เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 133 ซุปปลาที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน
บทที่ 133 ซุปปลาที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน
โจวจินหนานไม่แปลกใจเลยหลังจากได้ยินคำพูดของเกาจ้าน “ถ้าเย่หนานคือชื่อปลอม งั้นก็ไปดูว่ามีปะทะระหว่างหมู่บ้านเมื่อยี่สิบปีที่แล้วหรือเปล่า?”
เกาจ้านขมวดคิ้ว “ฟังดูง่าย แต่ถ้าในกรณีนี้มีคนหายไป…”
โจวจินหนานขมวดคิ้ว “ไม่ว่าจะอยู่หรือตาย เรื่องนี้ก็ต้องมีคำอธิบาย”
……
แม้สวี่ชิงจะดูสงบนิ่งต่อหน้าฉินเซว่เหมย แต่ในใจกับมีความสุขล้นหลาม เธอกลับมาในตอนบ่ายหลังจากออกไปส่งก๋วยเตี๋ยวเสร็จ และเริ่มทอดปาท่องโก๋กับกะหรี่ปั๊บไส้ผักในตอนเย็น
ภายในแผ่นสามเหลี่ยมจะมีกะหล่ำปลีขาว วุ้นเส้น และเนื้อสัตว์ ด้านนอกมีความกรอบ ส่วนไส้ด้านในให้รสชาติอร่อยกลมกล่อม
เพียงแค่กัดครั้งเดียวก็รับรู้ได้ถึงความอร่อย
สวี่ชิงที่กำลังทอดกะหรี่ปั๊บไส้ผักหันไปพูดกับโจวจินหนานที่กำลังนั่งอยู่ในห้องครัวว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าเราเอาของพวกนี้ไปเยี่ยมคุณย่ากัน คุณย่าจะต้องชอบมากแน่ ๆ”
อากาศค่อนข้างร้อน และการทอดอาหารภายในห้องครัวทำให้ยิ่งร้อนขึ้นไปอีก
หลังจากที่สวี่ชิงพูดจบ เธอก็รู้สึกทุกข์ใจเมื่อเห็นเหงื่อไหลอาบแก้มโจวจินหนาน “คุณออกไปนั่งที่ลานบ้านก็ได้นะคะ ในห้องนี้มันร้อนเกินไป ความร้อนจากเตาถ่านกับน้ำมันทำให้เหมือนอยู่ในหม้อนึ่งยังไงยังงั้น”
โจวจินหนานส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ผมไม่ร้อนหรอก”
เมื่อนึกถึงสวี่ชิงที่ยืนอยู่ด้านกระทะ ก็คิดว่าเธอคงจะร้อนมากกว่านี้ “อยากกินไอติมหรือเปล่า? ให้ผมออกไปซื้อให้ไหม?”
สวี่ชิงพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ คุณซื้อน้ำอัดลมมาสักสองขวดด้วยนะ พรุ่งนี้จะได้เอาไปให้คุณย่า”
โจวจินหนานพาไป๋หลางออกไป แม้ว่าข้างนอกจะมืดแล้ว แต่ไป๋หลางก็ยังพาโจวจินหนานไปร้านค้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามซึ่งห่างออกไปประมาณสามร้อยเมตร
สวี่ชิงเริ่มทอดกะหรี่ปั๊บไส้ผักกระทะสุดท้าย เธอยกแขนขึ้นเพื่อซับเหงื่อที่หน้าผาก
ทันทีที่ยกกระทะขึ้นมา เธอก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวภายในบ้าน สงสัยว่าทำไมโจวจินหนานถึงได้กลับมาเร็วนัก?
เมื่อเลิกม่านออกมองดู เธอก็พบเข้ากับเฉินหยิงและซูฮุ่ยหรู!
ซูฮุ่ยหรูถือถุงตาข่ายไว้ในมือ ข้างในบรรจุกล่องอาหารอะลูมิเนียมสองกล่อง
สวี่ชิงตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่งและกล่าวทักทายคุณย่าอย่างสุภาพ ก่อนจะทำเป็นมองไม่เห็นซูฮุ่ยหรูในสายตา
เพราะว่าซูฮุ่ยหรูไม่เคยมองว่าเธอเป็นลูกสะใภ้ ดังนั้นเธอจึงไม่โทษตนเองที่ไม่ได้ส่งยิ้มทักทายซูฮุ่ยหรู
เฉินหยิงตอบกลับด้วยรอยยิ้มขณะมองดูรอบ ๆ แต่กลับไม่เห็นโจวจินหนาน “จินหนานล่ะจ๊ะ? เข้านอนแต่หัววันเหรอ?”
สวี่ชิงส่ายหน้า “เปล่าค่ะ เขาออกไปซื้อของ”
เฉินหยิงกับซูฮุ่ยหรูตกใจ โจวจินหนานมองไม่เห็น เขาจะออกไปซื้อของได้อย่างไร
“เธอวางใจให้เขาออกไปซื้อของคนเดียวได้ยังไง? ถ้าเกิดคนขายหลอกให้ของเขาน้อยหรือขโมยเงินเขาไปล่ะ? อีกอย่างข้างนอกมืดแล้ว ถ้าเกิดล้มหน้าคะมำขึ้นมาจะทำยังไง?”
ซูฮุ่ยหรูหันไปพูดกับสวี่ชิงด้วยน้ำเสียงของแม่สามี
ทว่าสวี่ชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “พี่เขามองไม่เห็นก็จริงค่ะ แต่ข้างนอกมืดแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาคะ? อีกอย่างเจ้าของร้านนิสัยดีมาก เขาไม่ทำเรื่องเลวทรามแบบนั้นหรอกค่ะ และถ้าเขากล้าหลอกพี่จินหนาน ฉันก็กล้าไปพังร้านเขา!”
ซูฮุ่ยหรูชะงักไปครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วและมองดูสวี่ชิง ลูกสะใภ้ที่โจวจินหนานหามากลับทำตัวอย่างกับแม่ค้าในตลาดสด!
แม้ว่าเฉินหยิงจะเป็นกังวล แต่นางก็ตระหนักถึงจุดประสงค์ที่มาในวันนี้ดี ก่อนจะยิ้มบาง “ให้จินหนานได้ออกกำลังกายบ้างก็ดี พวกหลานคงยุ่งกันตลอดทั้งวันเลยสินะจ๊ะ งั้นย่าจะแวะไปดูทีหลังแล้วกัน ว่าแต่กิจการดีไหม?”
สวี่ชิงพยักหน้า “ก็ดีค่ะ”
เมื่อเห็นว่าสวี่ชิงไม่ได้เชิญให้นางกับซูฮุ่ยหรูนั่งลง นางจึงตัดสินใจนั่งลงด้วยตนเอง “งั้นเราขอนั่งรอจินหนานกลับมาสักแป๊บ เย็นนี้แม่เขาตั้งใจทำซุปปลาเองเลยนะ ตอนเด็ก ๆ จินหนานชอบกินซุปปลามากเลยล่ะ”
สวี่ชิงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำว่าซุปปลา เธอจำคำพูดของคุณย่าได้ว่าช่วงนี้ห้ามให้โจวจินหนานกินซุปปลาหรือดื่มแอลกอฮอล์
แต่วันนี้ซูฮุ่ยหรูกลับทำซุปปลามาให้ หล่อนคิดอะไรอยู่กันแน่?
เธอค่อย ๆ ขยับม้านั่งไปนั่งตรงข้ามซูฮุ่ยหรู
เฉินหยิงย่นจมูกขณะสูดดมกลิ่น “กลิ่นอะไรหอมจัง พวกหลานยังไม่ได้ข้าวเหรอ?”
สวี่ชิงไม่ได้ตั้งใจจะทอดกะหรี่ปั๊บไส้ผักให้ทั้งสองกิน และตอบคำถามแบบขอไปที “ของที่ใช้เสิร์ฟพร้อมกับหมูตุ๋นในวันพรุ่งนี้น่ะค่ะ”
เฉินหยิงพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “กลิ่นหอมแบบนี้ กิจการจะต้องดีมากแน่ ๆ”
สวี่ชิงรู้สึกร้อนรนกับมารยาทผิดแปลกของทั้งสองคน ก่อนจะเอ่ยถามเฉินหยิงอย่างตรงไปตรงมา “คุณย่า มีเรื่องอย่างอื่นนอกจากมาส่งซุปปลาดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้มั้ยคะ?”
เฉินหยิงรู้สึกอายที่ถูกถาม “เธอรู้หรือเปล่าว่าจินหนานบุกเข้าไปตีจินซวน?”
สวี่ชิงตกใจ “เมื่อไหร่คะ?”
โจวจินหนานไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องไปทุบตีโจวจินซวนเลยนี่?
เฉินหยิงถอนหายใจ “เมื่อสองสามวันก่อน พวกเราถึงได้มาถาม เธอก็คงรู้อารมณ์ของจินหนาน ย่ากลัวว่าเขาจะไม่ยอมพูดอะไร”
สวี่ชิงรีบพูดแก้ต่างให้โจวจินหนาน “พี่เขาไม่ตีใครโดยไร้เหตุผลหรอกค่ะ โจวจินซวนน่าจะล้ำเส้นเขาก่อน ถึงโจวจินหนานจะไม่ชอบพูดอธิบาย แต่เขาก็ไม่ใช่คนหยาบคายหรอกค่ะ”
กล่าวสรุปคือโจวจินซวนจะต้องทำอะไรให้เขารู้สึกวิตกกังวลก่อน เขาถึงได้เริ่มลงมือ
เฉินหยิงขมวดคิ้ว “พี่น้องคู่นี้จะขัดแย้งอะไรกันได้ จินซวนชื่นชมพี่ใหญ่มาตั้งแต่เด็ก เขาคงไม่กล้ายั่วโมโหจินหนานหรอก”
ทว่าสวี่ชิงไม่เห็นด้วย “คุณย่าบอกว่าเขาชื่นชมมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้โจวจินซวนอายุยี่สิบปีแล้ว ใครจะไปรู้ว่าเขาคิดอะไรในใจคะ? อีกอย่างโจวจินหนานเป็นคนรักสงบ ไม่เลือดร้อน จะกล้าลงมือทำแบบนี้ได้ยังไง”
เฉินหยิงไม่ได้พูดแย้งอะไรสวี่ชิง แต่นึกถึงความคิดก่อนหน้านี้ในใจ
เป็นไปได้ไหมว่าโจวจินซวนจะก่อปัญหาจริง ๆ?
ซูฮุ่ยหรูวางซุปปลาลงบนโต๊ะขนาดเล็ก “เธอบอกให้จินหนานดื่มซุปปลานี้ด้วยนะ ถ้าจินซวนทำอะไรผิดจริง ๆ ฉันก็หวังว่าเขาจะอดทนมากกว่านี้ ยังไงซะอีกฝ่ายก็เป็นน้อง”
สวี่ชิงเหลือบมองซุปปลา “เอาไว้ฉันจะบอกโจวจินหนานให้ แต่คุณช่วยเอาซุปปลากลับไปด้วยนะคะ”
ซูฮุ่ยหรูกำลังจะอ้าปากพูด แต่เธอกลับได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากหน้าประตู ขณะเดียวกันไป๋หลางก็ค่อย ๆ พาโจวจินหนานเดินเข้าไปมาในลานบ้าน
แสงสลัวตกกระทบที่หน้าประตู ก่อนจะค่อย ๆ สว่างจ้าขึ้น
โจวจินหนานเดินเข้ามาด้วยฝีเท้ามั่นคง แสงสลัวสาดส่องไปที่ร่างของเขา ทำให้การแสดงออกดูมืดหม่นและไม่ชัดเจน ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจกลบรัศมีความเย็นชาได้
หัวใจของซูฮุ่ยหรูกระตุก ถ้าเฉินหยิงไม่ได้คะยั้นคะยอให้หล่อนมา หล่อนก็คงจะไม่มา
สวี่ชิงลุกขึ้นและจับมือโจวจินหนาน “คุณย่ามาหาน่ะค่ะ มาถามว่าทำไมพี่ถึงบุกไปตีจินซวน”
อันที่จริงเธอเองก็สงสัยเช่นกันว่าทำไมจู่ ๆ โจวจินหนานถึงได้บุกเข้าไปตีโจวจินซวน
เธอไม่ได้เจอโจวจินซวนมาตั้งแต่แต่งงาน แล้วโจวจินหนานไปพบอีกฝ่ายได้อย่างไร?
เฉิยหยิงลุกขึ้นมองโจวจินหนาน “ใช่ จินหนาน หลานกับจินซวนเป็นพี่น้องกัน ทำไมถึงได้ลงไม้ลงมือขนาดนั้น อีกอย่างหลานกล้ามีความขับแค้นใจกับพี่น้องตนเองได้ยังไง”
โจวจินหนานขมวดคิ้ว “พวกคุณก็กลับไปถามมันเองสิ แล้วบอกมันด้วยว่าถ้ายังมีครั้งต่อไปอีก ผมจะฆ่ามันให้ตาย!”
ซูฮุ่ยหรูตื่นตระหนก “โจวจินหนาน! ลูกกำลังพูดบ้าอะไร นั่นมันน้องชายลูกนะ!”
โจวจินหนานเลิกคิ้ว และ ‘มอง’ ไปที่ซูฮุ่ยหรูด้วยท่าทางเย้ยหยัน “ใช่เหรอครับ?”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เริ่มสงสัยแล้วว่าแม่พี่หนานนี่ก็มีวิชากู่อยู่กับตัวด้วยหรือเปล่า ทำไมดูเหมือนจะรู้เลยว่าฝั่งคุณย่าของชิงชิงห้ามอะไรเอาไว้ แล้วก็ทำซุปปลามาให้
ไหหม่า(海馬)