เกิดใหม่เป็นนางร้ายในโลกเกมจีบหนุ่มที่ฉันเกลียดซะได้.. แต่ตัวประกอบสาวๆ ในเกมนี้พวกเธอน่ารักกันทุกคนเลยอ่ะ - ตอนที่ 69
บทที่ 69 – การ์ดที่แข็งแกร่งที่สุด
“แล้วเธอต้องการข่าวแบบไหนล่ะ?”
เมื่อฉันก้าวเข้ามาในบ้านประหลาดของแม่มด เธอก็ถามขึ้นแบบนั้น.. ตามที่เกมอธิบายไว้ แม่มดไม่ใช่คนที่มีตัวตนจริงๆ
แต่เธอเป็นแค่ของที่ถูกสร้างขึ้นในโลกแห่งนี้ ว่าง่ายๆ ก็คล้ายๆ NPC นั่นแหละ อันที่จริงในมิตินี้ทุกคนยกเว้นนักเรียนล้วนแล้วแต่เป็นสัตว์ที่ถูกสร้างขึ้น
อาจจะเพราะแบบนั้นพวกมอนสเตอร์บางตัวเลยไม่ได้แข็งแกร่งเท่าที่อยู่ในโลกจริง แน่นอนแม่มดก็เป็นแบบนั้น
อย่างไรก็ดี เธอเป็นแค่ NPC ก็จริง แต่เธอรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในมิตินี้แบบเรียลไทม์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดอยู่สุดขอบแผนที่เลยก็ตาม
นอกจากนี้ในมิตินี้จะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นตามวันเวลาเพื่อได้รับเมจการ์ดชนิดพิเศษ ที่ไม่สามารถหาได้อยู่
ซึ่งมันจะถูกกำหนดมาไว้แล้วนั่นแหละ และตัวฉันเองก็รู้อยู่แล้วด้วยว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นนับจากนี้
หรือก็คือฉันมี Roadmap ของเกมการแข่งขันเฟสเตอร์นี้ทุกอย่างนั่นเอง.. และแม่มดจะไม่ตอบคำถามที่กำกวม ตอบคำถามที่เจาะจงเท่านั้น
ว่าง่ายๆ ถ้ามีคนถามว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง เธอจะไม่สามารถตอบได้นั่นเอง เพราะถูกเซตติ้งมาไว้แบบนั้น
แต่อย่าลืมว่าฉันมีสิ่งที่เรียกว่า Roadmap ของการแข่งขันนี้ ..ถ้าฉันถามว่า ‘เหตุการณ์…..’ จะเกิดขึ้นที่ไหน
อะไรแบบนี้จะสามารถได้รับคำตอบนั่นเองเพราะมันเป็นคำถามที่เฉพาะเจาะจงได้ชัดเจน และนี่ก็คือข้อได้เปรียบของฉันนั่นเอง… ฉันหยิบเมจการ์ดออกมายื่นให้แม่มด
“ฉันอยากจะรู้ว่า ‘การประมูลครั้งที่หนึ่ง’ จะจัดขึ้นที่ไหน”
ถ้าหากแม่มดเป็นคนคงจะประหลาดใจที่ว่าทำไมฉันถึงรู้ว่าจะมีการประมูลเกิดขึ้น..แต่เธอเป็นแค่สิ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อตอบคำถาม
เมจการ์ดที่ฉันวางลงก็หายไปทันที มันกลับไปอยู่ที่ที่มันควรจะอยู่นั่นแหละ และแม่มดก็ตอบคำถามฉัน
“ครั้งที่หนึ่ง ถูกจัดขึ้นใน….”
เธอบอกพื้นที่ฉันมาโดยละเอียด แต่เอาเป็นว่ามันจัดขึ้นในเขตกลางแถวบนๆ ใกล้ๆ กับโซนที่ 5 นั่นแหละ
ในเกมไม่ได้บอกรายละเอียดไว้ เพราะการประมูลครั้งแรกนั้นได้เกิดฉากในเกมขึ้น เป็นฉากที่นางเอกเกมจะไปเจออันตรายแล้วเป้าหมายในการจีบจะไปช่วยไว้
อย่างที่บอกการแข่งขันนี้จะเป็นการแข่งขันที่จะสามารถเปลี่ยนรูทได้ ซึ่งตลอดระยะเวลาการแข่งขันนี้จะมีค่าความสนิทกับเป้าหมายทั้ง 5 โผล่ออกมา
ซึ่งค่าความสนิทนี้จะนับแค่ที่อยู่ในการแข่งขัน และใครที่มีค่าความสนิทมากสุดมีโอกาสจะกลายเป็นรูทของเจ้าหมอนั่นแหละ
ซึ่งไอ้ค่าความสนิทนี้ในเกมไม่บอกนะ ต้องคิดเอง.. จากการที่ตัวเอกเกมได้ไปพัวพันกับตัวไหนบ้างตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในการแข่งขัน
และคนที่มีค่าความสนิทมากเป็นคนไปช่วยนางเอกนั่นแหละ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ
อย่างที่บอกไปเพราะแบบนั้นเลยทำให้ฉันไม่รู้ว่าการประมูลครั้งแรกเกิดขึ้นที่ไหนละนะ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้ว..
“แล้ว… เส้นทางการเดินทางของการเอาของเข้าไปยังที่จัดประมูล.. คือทางไหน…?”
ฉันยื่นเมจการ์ดออกไปมากกว่าเดิมเพื่อสมกับราคาที่ต้องจ่าย.. แน่นอนว่าเมจการ์ดที่ฉันมีอยู่มันเหลือเฟือ จะบอกว่าฉันในตอนนี้มีเมจการ์ดเยอะที่สุดก็คงไม่ผิดมั้ง
เพราะว่าฉันเริ่มเก็บเมจการ์ดตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้ ในตอนที่คนกำลังจับทิศทางเกมนี้ไม่ถูก ฉันก็มีการ์ดเต็มตัวแล้ว
เพราะงั้นใช้ไปก็ไม่มีปัญหาอะไร อันที่จริงรีบใช้ไปตอนนี้จะดีกว่า..เพราะว่าการ์ดจะได้กลับที่เดิมและจะได้มีคนไปเคลียร์มัน
และจะได้เข้าทางแผนของฉัน….
เมจการ์ดตรงหน้าฉันหายไปในทันที และแม่มดก็ตอบฉันตามนั้น
“…เข้าใจแล้ว”
ฉันยิ้มออกมา.. เอาล่ะนั่นคือคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ยังไม่เกิด แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เกิดแล้วหรือกำลังเกิดจะเป็นคำถามที่กว้างได้อยู่
เช่น..
“ตอนนี้มีนักเรียนคนไหนบ้างที่มีการ์ดเยอะเป็นอันดับต้นๆ”
“…ราคาที่ต้องจ่าย..”
“รู้น่า”
ฉันหยิบเมจการ์ดจ่ายเยอะพอๆ กับก่อหน้านี้ออกไป แค่นี้การ์ดที่ฉันมีอยู่ ก็มีน้อยมากแล้ว.. ถึงฉันจะบอกว่าสามารถถามข่าวได้เยอะกว่าสิ่งที่ยังไม่เกิด
แต่ก็เปลืองมากเช่นกัน.. คำถามที่สองของฉันใช้เมจการ์ดเยอะมากในระดับที่ต้องเก็บ 7 วันถึงจะได้ขนาดนั้นซึ่งแสดงให้เห็นว่าคำถามที่สองนั้นมีมูลค่าขนาดไหน
และคำถามที่สามก็มีค่าเท่ากัน กล่าวคือยิ่งข้อมูลกว้างขึ้นยิ่งแพงขึ้นนั่นแหละนะ และตอนนี้บุคคลที่ควรพึงระวังก็ถูกร่ายชื่อออกมาหลายคน
“เบอร์ตั้น” นักเรียนอัจฉริยะจากโรงเรียนโรเซ่ เขาเป็นหนึ่งในคนที่ถือครองเมจการ์ดไว้กับตัวเองมากที่สุดถึงเกือบร้อยใบรวมทุกสี
และเขาในตอนนี้ได้รู้เรื่องที่ควรรู้จนหมดและวางแผนจะจัดการคนจากโรงเรียนอื่นเป็นหลักแล้ว โดยใช้การ์ดแบบไม่เสียดายเหมือนฉันน่ะ
“เจ้าคนนี้.. ดูเหมือนจะมองกลไกของเกมนี้ออกแล้วสินะ…”
สมกับเป็นอัจฉริยะจริงๆ นี่ถ้าฉันไม่มีความรู้จากเกมมาก่อนการจะมองออกถึงข้อได้เปรียบส่วนนี้ก็น่าจะผ่านไปนานนะ
แต่เจ้านี่กลับรู้เรื่องนั้นและสะสมการ์ดเกือบร้อยใบ.. ใช่แล้ว กฎของเมจการ์ดก็คือการ์ดจะกลับคืนที่เดิม…และติดคูลดาวน์
ซึ่งในระยะเวลาที่ติดคูลดาวน์ คนที่ใช้มันไปแล้วจะไม่สามารถไปแก้ Puzzle ของการ์ดที่ตัวเองใช้ได้เป็นระยะเวลาช่วงหนึ่ง
แต่คนอื่นสามารถนำเอาไปใช้ได้… มองเผินๆ เหมือนการป้องกันการปั้มการ์ดใช้ซ้ำๆ แต่จริงๆ มันมีประโยชน์คือ.. ต่อให้เราใช้ไปในตอนแรกไปเยอะๆ ก็ไม่มีปัญหา
อันที่จริงเก็บไว้นั่นแหละเป็นปัญหา สมมุติเหลือวันสุดท้ายก่อนจบเกมแล้วมีคนมาโจมตีจนเราต้องใช้การ์ดละก็..
การ์ดจะกลับไปที่ที่มันควรอยู่.. และคนที่ใช้การ์ดไปจะไม่สามารถไปแก้ Puzzle ได้เพราะคูลดาวน์อยู่จนการแข่งขันจบก่อนนั่นเอง
และด้วยเหตุนี้การใช้การ์ดในช่วงแรกจึงไม่เป็นปัญหาอย่างที่คิดหรอ อันที่จริงมันเป็นการเล่นแง่ความคิดรูปแบบหนึ่งด้วย
อย่างที่รู้ว่าเมจการ์ดคือไอเทมพิเศษที่อบพลังให้ได้.. นอกจากนี้ยังเป็นคะแนนที่สำคัญต่อการชนะการแข่งขันด้วย
นั่นหมายความว่าการ์ดนี้ผู้คนจะรู้สึกไปเองว่ามันไปไพ่ตาย ถ้าไม่จวนตัวจะไม่ใช้เด็ดขาด เพราะถ้าใช้ไปคะแนนจะหายไปนั่นเอง
โดยไม่รู้ตัวว่าเจ้าเมจการ์ดนี้มันมีค่าเหมือนเงินตรานั่นแหละ.. การที่ทางโรงเรียนไม่ทำให้มันเป็นเงินตราหรือก้อนคะแนนที่ไม่มีประโยชน์อะไร
แต่เลือกที่จะทำให้เป็นของวิเศษ คงเป็นเพราะต้องการจะดูไหวพริบของนักเรียน.. ถ้าพวกเขาหวงแหนมันไม่ใช้ในยามปกติ
มันจะกลายเป็นว่าพวกเขาสนใจแต่เรื่องคะแนนตัวเอง ถ้าใช้ไปก็มีโอกาสแพ้..
หรือก็คือ ทางโรงเรียนกำลังเล่นจิตวิทยากับนักเรียนทำให้นักเรียนมีบรรทัดฐานเงินตราและคะแนนที่แบ่งออกจากกันชัดเจน
ถ้าใช้เงินเยอะ ก็จะเสียคะแนนในการชนะ
จนนักเรียนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญสำหรับคะแนนเป็นหลัก จนหลงลืมเรื่องบางเรื่องอย่างถ้าการ์ดใช้ไปแล้วจะติดคูลดาวน์นะนั่นเอง
แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ที่ฉันรู้เจตนาของโรงเรียน เพราะนางเอกในเกมพิชิตหัวใจรัก หรือยัยเซเลน่าได้คิดขึ้นมาอะนะ
ตอนเป็นเกมฉันเลยรู้เรื่องนี้ เลยได้แผนการที่เรียกว่า.. ใช้คะแนนสิ้นเปลืองมา เพื่อทำให้คนอื่นโฟกัสไปที่การให้ความสำคัญกับคะแนน
มันจะยิ่งทำให้คุณค่าของคะแนนเพิ่มขึ้น.. แต่ยังมีคนคิดเหมือนฉันได้ แถมพึ่งรู้จักการแข่งขันนี้ได้ไม่นาน ทั้งที่ฉันเตรียมตัวมาตลอด
แสดงให้เห็นว่าฉลาดขนาดไหน
แน่นอนว่าคนที่ทำแบบฉันไม่ได้มีแค่เบอร์ตั้น แต่ยังมีคนอื่นๆ อีกหลายคน และแต่ละคนล้วนแล้วแต่ถือครองการ์ดจำนวนมากเอาไว้
และพวกมันต่างพากันหาเรื่องกันเอง..ส่วนรายชื่อฉันแน่นอนว่าไม่มี เพราะว่าฉันพึ่งใช้การ์ดไปจนหมดตัวเมื่อสักครู่นี่นั่นเอง
แต่ไม่ว่าพวกอัจฉริยะจากทั่วทุกมุมทวีปจะเก่งกันขนาดไหน…
ก็มาลองดูว่า..จะชนะคนที่เห็นอนาคตแบบฉันได้ไหม..
และ…
“การประมูลครั้งที่หนึ่ง… ถึงจะไม่รู้ว่าใครประมูลได้ ‘การ์ด’ นั่นไป เพราะจนจบก็ไม่เห็นมันใช้ เพราะมันจะไม่กลับไปเกิดใหม่..”
“แต่… ตอนนี้มันเป็นของฉันแน่…”
การประมูลครั้งที่หนึ่งจะถูกจัดขึ้นในอีก.. 5 วัน!
และนี่จะเป็นครั้งเดียวที่มีเจ้า ‘การ์ด’ ใบนั้นอยู่…
การ์ดที่เขียนไว้ในบอร์ดตอนการแข่งขันจบ… การ์ดที่แข็งแกร่งที่สุดในที่แห่งนี้!
……….
[มาช้า แต่มานะ! — ผู้เขียน]