เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 211 เขากำลังผิดหวังอะไรอยู่?
บทที่ 211 เขากำลังผิดหวังอะไรอยู่?
เหยียนจี้ชวนไม่มีเวลามาสนใจว่าเหยียนป๋อชวนจู่ ๆ มาหาเย่หนานทำไม ในใจคิดแค่จะรีบไปดึงตัวโจวจินหนาน ต้องให้เขาปั๊มลายนิ้วมือเป็นหลักประกันเขาถึงจะวางใจ
ดังนั้นจึงไม่ถามแม้แต่เหตุผล ดึงเหยียนป๋อชวนไปหาโจวจินหนาน
เหยียนป๋อชวนรู้สึกตกใจไปตลอดทาง สวี่ชิงเพิ่งอายุสิบเก้าปีเองไม่ใช่เหรอ คาดไม่ถึงว่าจะแต่งงานแล้ว แถมยังแต่งงานกับโจวจินหนาที่เย็นชาเหมือนก้อนหินนั่นด้วย
แม้ว่าเขาจะชื่นชมโจวจินหนานมาก และโจวจินหนานยังเคยช่วยเขา เขาก็ทราบถึงคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ใต้บังคับบัญชา บอกว่าเหล่าเหยียนชอบโจวจินหนานขั้นไหน ขาดก็แต่ไม่มีลูกสาวเท่านั้น ถ้ามีลูกสาวคงยกให้แต่งงานกับโจวจินหนานแล้ว
ตอนนั้นเขาเพียงแค่ฟังไม่ได้เก็บมาใส่ใจอะไร เนื่องจากเป็นชายโสดแก่ ๆ คนหนึ่ง ไม่มีลูกชายลูกสาว เรื่องเหล่านั้นย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น เขาจึงได้แต่เงียบแล้วปล่อยให้ทุกคนคิดไปอย่างนั้น
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน แม้จะไม่แน่ใจว่าสวี่ชิงคือลูกสาวตัวเองหรือไม่ แค่เพียงเธอหน้าตาคล้ายเย่หนานถึงเพียงนั้นก็คิดในใจแล้วว่าโจวจินหนานไม่เหมาะสมกับสวี่ชิง
ตอนทั้งสองมาถึงบ้านสวี่ชิง เกาจ้านก็ยังคงเกียจคร้านไม่จากไปไหน คุยโม้กับโจวจินหนานใต้ต้นไม้พร้อมกับดื่มชาไปด้วย
เฟิงซูฮวากลับห้องไปนอนกลางวันแล้ว สวี่ชิงเองก็เข้าไปเขียนแก้จดหมายในห้อง นำนโยบายที่ไม่ควรปรากฏในเวลานี้ออกแล้วเปลี่ยนวิธีการแบบใหม่เข้าไป
เหยียนจี้ชวนพาเหยียนป๋อชวนเข้ามาในสวน ทำเอาเกาจ้านตกอกตกใจจนสะดุ้งโหยงขึ้นมาจากเก้าอี้ ยืนตะเบ๊ะให้เหยียนป๋อชวน “ผู้การเหยียนสวัสดีครับ”
โจวจินหนานเองก็แปลกใจมากที่เหยียนป๋อชวนมาได้ ลุกขึ้นทำความเคารพเขา “ผู้การเหยียน”
เหยียนป๋อชวนพยักหน้าเล็กน้อย กวาดสายตามองบ้านหลังเล็ก สถานที่ไม่ใหญ่แต่กลับสะอาดมีระเบียบโดยไม่มีร่องรอยแล้วจึงกลับสายตากลับมา “ได้ยินว่าตาคุณหายดีแล้ว ผมเลยมาเยี่ยม”
เหยียนจี้ชวนมองเหยียนป๋อชวนอย่างสงสัย ไหนบอกมาถามเรื่องเย่หนาน ทำไมจู่ ๆ กลับเปลี่ยนมาสนใจโจวจินหนานแล้ว? ตอนนี้พี่ใหญ่เขาเองก็กลายเป็นคนเจ้าเล่ห์แบบนี้แล้วหรือ?
แต่เขาไม่คิดจะสนใจอะไรมาก ขอการรับรองจากโจวจินหนานต่อ “เมื่อคืนนายพูดจริง ๆ ใช่ไหม?”
โจวจินหนานพยักหน้า “จริง”
เหยียนจี้ชวนหันไปเย้ยหยันเกาจ้าน “นายได้ยินแล้วใช่ไหม โจวจินหนานยินดีจะไปกับฉันด้วยตัวเอง กลับไปพื้นที่ B ของพวกนายแล้วอย่าหาว่าฉันแย่งคนไปดื้อๆล่ะ”
เกาจ้านมองเหยียนจี้ชวนอย่างดูถูก “นายนี่มันหน้าไม่อายจริง ๆ คิดแต่จะดึงโจวจินหนานไป ตอนนี้ยังทำเหมือนคนไม่มีความผิดอีก”
สวี่ชิงได้ยินเสียงมาจากในสวน จึงมองลอดหน้าต่างออกไปมองเหยียนจี้ชวน ตอนที่เห็นผู้ชายข้าง ๆ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองเดาถูกแล้ว ว่าเขาคือเหยียนป๋อชวน
และเคยเป็นผู้บัญชาการของโจวจินหนาน
ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย จัดเสื้อผ้าแล้วออกมาจากในบ้าน ยิ้มทักทายคนในสวน สุดท้ายตอนที่เห็นเหยียนป๋อชวนก็หยุดนิ่งไปเล็กน้อย “สวัสดีค่ะผู้การ ฉันยังนึกจะขอบคุณเรื่องที่คุณช่วยฉันที่สถานีรถไฟเมื่อวานอยู่เลย แต่ไม่รู้จะหาคุณที่ไหน คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนใกล้ชิดกันนี้เอง”
ตอนเหยียนป๋อชวนเห็นสวี่ชิง สีหน้าเคร่งขรึมจริงจังก็ผ่อนคลายลงมาก ปฎิบัติกับสวี่ชิงอย่างใจกว้างและมีอัธยาศัย “เธอเองก็กล้าหาญเช่นกัน”
เหยียนจี้ชวนมองการแสดงออกที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเหยียนป๋อชวนอย่างแปลกใจ ตอบโต้อย่างมีมารยาทไปมาไม่จบเสียที ก็โบกมือ “มาๆๆ พวกเรามานั่งคุยกันเถอะ น้องสาว เธอเองก็ไม่ต้องเกรงใจ คนนี้คือพี่ใหญ่ผมเอง ไม่ต้องเรียกเขาว่าผู้การหรอก เรียกเขาว่าพี่ใหญ่เหยียนก็พอ”
สวี่ชิงเกรงใจที่จะเรียกเล็กน้อย มองเหยียนป๋อชวนที่ดูอายุแล้วอย่างน้อยก็น่าจะสี่สิบปีขึ้นไป สามารถเป็นคุณลุงคนหนึ่งได้แล้ว เรียกพี่ใหญ่แบบนี้ไม่ค่อยถนัดปากนัก
ยิ้มแล้วก็เดินไปหยิบเก้าอี้ออกมาให้เหยียนจี้ชวนกับเหยียนป๋อชวน แล้วไปหยิบถ้วยมาชงชาให้ทั้งสองคน
เหยียนจี้ชวนพบว่าสายตาของพี่ใหญ่เขามักจะจับจ้องอยู่ที่สวี่ชิงทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ตอนนี้พอหัวโล่งแล้วก็ครุ่นคิดถึงสาเหตุที่พี่ใหญ่ต้องการหาแม่ของสวี่ชิง ทั้งยังเป็นโสดมานานหลายปีขนาดนี้
หรือว่าระหว่างแม่ของสวี่ชิงกับเขาจะมีเรื่องราวความรักแบบที่แม้แต่สวรรค์ยังสั่นสะเทือน ภูตผียังต้องหลั่งน้ำตาอะไรแบบนั้น?
ไม่อย่างนั้นทำไมอายุสี่สิบห้าปีแล้วเขายังโสดอยู่ล่ะ?
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเป็นไปได้มากทีเดียว รอจนกระทั่งสวี่ชิงรินชาแล้วเดินไปนั่งข้างโจวจินหนาน เหยียนจี้ชวนจึงเอ่ยเอ่ยปากขึ้น “พี่ใหญ่ พี่ไม่ได้จะมาหาเย่หนานเหรอ? คนนี้คือลูกสาวของเย่หนาน พี่มีธุระอะไรก็ถามเธอได้เลย”
เหยียนป๋อชวนมองน้องชายที่อายุห่างกันรอบหนึ่งของตัวเองอย่างลึกล้ำ การถามโต้งๆแบบนี้ทำเขากระอักกระอ่วนไม่น้อย เนื่องจากเย่หนานแต่งงานไปแล้ว ลูกก็โตขนาดนี้แล้วด้วย
ถ้าเขามาแล้วถามเลยจะไม่เป็นการเสียมารยาทไปหน่อยหรือ?
หัวใจสวี่ชิงแทบกระดอนมาถึงคอ เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดถึงปัญหาพวกนี้อย่างไร คิดไม่ถึงว่าเหยียนจี้ชวนจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
คิดไม่ถึงว่าเหยียนจี้ชวนจะรู้จักกับแม่ของตัวเองจริงๆ เธอบีบมือที่กำอยู่แน่นขึ้น “คุณรู้จักแม่ของฉันจริงๆหรือคะ”
เหยียนป๋อชวนพยักหน้า “รู้จัก เพียงแต่ไม่ได้พบหล่อนมาหลายปีแล้ว ตอนนี้หล่อนสบายดีอยู่ไหม”
คำถามนี้แฝงการลองเชิงอยู่ในที
สวี่ชิงส่ายหน้า “ฉันไม่รู้ค่ะ ตั้งแต่ที่ฉันจำความได้ฉันก็ไม่เคยเห็นหล่อนเลย เมื่อก่อนใครต่างก็บอกว่าเพราะคลอดฉันออกมาจึงทำให้หล่อนล้มป่วย ไม่นานก็จากไป แต่ก่อนหน้านี้ไม่นานโลงศพของหล่อนถูกคนขุดขึ้นมา แต่กลับไม่มีศพของหล่อนอยู่ในนั้น”
ตอนเธอพูดสายตาก็จ้องเข้าไปในดวงตาของเหยียนป๋อชวน เพราะสวี่จื้อกั๋วเคยพูดว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา!
ดังนั้นเธอเองก็อยากจะรู้ว่าพ่อแท้ๆ ของเธอคือใคร ไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน เพราะเธอแค่อยากจะรู้ชาติกำเนิดของตัวเอง
เหยียนป๋อชวนมุ่นคิ้ว “ยังมีชีวิตอยู่หรือ? แต่กลับไม่เจอคน?”
เหยียนจี้ชวนฟังอยู่ข้าง ๆ ด้วยความตื่นเต้น “พี่ใหญ่ พี่พูดมาก่อนสิว่ารู้จักกับแม่ของสวี่ชิงได้ยังไง”
ฟังมาครึ่งค่อนวันก็ไม่มีเรื่องซุบซิบที่เขาอยากรู้ เสียเวลาจริงๆ
เหยียนป๋อชวนมองเหยียนจี้ชวนแวบหนึ่ง ถึงค่อยพูดกับสวี่ชิง “วันเกิดของเธอคือเดือนมีนาคมไม่ผิดใช่ไหม”
เฟิงซูฮวาออกมาจากในบ้านก็ได้ยินประโยคนี้ของเหยียนป๋อชวนพอดี ก็ตอบอย่างงมั่นใจ “สวี่ชิงเกิดวันที่สิบห้า เดือนมีนาคม ตอนนั้นต้นหญ้าเพิ่งงอกเงย ดังนั้นตอนที่ฉันได้ยินว่าชื่อชิงชิง ยังนึกว่าเป็นชิงชิงที่แปลว่าต้นหญ้าเขียวขจีอยู่เลย”
สวี่ชิงไม่แน่ใจวันเกิดตัวเองนัก เพราะสิ่งที่ฟางหลานซินชื่นชอบก็คือเปลี่ยนวันเดือนปีเกิดของพวกเธอ
เมื่อเห็นเฟิงซูฮวายืนยันแบบนี้ก็คงไม่ผิดแน่แล้ว
เหยียนป๋อชวนหัวใจตายด้านไปแล้ว กระแอมคอแล้วยังรู้สึกขมขื่น “ฉันรู้จักแม่ของเธอ แต่ตอนนั้นหล่อนเพิ่งจะอายุสิบแปด เพิ่งเป็นแม่หมอในหมู่บ้านเย่ เป็นหญิงสาวที่สดใสร่าเริงก็ยังกล้าหาญ ต่อมาเพราะฉันได้รับมอบหมายหน้าที่ ทำให้ต้องไปจากยูนนาน ทำให้ไม่ได้เจอแม่ของเธออีก”
สวี่ชิงรู้สึกว่ายุคนั้นถ้าไม่ใช่เพราะคบหาดูใจกัน ก็ต้องมาความรู้สึกดี ๆ ให้กัน ไม่อย่างนั้นหลายปีขนาดนี้ยังคงหาคนที่ตายไปแล้วแบบนี้ไม่ได้
เพียงแต่ในลานบ้านนี้มีคนเยอะเกินไป เธอถามเหยียนป๋อชวนตรงๆ ไม่ได้ว่าเขาคบกับแม่แท้ๆของเธอแบบไหน
คิดในใจว่าไว้มีเวลาค่อยถามดีกว่า
เหยียนป๋อชวนมารอบนี้โดยไม่ถามอะไรเลยและเขาก็ไม่ได้รับคำตอบที่เขาอยากจะได้ด้วย จึงจากไปอย่างผิดหวังพร้อมกับเหยียนจี้ชวน
เกาจ้านไม่มีธุระอะไรก็กลับไปพร้อมกับพวกเขาด้วย
สวี่ชิงกับโจวจินหนานเดินมาส่งแขกที่หน้าประตู หันกลับมาที่สวนก็ถามเฟิงซูฮวาอย่างอดใจไม่อยู่นิดหน่อย “คุณย่า วันเกิดฉันถูกแน่หรือคะ เป็นวันที่สิบห้า เดือนมีนาคมแน่เหรอ”
แม้เหยียนป๋อชวนจะไม่ได้พูด แต่คนฉลาดอย่างเธอก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกผิดหวังของเขา
เขากำลังผิดหวังอะไรอยู่?
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เริ่มอยากรู้แล้วว่าเหยียนป๋อชวนมาคบกับแม่ชิงชิงได้ยังไง
ไหหม่า(海馬)