เกิดใหม่เป็นนางร้ายในโลกเกมจีบหนุ่มที่ฉันเกลียดซะได้.. แต่ตัวประกอบสาวๆ ในเกมนี้พวกเธอน่ารักกันทุกคนเลยอ่ะ - ตอนที่ 18
บทที่ 18 – รูทที่ห้า
“เจน แม่กับพ่อจะไปทำงานที่ต่างประเทศ ลูกต้องดูแลน้องให้ได้นะ”
“ค่ะ แม่”
ในห้องสีขาวโพลนมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนจับมือกับน้องชายที่ตัวเล็กกว่าซึ่งยังไม่รู้ประสีประสามองพ่อกับแม่ที่ถือกระเป๋าเดินทางกำลังเดินจากไปอย่างช้าๆ
“แม่คะ!!”
“แม่จะกลับมาตอนไหนเหรอคะ?!”
ผู้เป็นพ่อกับแม่หยุดชะงักก่อนจะหันมายิ้มให้และตอบกลับเบาๆ ว่า
“ไม่เป็นไรหรอก แม่ไปแป๊บเดียวเท่านั้นแหละ”
นั่นคือคำสุดท้ายที่เจนได้ยินจากแม่โดยการพูดต่อหน้าแบบนี้ครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ..
ภาพตรงหน้าของเจนก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง.. คนที่แอยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช้แม่หรือพ่อ แต่เป็นคุณลุงใจดีที่เป็นพี่ชายของแม่เธอ
เขาเป็นหมอจิตเวชที่สามารถเลี้ยงดูเจนและน้องชายของเจนได้ เขาเป็นห่วงเป็นใยเจนกับน้องเสมอเวลาไปไหนมาไหนเขาจะซื้อของมาฝากเจนและน้องเสมอ
จนกระทั่ง..
“เจน..”
“คุณลุง.. จะทำ..อะไรคะ..”
“ไม่เป็นไรนะเจน.. หลานเป็นคนที่สวยมาก.. เป็นคนที่น่ารักมาก.. เพราะงั้นไม่ต้องห่วงลุงจะปกป้องหลานเอง”
“คุณลุงคะ.. หนูเจ็บ”
คุณลุงกอดเจนแน่นจนเธอรู้สึกเจ็บ.. เจนที่อายุเพียงแปดเก้าขวบเท่านั้นอยู่ในอ้อมกอดแน่นของคุณลุง
“อ๋า..ลุงขอโทษเพราะหนูน่ารักเกินไป.. เพราะงั้น… เพราะงั้น”
คุณลุงจับไหล่ของเจนไว้ทั้งสองข้างก่อนที่จะก้มหน้าลงไปต่อหน้าเจน.. ใกล้ที่ปากของคุณลุงจะสัมผัสกับปากของเด็กน้อย
“ไม่!!”
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคย.. แต่ก็จำได้ว่าก่อนหน้านี้นอนอยู่ในห้องนี้แหละเพราะนี่คือหอพักของทางโรงเรียน
ฉันลุกขึ้นวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่อที่จะไม่รบกวนรูมเมจของตัวเอง ฉันพยายามที่จะล้างริมฝีปากซ้ำไปซ้ำมา
เพราะไอ้องค์ชายบัดซบ กับไอ้นังนางเอกนิสัยเสียแท้ๆ เลย บัดซบเอ้ย บัดซับเอ้ย ฉันกัดริมฝีปากจนเลือดไหลออกมา
เพราะตอนกลางวัน.. มันถึงทำให้ฉัน.. นึกถึงเรื่องตอนนั้นขึ้นมา.. บัดซบ บัดซบ
“เอ่อ.. อนาสตาเซีย.. เจ้าเป็นไรไหม?”
เสียงเป็นห่วงของสกาเล็ตก็ดังเรียกฉันกลับมาจากความโกรธแค้นของตัวฉันเอง.. ทำให้ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ
“อืม.. ไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณที่เป็นห่วง”
“ไม่เป็นไร.. เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ฝันร้ายเหรอ?”
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก”
“หรือว่าเป็นเรื่องเมื่อตอนกลางวัน?”
“….”
“ใช่จริงๆ สินะ เจ้านี่โกหกไม่เก่งเหมือนใครกันนะ?”
ยัยคนนี้พูดเหมือนกับรู้ดีเลย.. ก็คงเป็นงั้นแหละเพราะฉันอยู่กับเธอมาตั้งแต่สมัยยังเด็กละนะ
“ข้าเข้าใจแล้ว.. เจ้าไม่ได้เกลียดผู้ชาย.. แต่กลัวผู้ชายสินะ ไหนจะเรื่องเมื่อตอนกลางวันที่กลัวจนอ้วกกะอีแค่โดนผู้ชายจับไหล่นั่นน่ะ”
“ไม่ต้องมาทำเป็นอวดรู้เลย จะเกลียดหรือจะกลัวก็ไม่ต่างกัน สำหรับฉันพวกผู้ขายมันก็นิสัยเสียทั้งหมดแหละ”
“เจ้านี่เหมารวมจังนะ โลกเดิมเจ้ามีความเท่าเทียมทางเพศแต่ไม่มีการบอกว่าห้ามเหมารวมเหรอ”
ฉันคุยโต้ตอบกลับสกาเล็ตไปมาแบบนี้ จนเหมือนว่าเรื่องพวกนี้จะกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับฉันกับเธอไปแล้ว
และการคุยกับเธอมันก็ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายลงเช่นกัน ซึ่งฉันรู้ดีว่าสกาเล็ตเธอต้องการจะช่วยฉัน
“ขอบคุณจริงๆ นะ”
“ถ้าจะขอบคุณจริงๆ ก็ต้องให้อาหารข้าได้แล้ว นี่ก็มาถึงโรงเรียนแล้วนี่ ก่อนหน้านี้เพราะเห็นเจ้าซึมข้าเลยไม่ทวง ถ้าเจ้าหายซึมแล้วก็ส่งมาซะ อาหารน่ะ! แถมโบนัสค่าปลอบใจด้วยนะ”
“เธอนี่ไม่มีความจริงใจอะไรเลยสินะ ชิ อดอาหารอีกห้าวัน!”
“อ๊า ข้าขอโทษ ข้าผิดไปแล้ว ข้าเป็นห่วงเจ้าจริงๆ นะ ถ้าเจ้าเศร้าจนตรอมใจตายขึ้นมาแบบนั้นข้าก็คงไม่มีอาหารกินอีกแน่!”
“สุดท้ายก็เรื่องอาหารตัวเองอยู่ดีไม่ใช่หรือไงกัน!”
“อุแงงงงง”
สกาเล็ตก็ร้องไห้ใส่ฉัน.. เอาล่ะมาย้อนนึกถึงเรื่องที่เกิดตอนกลางวันดีกว่า.. ดูเหมือนว่าสถานการณ์ที่ฉันอ้วกก่อนหน้าจะเคยเกิดขึ้นในเกมด้วย
ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดเหมือนทุกอย่างจะเป็นแผนของยัยนางเอกเกมคนนั้นน่ะนะ ยัยนางเอกคนนั้นไปโปรยเสน่ห์ใส่เจ้าองค์ชายงี่เง่านั่น
และเอาเรื่องที่เราไปสนิทกับแม่ขององค์ชายงี่เง่ามาใส่สีตีไข และกรอกหูองค์ชายว่าอนาสตาเซียจะแย่งทุกอย่างจากเจ้าองค์ชาย
เพื่อที่จะครอบครองเขา.. ซึ่งองค์ชายที่รู้แบบนั้นพอเห็นอนาสตาเซียมาปรากฏตัวต่อหน้าเลยโกรธจนทนไม่ไหว
ถ้าถามว่าทำไมนางเอกเกมถึงรู้เรื่องของฉัน นั่นก็ไม่พ้นเรื่ององค์ชายเอาไปปรึกษาว่าแม่ตนเองไม่ค่อยสนใจนั่นแหละ
เรื่องเลยลามมาถึงฉันด้วยละนะ
ตอนแรกฉันก็แอบคิดว่าพอโลกเกมกลายเป็นโลกแห่งความเป็นจริง นางเอกจะนิสัยดีขึ้น แต่พอเห็นว่ายัยคนนั้นมาปรากฏตัวตอนที่อนาสตาเซียโดนองค์ชายกดดัน
มันก็ทำให้ฉันมั่นใจว่า ยัยนี่เตรียมตัวที่จะมาดูว่าองค์ชายทำตามแผนตนเองหรือเปล่า.. แบบในเกมเป๊ะเลยล่ะ
แถมไอ้ท่าทางเป็นห่วงนั่นยังตอแหลได้เหมือนจริงสุดๆ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันอ่านความคิดเธอตอนเป็นเกมมาก่อนคงโดนหลอกไปแล้วล่ะ
ส่วนฉากที่อนาสตาเซียอ้วกตอนเป็นเกมนั้น เป็นเพราะว่าเธอกลัวองค์ชายจะเกลียดเธอจนเครียดและอ้วกออกมา
ซึ่งด้วยความที่เป็นชนชั้นสูงกว่านางเอกเกม พอนางเอกเกมมาเห็นเธอ เธอจึงรู้สึกขายหน้าอย่างมาก แถมองค์ชายยังเลือกที่จะไม่ขอโทษเธอ
แต่ไปอธิบายให้ผู้หญิงที่เป็นนางเอกเกมแทน.. ทำให้อนาสตาเซียเกลียดนางเอกเกมมาตั้งแต่ฉากนั้นเลย
ก่อนที่เธอจะวิ่งหนี …..
ดูเหมือนว่าสิ่งที่ฉันเจอตอนนี้จะเหมือนในรูทที่ห้าภายในเกมทุกอย่างเลยแฮะ.. ซึ่งรูทนี้มันจะนำพาฉันกลายเป็นจอมเวทต่างเผ่าผู้ชั่วร้าย
และพยายามจะทำลายล้างโลก…
แต่สุดท้ายก็โดนตัวประกอบที่ชื่อเลทิเซียตบเดี้ยงอย่างง่ายดาย
“ฉิบหายแล้วค่ะ.. ขืนเป็นแบบนี้มีหวังปลายทางของฉันมีธงตายยืนอยู่ตรงหน้าแน่ๆ !”
โลกน่ะไม่แตกหรอก.. แต่ที่แตกจะเป็นไอ้ตัวดิฉันมากกว่าน่ะสิ เฮ้ย
“หืม ธงตาย เจ้าหมายถึงอะไรเหรอ?”
“อย่างที่ฉันเคยบอกใช่ไหมว่าฉันน่ะมาจากต่างโลก.. และดูเหมือนว่าขืนเป็นแบบนี้ยัยนางเอกที่ตอแหลตอนเช้านั่นจะทำฉันตายแน่!”
“ตอแหล.. เจ้าหมายถึงเด็กเมื่อตอนเช้านั่นเหรอ ดูยังไงข้าก็คิดว่าเธอเป็นห่วงเจ้านะ..”
หึ แบบนี้แหละคนที่ไม่ได้อ่านความคิดของยัยเด็กนั่นเป็นตัวหนังสือได้..
“ตุบ!”
ในตอนนั้นเองด้านนอกห้องน้ำทางหน้าต่างก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ฉันรีบวิ่งออกไปดูด้วยความตกใจ
ไอ้แบบนี้ต้องเป็นพวกผู้ชายโรคจิตที่พยายามแอบเข้าห้องผู้หญิงตอนกลางคืนอย่างแน่นอน ฉันเตรียมเวทมนตร์ที่จะซัดหน้าพวกมัน
ก่อนจะหันไปทางหน้าต่าง.. และตรงหน้าต่างก็มีคนคนหนึ่งเกาะอยู่ตรงหน้าต่างห้องของฉัน แต่น่าแปลกที่เป็นผู้หญิง
แถมเป็น.. อาจารย์ที่เคยมีบทในเกมอีก…
“อาจารย์ซิลเวีย?”
ฉันอุทานออกมาด้วยความสับสนเล็กน้อย เธอเหมือนได้ยินเสียงของฉัน.. เธอเลยพยายามจะดิ้นรนเพื่อให้ฉันเปิดหน้าต่างให้
และเหมือนพยายามพูดอะไรบางอย่าง.. นี่มันสถานการณ์แบบไหนกันแน่เนี่ย?
แต่เพราะกลัวจะรบกวนรูมเมจฉันเลยเปิดหน้าต่างให้เธอเข้ามา.. แม้จะมีข้อสงสัยว่า.. ทำไมอาจารย์หญิงถึงมาปีนหน้าต่างหอพักนักเรียน
เพราะบ้านพักอาจารย์อยู่ไกลจากที่นี่พอสมควร.. แถมเหมือนเธอจะโดนเตะลงมาจากชั้นบน.. แล้วใครเตะเธอ
คำถามเต็มหัวฉันไปหมด แต่ก็ยังเลือกที่จะเปิดหน้าต่างให้เธอเข้ามาอยู่ดี
เอ่อ.. ปล่อยไว้กลัวเธอตกลงไปขาหักน่ะ ยังไงนี่ก็ชั้นสามเลยนะ…
…………
[มันเริ่มแล้วงั้นเหรอ ? – ใครสักคน]