เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 20 มีเขาอยู่ด้วย เขาจะปกป้องเธอไปตลอดชีวิต
บทที่ 20 มีเขาอยู่ด้วย เขาจะปกป้องเธอไปตลอดชีวิต
เมื่อเห็นท่าทางและน้ำเสียงของคุณย่า สวี่ชิงก็รู้อย่างชัดเจนว่าคุณย่ารู้ว่าเธอกำลังจะแต่งงาน และแม้แต่เรื่องที่กำลังจะแต่งงานกับใคร
เธอรู้สึกแปลกใจที่เฟิงซูฮวารู้เรื่องนี้
ท้ายที่สุด เธอกำลังจะแต่งงานกับโจวจินหนาน นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ข่าวเรื่องนี้น่าจะยังมาไม่ถึงชานเมืองฮวยซู่สิ
และสวี่จื้อกั๋วก็ยิ่งไม่น่าจะบอกคุณย่าเช่นกัน
เฟิงซูฮวาหันไปมองสวี่ชิง ดวงตาขุ่นมัวแสดงถึงความใจดีและมีอารมณ์ที่สวี่ชิงไม่สามารถมองเห็นได้
หลังจากนั้นไม่นาน เฟิงซูฮวาก็พูดว่า “ย่ารู้ แต่ย่าสัญญากับเขาไว้ ถ้าหลานไม่ถามย่าจะไม่พูด”
สวี่ชิงประหลาดใจมากขึ้น “คุณย่ารู้เหรอคะว่าเป็นใคร?”
เฟิงซูฮวายิ้มและพยักหน้า “เขามาหาย่า ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่เขาก็เป็นคนซื่อตรงและรอบคอบ ทั้งยังเป็นคนดีที่วางใจได้”
สวี่ชิงไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมโจวจินหนานถึงมาหาเฟิงซูฮวา ทำไมในชีวิตที่แล้วเธอถึงไม่รู้ “ทำไมเขาถึงมาหาคุณย่าล่ะคะ? ทำไมฉันถึงไม่รู้? คุณย่าคะ เขาบอกอะไรคุณย่าเหรอคะ?”
เฟิงซูฮวาหัวเราะ “หลานนี่รีบจริง เขามาบอกย่าว่าการแต่งงานกับหนูจะดีสำหรับตัวหนูเองไปตลอดชีวิตที่เหลือ และยังขอให้ย่าพาเขาไปที่หลุมศพของแม่หนูถึงสามครั้งด้วย”
สวี่ชิงรู้สึกเหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่หน้าอก ทำให้หายใจแทบไม่ออก
การกระทำของโจวจินหนาน ทำให้เธออ่านเขาไม่ออกจริง ๆ
เฟิงซูฮวากล่าวต่อ “มีชายหนุ่มมากับเขา เขาบอกว่าหนูไม่ต้องการแต่งงานกับเขา แต่เขาต้องการแต่งงานกับหนูจริง ๆ และยังบอกด้วยว่าตราบใดที่เขาอยู่ด้วยจะไม่มีใครรังแกหนู และจะคอยปกป้องหนูไปตลอดชีวิต”
สวี่ชิงรู้สึกว่ามีหมอกหนาทึบระหว่างเธอกับโจวจินหนาน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นหรือเข้าใจยากยิ่งขึ้น
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คุ้นเคยกัน ทำไมเขาถึงสัญญาแบบนี้?
นอกจากนี้ หากเป็นกรณีนี้แล้ว ทำไมในชีวิตที่แล้วเฟิงซูฮวาไม่บอกเธอ? ถ้าเพียงคุณย่าบอกอย่างนั้น เธอก็จะไม่ปฏิบัติต่อโจวจินหนานด้วยท่าทางไม่แยแสแบบนั้นเด็ดขาด
และเมื่อเธอหย่า เฟิงซูฮวาก็บอกว่าเธอทำผิด
โจวจินหนานดูเหมือนจะเสียใจอย่างมาก
เมื่อเห็นสวี่ชิงขมวดคิ้วและครุ่นคิด เฟิงซูฮวาก็จับมือเธอ “หลานหิวไหม? ย่าจะไปนึ่งหมั่นโถวและทำไข่ลวกให้นะ”
ก่อนที่สวี่ชิงจะตอบสนอง เฟิงซูฮวาก็ได้หยิบไม้ค้ำยันแล้วเดินกระย่องกระแย่งไปที่ห้องครัว
ในตอนนี้สวี่ชิงไม่สามารถเข้าใจได้และไม่สามารถคิดได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม เวลายังอีกยาวไกล เธอค่อย ๆ ค้นหาความจริงทั้งหมดก็ได้
เธอลุกขึ้นตามเฟิงซูฮวาไปที่ห้องครัว ดูคุณย่าของเธอนำฟืนใส่เตา และรีบไปช่วย “คุณย่าคะ ฉันจุดไฟเองค่ะ”
เฟิงซูฮวาโบกมือ “ไม่เป็นไร หนูนั่งพักผ่อนเถอะ แค่นี้ย่าไม่เหนื่อยหรอก”
สวี่ชิงนั่งบนเก้าอี้เล็ก ๆ ข้างกายคุณย่า หญิงสาวเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เฟิงซูฮวา ใบหน้าของคุณย่าแดงก่ำด้วยไฟ แสดงถึงความอบอุ่นและความเงียบสงบ
รู้สึกเหมือนการได้อยู่กับนางจะทำให้ผู้คนรู้สึกสงบขึ้น
สวี่ชิงอดไม่ได้ที่จะบอกเฟิงซูฮวาว่าเธอลาออกจากงานแล้ว “คุณย่าคะ ฉันลาออกจากงานในตำแหน่งผู้ควบคุมตั๋วแล้วนะคะ ฉันวางแผนที่จะเริ่มต้นธุรกิจเล็ก ๆ คิดว่าจะเช่าบ้านอยู่ข้างนอกและอาศัยอยู่ที่นั่นจนกระทั่งแต่งงานในวันที่สิบเอ็ดน่ะค่ะ”
ในที่สุดครั้งนี้เฟิงซูฮวาก็ประหลาดใจ หญิงชรามองไปที่สวี่ชิง “ทำไมหลานถึงอยากทำธุรกิจ? แม้ว่าตอนนี้นโยบายจะผ่อนคลายลง แต่ใครจะรู้ว่าวันหนึ่ง…”
หญิงชรากลัวจริง ๆ นางขอใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและยากจนดีกว่า นางแค่ต้องการความสงบสุขก็เท่านั้น
สวี่ชิงยิ้มและส่ายศีรษะ “ไม่หรอกค่ะ ในอนาคตมันจะต้องดีขึ้นเรื่อย ๆ แน่ ฉันจะซื้อบ้านหลังใหญ่และพาย่าไปอยู่กับฉันนะคะ”
เฟิงซูฮวาหัวเราะ “หลานนี่นะ พูดแบบนั้นก็ทำให้ย่ามีความสุขแย่สิ”
สวี่ชิงพูดอย่างอารมณ์ดี “ถ้าฉันไม่ทำให้คุณย่ามีความสุข คุณย่าจะให้ฉันเข้ามาเหรอคะ”
ต้องขอบคุณความรักต่อเฟิงซูฮวาที่ไม่ได้ถูกกัดเซาะมานานหลายปี นั่นเป็นเหตุผลที่เธอมาหาคุณย่าด้วยความตั้งใจจริง
หลังจากรับประทานอาหารง่าย ๆ เฟิงซูฮวาก็ต้มน้ำร้อนด้วยหม้อขนาดใหญ่และให้สวี่ชิงใช้อาบน้ำล้างหน้า
เมื่อสวี่ชิงออกมาจากห้องครัว เฟิงซูฮวาก็ได้จัดเตรียมที่นอนไว้บนเตียงเตาแล้ว
เป็นครั้งแรกในทั้งสองชีวิต ที่สวี่ชิงกับเฟิงซูฮวานอนบนเตียงเตาด้วยกัน หลังจากนอนลง เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก “ฉันรู้ว่าเตียงเตาของคุณย่าสบายมาก แต่ก่อนฉันน่าจะอาศัยอยู่ที่นี่นะคะ”
เฟิงซูฮวาเพียงแค่ฟังอย่างเงียบ ๆ และไม่พูดอะไร
สวี่ชิงพูดอีกครั้ง “แต่ยังไม่สายเกินไป ในอนาคตฉันจะมาหาคุณย่าบ่อย ๆ”
เฟิงซูฮวายังคงไม่พูดอะไร และทันใดนั้นก็เอื้อมมือไปหาสวี่ชิง และบีบข้อมือหลานสาวอย่างหนักหน่วง
สวี่ชิงตกใจ เธอรู้สึกว่ามีนิ้วมือเย็น ๆ สองสามนิ้วบนข้อมือของเธอ และคุณย่ากดดูชีพจรของเธออย่างแม่นยำมาก จึงอดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยเสียงต่ำ “คุณย่า เกิดอะไรขึ้นคะ?”
“อย่าพูด”
เสียงของเฟิงซูฮวาเข้มงวดมากจนสวี่ชิงไม่กล้าพูด
หลังจากนั้นไม่นาน เฟิงซูฮวาก็ดึงมือของออกและถอนหายใจอย่างสบาย ๆ “ชิงชิง หนูรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
สวี่ชิงส่ายหัว “ไม่นะคะ หนูกินดื่มได้ปกติ และค่อนข้างแข็งแรงเลยค่ะ”
หญิงชราส่ายหัวในความมืด “ร่างกายของหนูได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในอนาคตจะมีลูกได้ยากนะ”
สวี่ชิงลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ “คุณย่า จริงเหรอคะ? แล้วฉันบาดเจ็บได้อย่างไร?”
เฟิงซูฮวาดึงสายไฟที่ขอบเตียงเตาออก พลางลุกขึ้นนั่งและตบหลังมือของสวี่ชิง “หนูได้พันธุกรรมมาจากแม่น่ะ ย่าก็เลยกลัว”
ปฏิกิริยาแรกของสวี่ชิงคือฟางหลานซินวางยาพิษเธอ จากนั้นเธอก็คิดว่าจะกลับไปวางยาพิษฟางหลานซินได้อย่างไร
พอตอนนี้เฟิงซูฮวากล่าวว่าเป็นสาเหตุทางพันธุกรรมมาจากมารดาของเธอ เธอก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังหวาดระแวงฟางหลานซิน และยังไม่อาจตัดหล่อนออกจากข้อสงสัยได้
เฟิงซูฮวาเอื้อมมือขึ้นไปที่กล่องไม้การบูรข้างเตียงเตา เปิดกล่องหยิบถุงผ้าออกมาแล้วส่งให้สวี่ชิง
สวี่ชิงมองดูเฟิงซูฮวาเปิดถุงผ้า ข้างในเป็นม้วนหนังสีดำ ซึ่งม้วนขึ้นเหมือนม้วนภาพวาด
ม้วนหนังสีดำถูกเปิดทีละชั้นโดยมีเข็มสีทองติดอยู่!
อันสั้นเหมือนเข็มปัก อันยาวก็ยาวเท่าตะเกียบ บางเท่าขนวัว เปล่งแสงสีเหลืองอ่อน ๆ
สวี่ชิงประหลาดใจ “คุณย่ารู้วิธีการฝังเข็มด้วยเหรอคะ?”
เฟิงซูฮวาหยิบขวดแอลกอฮอล์จากตู้ข้างเตียงเตา พลางหยิบเข็มทองที่สั้นออกมาฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์แล้วพูดกับสวี่ชิง “ยื่นมือออกมา”
สวี่ชิงยื่นมือให้เฟิงซูฮวา แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ “คุณย่าคะ ทำไมหนูถึงไม่รู้ว่าคุณย่าฝังเข็มได้ด้วย?”
เฟิงซูฮวาบีบตำแหน่งปากเสือ*(1) ของสวี่ชิง เช็ดแอลกอฮอล์และค่อย ๆ ดันเข็มสีทองในแนวทแยงมุม
หลังจากที่สวี่ชิงรู้สึกเจ็บแปลบไปชั่วครู่หนึ่ง ก็มีความเย็นเข้ามาแทนที่ แต่ไม่ได้แย่เกินไป
ยิ่งกว่านั้น เทคนิคของเฟิงซูฮวานั้นเชี่ยวชาญมาก เห็นได้ชัดว่าเธอรู้เรื่องย่าของเธอน้อยเกินไปในชาติที่แล้ว
เฟิงซูฮวาฝังที่หลังกับแขนเล็ก ๆ ของสวี่ชิงสองสามครั้งและมองดูเธออย่างพึงพอใจ “มีย่าอยู่ด้วย ย่ารับประกันได้ว่าชิงชิงของเราสามารถให้กำเนิดลูกคนโตที่อ้วนจ้ำม่ำได้แน่นอน”
ใบหน้าของสวี่ชิงร้อนขึ้นทันทีจากการหยอกล้ออย่างฉับพลันของเฟิงซูฮวา “คุณย่า! อย่าล้อหนูเล่นแบบนี้สิคะ ว่าแต่ทำไมหนูถึงไม่รู้ว่าคุณย่ารู้จักการฝังเข็มมาก่อนเลยละ?”
เฟิงซูฮวาคลี่ยิ้มอ่อนโยน “นี่เป็นเครื่องมือช่วยชีวิต และยังเป็นดาบสองคมที่อันตรายถึงชีวิตอีกด้วยน่ะ”
สวี่ชิงรู้ว่าเฟิงซูฮวาซ่อนทักษะดังกล่าวไว้ก็เพื่อปกป้องตัวเองไว้ หญิงสาวไม่ได้ถามคำถามอีกต่อไป หลังจากมองศึกษาเข็มทองในมือ จู่ ๆ เธอก็คิดขึ้นมาทันทีว่า “คุณย่าคะ ดวงตาของโจวจินหนานจะรักษาให้หายได้ไหมคะ? หนูได้ยินมาว่าเขาตาบอดเพราะลิ่มเลือดที่กดทับเส้นประสาทตาน่ะค่ะ”
เฟิงซูฮวาส่ายศีรษะทันที “ใช่ว่าจะรักษาไม่ได้!”
—————–
(1) ง่ามมือระหว่างนิ้วโป้ง และนิ้วชี้
สารจากผู้แปล
เนื้อเรื่องเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว หรือว่าที่สวี่ชิงแท้งในชาติที่แล้วจะไม่ได้เป็นเพราะโดนวางยา แต่เป็นโรคทางพันธุกรรมจากแม่?
ว่าแต่ทำไมจินหนานถึงรู้จักย่าของชิงชิงได้ล่ะเนี่ย
ไหหม่า(海馬)