เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 91 เบาะแสที่เจอ
ตอนที่91 : เบาะแสที่เจอ
มาชิโระและฮิเมโนะพูดคุยกันอย่างสดใสร่าเริงพร้อมกับรอยยิ้มที่คลายออก
ผมมองพวกเธอด้วยความเอ็นดู
“ถ้าคุณมาชิโระที่น่ารักขนาดนี้ใส่ชุดเมดล่ะก็ ในวันงานต้องคึกคักมากแน่ๆ นี่มันดึงดูดคนได้สุดๆไปเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ คุณคาเร็น พอได้ยินแบบนี้จากคุณแล้ว…รู้สึกว่าที่ตั้งใจวาดมาคุ้มค่ามากเลยค่ะ”
“พวกเราห้องสองเองก็ยอมแพ้ไม่ได้เหมือนกัน มีคู่แข่งเก่งๆอยู่ห้องข้างๆแบบนี้ พวกเราต้องรีบเตรียมงานร้านขนมหวานให้พร้อมเหมือนกัน! ชินโด สู้ไปด้วยกันนะ”
“นั่นสินะ ถ้ามาชิโระในชุดเมดมาคอยต้อนรับลูกค้า เด็กผู้ชายทั้งโรงเรียนคงพากันมาต่อคิวที่ห้องหนึ่งแน่ๆ อาจน่ารักจนทุกคนถึงขั้นสติหลุดกันไปเลยก็ได้”
“โธ่ ริวสุเกะ พูดเวอร์ไปอีกแล้ว… แต่ก็ ฉันจะพยายามนะ จะทำให้ดีที่สุดเลย!”
“ดีมาก ฉันเองก็จะคอยสนับสนุนเธอสุดกำลังเหมือนกัน ถ้าได้เห็นมาชิโระในชุดเมด จะให้ฉันยอมเป็นศัตรูกับทั้งโลกได้เลย”
“เอะเฮะเฮะ ริวสุเกะนี่ชอบพูดอะไรแปลกๆตลอดเลยนะ แต่ก็ชมฉันใช่ไหมล่ะ ขอบคุณนะ”
มาชิโระมองมาที่ผมด้วยดวงตาสีฟ้าเปล่งประกายพร้อมรอยยิ้มกว้าง
ในห้องเรียนเมื่อกี้ผมยังอดกลั้นไว้ได้ แต่พอเธอน่ารักขนาดนี้ผมก็เริ่มทนไม่ไหว
ด้วยความน่ารักจนเหลือล้นนั้น ผมอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบหัวมาชิโระเบาๆ
ตอนนั้นเอง มาชิโระก็หลับตาลงอย่างสบายใจ พร้อมกับเอาหัวถูมือผมราวกับแมวที่กำลังอ้อน
ให้ตายสิ…น่ารักจริงๆเลยมาชิโระเนี่ย สำหรับผมเธอเป็นคนสำคัญอันดีบหนึ่งจริงๆ
ในตอนที่ผมกำลังเคลิ้มไปกับความน่ารักของมาชิโระ ฮิเมโนะก็เข้ามาตบไหล่ผมด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย
“นี่ ชินโด…พวกนายเป็นแบบนี้กันตลอดเลยเหรอ?”
“หืม? เอ่อ ก็…คงงั้นล่ะมั้ง?”
“เข้าใจละ ก่อนหน้านี้ไม่มีใครคอยช่วยตบมุกเลยสินะ… เอาล่ะๆ ต่อไปปล่อยให้ฉันจัดการเอง”
“??? เอ่อ ขอบคุณล่วงหน้าแล้วกัน…นะ?”
ผมได้แต่ยืนงงในขณะที่ฮิเมโนะพยักหน้ารับอย่างมั่นใจ
ดูเหมือนว่าผมกับมาชิโระจะไปกระตุ้นบางอย่างในตัวฮิเมโนะจนเปิดสวิตช์ความกระตือรือร้นของเธอเข้าให้แล้ว
ฮิเมโนะมองมาด้วยแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น พลางพึมพำว่า “ต่อจากนี้คงยุ่งแน่ๆ…”
ผมได้แต่เหงื่อแตกในใจพร้อมกับคิดว่า จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีก
แต่ที่แน่ๆ จากคำพูดของฮิเมโนะเมื่อกี้ มันชัดเจนว่าชุดเมดของมาชิโระจะกลายเป็นจุดเด่นของงานโรงเรียนครั้งนี้แน่นอน
ไม่ว่ายังไง ความน่ารักของมาชิโระนั้นมีพลังมากพอที่จะสร้างปาฏิหาริย์ได้เสมอ
(แต่เดี๋ยวก่อน…นี่มันก็เป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยมีในต้นฉบับนี่นา)
ผมพยายามนึกถึงบทงานโรงเรียนในเรื่อง “Fusekoi”
ถ้าจำไม่ผิด ทั้งในฉบับอนิเมะและมังงะ ร้านเมดคาเฟ่ของห้องหนึ่งที่มาชิโระอยู่ไม่ได้เป็นที่นิยมมากนักนี่นา
(ก็ห้องสองกับร้านขนมหวานของพวกเขาทำออกมาได้ยอดเยี่ยมนี่ นักเรียนทั้งโรงเรียนถึงกับมาต่อแถวยาวเหยียดกันเลยนะ)
ห้องสองนั้นดึงดูดนักเรียนชายจำนวนมากที่มุ่งเป้ามาเพื่อให้ได้รับบริการจากไอดอลของโรงเรียนอย่าง ฮานาซากิ ยูนะ และ ฮิเมโนะ คาเร็น
อีกทั้งยังมีการร่วมมือกับร้านขนมชื่อดัง ซึ่งฟุเสะคาวะ ไรโตะวิ่งเต้นจัดการจนสำเร็จ ทำให้มีนักเรียนหญิงจำนวนไม่น้อยแวะเวียนมาเพื่อลิ้มรสขนมหวานแสนอร่อยและถ่ายรูปลงโซเชียล
ในทางกลับกัน ร้านเมดคาเฟ่ของห้องหนึ่งที่มาชิโระอยู่กลับไม่คึกคักเท่าห้องสอง เนื่องจากถูกบดบังด้วยความโดดเด่นของร้านขนมหวาน
นอกจากนี้ ในฉบับอนิเมะและมังงะ ชุดเมดของห้องหนึ่งไม่ได้ตกแต่งด้วยระบายฟูฟ่องน่ารักแบบที่มาชิโระออกแบบไว้ แต่กลับเรียบง่ายและดูธรรมดามากกว่า
ผลลัพธ์ก็คือ ทั้งในแง่ของความน่าสนใจและเมนูที่เสิร์ฟ ห้องสองชนะขาดลอยไปในที่สุด
แต่ตอนนี้ล่ะ?
มาชิโระ ที่เคยเป็นตัวร้ายกิ๊กก๊อกในต้นฉบับ ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปจนกลายเป็นนางเอกที่สมบูรณ์แบบ ด้วยพัฒนาการและความพยายามของพวกเรา
เด็กสาวที่งดงามที่สุดในโลกอย่างมาชิโระ พอได้ใส่ชุดเมดแสนน่ารักบนเวทีของงานโรงเรียน เธอจะกลายเป็นจุดสนใจอย่างแน่นอน
ร้านเมดคาเฟ่ของห้องหนึ่งในครั้งนี้จะต้องโด่งดังเป็นพลุแตก เปลี่ยนความเงียบเหงาในต้นฉบับไปโดยสิ้นเชิงและคงมีนักเรียนชายแห่กันมาอย่างล้นหลามแน่
แม้ว่าห้องสองจะมี ฮานาซากิ ยูนะ และ ฮิเมโนะ คาเร็น อยู่ แต่ความน่ารักในชุดเมดของมาชิโระมีพลังทำลายล้างที่เหนือกว่านางเอกทั้งสองคนในต้นฉบับซะอีก
ที่สำคัญ ชุดเมดของห้องหนึ่งในครั้งนี้ไม่ใช่ชุดเรียบง่ายแบบเดิม แต่เป็นชุดฟูฟ่องระบายลูกไม้สุดน่ารัก ซึ่งผมช่วยสนับสนุนให้ปรับเปลี่ยนมาตั้งแต่แรก
ในต้นฉบับ การที่ห้องหนึ่งเลือกชุดเมดเรียบๆน่าจะเป็นเพราะมาชิโระยอมตามความเห็นของเพื่อนๆมากกว่าที่จะแสดงความคิดของตัวเอง
แต่ครั้งนี้ ผมได้เสนอความเห็นว่า “อยากเห็นมาชิโระในชุดเมดแสนน่ารัก” และนั่นทำให้ชุดสำหรับงานโรงเรียนในครั้งนี้ถูกปรับเปลี่ยนไปตามความคิดของมาชิโระ
แม้ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะยังเป็นห้องสองที่ประสบความสำเร็จที่สุด แต่ด้วยความน่ารักของมาชิโระในชุดเมดฟูฟ่อง ห้องหนึ่งจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยมีในต้นฉบับได้อย่างแน่นอน
(นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่ไม่เคยมีในต้นฉบับเหมือนกันสินะ)
ผมคิดย้อนกลับไปถึงสิ่งที่มาชิโระและผมได้สร้างขึ้นมาด้วยกัน
(ความน่ารักของมาชิโระสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้เสมอ เราจะเอาพลังนั้นมาใช้ประโยชน์ได้รึเปล่านะ?)
เพียงแค่ร้านเมดคาเฟ่ของห้องหนึ่งที่ก้าวข้ามขีดจำกัดในต้นฉบับ อาจจะยังไม่พอที่จะเปลี่ยนบทสรุปของเรื่องราวได้
แต่ถ้าผมกับมาชิโระร่วมมือกันและพยายามไปด้วยกันอีกครั้ง บางทีเราอาจจะสร้างตอนจบที่ต่างออกไป—ตอนจบที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าต้นฉบับได้ในงานโรงเรียนครั้งนี้
ความน่ารักของมาชิโระ บวกกับความรู้เนื้อเรื่องต้นฉบับและความพยายามที่ผมสั่งสมมา ถ้าหากสามารถสร้างงานวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยมที่สุดซึ่งแม้แต่ตัวเอกในต้นฉบับยังทำไม่ได้ ผลลัพธ์นั้นคงทำให้ ฟุเสะคาวะ ไรโตะ ตกตะลึงแน่
บางทีเราอาจจะค้นพบต้นเหตุของความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับฟุเสะคาวะ ไรโตะก็ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีการันตีความสำเร็จก็เถอะ แต่นี่แหละคือโอกาสครั้งใหญ่
ในตอนที่ผมกำลังครุ่นคิดถึงความหวังที่เริ่มปรากฏขึ้น ฮิเมโนะ ก็ปรบมือขึ้นเรียกสติผมให้กลับมา
“เอาล่ะ! ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน ฉันกลับล่ะ”
“อา จริงด้วย คุยกันเพลินจนลืมเวลาไปเลย”
“วันนี้ฉันได้พูดคุยกับคุณมาชิโระเยอะเลย ถือว่าคุ้มค่าแล้วล่ะ งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ”
“อื้อ! คุณคาเร็น ขอบคุณมากสำหรับวันนี้นะคะ!”
ฮิเมโนะโบกมือเบาๆให้เราสองคนก่อนเดินออกจากห้องไป ผมเองก็โบกมือส่งเธอ แล้วหันมาสบตากับมาชิโระ ก่อนที่เราทั้งคู่หัวเราะให้กัน
“ดีจังนะมาชิโระ ดูเหมือนฮิเมโนะจะชอบเธอมากเลยล่ะ”
“อื้ม! ฉันเองก็สนุกมากที่ได้คุยกับคุณคาเร็น แล้วก็…ดีใจที่ริวสุเกะชมฉันเยอะขนาดนี้”
“ไม่หรอก…ก็เธอน่ารักจริงๆนี่นะ จะไม่ชมได้ยังไง”
“เอะเฮะเฮะ…ขอบคุณนะ ฉันชอบที่สุดเลยเวลาถูกริวสุเกะชมแบบนี้”
แก้มสีขาวของมาชิโระเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ดวงตาสีฟ้าที่งดงามของเธอไหววูบด้วยความเขินอาย
ดวงตาคู่นั้นทั้งใสซื่อและบริสุทธิ์ราวกับจะดูดกลืนผมเข้าไป มาชิโระในตอนเขินอายนั้น น่ารักซะจนหัวใจและสติของผมแทบจะรับไม่ไหว
ผมยิ้มให้เธอพร้อมกับซึมซับช่วงเวลาหวานซึ้งนี้
“ว่าแต่มาชิโระ พรุ่งนี้ฉันมีเรื่องอยากขอให้ช่วยน่ะ”
“เอ๋? ริวสุเกะมีเรื่องจะให้ฉันช่วย? หายากนะเนี่ย!”
“คือ…ฉันอยากให้เธอมาช่วยฉันหน่อย แต่ต้องเริ่มแต่เช้าเลยนะ ไหวหรือเปล่า?”
“ถ้าเป็นคำขอจากริวสุเกะล่ะก็ ฉันยินดีช่วยเต็มที่เลย!”
“ดีจัง งั้นพรุ่งนี้ฉันจะเล่าให้ฟังละเอียดอีกทีนะ ฝากด้วยล่ะ”
“อื้ม! ไว้ใจได้เลย!”
มาชิโระกำหมัดทั้งสองข้างแน่นเหมือนตั้งใจเต็มที่ ผมเห็นแล้วอดไม่ได้ต้องยื่นมือไปลูบหัวเธออีกครั้ง
เธอคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนด้วยความผ่อนคลาย
ในตอนที่ผมได้ผ่อนคลายด้วยความน่ารักของมาชิโระ เราสองคนก็เดินออกจากห้องเรียนในยามเย็นไปด้วยกัน