไรเลย คนอะไรจะรังแกได้ขนาดนี้! และแม่ของคุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่คุณให้ออกไป ทั้งที่ลานบ้านนั่นก็จะมีส่วนของคุณในอนาคตไม่ใช่รึไง”
“และก็หรูเยว่ ตอนนี้ทั้งแถวบ้านกำลังแพร่กระจายข่าวซุบซิบของหล่อน ต้องเป็นฝีมือนังสวี่ชิงแน่! แล้วแบบนี้ในอนาคตหรูเยว่จะเป็นอย่างไร?”
ฟางหลานซินนึกถึงตอนที่ตนออกมาในตอนเช้า หล่อนเห็นใบหน้าพึงพอใจของยัยลำโพงหม่าเสวี่ยหลาน และคนที่คอยมองหล่อนก็พากันกระซิบกับคนรอบข้าง แสดงออกเต็มอารมณ์!
ไม่ต้องคิดอะไรมากก็มองออกแล้ว!
ตอนนี้หล่อนแทบรอไม่ไหวที่จะฉีกสวี่ชิงเป็นชิ้น ๆ
สวี่จื้อกั๋วหงุดหงิดตั้งแต่แรกแล้ว พอฟางหลานซินพูดถึงเรื่องนี้ไม่หยุด เขาจึงคำรามอย่างไม่อดทน “พอแล้ว! ถ้าหรูเยว่ไม่ไปทำร้ายคนอื่นก่อน สวี่ชิงจะทำร้ายหล่อนได้เหรอ? ถ้าคุณไม่ไปยั่วโมโหชิงชิง ตอนนี้มันจะกลายเป็นแบบนี้เหรอ?”
”สวี่จื้อกั๋ว! ฉันจะไปยั่วโมโหหล่อนทำไม! ไม่เห็นเหรอว่าเมื่อกี้หล่อนจะจามฉันด้วยขวาน?”
สวี่จื้อกั๋วเป็นคนหน้าซื่อใจคดและขี้ขลาด เขาเหลือบมองฟางหลานซินด้วยใบหน้าที่มืดครึ้ม และเร่งฝีเท้าเพื่อกลับบ้าน
ฟางหลานซินมองแผ่นหลังของสวี่จื้อกั๋วอย่างโกรธจัด รู้ว่าชายคนนี้ไม่สามารถไว้ใจได้!
ฟางคุนที่ไม่ได้พูดมาซักพักก็พูดขึ้นว่า “เหอะ! สวี่จื้อกั๋วไอ้สารเลวนี่ไม่ได้ดีเท่าผู้ชายคนก่อนของเธอเลยนะ!”
ฟางหลานซินมองฟางคุนอย่างตื่นตระหนก “พูดไร้สาระอะไร! ”
หล่อนตัดสินใจแล้ว สวี่จื้อกั๋วไม่สามารถวางใจได้ และดูเหมือนว่าหล่อนต้องไปหาผู้ชายคนก่อนเท่านั้น
ไม่ว่าในกรณีใด หรูเยว่จะต้องได้แต่งงานเข้าตระกูลโจว!
…
สวี่ชิงล้างและจัดของเสร็จแล้ว และกำลังจะไปซื้อขนมให้เฟิงซูฮวาที่ตลาดใหญ่ เธอลองมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง
ทุกสิ่งหลังจากการเกิดใหม่ของเธอเต็มไปด้วยความแปลกใหม่
เดิมทีเธอต้องการให้โจวจินหนานอยู่บ้านและพูดคุยกับเฟิงซูฮวา แต่ไม่คิดเลยว่าโจวจินหนานจะลุกขึ้นยืนเช่นกัน “ผมจะไปกับคุณด้วย”
สวี่ชิงลังเล “ตลาดมีคนเยอะนะคะ ถ้าไปที่นั่นพี่จะพาไป๋หลางไปไม่ได้ พี่จะรังเกียจฉันไหม ถ้าจะจับมือพี่ไว้?”
ก่อนที่โจวจินหนานจะพูดอะไร มือขวาของเขาก็ถูกห่อด้วยมวลที่อ่อนนุ่ม
จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะของสวี่ชิง “เอาล่ะ พี่ต้องชินกับมันนะคะ ท้ายที่สุด มีหลายที่ที่ไป๋หลางไปไม่ได้ แต่ฉันไปได้”
เฟิงซูฮวากล่าวอย่างมีความสุข “หลานจะบอกว่าหลานดีกว่าไป๋หลางสินะ”
สวี่ชิงมองเฟิงซูฮวาที่แกล้งเธออย่างเขินอายและพูดอย่างอารมณ์ดี “คุณย่า…”
โจวจินหนานจับมือสวี่ชิงโดยไม่รู้ตัวและออกแรงอย่างช้า ๆ นอกจากเรื่องความรับผิดชอบแล้ว อารมณ์แปลก ๆ ก็ผุดขึ้นในหัวใจของเขาเช่นกัน…
……………………………………………………………………………………
月光族 เป็นแสลง หมายถึงมนุษย์เงินเดือนใช้เงินเดือนหมดก่อนที่จะถึงสิ้นเดือน
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เตรียมตัวรับข่าวฉาวของลูกสาวสุดที่รักที่บ้านให้ดีนะคะนังแม่เลี้ยง
คุณย่าน่ารักแหะ แต่ทำไมลูกชายถึงกลายเป็นแบบนั้นไปได้
เริ่มรักเขาแล้วล่ะสิจินหนาน เริ่มอยากแต่งกับเขาเพราะรัก ไม่ได้แต่งเพราะอยากรับผิดชอบเขาแล้ว
ไหหม่า(海馬)